หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 935 ไม่ใช่แค่พยาน ยังมีหลักฐานด้วย! ตอนที่ 936 ของที่ขาดรุ่งริ่ง
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 935 ไม่ใช่แค่พยาน ยังมีหลักฐานด้วย! ตอนที่ 936 ของที่ขาดรุ่งริ่ง
ตอนที่ 935 ไม่ใช่แค่พยาน ยังมีหลักฐานด้วย!
น้ำเสียงเย่อหยิ่งราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของห้างนี้
อีกสองคนที่ตามมาด้วยกันก็พูดเข้าข้าง “แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแค่ของที่อวิ๋นอวิ๋นไม่ต้องการ ของที่เธอต้องการ จะมีใครหน้าไหนกล้ามาแย่งเธอได้?
“นี่มัน…” พนักงานร้านคิดอะไรไม่ออกไปสักพัก
พอตั้งสติได้ก็กลับไปถามความเห็นเจิ้งเหยียน
เจิ้งเหยียนกำลังก้มหน้าดูโทรศัพท์ ไม่รู้ว่ากำลังตอบข้อความใครอยู่
พอตอบข้อความเสร็จก็ได้ยินเสียงแสบหู
จึงค่อยๆเงยหน้าขึ้น
เมื่อมองคนตรงหน้าชัดๆ ดวงตาหงส์ก็หรี่ลงเล็กน้อย “เหยาอวิ๋นอวิ๋น?”
“เอ๊ะ ฉันนึกว่าใคร ที่แท้ก็คุณหนูใหญ่ตระกูลเจิ้งนี่เอง เจิ้งเหยียน!
เหยาอวิ๋นอวิ๋นอุทานเว่อร์วัง
แม้เหนียนเสี่ยวมู่จะรู้สึกไม่ดีกับคนที่ชื่อเหยาอวิ๋นอวิ๋น แต่พอเห็นว่าเจิ้งเหยียนรู้จัก เธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ
เธอมองไม่ออกเห็นความประหลาดใจบนใบหน้าของเหยาอวิ๋นอวิ๋นเลยแม้แต่น้อย
เหมือนไม่ใช่เหตุการณ์บังเอิญที่มาเจอเจิ้งเหยียน แต่เป็นเพราะจำเธอได้ถึงได้ตั้งใจเข้ามา…
ว่ากันว่าสัญชาตญาณของผู้หญิงบางครั้งก็น่ากลัว
แม้เหนียนเสี่ยวมู่จะไม่รู้ว่าตัวเองมองขาดหรือไม่ แต่เธอก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ เจิ้งเหยียน เพราะไม่อย่างงั้นคนอื่นจะฉวยโอกาสรังแกเจิ้งเหยียนด้วยวิธีหมาหมู่
“ดีจังเลยที่คุณผู้หญิงทั้งสองท่านรู้จักกัน!” เมื่อได้ยินเจิ้งเหยียนทักทายเหยาอวิ๋นอวิ๋น คนที่ดีใจที่สุดก็คือพนักงานร้านที่เพิ่งทำใจลำบากกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้
“รองเท้าคู่นี้มีไซต์สามสิบเจ็ดแค่คู่เดียว ไม่ทราบว่าท่านไหนต้องการคะ?”
เหยาอวิ๋นอวิ๋นชิงพูดก่อน “แน่นอนว่าต้องให้ฉัน! เห็นได้ชัดว่าฉันใส่รองเท้าคู่นี้สวยกว่า คุณหนูใหญ่ตระกูลเจิ้งคงไม่มาแย่งฉันหรอกนะ?”
“……”
เจิ้งเหยียนหรี่ดวงตาหงส์คู่งาม จ้องไปที่เธออย่างเงียบๆ
แต่หันไปบอกพนักงานว่า “ไม่ต้องลองแล้ว ไปจัดใส่ถุงมาให้ฉัน ฉันจะจ่ายเงินตอนนี้”
“เจิ้งเหยียน เธอหมายความว่ายังไง? นี่เธอจงใจแย่งฉัน!” เมื่อได้ยินที่เจิ้งเหยียนพูด เหยาอวิ๋นอวิ๋นก็โวยวายเหมือนแมวโดนเหยียบหาง
เดินมาข้างหน้าพร้อมกับถามด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด
เจิ้งเหยียนเงยหน้าอย่างเชื่องช้าพลางยิ้มเยาะ “คุณหนูใหญ่ตระกูลเหยาเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ฉันเห็นรองเท้าคู่นี้ก่อนแล้วก็เป็นคนลองก่อน คนที่จงใจแย่งของของคนอื่นก็คือเธอ ทำไมคุณหนูใหญ่ตระกูลเหยาถึงไม่เข้าใจแม้แต่คำว่า “การศึกษา” ล่ะ?”
“…” เหยาอวิ๋นอวิ๋นถึงกับสำลัก
ทันใดนั้นก็ยิ้มอย่างได้ใจ
“พูดก็พูดเถอะ ตอนนี้ตระกูลเจิ้งไปล่วงเกินตระกูลมั่วเข้าก็เลยใหญ่ไม่เท่าแต่ก่อน ถ้าจะพูดถึงเธอเจิ้งเหยียน เธอก็แค่อาศัยหน้าตาไปยั่วผู้ชายถึงได้เจรจาธุรกิจสำเร็จ เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน? แน่นอนว่าตระกูลเหยาของเราไม่ได้เก่งกาจเท่าตระกูลเจิ้งของพวกเธอ ถึงได้เลี้ยงดูลูกสาวไร้ยางอายอย่างเธอออกมาแบบนี้!”
เจิ้งเหยียนหน้าบึ้งตึง “แกหุบปากไปซะ!”
เหยาอวิ๋นอวิ๋น “ฉันพูดแทงใจดำก็เลยอับอายจนโมโหอย่างงั้นเหรอ? นี่ฉันไม่ได้พูดใส่ร้ายป้ายสีเธอนะ แต่เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากน้องชายแท้ๆของเธอต่างหาก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นพยานให้ได้!”
เมื่อสองคนที่อยู่ด้านข้างได้ยินเหยาอวิ๋นอวิ๋นพูดถึงพวกเธอ จึงรีบเดินเข้ามา
หนึ่งในนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วแกว่งต่อหน้าเจิ้งเหยียน
“พวกเราไม่ใช่แค่มีพยาน ยังมีหลักฐานอีกด้วย!”
ทันทีที่พูดจบก็เปิดโทรศัพท์กดเล่นคลิปสั้น
ในคลิปวิดีโอมีกลุ่มวัยรุ่นร้องเพลงในห้องส่วนตัว
ไม่รู้ว่าใครพูดอะไร แต่จู่ๆหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนและตะคอกออกมาด้วยความโมโห
“เจิ้งเหยียนนับเป็นตัวอะไร? อย่าเอาเธอมาเทียบกับฉัน อย่างเธอเรียกว่าทำธุรกิจเป็นงั้นเหรอ? เธอก็แค่ยั่วผู้ชายแล้วมั่วกับผู้ชายพวกนั้น…”
ตอนที่ 936 ของที่ขาดรุ่งริ่ง
เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ในคลิปวิดีโอคือเจิ้งเหาซึ่งเป็นน้องชายตัวเอง สีหน้าเจิ้งเหยียนก็ดูแย่ลงไปมาก
คนในคลิปวิดีโอยังส่งเสียงโห่ร้อง :
“ฉันจะบอกพวกนายให้นะ ที่ฉันเจิ้งเหาแพ้ให้เธอ ก็เพราะฉันแพศยาไม่เท่าเธอ ฉันไม่ยอมรับพี่สาวคนนี้ ต่อไปนี้พวกนายใครที่กล้าเอาเธอมาเทียบกับฉัน ฉันจะตบหน้าคนนั้นซะ!”
เจิ้งเหาพูดอะไรต่อจากนั้น เจิ้งเหยียนก็ฟังไม่เข้าหูแล้ว
ในที่สุดวิดีโอสั้นก็จบลง
ส่วนเหยาอวิ๋นอวิ๋นและคนอื่นๆต่างก็มองเจิ้งเหยียนอย่างได้ใจ
เหยาอวิ๋นอวิ๋น “จุ๊ๆ ถ้าคนในครอบครัวด่าฉันถึงขนาดนี้ ฉันกลัวว่าฉันจะไม่มีหน้าอยู่บนโลกใบนี้แล้วสิ แต่น่าเสียดายที่ใครบางคนเกิดมาหน้าด้าน ยังคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำตัวไร้ยางอายอวดโลกภายนอกต่อไป แรด…”
“เพียะ!”
เหยาอวิ๋นอวิ๋นพูดยังไม่ทันจบ เจิ้งเหยียนก็ยกมือฟาดไปที่กกหูเธออย่างแรง
ด้วยการลงมือที่ดุเดือด ทุกคนต่างก็ช็อกกันไปตามๆกัน
เหยาอวิ๋นอวิ๋นยิ่งยืนไม่มั่นคง เธอโดนตบจนถอยหลังออกไปหลายก้าวและชนกับลูกสมุนสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอ
ทั้งสามชนกันจนล้มลงไปบนพื้น “โครม”
“โอ๊ย!”
เหยาอวิ๋นอวิ๋นเป็นคนแรกที่ร้องออกมา ส่วนอีกสองคนที่โดนเธอทับก็เจ็บจนร้องไม่ออก
พอได้สติ สายตาเหยาอวิ๋นอวิ๋นก็เปลี่ยนเป็นมืดมน
“เจิ้งเหยียน นังแพศยา นี่แกกล้าตบฉัน!”
“ก็แกมายุ่งกับฉันก่อน! ถ้าให้ฉันได้ยินคำพูดพล่อยๆจากปากแกอีกล่ะก็ ฉันจะฉีกปากแกซะ!” เจิ้งเหยียนสะบัดข้อมือตัวเองที่เพิ่งตบคนพลางถลึงตากลับ
หันไปสั่งพนักงานให้ไปหยิบรองเท้ามาให้เธอ
เธอไม่มีเวลาว่างมาเล่นกับเหยาอวิ๋นอวิ๋นซึ่งเป็นคุณหนูใหญ่ที่โดนตามใจจนเสียคน
กวนบาทาชะมัด!
ตั้งแต่เล็กจนโตเหยาอวิ๋นอวิ๋นเคยได้รับความเจ็บช้ำน้ำใจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
เธอลุกขึ้นจากพื้นทันทีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“เจิ้งเหยียน แกนับเป็นตัวอะไร? แกคิดว่าตระกูลเจิ้งตอนนี้เป็นเหมือนตระกูลเจิ้งในตอนนั้นเหรอ ถึงได้กล้าทำตัวอวดเบ่งต่อหน้าฉัน ตอนนี้คนที่ตระกูลมั่วไว้เนื้อเชื่อใจที่สุดคือตระกูลเหยาของเรา! ตระกูลเจิ้งของพวกแกถูกมองว่าเป็นพวกทรยศ โดนตระกูลมั่วตัดหางไปตั้งนานแล้ว แกกล้าดียังไงมาแย่งของของฉัน?”
ขณะที่พูด เหยาอวิ๋นอวิ๋นก็พุ่งตัวมาข้างหน้าแล้วยื่นมือมาแย่งรองเท้าที่อยู่บนพื้น
เจิ้งเหยียนหูตาว่องไว เธอจึงไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายทำได้สำเร็จ
ทั้งสองแทบจะยกรองเท้าขึ้นมาพร้อมกัน
“ปล่อย!” ดวงตาหงส์ของเจิ้งเหยียนแฝงไปด้วยความเยือกเย็น
ส่วนเหยาอวิ๋นอวิ๋นก็ดึงอย่างเอาเป็นเอาตาย “ฝันไปเถอะ! นังจิ้งจอกอย่างแกจะคู่ควรกับรองเท้าดีดีแบบนี้ได้ยังไง? แกมันก็แค่ของที่บุบสลาย เหมาะกับของที่ขาดรุ่งริ่งเท่านั้นแหละ!”
ปากเหยาอวิ๋นอวิ๋นเหมือนมีพิษ
แค่อ้าปากพูดก็ไม่มีคำไหนที่ฟังได้
ทั้งยังยโสโอหัง งี่เง่าไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง
เหนียนเสี่ยวมู่ก็กำลังโมโหมากจนทนไม่ไหว ขณะกำลังจะเข้าไปช่วยก็เห็นเจิ้งเหยียนทำท่าจะแย่งรองเท้ากับเหยาอวิ๋นอวิ๋น ตอนที่เหยาอวิ๋นอวิ๋นกำลังดึงสุดแรง เธอก็ปล่อยมือทันที
“กรี๊ด”
เหยาอวิ๋นอวิ๋นผ่อนแรงไม่ทัน เธอกอดรองเท้าพร้อมกับกรีดร้องเสียงหลง ล้มไปกับพื้นทั้งตัวเพราะแรงเฉื่อย
“โครม——”
ลูกสมุนสองคนที่เพิ่งจะลุกขึ้นจากพื้นได้ไม่นานถูกเธอล้มทับลงไปกับพื้นอีกครั้ง
ทั้งสามล้มทับกันเป็นหมากินขี้
รองเท้าที่เหยาอวิ๋นอวิ๋นแย่งไปจากมือเจิ้งเหยียนหล่นลงพื้น ส้นของรองเท้าสูงจึงหักไปหนึ่งข้าง
“พรืด!”
เหนียนเสี่ยวมู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เธอหันไปยกนิ้วให้เจิ้งเหยียนเงียบๆ
ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเดินเส้นทางเดียวกันจริงๆ
การปฏิบัติกับคนไร้ยางอายประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องสุภาพ!