หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 791 ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว! ตอนที่ 792 ตั้งแต่เล็กเธอก็ไม่เหมือนคนอื่น
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 791 ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว! ตอนที่ 792 ตั้งแต่เล็กเธอก็ไม่เหมือนคนอื่น
ตอนที่ 791 ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว!
เธอที่พะวงอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าอวี๋เยว่หานที่มองมาเมื่อครู่จะเห็นเธอหรือเปล่า
ขณะที่กระสับกระส่ายใจอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินอย่างเชื่องช้าและหนักหน่วงมาทางเธอ…
เหนียนเสี่ยวมู่ถึงกับผวาจนกลั้นลมหายใจ!
คิดแล้วคิดอีก เมื่อกี้ไม่น่ายื่นหัวออกไปแอบดูเลย เป็นเพราะที่มองเมื่อกี้แน่เลยจึงโดนอวี๋เยว่หานเห็นเข้า
ตอนนี้เขากำลังเดินมาหาตัวเอง อีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าคงได้ลากเธอออกมา
เมื่อถึงเวลานั้น เธอจะแสร้งทำตัวสบายๆ ต่อสายตาดูแคลนของเขาแล้วเดินออกจากประตูบ้านอวี๋อย่างสงบเสงี่ยมได้อย่างไรกัน
ช่างเถอะ เธอโขกหัวให้ตายตรงบานประตูยังดีเสียกว่า!
ไม่ทันที่เหนียนเสี่ยวมู่จะไว้อาลัยให้ตัวเองอยู่ในใจเสร็จ จู่ๆ ฝีเท้าก็หยุดลง จากนั้นก็หันไปอีกทาง เดินตรงดิ่งไปตู้ไวน์ที่อยู่ค่อนข้างใกล้กับปากประตู
อวี๋เยว่หานเอื้อมมือเปิดตู้ไวน์ แล้วหยิบขวดไวน์แดงออกมาจากด้านใน
ยามที่หันตัวและหางตาเหลือบมองไปทางประตู
นัยน์ตาดำสนิทส่องประกาย ราวกับว่ามองไม่เห็นอะไรเลย
สีหน้าที่ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก ตีหน้าตายแล้วเข้าห้องอาหารไป…
“ฟู่…”
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาจากไป เหนียนเสี่ยวมู่ก็ตกใจจนนั่งทรุดอยู่กับพื้น
พอยื่นมือไปแตะที่หน้าผาก ก็มีเหงื่อไหลออกมาด้วยความตกใจเต็มไปหมด
เธอลืมได้อย่างไรกันนะ ตู้ไวน์อยู่ใกล้เธอมาก
ตะกี้เขาแค่มาเอาไวน์แดง เธอก็ยังคิดไปว่าตัวเองจะโดนเจอแล้ว
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ได้สติ ก็ยื่นหัวไปมองให้แน่ใจว่าอวี๋เยว่หานเข้าห้องอาหารไปแล้ว ก็รีบลุกขึ้นจากพื้นตบก้น แล้ววิ่งออกไปข้างนอกอย่างไม่หันกลับมา
เพียงชั่วพริบตาก็วิ่งเร็วจนไม่เหลือเงาแล้ว
ปากประตูห้องอาหาร ร่างสูงสง่าอันของอวี๋เยว่หานที่ยืนสงบนิ่ง ณ ที่ตรงนั้น
คงคิดว่าเธอได้วิ่งออกไปแล้ว จึงค่อยๆ เดินออกมาจากห้องอาหาร มองทิศทางที่เธอจากไป
นัยน์ตาดำขลับส่องประกายแวววาว เกิดแสงอันสลับซับซ้อนผ่านสายตาไปอย่างรวดเร็ว
พ่อบ้านที่อยู่ข้างกายเขา พบว่าเขาได้เห็นเหนียนเสี่ยวมู่แล้ว ก็เครียดจนไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายอย่างไรดี
ขณะที่สับสนว่าจะพูดหรือไม่พูดดี แต่อวี๋เยว่หานนั้นไม่ได้สนใจเขา กลับคอยจ้องแต่ทางที่เหนียนเสี่ยวมู่จากไป ไม่รู้ว่ามองนานเท่าใดแล้ว จนกระทั่งเขามองไม่เห็นเงาเธออีก จึงค่อยหันตัวกลับเดินไปยังด้านหน้าโต๊ะอาหารแล้วนั่งลงด้วยความสงบนิ่ง
รินไวน์แดงให้ตัวเองแก้วหนึ่ง แล้วยกดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
หันศีรษะให้สัญญาณกับพ่อบ้านให้รินไวน์ให้ตน แต่ภายในดวงตากลับไม่มีท่าทีจะคิดบัญชีกับพ่อบ้านแม้แต่น้อย
ดูเหมือนว่าจะเห็นก่อนอยู่นานแล้ว…
พ่อบ้านมองดูท่าทีของเขา หวนคิดถึงตอนที่เขากลับมาที่จู่ๆ ก็ไปรับโทรศัพท์นั้นที่ปากประตู ก็อดแปลกใจเสียจนหุบยิ้มไว้ไม่ได้
หรือว่าจากตอนนั้น คุณชายจะเห็นแล้ว
ภายหลังเลยทำท่าทีเปลี่ยนไป กลับมาแล้วไม่ไปห้องหนังสือ ไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า และคอยนั่งเล่นกับคุณหนูเสี่ยวที่ห้องรับแขกอย่างนี้…
เช่นนั้นแล้ว คุณชายของเขาอยากจะเล่นเป็นเพื่อนกับคุณหนูเสี่ยวที่ไหนกัน ชัดเจนว่าอยากจะอยู่ในที่ที่มีคุณเหนียนอยู่ด้วย
แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่คุยกัน หรือไม่แม้แต่จะเจอหน้ากัน
แต่เพียงได้อยู่ที่เดียวกันก็พอแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ พ่อบ้านก็รู้สึกซึ้งจนเกือบจะร้องไห้
ทันใดนั้นเองภายในสมองก็พลันนึกถึงประโยคที่ซึ้งกินใจนั้นได้ : ถามทั่วหล้าว่ารักเป็นฉันใด ถึงสอนให้คนมอบแก่กันด้วยชีวิต
เมื่อเปรียบเทียบกับคำพูดภายในใจที่ยุ่งยากของพ่อบ้านแล้ว อวี๋เยว่หานดูเหมือนจะเงียบสงบกว่ากันเยอะเลย
เขาเห็นเหนียนเสี่ยวมู่อยู่บ้านอวี๋ก่อนแล้วจริงๆ พอรู้ว่าเธอไม่อยากเจอเขา ก็ตั้งใจให้โอกาสเธอซ่อนตัว
ทว่าปล่อยเธอจากไปเช่นนี้ เขาก็อาลัยอาวรณ์อีกครั้ง
ดังนั้นที่เขาคอยอุ้มและเล่นกับเสี่ยวลิ่วลิ่วอยู่ตลอด
ตอนที่เธอชะเง้อแอบมองเขาจากหลังประตู เขาเองก็จะใช้หางตาแอบมองเธอเช่นกัน…
ตอนที่ 792 ตั้งแต่เล็กเธอก็ไม่เหมือนคนอื่น
ยิ่งมองยิ่งอาวรณ์ที่ปล่อยให้เธอจากไป
ตอนที่เห็นเธอกำลังนั่งขัดสมาธิ สองมือเท้าคางแอบมองเขา เขาแทบจะอดใจไม่ไหว อยากจะไปหิ้วเธอออกมาเข้ามากอดในอ้อมอก
สุดท้าย…เขาก็หิ้วเสี่ยวลิ่วลิ่วสูงๆ แทน
ด้วยความกังวลที่ให้เธอมองดูต่อไปเรื่อยๆ เขาจะอดใจไม่ไหวจริงๆ จึงทำได้เพียงหันศีรษะไปสั่งพ่อบ้านให้เริ่มเสิร์ฟอาหารได้เท่านั้น
เดิมทีก็คิดว่า อาจจะเห็นสีหน้าดีใจของเธอก็ได้ แต่ท้ายสุดเธอซ่อนตัวอยู่นานขนาดนั้น คงร้อนใจที่จะออกไปมากกว่า
แต่ก็ไม่ได้คิดว่า จะได้เห็นสีหน้าที่ผิดหวังของเธอ เขาแทบจะควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ เผลอเดินเข้าไปหาเธออย่างไม่รู้ตัว
จนกระทั่งเดินเกือบถึงด้านหน้าเธอแล้ว พอเห็นเธอตกใจขดตัวจนกลม ก็แทบอยากจะเอาตัวเองไปอุดในช่องประตู เขาก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไป…
ในจุดเปลี่ยนสุดท้าย เขาหันศีรษะไปทางตู้ไวน์
แล้วหยิบไวน์มา และเดินเข้าห้องอาหารให้เป็นไปตามที่เธอปรารถนา
เพื่อให้เธอจากไปได้…
อวี๋เยว่หานถือแก้วไวน์ในมือพลางกำแน่นอย่างเงียบๆ แล้วยกแก้วขึ้นดื่มไวน์ที่อยู่แก้วหมดในรวดเดียว
ให้พ่อบ้านรินไวน์ให้อีกรอบ เจ้าแป้งข้าวเหนียวตัวจ้อยที่นั่งหน้าเขาก็บุ้ยปากเล็กๆ เหมือนยายแก่ตัวน้อยที่กำลังบ่นพึมพำ
“พอหม่าม้าไม่อยู่บ้าน ป่าป๊าก็ไม่เชื่อฟัง เสี่ยวลิ่วลิ่วจะไปฟ้องหม่าม้า!”
“…”
ในมืออวี๋เยว่หานที่ถือแก้วไวน์ก็ชะงักทันที
เลิกคิ้วมองเธอ
ในหัวกำลังครุ่นคิดอยู่ เธอพูดด้วยความจริงจัง แถมยังทำเขาตกใจอีกด้วย
ใบหน้าเสี่ยวลิ่วลิ่วก็ฉายแววความอาย ที่เขามองตามอำเภอใจ มือเล็กอวบๆ ก็คว้าช้อนอันเล็ก แล้วตักข้าวคำโตเข้าในปากเคี้ยวแจ๊บๆ
ปากก็ยังบ่นพึมพำอยู่ว่า
“หรือว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วเชื่อฟังมากที่สุดและคงทำตัวน่ารัก หม่าม้าเลยชอบหนูมากที่สุด”
อวี๋เยว่หาน “…”
คนโสดที่อกหักมา ยังจะโดนเจ้าหญิงน้อยของตัวเองโจมตีอีก โลกนี้ช่วยดีบ้างได้ไหมเนี่ย
อวี๋เยว่หานผลักแก้วไวน์ออก หันศีรษะไปทางพ่อบ้าน แล้วพูดทีละคำอย่างชัดเจน
“ไม่ต้องรินไวน์ให้ฉันแล้ว ไปตักข้าวให้ฉันได้เลย”
กะอีแค่ยอมกินข้าวดีๆ หรือว่าเขาจะแพ้ให้กับเด็กน้อยสามขวบแล้วกันนะ
จนสุดท้าย ภาพบนโต๊ะอาหารก็กลายเป็นคนตัวใหญ่หรือคนตัวเล็ก ใครจะเชื่อฟังใครมากกว่ากัน…
เป็นความแปลกประหลาดที่ยากจะอธิบาย
ในขณะนั้นเอง อวี๋เยว่หานก็รับโทรศัพท์สายหนึ่ง
เป็นผู้ช่วยโทรศัพท์มานั้นเอง
“คุณชายหานครับ ตามคำสั่งของท่าน ที่ให้ไปหารูปของถานเปิงเปิงสมัยเด็กมา ได้ส่งไว้ในอีเมลของท่านหมดแล้วครับ”
อวี๋เยว่หานตอบเพียง “อืม” ก็วางสายไป แล้วกินข้าวกับเสี่ยวลิ่วลิ่วต่อ
กระทั่งทั้งสองพ่อลูกกินไม่ไหวแล้ว เขาเลยให้พ่อบ้านไปเล่นกับเสี่ยวลิ่วลิ่วที่ข้างล่างบ้าน ส่วนตัวเองก็ขึ้นบนบ้านเข้าห้องหนังสือไป
เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์ การแจ้งเตือนอีเมลที่ผู้ช่วยส่งมาก็เด้งขึ้น
นัยน์ตาสีดำสนิทของอวี๋เยว่หานไหวเล็กน้อย เมื่อเปิดรูปภาพในอีเมลนั้นขึ้น
ดูไปได้สักหน่อย คิ้วก็ค่อยๆ ขมวดขึ้น
บนใบหน้าหล่อคมสันก็ฉายแววสับสนขึ้นมา
รูปนี้มัน…
เขาเลื่อนเมาส์ แล้วคลิกลงไป จากที่เห็นมาตลอดจนอันสุดท้าย ก็ไม่คลายขมวดคิ้วเลย
จ้องรูปที่อยู่บนคอมพิวเตอร์พลางเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดเบอร์ต่อสายหาผู้ช่วย
“แน่ใจนะว่านี่คือรูปของถานเปิงเปิง ไม่ชัดเลยสักนิดเลยนี่”
รูปที่อยู่บนคอมพิวเตอร์นั้น ทั้งพร่ามัวเป็นอย่างมาก ทั้งมีระยะที่ไกล กระทั่งรูปหน้าตรงที่ชัดสมบูรณ์ที่สุดแค่ใบเดียวก็ยังหาไม่เจอ
ไม่ต้องพูดเลยว่านี่คือถานเปิงเปิง ให้พูดว่าเป็นใคร ก็อาจเป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ
ที่ปลายสายโทรศัพท์ ผู้ช่วยก็อธิบายด้วยสีหน้าที่จนปัญญา
“คุณชายหาน หาไม่เจอจริงๆ ครับ วันนี้ผมก็ไปหากับคนที่มีความสัมพันธ์บ้านถานมาไม่น้อยเลยนะครับถึงจะได้รูปพวกนี้มา ว่ากันว่าแต่ไหนแต่ไรคนบ้านถานจะเก็บตัวมาก ไม่ชอบถ่ายรูป ถานเปิงเปิงก็ด้วยครับ รูปเธอสมัยเด็กนอกจากจะโดนคนถ่ายอย่างไม่ได้ตั้งใจแล้ว ก็แทบจะหารูปอื่นๆ ของเธอไม่ได้เลยครับ”