หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 787 เสี่ยวลิ่วลิ่ว หนูจะรู้เรื่องมากไปแล้ว ตอนที่ 788 ก็ปะทะกันเช่นนี้!
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 787 เสี่ยวลิ่วลิ่ว หนูจะรู้เรื่องมากไปแล้ว ตอนที่ 788 ก็ปะทะกันเช่นนี้!
ตอนที่ 787 เสี่ยวลิ่วลิ่ว หนูจะรู้เรื่องมากไปแล้ว
“งั้นเรียกป่าป๊าด้วยสิคะ สามคนก็ไม่น่าเบื่อแล้ว” เสี่ยวลิ่วลิ่วทำมือประกอบ พลางเอียงศีรษะน้อยๆ พูดตอบ
ลูกสาวของเธอช่างเข้าใจเธอดี
คำพูดคำจาก็ถูกใจเธอพอดี
เหนียนเสี่ยวมู่จุ๊บบนใบหน้าเสี่ยวลิ่วลิ่วหนึ่งที แล้วโบกแท็กซีพาเธอกลับบ้านพักตากอากาศตระกูลอวี๋
เมื่อลงจากรถ ก็เห็นแม่บ้านรออยู่ที่หน้าประตูทางเข้าแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่จูงมือเสี่ยวลิ่วลิ่ว มองไปที่ด้านหลังแม่บ้านอย่างตื่นเต้นก่อน พอไม่พบอวี๋เยว่หาน ก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง แล้วไม่ถามอะไร
แต่ก็จูงมือเสี่ยวลิ่วลิ่วได้อย่างเป็นธรรมชาติ เดินไปในห้องโถง
เมื่อเข้าห้องโถง ก็เห็นของเล่นวางอยู่บนโต๊ะน้ำชา เสี่ยวลิ่วลิ่วรีบพุ่งไปด้านหน้า แล้วหอบโมเดลทั้งกองนั้น จะให้เหนียนเสี่ยวมู่ประกอบเป็นเพื่อนเธอ
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้พูดอะไร นั่งลงบนโซฟา แล้วประกอบโมเดลเป็นเพื่อนเสี่ยวลิ่วลิ่ว เพียงแค่คนที่กำลังประกอบโมเดลอยู่นั้น ใจกลับไม่อยู่กับตัว
เธอกวาดสายตาไปทั่วภายในห้องโถง ก็ไม่เห็นอวี๋เยว่หาน จนสายตาก็อดไม่ได้ที่จะคอยชำเลืองมองไปทางบันไดอยู่ตลอด
เธอจำได้ว่าที่ผ่านมาเมื่อเสี่ยวลิ่วลิ่วกลับมา แม้ว่าอวี๋เยว่หานจะยุ่งอยู่ที่ห้องหนังสือ ก็จะลงมารอบหนึ่ง เพื่อจุ๊บกอดเจ้าหญิงตัวน้อยของเขาก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ห้องหนังสือต่อ
วันนี้ทำไมถึงไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยล่ะ
หรือว่าจะป่วยหนักมากจนลุกไม่ไหวกัน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็เกิดอาการนั่งไม่ติด
จึงมองเสี่ยวลิ่วลิ่วที่กำลังจดจ่อกับการเล่นของเล่นอยู่ เธอก็ไอขึ้นมาสองที
เสี่ยวลิ่วลิ่วไม่มีการตอบสนอง
ที่ว่ากันว่าแม่และลูกสาวจะรู้ใจกัน มาถึงตรงนี้ก็เผยรอยร้าวเสียแล้ว
แต่ทว่าแม่บ้านที่ได้ยินเธอก็ไอแห้งๆ มาตลอด ก็อดที่จะถามไม่ได้ “คุณเหนียนคะ คุณไม่สบายคอเหรอคะ ให้ดิฉันตุ๋นสาลี่น้ำตาลกรวดสักถ้วยเอาไหมคะ”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เธออยากจะพูดว่าไม่ต้อง แต่แม่บ้านก็หันศีรษะเดินไปที่ห้องครัวแล้ว
จะพูดก็สายไปเสียแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่เข้าไปอยู่ด้านหน้าเสี่ยวลิ่วลิ่ว หยิบโมเดลในมือของเธอออก จับที่ไหล่เล็กๆ ของเธอ แล้วนั่งยองๆ สบตาสายเธอ
“เสี่ยวลิ่วลิ่ว หนูไม่รู้สึกเหรอว่าเล่นกันสองคนค่อนข้างจะน่าเบื่อไปหน่อยน่ะ”
“น่าเบื่อเหรอคะ ก็ไม่นี่คะ เล่นกับหม่าม้า เสี่ยวลิ่วลิ่วสนุกมากเลย~” เสี่ยวลิ่วลิ่วตอบเสียงเจี๊ยวจ๊าว
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
แม่ลูกสาวที่รู้ใจกัน เผยรอยร้าวอีกครั้ง
เหนียนเสี่ยวมู่สำลักอยู่สักพัก พอเหลือบมองโมเดลที่ยุ่งเหยิงตรงหน้า แววตาก็เป็นประกาย พร้อมกับชี้ไปที่ชิ้นที่ยากที่สุด “แต่อันนี้มันยากเกินไป แม่ทำไม่เป็น จะทำอย่างไรจ๊ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ อันนี้เสี่ยวลิ่วลิ่วทำเป็น เดี๋ยวเสี่ยวลิ่วลิ่วจะสอนแม่เองน้า!” เจ้าก้อนแป้งข้าวเหนียวน้อยพูดไปพร้อมกับหยิบชิ้นส่วนขึ้นมาแล้วเริ่มตั้งใจประกอบ
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เหนียนเสี่ยวมู่มองโมเดลที่ซับซ้อนในกำมือเธอ เด็กสามขวบที่ประกอบได้อย่างสบายๆ เธอก็หดหู่ขึ้นมาทันที
เสี่ยวลิ่วลิ่ว หนูจะรู้เรื่องมากไปแล้ว…
ในเมื่อหาข้ออ้างที่จะขึ้นบ้านไม่ได้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ได้แต่นั่งทำตัวดีๆ บนโซฟา และประกอบโมเดลเป็นเพื่อนเสี่ยวลิ่วลิ่ว
เหมือนจะเป็นการทรมานตัวเอง ที่หยิบชิ้นที่ยากที่สุดมาประกอบ
ใช้ความพยายามอันมหาศาล จนสุดท้ายก็ประกอบเสร็จสิ้น
เสี่ยวลิ่วลิ่วที่ทิ้งอวี๋เยว่หานไว้ด้านหลังอย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่อครู่ ก็เหมือนว่าเพิ่งจะนึกได้ตอนนี้ จึงหอบโมเดลที่เพิ่งประกอบเสร็จ แล้ววิ่งขึ้นบ้านไป
เธอตะโกนด้วยความตื่นเต้นว่า “เอาไปให้ป่าป๊าดูกันค่ะ หม่าม้ากับเสี่ยวลิ่วลิ่วเก่งที่สุดเลย!”
“…”
เหนียนเสี่ยวมู่นิ่งอึ้งบนโซฟา พลางมองร่างเงาข้าวเหนียวนุ่มนิ่มตัวจ้อยอย่างเธอที่หายไปตรงบันได
เมื่อได้สติ ก็ลุกขึ้นทันที แล้วตะโกนเสียงดังเป็นพิเศษสองประโยคว่า
“เสี่ยวลิ่วลิ่ว ช้าหน่อยลูก ระวังจะล้ม!”
จากนั้นก็มองหางตาพลางแอบยิ้มมุมปาก แล้วรีบขึ้นไปที่ข้างบนบ้าน!
ตอนที่ 788 ก็ปะทะกันเช่นนี้!
เมื่อเดินมาถึงชั้นสอง ก็เห็นเสี่ยวลิ่วลิ่วที่กำลังกอดโมเดลใช้แรงดึงเปิดประตูห้องนอนที่ปิดไม่สนิท จากนั้นก็วิ่งเตาะแตะเข้าไป
เหนียนเสี่ยวมู่ยืนอยู่หน้าประตู ยื่นมือไปจับลูกบิดประตู แต่กลับเกิดลังเลอยู่เล็กน้อย
ไม่กล้าที่จะเปิดประตูนี้นิดหน่อย
เธอไม่รู้ว่าเขาจะมองเธอด้วยสายตาแบบไหน
ทั้งเรื่องวิดีโอ ไหนจะเรื่องถานเปิงเปิงอีก จนมาถึงตอนนี้ เธอก็อธิบายให้เขาไม่ได้เลย…
แต่พอคิดว่าร่างกายเขาไม่สบาย มือเธอที่กุมลูกบิดประตูอยู่นั้นก็กระชับแน่นยิ่งขึ้น
แล้วพูดกับตัวเองภายในใจว่า ให้เธอเห็นกับตาหน่อย
ถ้าเขาไม่เป็นไร มองดูแวบหนึ่ง เธอก็จะรีบไปเลย!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ตัดสินใจแล้วก็ใช้แรงเปิดประตูห้องนอนออก
เมื่อเดินเข้าไป ก็พบว่าอวี๋เยว่หานที่กำลังจะสิ้นลมในจินตนาการไม่ได้อยู่บนเตียงใหญ่นั่น กลับเห็นแค่เสี่ยวลิ่วลิ่วที่ยืนซึมอยู่หน้าเตียง
ดวงตาโตสีดำขลับกะพริบตาพลางมองห้องนอนที่ว่างเปล่าอย่างไร้เดียงสา
ราวกับคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะพุ่งเข้ามาในห้องที่ว่างเปล่า…
เหนียนเสี่ยวมู่ก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
ที่เห็นว่าอวี๋เยว่หานไม่อยู่ห้องนอน เธอครุ่นคิดไปมา ก็หันหน้าเข้าหาเสี่ยวลิ่วลิ่วพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ห้องหนังสือ
เสี่ยวลิ่วลิ่วกอดโมเดล แล้ววิ่งเตาะแตะไปที่ห้องหนังสือ
เมื่อถึงประตูห้องหนังสือ ก็เห็นว่าประตูห้องหนังสือไม่ได้ปิดเอาไว้ เหนียนเสี่ยวมู่ขมวดคิ้ว
ร่างกายเขาไม่สบาย แล้วยังจะทำงานอยู่อีกเหรอ
ไม่รอให้เธอคิดเยอะ เสี่ยวลิ่วลิ่วก็ยื่นมือเปิดประตู ยื่นศีรษะน้อยๆ มุดเข้าไป
ก็หาอวี๋เยว่หานในห้องหนังสือไม่เจอ ใบหน้าเล็กก้มลง แล้วเปิดประตูเดินออกมา
แล้วเปิดปากพูดอย่างเศร้าสร้อย
“หม่าม้า ไม่เจอป่าป๊าเลยอะ!”
“…”
ในใจของเหนียนเสี่ยวมู่ก็กำลังมึนงงเช่นเดียวกัน อวี๋เยว่หานไม่ได้อยู่ที่บริษัท และก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านพัก แล้วจะไปอยู่ที่ไหนกันนะ
เธอจูงเสี่ยวลิ่วลิ่วอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วค้นหาทั่วทั้งบ้านพักหนึ่งรอบ
สุดท้ายทั้งสองคนก็เหนื่อยจนหมดแรงอยู่บนโซฟาที่ห้องโถง
ประจวบเหมาะที่แม่บ้านออกมาเสิร์ฟสาลี่ตุ๋นน้ำตาลกรวด
เหนียนเสี่ยวมู่มองเธอแวบหนึ่ง ก็อดที่จะเปิดปากถามไม่ได้
“อวี๋เยว่หานไม่สบายไม่ใช่เหรอคะ เขาไปไหนแล้ว”
“คุณชายไม่สบายหรือคะ ทำไมดิฉันไม่ทราบเลย” แม่บ้านที่เพิ่งวางสาลี่ตุ๋นน้ำตาลกรวด ก็เงยหน้าด้วยสีหน้าที่งงงวย
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
“ตอนที่คุณชายตื่นตอนเช้า พูดก็จริงว่าไม่สบายหัวนิดหน่อย น่าจะเพราะเมื่อวานดื่มหนักไปและนอนดึก แต่พอกินอาหารเช้าก็ไม่เป็นไรแล้วค่ะ” แม่บ้านตอบกลับและอธิบาย
เหนียนเสี่ยวมู่นิ่งไปชั่วขณะ “เขาไม่ได้เป็นอะไรงั้นทำไมถึงไม่ไปทำงานล่ะ”
“เหมือนว่าจะมีเรื่องด่วนน่ะค่ะ รับโทรศัพท์แล้วออกไปเลย รายละเอียดว่าทำอะไร ดิฉันเองก็ไม่ทราบ เดิมทีร่องรอยของคุณชายก็ไม่ได้เหลือให้พวกดิฉันหรอกค่ะ”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ถ้างั้น ก็ไม่ได้ป่วยออดๆ แอดๆ ตั้งแต่แรก
ทั้งหมดนั่นก็เป็นการเดาจากกลุ่ม “ภรรยาแฟนคลับ”ที่บริษัทนั่นน่ะสิ เธอเองก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วย
แถมยังพุ่งออกมาด้วยความกังวล เป็นห่วงเขาจะเป็นโรคร้าย ดูแลชีวิตตัวเองไม่ได้
“คุณเหนียนคะ นี่ก็เวลาเย็นแล้ว คุณจะกินมื้อเย็นก่อนค่อยกลับไหมคะ” แม่บ้านถามอย่างนอบน้อม
“ไม่ค่ะ ไม่ต้องค่ะ”
พอรู้ว่าอวี๋เยว่หานไม่ได้เป็นอะไรไป หัวใจที่แข็งแกร่งกล้าหาญของเหนียนเสี่ยวมู่ก็เปลี่ยนเป็นใจปลาซิวทันที
พอจุ๊บเสี่ยวลิ่วลิ่วและนัดเจอกันอีกวันหลังเสร็จ ก็เตรียมจะออกไป
เมื่อลุกขึ้นจากโซฟา ก็เห็นร่างเงาอันภูมิฐานร่างหนึ่งกำลังเดินเข้ามาจากข้างนอก
เสื้อคลุมกันลมยาวสีดำ ร่างสูงใหญ่ของเขายืนตระหง่าน เค้าโครงงดงามโดดเด่นพิเศษยิ่ง
แสงของพระอาทิตย์ตกที่กระทบด้านข้างของใบหน้าของเขาเคลือบจนส่องประกาย
ร่างกายเหนียนเสี่ยวมู่ก็ถึงกับแข็งทื่อ!