หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 941 ของขวัญหรือเวรกรรม ตอนที่ 942 ทั้งหมดคือโชคชะตา ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 941 ของขวัญหรือเวรกรรม ตอนที่ 942 ทั้งหมดคือโชคชะตา ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ตอนที่ 941 ของขวัญหรือเวรกรรม
เจิ้งเหยียนสลัดอาการขนลุกอย่างเหลือทนพลางโวยวายใส่พวกเขา
เหนียนเสี่ยวมู่หันไปยิ้มร่าให้เธอ เมื่อนึกถึงตอนที่เพิ่งโดนเหยาอวิ๋นอวิ๋นยั่วโมโหมา เธอก็อดหยอกเจิ้งเหยียนไม่ได้
เธอลากอวี๋เยว่หานออกจากห้างสรรพสินค้า
พร้อมกับเล่าเรื่องที่พวกเธอเพิ่งประสบมาให้อวี๋เยว่หานฟัง
โดยเล่าเว้นช่วงที่เธอจ้องมั่วหย่งเหิง...
ตอนขึ้นรถเหนียนเสี่ยวมู่ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเจิ้งเหยียน ลังเลว่าจะถามเรื่องน้องชายของเธอดีหรือไม่
แต่ดูท่าแล้ว เธอคงไม่อยากพูดถึงมัน…
ช่างเถอะ
ขณะที่เหนียนเสี่ยวมู่คิดว่าจะไม่ถาม เจิ้งเหยียนก็หันกลับมามองเธอ
“อยากถามอะไรก็ถามมาสิ ที่บ้านฉันมีน้องชายเป็นผีทวงหนี้ มันเป็นคนทำให้ชื่อเสียงของฉันพังพินาศ แต่ฉันก็ไม่ได้กลัวอะไรนักหรอก ถ้ามันคิดว่ามันทำลายชื่อเสียงของฉันแล้วมันจะได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลเจิ้งล่ะก็ ฉันก็มีแค่สามคำที่จะมอบให้มัน ฝันไปเถอะ!”
“……”
เจิ้งเหยียนเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่ว่าเวลาไหนเธอก็สาปแช่งได้ตลอดเวลา
ยากที่จะจินตนาการได้ว่าคนแบบไหนที่ทำให้เธอยอมเสียเปรียบได้
แม้จะได้ยินเธอด่าน้องชายตัวเองไปหนึ่งยก แต่เหนียนเสี่ยวมู่ก็ฟังออกว่าเธอเสียใจ
พอเงยหน้ามองเธอ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ถึงกับผงะ เพราะสังเกตเห็นว่าดวงตาเธอนั้นมีน้ำตาคลอ จึงกอดเธอไว้ด้วยความสงสาร
เจิ้งเหยียนเอื้อมมือมาเช็ดหางตาลวกๆพลางยิ้มเยาะ
“คงตลกมากใช่ไหม? ครอบครัวเดียวกันแท้ๆ ก็ควรจะเป็นร่มที่คอยปกป้องซึ่งกันและกันไม่ใช่เหรอ ยามที่คนอื่นรังแกเรา ครอบครัวจะออกมายืนหยัดปกป้องเราเอง แต่ครอบครัวฉันไม่ใช่แบบนั้น”
“……”
“ถ้าบอกว่าไม่กลัวมันคงเป็นเรื่องตลก ฉันคลอดออกมาได้ไม่นานแม่ก็ตาย พ่อก็เอาแต่ยุ่งอยู่กับงาน ตอนเด็กๆฉันจึงมักจะอยู่บ้านตามลำพัง ตอนนั้นพอเห็นพี่น้องเล่นด้วยกันอยู่ข้างบ้าน ฉันก็นึกอิจฉา ยังแอบคิดว่าถ้าฉันมีน้องชาย ฉันจะต้องรักเขามากแน่ๆ ไม่ว่าจะของเล่น ขนมนมเนย หรือเงิน ฉันก็เอาให้เขาได้ทั้งนั้น”
เจิ้งเหยียนหรี่ตา ดวงตาแฝงไปด้วยความดูถูกตัวเอง
“ต่อมาพ่อของฉันก็พาแม่ลูกคู่หนึ่งกลับมาด้วย บอกว่าต่อไปนี้พวกเขาคือแม่และน้องชายฉัน ตอนนั้นฉันเพิ่งรู้ว่าพอแม่ตายได้ไม่กี่ปี พ่อก็ไปมีผู้หญิงคนใหม่และคลอดลูกอยู่ข้างนอก แต่กลัวว่าฉันจะไม่ชอบ เขาจึงไม่เคยพากลับมาที่บ้านเลย นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอน้องชาย ตัวเล็กๆ ดูเชื่อฟัง เธอไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นฉันดีใจมากแค่ไหน…”
ตอนนั้นเธอคิดว่าพระเจ้าได้ยินที่เธอคอยอธิษฐาน ถึงได้ส่งน้องชายมาให้เธอ
พวกเขาอายุห่างกันสี่ปี
ตอนนั้นเจิ้งเหยียนก็ได้เข้าใจว่าเจิ้งเหาก็คือน้องชายต่างแม่
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังดีใจมาก
ไม่ว่าอะไรก็ยอมแบ่งให้น้องชายทุกอย่าง แม้ตัวเองไม่ต้องการก็จะแบ่งให้น้องชาย
เพราะเธอคิดว่าน้องชายคือของขวัญที่พระเจ้ามอบให้เธอ แม่ที่อยู่บนสวรรค์คงทนไม่ได้ที่เห็นเธอใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว จึงตั้งใจส่งเขามาให้เธอโดยเฉพาะ
วันเวลาในช่วงวัยเด็กผ่านไปอย่างไร้กังวล
น้องชายตัวน้อยมักจะชอบตามตูดเธอและเรียกเธอว่าพี่สาว
ต่อมาพวกเขาค่อยๆ เติบโตขึ้น
เธอเริ่มเข้ามาทำงานในบริษัท
พอรู้อีกทีก็มีข่าวลือมากมายแพร่สะพัดไปทั้งบริษัทอย่างไม่ทันตั้งตัว
โดยบอกว่าเธอเจรจาความร่วมมือสำเร็จเพราะไปดื่มเหล้ากับลูกค้า
บอกว่าเธอมั่วผู้ชาย
ยิ่งไปกว่านั้นยังบอกว่าเธอติดเหล้าเสพยา…
และอีกมากมายนับไม่ถ้วน
ชื่อเสียงของเธอดังไประยะหนึ่งและยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบ
ถึงขนาดที่พ่อของเธอตั้งใจเรียกเธอมาคุยเพราะเรื่องนี้
ตอนที่ 942 ทั้งหมดคือโชคชะตา ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เธอไม่คิดว่าหลังจากสืบมาจนถึงตอนท้ายจะพบว่าคนเบื้องหลังที่ปล่อยข่าวลือคือน้องชายที่เธอคอยดูแลทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็ก
ไม่มีอะไรมาบรรยายความรู้สึกของเธอได้เหมาะไปกว่าประโยคที่ว่าฟ้าผ่ากลางศีรษะติดต่อกันห้าครั้ง
ถึงอย่างไรตอนนั้นเธอก็ยังเด็ก ไม่มีความอดทน เธอจึงเดินไปถามเจิ้งเหาตรงๆ
เดิมยังคิดว่าเขาจะรู้สึกละอายแก่ใจ
ระหว่างทางไปที่นั่น เธอยังจินตนาการไว้ว่าอาจจะเกิดความเข้าใจผิดกันก็เป็นได้
หรือหลังจากที่เขาปล่อยข่าวลือพวกนั้นไป เขาก็ต้องรู้สึกผิดอยู่บ้าง…
แต่เธอกลับไม่ได้รับคำอธิบาย
และไม่มีคำขอโทษแม้แต่ประโยคเดียว
มีแค่คำพูดประชดประชันที่แสนเย็นชา ซึ่งผิดไปจากที่เธอคิดไว้ทั้งหมด
“เราไม่ใช่พี่น้องแม่เดียวกัน ไม่ต้องแสร้งทำเป็นพี่สาวที่แสนดีต่อหน้าฉัน ฉันขยะแขยง! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอไม่ได้ชอบฉันจริงๆ ที่ฉันทำไปก็แค่เอาใจพ่อเท่านั้น เธอคิดว่าทำอย่างนี้แล้วพ่อจะยกเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ให้เธองั้นเหรอ ฝันไปเถอะ! ฉันต่างหากที่เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลเจิ้ง ถ้าใครกล้าแย่งกับฉัน ฉันจะไม่ปล่อยมันไว้แน่!”
ตอนนั้นเธอตกใจมาก
ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าน้องชายที่ขี้ขลาดตาขาวมาตั้งแต่เด็กและชอบเรียกเธอว่า “พี่สาว” อยู่ข้างหลังจะกลายมาเป็นแบบนี้
เธออยากจะอธิบายให้เขาฟังแต่ก็พบว่าเขาไม่เชื่อคำพูดของเธอแม้แต่ประโยคเดียว
หรือจะให้พูดอีกอย่างก็คือในสายตาของเจิ้งเหา นอกจากเธอจะเป็นพี่สาวที่หายสาบสูญไปแล้ว เธอยังเป็นแค่อุปสรรคขัดขวางความเจริญของเขาตลอดกาล
แต่อย่างไรก็ตามพ่อก็ยังรักและเอ็นดูเธอ ตอนเด็กๆ เขาถึงไม่กล้าพาสองแม่ลูกกลับมาบ้านเพราะเห็นแก่เธอ
“คิดว่ารอได้รับเซอร์ไพรส์ แต่พอโตมาก็ถึงได้รู้ว่าที่แท้แล้วมันคือเวรกรรม เป็นโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
เจิ้งเหยียนกะพริบตาแล้วยิ้ม
แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นคนที่มารับช่วงต่อเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ในอนาคตเลย
ที่เข้ามาทำงานบริษัทก็เพราะรู้สึกว่าพ่อทำงานหนักเกินไป จึงอยากเข้ามาช่วย
แต่เธอกลับไม่คิดว่าการทำแบบนี้จะทำให้สองแม่ลูกเกิดความระแวง
หลังจากแบไต๋ไปหมดแล้ว เจิ้งเหาก็ยิ่งใส่ร้ายป้ายสีเธอด้วยวิธีไร้ยางอาย
“เธอไม่ได้บอกพ่อเธอเหรอ?” เหนียนเสี่ยวมู่จับมือเธอด้วยความเห็นใจ
เจิ้งเหยียนยิ้มเยาะเย้ย “ไม่หรอก ถึงพูดไปเจิ้งเหาก็ไม่ยอมรับ คาดว่ามันยังคิดจะเล่นงานฉันกลับอีก บอกว่าฉันทำร้ายมันเพราะต้องการจะแย่งสมบัติของตระกูล เจิ้งเหาทำตัวเป็นเด็กดีต่อหน้าฉันกับพ่อมาตั้งแต่เด็ก อย่าว่าแต่พ่อไม่เชื่อว่ามันทำเรื่องเลวๆ เลย ถ้าไม่ได้ยินมันยอมรับมาจากปากมันเอง ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ”
ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่อยากให้พ่อเป็นกังวล
“เธอไม่ต้องห่วง มันก็แค่ไอ้เด็กเมื่อวานซืน โดนคนอื่นยั่วยุแค่ประโยคสองประโยคก็ตัวลอยแทบจะขึ้นสวรรค์ ความสามารถมันก็มีอยู่แค่นี้ ฉันขยับนิ้วหน่อยเดียวก็บดขยี้มันให้ตายได้แล้ว ยังจะสนใจมันทำไม เธอดูสิ มันทำร้ายฉันมานานหลายปีขนาดนี้ ฉันก็ยังใช้ชีวิตสุขสบายอยู่เลย!”
“……”
ที่เจิ้งเหยียนพูดก็มีเหตุผล
เรื่องภายในครอบครัว เหนียนเสี่ยวมู่ก็พูดอะไรมากไม่ได้
แต่ยังมีอีกประเด็น…
เหนียนเสี่ยวมู่ “ทำไมฉันถึงคิดว่าแม่เลี้ยงของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้น้องชายเธอกลายมาเป็นแบบนี้กันนะ เธอไม่กลัวว่าสองแม่ลูกจะรวมหัวกันเป่าหูพ่อเธอให้ยกสมบัติให้พวกเขาแล้วไล่เธอออกจากบ้านเหรอ?”
เจิ้งเหยียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เอื้อมมือมาจับหน้าเหนียนเสี่ยวมู่แล้วลูบไล้แปลกๆ “เสี่ยวมู่มู่ ทำไมเธอถึงน่ารักขนาดนี้ ฉันจะตกหลุมรักเธอแล้วนะ!”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เจิ้งเหยียน “เธอคิดว่ามันเป็นละครน้ำเน่าหรือไง? ฉันเป็นลูกสาวแท้ๆ ของพ่อ ตอนเด็กๆ ฉันร้องไห้แค่หน่อยเดียว เขาก็รีบมาอุ้ม ไม่ยอมหลับทั้งคืนเพียงเพราะจะปลอบใจฉัน ถึงสองแม่ลูกนั่นจะทำอะไรฉัน พ่อก็ยังแคร์ฉันอยู่ดี!”