หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 957 เขาจะต้องไม่เป็นอะไร! ตอนที่ 958 เทพบุตรหนีไปไหนไม่ได้อีกตลอดชีวิต
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 957 เขาจะต้องไม่เป็นอะไร! ตอนที่ 958 เทพบุตรหนีไปไหนไม่ได้อีกตลอดชีวิต
ตอนที่ 957 เขาจะต้องไม่เป็นอะไร!
ตายแน่ ตายแน่ๆ
พวกเขาจะต้องตายแน่ๆ!
อีกฝ่ายมีคนเยอะซะขนาดนี้ ส่วนพวกเขามีกันแค่สามคนและยังเป็นคนป่วยอีกคน
จะเป็นคู่ต่อสู้ของอันธพาลพวกนั้นได้ยังไง!
“พวกคุณรออยู่ในรถ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ห้ามลงจากรถเด็ดขาด ผมจะไปหาเครื่องส่งสัญญาณก่อน ตราบใดที่โทรศัพท์ของคุณมีสัญญาณก็รีบแจ้งตำรวจทันที!” พออวี๋เยว่หานพูดเสร็จก็ประคองเหนียนเสี่ยวมู่ลุกขึ้นมาเพื่อให้เธอนั่งดีๆ
ในหัวเหนียนเสี่ยวมู่ยังคงขมุกขมัว ทรมานจนพูดอะไรไม่ออก
เมื่อได้ยินที่เขาพูดก็เหมือนจะได้สติ เธอเอื้อมมือคว้าข้อมือของเขาไว้
“อย่าลงไป…”
เธอเปียกชื้นไปทั้งตัว เหงื่อไหลออกหน้าผากไม่หยุด
ในหัวเต็มไปด้วยภาพมากมายหลายประเภท จึงทำให้เธอไม่สามารถรวบรวมสติได้
แต่ถึงแม้ว่าสติของเธอจะเลือนรางไปบ้าง แต่เธอก็รู้ดีว่าเหตุการณ์ตรงหน้าอันตรายเพียงใด อวี๋เยว่หานคนเดียว สู้ด้วยสองมือเปล่ากับอีกฝ่ายที่มีมากขนาดนั้น ทั้งยังมีไม้เบสบอลอยู่ในมือ
เขาจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอนเมื่อลงจากรถ!
“เด็กดี ผมจะต้องไม่เป็นอะไร” อวี๋เยว่หานจับมือเธอมาตรงหน้า จูบลงไปอย่างอ่อนโยน
เปิดประตูรถลงไป
เจิ้งเหยียนทำตามที่เขาสั่งด้วยความรวดเร็ว หลังจากที่เขาลงจากรถก็ล็อกประตูรถทันที
มีอันธพาลบางคนที่หาจังหวะกระโจนเข้ามาเพื่อเปิดประตูรถแต่ก็ไม่ทัน
ครู่หนึ่งทุกคนก็เดินไปล้อมอวี๋เยว่หานที่เพิ่งลงจากรถ
อวี๋เยว่หานวิ่งไปรอบๆ รถเป็นอย่างแรก
ในที่สุดก็พบเครื่องส่งสัญญาณในร่องท้ายรถ เขายื่นมือไปดึงออกแล้วถอดแบตเตอรี่ จากนั้นก็โยนออกไปในจุดที่ไกลที่สุด
ส่งสัญญาณมือให้เจิ้งเหยียน
เจิ้งเหยียนรีบยื่นมือไปคว้าโทรศัพท์ของตัวเอง..
“ปัง——”
พวกอันธพาลสิบกว่าคนพวกนั้นไม่ใช่สัตว์กินพืช เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมตัวเองก็ลงมือทำการเคลื่อนไหว
ทันทีที่เจิ้งเหยียนหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา กระจกหน้ารถก็ถูกทุบด้วยไม้เบสบอล
รถสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ก่อนที่เจิ้งเหยียนจะได้สติ พวกมันก็ลงมืออีกครั้ง
บนกระจกหน้ารถปรากฏรอยแตกคล้ายใยแมงมุม…
เมื่อเห็นว่ากระจกกำลังจะถูกทุบแตกและไม้เบสบอลกำลังจะตีหัวมาที่ศีรษะของเธอ เจิ้งเหยียนไม่มีใจแม้แต่จะต่อสายหาตำรวจแล้ว
นิ้วเธอสั่นตลอดเวลา แสงสลัวทำให้มองไม่เห็นแม้แต่ปุ่มเลข…
วินาทีต่อมาก็มีมือขาวข้างหนึ่งยื่นมาจากทางด้านหลัง กุมโทรศัพท์ของเธอไว้
“มานี่ ฉันโทรเอง”
เสียงของเหนียนเสี่ยวมู่อยู่ในท่ามกลางความมืด เผยให้เห็นถึงพลังที่ไม่อาจยับยั้งได้
เจิ้งเหยียนหันกลับไปเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอ ขณะกำลังลังเลว่าเธอจะไหวไหม เหนียนเสี่ยวมู่ก็คว้าโทรศัพท์ไปแล้วโทรออกด้วยความเร็วที่เร็วมากและให้เจิ้งเหยียนบอกตำรวจว่าตอนนี้พวกเขาประสบเหตุอยู่ที่ไหน
หลังจากวางสายเหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่อยู่นิ่ง
เธอต่อสายแจ้งผู้ช่วย
ให้เขาพาคนมาที่นี่
ต่อสายโทรหาทีละคนเป็นขั้นเป็นตอน
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่มีรอยเลือดบนใบหน้า แต่ดวงตายังคงแน่วแน่
ความสงบนิ่งทำให้คนมองไม่ออกว่าตอนนี้เธอกำลังปวดหัวจนแยกแยะอะไรไม่ออก
“จัดการไอ้ตัวอุปสรรคก่อน!”
เสียงตะโกนที่โกรธเกรี้ยวดังมาจากนอกรถทำให้หัวใจเหนียนเสี่ยวมู่เต้นรัว
เธอถือโทรศัพท์ไว้ในมือแล้วพิงหน้าต่างรถ
เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานถูกรายล้อมไปด้วยคนนับสิบคน รูม่านตาก็หดลงทันที!
คนที่ทุบกระจกรถโดนอวี๋เยว่หานเตะไปกองกับพื้นแล้ว
ตอนนี้ยังมีอีกสิบสามคนที่กำลังยืนแกว่งไม้เบสบอลอยู่ตรงหน้าเขา
ตอนที่ 958 เทพบุตรหนีไปไหนไม่ได้อีกตลอดชีวิต
หนึ่งในไม่กี่คนนั้นหยิบมีดพกออกมาจากกระเป๋ากางเกง
ภายใต้แสงจันทร์ มีดอันแหลมคมเปล่งประกายสีเงิน
เย็นเฉียบจนคนอกสั่นขวัญแขวน
ตอนแรกเหนียนเสี่ยวมู่ยังคิดว่าคนเหล่านี้คือคนของเหยาอวิ๋นอวิ๋นที่จงใจส่งมาล้างแค้นที่ตัวเองได้รับความอับอายต่อหน้าสาธารณชน
แต่เมื่อเธอเห็นมีดที่พวกเขาถือในขณะนี้ หัวใจเหนียนเสี่ยวมู่ก็จมดิ่งไปชั่วขณะ
เธอนึกถึงตอนที่พวกเขามาเมือง N ครั้งล่าสุด…
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
มันจะต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ!
มีคนต้องการจะฆ่าเธอ…
สัญชาตญาณบอกเธอว่าเป้าหมายของพวกมันคือเธอ
ถ้าอวี๋เยว่หานขวางอยู่ตรงหน้าเธอ เขาจะต้องตกอยู่ในอันตราย!
เหนียนเสี่ยวมู่ผลักประตูลงรถอย่างแรงแต่ก็ผลักไม่ออก
น้ำเสียงมืดมน
“เจิ้งเหยียนให้ฉันลงไป!”
เจิ้งเหยียนตะคอก “เสี่ยวมู่มู่ ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงอวี๋เยว่หาน แต่เธอลงไปตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ มีแต่จะตกอยู่ในอันตรายเพิ่มขึ้น คุณชายหานบอกแล้วว่าห้ามให้ใครลงจากรถ ฉันปล่อยเธอลงไปไม่ได้!”
เจิ้งเหยียนเป็นคนดื้อรั้น
เธอตกลงกับอวี๋เยว่หานแล้ว ไม่ว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมเปิดประตู
เมื่อเห็นคนมากมายล้อมอวี๋เยว่หานอยู่ตรงกลาง ก็ได้แต่ภาวนาในใจว่าขอให้ตำรวจรีบมาเร็วๆ…
“คุณชายหาน คุณจะต้องสู้กับพวกมันให้ได้ ถึงเวลาที่คุณจะได้โชว์ความสามารถที่แท้จริงแล้ว จะกลายเป็นเทพบุตรของฉันไปตลอดชีวิตหรือไม่ก็ต้องดูคราวนี้แหละ! คุณจะต้องเอามันอยู่!”
ข้างนอกรถ
ชายที่เจิ้งเหยียนพึมพำออกจากปากกำลังถูกรายล้อมด้วยคนสิบกว่าคน เขาไม่ได้แสดงอาการหวาดกลัวผ่านทางสีหน้าแต่อย่างใด
เขาถอดเสื้อสูทออกและปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย
ทั้งสุขุมและผ่อนคลายราวกับไม่สนใจคนที่รายล้อมอยู่ตรงหน้า
“พรรคพวก แสดงสีสันให้มันเห็นหน่อย!”
ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมา
คนทั้งสิบกว่าคนตวัดไม้เบสบอลมาทางอวี๋เยว่หานอย่างพร้อมเพรียง!
“เคล้ง” อวี๋เยว่หานที่ควรจะถูกตีเป็นเนื้อแผ่นหลบตัวไปอยู่ข้างๆของหนึ่งในนั้น อันธพาลอีกสิบกว่าคนใช้ไม้ตีมาพร้อมกันๆ
ไม่ได้สัมผัสแม้แต่ชายเสื้อเขาเลยด้วยซ้ำ
คนคนนั้นที่อวี๋เยว่หานเข้าไปประชิดตัวไม่คิดว่าอวี๋เยว่หานจะกล้ากระโจนเข้ามาหาเขา
เขาจ้องเขม็งแล้วจับมีดในมือแทงไปข้างหน้า!
นัยน์ตาอวี๋เยว่หานเริ่มมืดมน เขาคว้าข้อมือของชายคนนั้นและบิดมันอย่างแรงด้วยความเร็วดุจสายฟ้า!!
“อ๊าาา! มือฉัน!”
อวี๋เยว่หานใช้จังหวะนี้ยกเท้าเตะเขาออกไปอย่างแรง
ในเวลาเดียวกันก็หันกลับมาต่อยอีกคนที่อยู่ข้างๆ
ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว
อวี๋เยว่หานจัดการคนสิบกว่าคนที่เข้ามารายล้อมอย่างคล่องแคล่วจนทำให้เกิดช่องโหว่
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วิก็จัดการอันธพาลสามคนลงไปนอนกับพื้นแล้ว
ที่น่าโมโหยิ่งไปกว่านั้นก็คือพวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะแตะที่ชายเสื้ออวี๋เยว่หานเลย!
ขณะนี้เหลืออีกสิบคน เมื่อคาดการณ์ว่าคงประมือกับอวี๋เยว่หานไม่ได้ง่ายๆ พวกเขาจึงสบตากัน
เล็งไปที่ผู้หญิงสองคนที่ยังอยู่ในรถ
ไม่ว่าอวี๋เยว่หานจะเก่งกาจสักแค่ไหน เขาก็มีแค่คนเดียว
พวกเขาสิบคนแบ่งออกไปตามทิศทาง ดูซิว่าเขาจะปกป้องใครได้อีก!
สักพักรถก็ถูกโจมตีด้วยไม้เบสบอลทุกทิศทาง
“เพล้ง” กระจกที่เบาะหลังรถแตกเป็นเสี่ยงๆ
“เหนียนเสี่ยวมู่!”
อวี๋เยว่หานพุ่งตัวไปข้างหน้า ยกเท้าเตะเปิดทางคนที่อยู่ตรงหน้า เขารีบเอนตัวไปที่หน้าต่างรถเพื่อให้แน่ใจว่าเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ทันทีที่เขาก้มศีรษะลง เขาก็ได้ยินเสียงตื่นตระหนกของเหนียนเสี่ยวมู่
“อวี๋เยว่หานระวัง!”
พออวี๋เยว่หานหันกลับไป ก็เห็นมีดที่แหลมคมส่องประกายต่อหน้าต่อตา!