หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 485 พีค! แม่ลูกรู้จักกัน! (3) / ตอนที่ 486 พีค! แม่ลูกรู้จักกัน! (4)
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 485 พีค! แม่ลูกรู้จักกัน! (3) / ตอนที่ 486 พีค! แม่ลูกรู้จักกัน! (4)
ตอนที่ 485 พีค! แม่ลูกรู้จักกัน! (3)
เธอรู้จักกับถานเปิงเปิงมานานขนาดนี้แล้ว ทำให้เธอรู้ดีกว่าใคร ว่าถานเปิงเปิงไม่ใช่คนชอบพูดโกหก
“เปิงเปิง…”
“เอาล่ะ เธอรู้ว่าฉันไม่ชอบฟังคำพูดเรื่อยเปื่อย ในเมื่อเธอรู้แล้ว และถ้าอยากตามหาลูกของตัวเอง ฉันจะช่วยเธอเอง” ถานเปิงเปิงเดินมาข้างๆ ก่อนจะหยิกแก้มเธอเบาๆ แต่ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้
“ตอนนี้เธอคบกับอวี๋เยว่หานแล้ว คิดบ้างหรือยัง ว่าจะบอกเรื่องนี้กับเขาไหม ถ้ามีเส้นสายของบริษัทตระกูลอวี๋ในเมืองเอช เธออาจจะตามหาลูกของตัวเองเจอจริงๆ ก็ได้!”
“…”
คำพูดของถานเปิงเปิงทิ่มแทงหัวใจของเหนียนเสี่ยวมู่
สิ่งที่เธออยากพูดกับอวี๋เยว่หานในตอนนี้ ไม่ใช่ให้เขาช่วยตามหาลูก
แต่เธอจะอธิบายว่าลูกสาวของเธอ ไปอยู่ข้างกายเขาได้อย่างไร…
เหนียนเสี่ยวมู่สับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบรายงานตรวจดีเอ็นเอในกระเป๋าออกมา “เอ่อ เธอช่วยฉันดูก่อนได้ไหม ว่ารายงานนี้เป็นของจริงหรือเปล่า”
ถานเปิงเปิง “…” !!
แพทย์สาวรับรายงานจากมือเพื่อนสนิทมา แล้วกวาดสายตาเร็วๆ รอบหนึ่ง
จากนั้นเธอก็ใส่แว่นอีกครั้ง แล้วนั่งลงตรงหน้าคอมพิวเตอร์ของตัวเอง เพื่อเปิดไฟล์เอกสารในนั้น
ฝ่ายเหนียนเสี่ยวมู่รีบเข้าไปใกล้ๆ เพื่อนสนิท และพบว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังเปิด เป็นแผนภาพดีเอ็นเอของเธอเอง
“ในคอมพ์ของฉันมีข้อมูลการตรวจร่างกายของเธอทั้งหมด ที่ยืนยันได้ในตอนนี้ คือแผนภาพดีเอ็นเอที่เป็นของเธอในรายงานตรวจดีเอ็นเอนี้เป็นของจริง ถ้าแผนภาพดีเอ็นเอของเด็กคนนี้เป็นของจริงด้วยล่ะก็ อย่างั้นรายงานฉบับนี้ก็เป็นของจริง…”
อยู่ๆ ถานเปิงเปิงก็หยุดพูด แล้วจ้องมองชื่อด้านล่างรายงานอย่างงุนงง ก่อนจะเงยหน้ามองเหนียนเสี่ยวมู่ทันที
“เธอจะบอกว่า ลูกของเธอก็คือลูกสาวของคุณชายหาน เสี่ยวลิ่วลิ่วน่ะเหรอ”
“…”
“เธอไปเอารายงานนี้มาจากที่ไหน”
ถานเปิงเปิงเย็นชากว่าคนปกติอยู่บ้างเสมอมา แม้กระทั่งมีความรู้สึกน้อยมาก
ก่อนหน้านี้เหนียนเสี่ยวมู่มักจะจงใจแหย่เธอ เพราะอยากเห็นสีหน้าอื่นของเธอบ้าง แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว
เมื่อได้เห็นสีหน้าตกตะลึงของเธอในตอนนี้ เหนียนเสี่ยวมู่จึงรู้สึกกระวนกระวาย
ใครๆ ก็รู้ว่าอวี๋เยว่หานกำลังตามหาแม่ของลูกสาวเขาอยู่
คำพูดยั่วยุของเหวินหย่าไต้ในช่วงก่อน ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่คิดอยู่ตลอด ว่าอวี๋เยว่หานลืมความรักครั้งเก่าไม่ได้ จึงไม่เคยยอมแพ้
แต่ตอนนี้แม่ของเสี่ยวลิ่วลิ่วกลับกลายมาเป็นตัวเอง…
ความรักที่ยากจะลืมเลือน ซึ่งทำให้คนอื่นอิจฉาตาร้อน อาจจะต้องกลายเป็นการตามแก้แค้น!
เหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกใจสั่น พลางพูดพึมพำ “ฉันก็จำไม่ได้แล้ว วันนี้อยู่ๆ ธนาคารก็โทรมาหาฉัน ให้ฉันไปเปิดตู้เซฟ จากนั้นฉันก็เห็นรายงานนี้อยู่ข้างใน…”
“สุดยอดไปเลย!” ถานเปิงเปิงยกนิ้วให้เธอ “แอบให้กำเนิดลูกชายของคุณชายผู้สูงส่งอันดับหนึ่งของเมืองเอช เธอลืมเรื่องสำคัญพรรค์นี้ได้ยังไงกันนะ”
“แอบให้กำเนิดอะไรกัน เธอพูดมั่วแล้ว อวี๋เยว่หานอาจจะฟันแล้วทิ้งก็ได้…” เหนียนเสี่ยวมู่เถียงด้วยความไม่มั่นใจ
ถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็ลืมไปแล้ว พูดอย่างไรก็เป็นแพะรับบาปไม่ได้
ประเด็นสำคัญคือ ตอนนี้จะทำอย่างไรดี
“ดูจากรายงานฉบับนี้ มันเป็นของจริงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่เพื่อความปลอดภัย พอเธอกลับไปแล้ว เธอเอาเส้นผมของอวี๋ลิ่วลิ่วมาให้ฉันสักสองสามเส้น ฉันจะช่วยเธอวินิจฉัยทายาทอีกครั้ง”
“…ก็ได้”
เหนียนเสี่ยวมู่เก็บรายงานตรวจดีเอ็นเอเข้ากระเป๋า แล้วออกจากโรงพยาบาลได้
เมื่อเธอกลับถึงคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ ท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
คุณนายใหญ่อวี๋กำลังเล่นกับเสี่ยวลิ่วลิ่วอยู่ในสวน
เสี่ยวลิ่วลิ่วมีความสุขมาก เอาแต่วิ่งอยู่ตลอด ใบหน้ารูปไข่สะสวยเป็นสีแดงระเรื่อเพราะแรงลมหนาว
ตอนที่ 486 พีค! แม่ลูกรู้จักกัน! (4)
คุณนายใหญ่อวี๋เป็นห่วงว่าเด็กหญิงจะล้มลง จึงคอยเรียกอยู่ข้างๆ เสมอ “เหลนรักของฉัน วิ่งช้าๆ หน่อยสิ วิ่งช้าหน่อย!”
เด็กๆ มักจะชอบความรู้สึกที่มีคนคอยตามตัวเอง ยิ่งคุณนายใหญ่ตะโกนเรียก เสี่ยวลิ่วลิ่วก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้น
เสียงหัวเราะสดใสเหมือนระฆังทองแดง ช่วยเติมเต็มทั้งสวนแล้ว
แม้แต่หิมะในฤดูหนาว ก็ไม่ได้หนาวเหน็บขนาดนั้น
เสี่ยวลิ่วลิ่วกำลังวิ่งอย่างมีความสุข ครั้นเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ ดวงตากลมโตสีดำขลับก็เป็นประกายในทันที!
“แม่คนสวย!”
ร่างเล็กนุ่มนิ่มก้าวขาสั้นๆ วิ่งเสียงดังตึงตังเข้ามาหาเหนียนเสี่ยวมู่ ก่อนจะกอดหมับเข้าที่ต้นขาของเธอ เหมือนกับเข็มขัดขาก็ไม่ปาน
“อุ้มๆ”
“…”
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่อาจละสายตาจากเด็กหญิงได้เลย ตั้งแต่มองเห็นเงาร่างเล็กเมื่อครู่
เมื่อเห็นเสี่ยวลิ่วลิ่ววิ่งมาตรงหน้า พลางออดอ้อนขอให้อุ้ม เหนียนเสี่ยวมู่ก็ใจอ่อน
และอุ้มเด็กหญิงขึ้นโดยไม่พูดอะไรมาก
ก่อนจะจูบที่ใบหน้ารูปไข่ขนาดเล็กของเธอ
แต่หญิงสาวจูบไปครั้งหนึ่งแล้ว กลับรู้สึกไม่พอใจ จึงจูบซ้ำอีกหลายหน
จนกระทั่งเห็นคุณนายใหญ่อวี๋เดินเข้ามาหา เธอถึงจะหยุดลงอย่างเก้ๆ กังๆ
คุณนายใหญ่อวี๋กลับถามพร้อมยิ้มกริ่ม “กลับมาจากเดตแล้วเหรอ ทำไมมาคนเดียว เยว่หานล่ะ”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” เธอกำลังคิดว่าจะอธิบายให้คุณนายใหญ่อวี๋ฟังอย่างไร เพราะเธอไม่เห็นเงาของอวี๋เยว่หานทั้งบ่าย
“คุณย่า ที่จริงฉัน…”
“เอาล่ะๆ ฉันรู้ว่าเธออาย ฉันไม่ถามแล้วก็ได้ ขอแค่พวกเธออยู่ด้วยกัน ย่าก็มีความสุขแล้ว!” คุณนายใหญ่อวี๋พูดพลางบีบแก้มของเสี่ยวลิ่วลิ่ว
“หลานรักของฉัน เมื่อกี้เรียกเสี่ยวมู่มู่ว่าอะไรนะ เรียกให้ย่าฟังอีกทีสิ”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
“แม่คนสวย!” เสียงฉอเลาะของเสี่ยวลิ่วลิ่วดูเบิกบานใจเป็นพิเศษ
หนึ่งหญิงชรา หนึ่งเด็กหญิง เหมือนลิ่วล้อกันก็ไม่ปาน
มองข้ามเหนียนเสี่ยวมู่ที่ตื่นเต้นจนพูดไม่ออกไปโดยสิ้นเชิง
“เหลนรักของฉันฉลาดอย่างนี้ พ่อของเธอช่างโชคดีจริงๆ ถึงจะให้กำเนิดเด็กดีอย่างนี้ออกมาได้” คุณนายใหญ่อวี๋ยิ้มจนแก้มปริ
เหนียนเสี่ยวมู่มองสองคุณทวดกับหลานรักเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ได้แต่วิจารณ์อยู่ในใจ
‘ใช่ๆๆ อวี๋เยว่หานโชคดีจริงๆ ชาตินี้ถึงหาแฟนอย่างเธอได้’
ถ้าไม่มีเธอ เขาจะให้กำเนิดลูกสาวที่น่ารักขนาดนี้ได้อย่างไร
คุณนายใหญ่อวี๋อายุมากแล้ว เพียงแค่เดินเล่นอยู่พักหนึ่ง คนสนิทก็มาเตือนว่าเธอควรกลับไปกินยาแล้ว
หลังจากส่งคุณนายใหญ่อวี๋กลับไปแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ถึงจะอุ้มร่างเล็กนุ่มนิ่มของเสี่ยวลิ่วลิ่วไว้ในอก เธอเอาแต่มองเด็กหญิงอย่างไม่รู้จักพอ
เสี่ยวลิ่วลิ่วอายุสามขวบแล้ว
ในสามปีนี้ เธอไม่ได้ทำหน้าที่แม่ที่ดีเลยสักนิด
แม้กระทั่งลืมไปว่ามีเสี่ยวลิ่วลิ่วอยู่
เหนียนเสี่ยวมู่มองเจ้าตัวเล็กที่กำลังซุกอยู่ในอก ตรงหน้าพลันปรากฏภาพเสี่ยวลิ่วลิ่วถูกหัวเราะเยาะและรังแกในโรงเรียนอนุบาล เพราะว่าเธอไม่มีแม่…
ขอโทษนะ เสี่ยวลิ่วลิ่ว
แม่ไม่น่าลืมหนูเลย
ต่อไปแม่จะไม่ลืมหนูอีกแล้ว…
หญิงสาวกอดเสี่ยวลิ่วลิ่วแน่นขึ้น ครั้นรู้สึกว่าเด็กน้อยในอกรู้สึกไม่สบายตัว เธอจะดึงสติกลับมา พร้อมกับคลายอ้อมแขนด้วย
ก่อนจะยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่หางตา แล้วถามเสี่ยวลิ่วลิ่วด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวลิ่วลิ่วอยากปั้นตุ๊กตาหิมะหรือเปล่า แม่สอนหนูปั้นสักตัวดีไหม”
เด็กหญิงพยักหน้าหงึกหงัก พลางทำท่าทางออดอ้อน
ฝ่ายเหนียนเสี่ยวมู่จึงอุ้มเธอขึ้น หาที่ตรงที่หิมะค่อนข้างหนในสวน แล้วสั่งให้พ่อบ้านไปนำเสื้อนอกตัวหนาและถุงมือขนาดเล็กออกมา
เธอใส่เสื้อผ้าให้เสี่ยวลิ่วลิ่วจนหนาแล้ว ถึงจะสอนเด็กหญิงปั้นตุ๊กตาหิมะ ท่ามกลางพื้นหิมะ
“ปาปา!”