หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 561 ความจริงที่ปรากฏ (9) / ตอนที่ 562 ความจริงที่ปรากฏ (10)
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 561 ความจริงที่ปรากฏ (9) / ตอนที่ 562 ความจริงที่ปรากฏ (10)
ตอนที่ 561 ความจริงที่ปรากฏ (9)
“ฉันความจำดี มองครั้งเดียวก็จำได้แล้ว” เหนียนเสี่ยวมู่เห็นท่าทางร้อนใจของชายหนุ่ม จึงพูดทวนประโยคที่พูดเมื่อครู่อีกรอบ
เมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆ ของเขา ก็ถามออกมาจากอดไม่ได้
“ฟ่านอวี่ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“……”
มือของฟ่านอวี่ที่จับแขนของเธอเอาไว้กำแน่นขึ้น
คนตรงหน้าเขา เหมือนจะค่อยๆ ทับซ้อนกับคนในความทรงจำของเขาทีละนิด
แต่สิ่งเดียวที่เขาไม่เข้าใจก็คือ ถ้าเหนียนเสี่ยวมู่คือลิ่วลิ่วของเขา ทำไมเธอถึงลืมเขาไปได้
“คือว่า ฉันอยากไปเข้าห้องน้ำ อีกอย่างคู่หมั้นของฉันก็กำลังรออยู่ ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรแล้วล่ะก็ ฉันขอตัวก่อน……”
เหนียนเสี่ยวมู่อยากจะเดินไป แต่ฟ่านอวี่กลับจับแขนเธอไว้เสียก่อน ชายหนุ่มเอ่ยพูด
“เรื่องที่คุณรับปากผมไว้ครั้งก่อน คุณยังไม่ได้ทำเลยนะ”
“……”
ฝีเท้าของเหนียนเสี่ยวมู่ชะงักไป เงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างแปลกใจ
ในแววตามีแต่ความสับสนมึนงง
ราวกับว่าลืมไปแล้วว่าเขาพูดเรื่องอะไร
แววตาสีน้ำตาลเข้มของฟ่านอวี่สั่นไหวเล็กน้อย “คุณยังไม่ได้ตอบคำถามที่ผมถามครั้งก่อน”
“ฉันจำไม่ได้แล้ว” เหนียนเสี่ยวมู่ชะงักไป พอได้สติก็พูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา
“จำไม่ได้ หมายความว่ายังไง” ฟ่านอวี่ขมวดคิ้วแน่น
คิดว่าเธอไม่อยากตอบคำถามเขา
เห็นท่าทีของชายหนุ่มเหมือนจะเข้าใจอะไรผิดไป เหนียนเสี่ยวมู่คิดว่าเรื่องความจำเสื่อมก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เมื่อเห็นว่าเขาเอาแต่เซ้าซี้เรื่องนี้ จึงอธิบายออกไปให้ชัดเจน
“สองสามปีก่อนหน้านี้ฉันประสบอุบัติเหตุจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด พอฟื้นขึ้นมา ก็จำเรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่ได้ เรื่องที่คุณถามฉันคราวก่อน ฉันลืมไปแล้วจริงๆ……”
เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันจะพูดจบ แววตาของฟ่านอวี่ก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ
สองมือจับไหล่ของเธอเอาไว้ ตื่นเต้นอย่างควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ “คุณบอกว่าคุณได้รับบาดเจ็บ สูญเสียความทรงจำ?”
เธอสูญเสียความทรงจำ
ที่แท้เธอความจำเสื่อมไป!
เขาไม่เข้าใจมาโดยตลอดว่าถ้าเธอคือลิ่วลิ่วของเขา ทำไมถึงจำเขาไม่ได้
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ข้างกายของเธอตลอดเวลา แต่เธอก็ไม่ควรจะลืมเขาหมดสิ้นแบบนี้
ไม่หลงเหลือความทรงจำใดๆ
จวบจนได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของเธอ เขาถึงได้สติ
บางที เขาอาจผิดตั้งแต่เริ่มต้น
ไม่ใช่ลิ่วลิ่วจำเขาไม่ได้ แต่เป็นเพราะลิ่วลิ่วของเขาเกิดอุบัติเหตุจึงได้ลืมเขาไป!
มือที่จับเหนียนเสี่ยวมู่เอาไว้ กำแน่นขึ้นเรื่อยๆ
“คุณประสบอุบัติเหตุที่ไหน แล้วใครช่วยคุณไว้ คุณจำเรื่องในอดีตได้มากน้อยแค่ไหน” คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของชายหนุ่ม
เขาร้อนร้นอยากจะรู้เรื่องทุกอย่างของเธอ
“ฟ่านอวี่ คุณเป็นอะไรไป คุณปล่อยฉันก่อน……” เหนียนเสี่ยวมู่เห็นฟ่านอวี่ราวกลับเปลี่ยนเป็นคนละคน จึงใช้แรงผลักเขาออก แล้วเดินถอยหลังไปสองก้าว
เอื้อมมือไปนวดไหล่ที่โดนเขาบีบจนเจ็บ
เขาเป็นอะไรไป
ได้ยินว่าเธอความจำเสื่อม ทำราวกับตัวเองถูกหวยอย่างนั้นแหล่ะ
มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นหรือไงนะ
แม้เธอจะไม่ได้เป็นทุกข์สักเท่าไหร่กับการลืมเรื่องราวในอดีตไป แต่เห็นชายหนุ่มตื่นเต้นแบบนี้ ก็อดรู้สึกแปลกใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ การแสดงท่าทางของเขาเมื่อครู่คงได้โดนเธอต่อยไปสักหมัดแล้ว
“ขอโทษที เมื่อครู่ผมตะลึงไปหน่อย ทำคุณตกใจหรือเปล่า” ฟ่านอวี่รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่ตื่นเต้นเกินไปของตัวเอง ดวงตาเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้น กล่าวขอโทษออกมา
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเขา เหนียนเสี่ยวมู่ก็เบ้ปากเล็กน้อย “เรื่องอื่นฉันจำไม่ได้หรอก ฉันจำได้แค่ว่าถานเปิงเปิงเจอตัวฉันแถวๆ โรงพยาบาล”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดไปครึ่งหนึ่ง จู่ๆ มองไปทางฟ่านอวี่อย่างสงสัย
ตอนที่ 562 ความจริงที่ปรากฏ (10)
“ทำไมคุณถึงได้สนใจเรื่องในอดีตของฉันขนาดนี้”
ฟ่านอวี่ “……”
ชายหนุ่มยังไม่ทันจะได้เอ่ยพูดอะไร ก็มองเห็นอวี่เยว่หานที่เดินออกมาจากร้านชุดราตรี ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหรี่ลงเล็กน้อย
เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่ม เหนียนเสี่ยวมู่ก็รู้สึกเสียววูบที่แผ่นหลัง
เมื่อหันกลับไป ก็เห็นอวี่เยว่หานที่ยืนอยู่ด้านหลัง เธอก็ตกใจจนแทบกระโดด
ดวงตานิ่งลึกสีดำขลับ เปล่งแสงสีเขียวออกมา ราวกับจับภรรยาที่แอบไปมีชู้ได้แล้วจะจับเธอไปทำเนื้อย่างระบายความโกรธ
“คุณอะไรกันอยู่ ถึงได้ดูมีความสุขแบบนี้” อวี่เยว่หานเดินมาหยุดอยู่ข้างกายของเหนียนเสี่ยวมู่ เอื้อมมือไปโอบบ่าของเธอแล้วก้มลงมอง
เอ่ยถามออกมาทีละคำ “ผมกำลังจะไปตามคุณที่ห้องน้ำ นึกไม่ถึงว่าคุณชายฟ่านจะมาถึงก่อนผม”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…….”!!
“เปล่าๆ เปล่านะ เราเพิ่งเจอกัน แล้วก็ทักทายกันนิดหน่อย ฉันกำลังจะไปเรียกคุณแต่คุณดันออกมาซะก่อน ไม่เชื่อคุณถามคุณชายฟ่านสิ” เหนียนเสี่ยวมู่ถนัดเรื่องการแถอยู่แล้ว
พูดจบรวดเดียว ไม่ได้พักหายใจเลยสักนิด
แถมยังลากเอาฟ่านอวี่มาเป็นพยานให้ตัวเองอีกด้วย
สิ้นเสียง แววตาของฟ่านอวี่ก็ไหววูบเล็กน้อย จากนั้นก็เปลี่ยนไปรอยยิ้มที่อ่อนโยนอย่างรวดเร็ว “ในเมื่อพวกคุณสองคนมีธุระ งั้นผมก็ไม่รบกวนแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ”
ฟ่านอวี่ก้มศีรษะให้ จากนั้นก็หมุนตัวไปที่ลิฟต์
ฝีเท้าของเขาค่อนข้างเร็ว ราวกับรีบร้อนจะไปจัดการเรื่องอะไร
เหนียนเสี่ยวมู่นึกถึงคำถามเมื่อครู่ของฟ่านอวี่ กำลังสงสัยอยู่ว่าเขาถามเรื่องพวกนี้ไปทำไม ก็ได้ยินเสียงเย็นๆ ของอวี่เยว่หานพูดขึ้น “คนไปไกลแล้ว คุณจะมองตามไปถึงเมื่อไหร่”
เหนียนเสี่ยวมู่ “o(╯□╰)o……”
ผู้ชายขี้หึง แหย่ไม่ได้จริงๆ
อีกด้านหนึ่ง
ฟ่านอวี่เดินออกมาจากลิฟต์ของห้างสรรพสินค้า จากนั้นก็รีบกดโทรศัพท์หาผู้ช่วยของตน
“ช่วยสืบเรื่องคนคนหนึ่งให้ผมหน่อย ถานเปิงเปิง!”
หลังจากวางสาย ฟ่านอวี่ก็เดินไปที่ลานจอดรถ
เอารถออก ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ขับรถไปพลางเชื่อมบลูทูธคุยกับผู้ช่วยไปด้วย
“หาเจอหรือยัง”
“ครับคุณชายฟ่าน เจอแล้วครับ ถานเปิงเปิงเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ก่อนอยู่แผนกจิตเวช แต่ตอนนี้เปลี่ยนสาขา อีกอย่างเธอเพิ่งไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาได้ไม่นาน……”
ผู้ช่วยรายงานข้อมูลที่หาได้ทั้งหมดให้ฟ่านอวี่ฟัง
ขณะนั้นเหมือนว่าผู้ช่วยจะเจออะไรเข้า น้ำเสียงดูสูงขึ้นเล็กน้อย
“ในข้อมูลบอกว่า ถานเปิงเปิงเป็นคนนิ่งๆ ไม่ชอบข้องแวะกับคนอื่น มีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวก็คือเหนียนเสี่ยวมู่”
“ส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ถานเปิงเปิงทำงานมาให้ผม!” ดวงตาของฟ่านอวี่หรี่แคบลง มีความซับซ้อนสับสนแฝงลึกอยู่ในแววตานั้น
ยิ่งถานเปิงเปิงสนิทกับเหนียนเสี่ยวมู่มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้เรื่องมากเท่านั้น
ที่สำคัญก็คือ ถานเปิงเปิงคือคนแรกที่สัมผัสใกล้ชิดกับเหนียนเสี่ยวมู่หลังจากที่เธอเกิดเรื่องขึ้น
ฟ่านอวี่แทบจะอดทนรอขับรถไปยังโรงพยาบาลไม่ไหว
พอรถจอดสนิทที่นอกโรงพยาบาล ชายหนุ่มก็เปิดประตูรถ ก้าวลงมา
เมื่อมีข้อมูลระบุตัวตนที่แน่ชัด การจะหานคนคนหนึ่งก็ง่ายขึ้นถนัดตา
“คุณหมอถานกำลังผ่าตัดอยู่ ถ้าคุณอยากจะพบเธอ คงต้องรอสักพักนะคะ” พนักงานที่รับผิดชอบเรื่องการลงทะเบียนรับรู้ถึงความตั้งใจของฟ่านอวี่ก็เอ่ยเตือนอย่างมีมารยาท
“การผ่าตัดจะเสร็จเมื่อ่ไหร่ครับ” ฟ่านอวี่ยืนอยู่ที่เคาท์เตอร์ลงทะเบียน ตอนนี้เขาสุขุมและใจเย็นลงแล้ว
“น่าจะใกล้เสร็จแล้วค่ะ คุณขึ้นลิฟต์ตัวนี้ไปที่ชั้นสอง เลี้ยวซ้ายไปเจอห้องผ่าตัดแรกก็ใช่แล้วค่ะ…..”
ฟ่านอวี่ทำตามที่พนักงานบอก ขึ้นไปที่ชั้นสอง
พอออกจากลิฟต์ ก็เจอกับถานเปิงเปิงที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องผ่าตัดพอดี
ดวงตาสองคู่สาบตากัน ทั้งสองต่างตะลึงงันไป!