หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 963 โรคร้ายแรงVSสมองขี้เลื่อย ตอนที่ 964 เธอคือเป้าหมาย!
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 963 โรคร้ายแรงVSสมองขี้เลื่อย ตอนที่ 964 เธอคือเป้าหมาย!
ตอนที่ 963 โรคร้ายแรงVSสมองขี้เลื่อย
“ไปให้คุณหมอดูเถอะ” อวี๋เยว่หานพูดโดยไม่ถามความคิดเห็น
ดวงตาดำขลับเห็นได้ชัดว่าไม่สบายใจ
เมื่อเห็นเธอนิ่งโดยไม่ขยับ เขาก็เลิกผ้าห่มลงจากเตียง ยื่นมือไปหยิบเสื้อคลุม
“อวี๋เยว่หาน คุณหมอบอกให้คุณคอยดูอาการอยู่บนเตียงนะ!” เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่เห็นอวี๋เยว่หานลงจากเตียง เธอก็โวยวายทันที
อวี๋เยว่หานสวมเสื้อคลุมแล้วเดินไปดึงเธอลุกขึ้นมา จากนั้นก็ให้เจิ้งเหยียนนำทาง
เจิ้งเหยียนมองไปที่มือของอวี๋เยว่หานที่ยังคงห่อด้วยผ้าก๊อซ จากนั้นมองไปที่เหนียนเสี่ยวมู่ที่ถูกมืออีกข้างหนึ่งของเขาจับไว้ เธอกลืนน้ำลายและหันไปเดินนำหน้าอย่างรู้สถานการณ์
เหนียนเสี่ยวมู่ที่โดนลากไปทำได้เพียงเดินเขย่งปลายเท้า
ถ้าเธอจงใจหยุดเดิน เขาก็จะยกตัวเธอเดินต่อไป
เหนียนเสี่ยวมู่กระวนกระวายเหมือนลูกเจี๊ยบ
“อวี๋เยว่หาน คุณยังมีแผลที่มือขวาอยู่นะ คุณหมอบอกว่าอย่าออกแรง ถ้าแผลฉีกขึ้นมาจะติดเชื้อเอาได้ง่ายๆ…”
อวี๋เยว่หาน “ลากคุณด้วยมือซ้ายก็พอแล้ว”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ห้องทำงานของคุณหมอ
สภาพแวดล้อมสะอาดตา บริเวณโดยรอบเป็นสีขาวล้วน
ภายในห้องมีเครื่องมือแพทย์เบื้องต้นวางชิดกับผนังโดยมีโต๊ะทำงานที่ทำจากไม้ซุงวางอยู่ตรงกลาง
ด้านบนวางด้วยหนังสือเล่มหนาและรายงานทางการแพทย์
ที่มุมโต๊ะทำงานมีกระถางต้นกระบองเพชร
สภาพแวดล้อมที่นี่ทำให้ผู้คนรู้สึกสงบเมื่อเข้ามา
คุณหมอวัยกลางคนสวมแว่นตานั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานเหลือบมองไปที่เหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าเขา
จากนั้นก็เหลือบมองอวี๋เยว่หานที่ทำตัวเป็นเทพเฝ้าประตูที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังเหนียนเสี่ยวมู่
คุณหมอถามขึ้นมาทันทีว่า “คุณเหนียนต่อต้านที่จะมาพบหมอมากเหรอครับ?”
ก่อนที่เหนียนเสี่ยวมู่จะตอบ คุณหมอก็พูดเสริมว่า
“เจ็บป่วยแล้วไม่ยอมรักษาไม่ใช่เรื่องดี”
“……”
อวี๋เยว่หานทำเธอเสียชื่ออีกแล้ว
คุณหมอคุยเล่นกับเหนียนเสี่ยวมู่ไปไม่กี่ประโยคก็ก้มหน้าดูรายงานตรวจสุขภาพ เขาดูอยู่นานก็ไม่ได้พูดอะไร
ท่าทางจริงจังทำให้คนที่อยู่ในห้องตึงเครียดเล็กน้อย
เจิ้งเหยียน “ทำไมดูรายงานซีทีสแกนสมองแค่ชุดเดียวถึงได้ดูนานขนาดนี้คะ คงไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงใช่ไหม?”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
อวี่เยว่หาน “ไม่ใช่โรคร้ายแรงหรอก น่าจะเป็นเพราะสมองมีขี้เลื่อยมากกว่า”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
พวกเขาสองคนแขวะเธอ แขวะเธอแล้วมีความสุขมากใช่ไหม?
ให้เกียรติผู้ป่วยกันบ้างสิ?
ตอนนี้เธออยู่ในอารมณ์ประหม่าราวกับกำลังรอคำพิพากษาของผู้พิพากษา แต่พวกเขาก็ยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอยู่ได้!
“เสี่ยวมู่มู่ เธอไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราแค่กลัวเธอจะตกใจจนหัวใจวายก็เลยตั้งใจช่วยเธอผ่อนคลายลงหน่อยเท่านั้นเอง” เจิ้งเหยียนยังใจดีช่วยพูดปลอบ
เมื่ออวี๋เยว่หานเห็นคุณหมอเงียบไปนานก็เลิกคิ้วถาม
“ตกลงแล้วเป็นอะไรกันแน่ครับ?”
“คุณชายหานวางใจได้ครับ สมองคุณเหนียนไม่ได้เป็นอะไร” ในที่สุดคุณหมอก็วางรายงานในมือลง
เอื้อมมือถอดแว่นที่จมูกแล้วมองไปทางเหนียนเสี่ยวมู่
“จากรายงานตรวจสุขภาพพบว่าคุณเหนียนไม่ได้มีปัญหาทางสมอง การที่คุณมักจะเห็นภาพแปลกๆของตัวเองมากมายนั้น อาจเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจของคุณในช่วงนี้ ช่วงนี้สภาพจิตใจของคุณคงอยู่ในสภาวะกดดันมากสินะครับ? หรือได้รับอะไรบางอย่างมากระตุ้น?”
คุณหมอชะงักแล้วพูดต่อ
“ตามที่คุณบอกว่าคุณสูญเสียความทรงจำทั้งหมดหลังจากได้รับบาดเจ็บเมื่อสามปีก่อน ผมได้ทำการตรวจสมองคุณโดยละเอียดแล้ว ผมยังไม่เห็นว่าสมองของคุณได้รับความเสียหายใดๆ เลย เพราะฉะนั้นผมจึงเดาว่าที่คุณสูญเสียความทรงจำไปเมื่อสามปีก่อนไม่ได้มีสาเหตุมาจากการที่สมองได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นไปได้ว่าได้รับการกระตุ้นทางสภาพจิตใจอย่างหนักหน่วง สภาพจิตใจจึงสร้างกลไกป้องกันตนขึ้นมา เลือกที่จะลืมความทรงจำเหล่านั้นหรือที่เราเรียกว่าความจำเสื่อมทางจิต”
ตอนที่ 964 เธอคือเป้าหมาย!
เหนียนเสี่ยวมู่ถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินแบบนี้ “คุณหมอกำลังหมายความว่าฉันน่าจะมีอาการป่วยทางจิตเหรอคะ?”
“ถ้าจะบอกว่าป่วยทางจิตก็ดูจะร้ายแรงไปหน่อย เพราะแต่ละคนมีการตอบสนองต่อความเครียดต่างกัน เมื่อได้รับความเจ็บปวดทางจิตใจมากเกินไปก็จะแสดงผลลัพธ์ออกมาไม่เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเช่นเดียวกับตอนนี้ที่คุณเห็นภาพที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งนั่นก็เป็นได้มากกว่าคุณไม่ได้คิดไปเองแต่เป็นความทรงจำที่ผ่านมาของคุณ”
คุณหมอประสานมือวางบนโต๊ะทำงาน
ท่าทางมืออาชีพและดูผ่อนคลายมาก
ทั้งยังคุยกับเหนียนเสี่ยวมู่เหมือนเพื่อนสนิท
“ความทรงจำของฉัน? คุณหมายถึงภาพพวกนั้นที่ฉันเห็นคือเหตุการณ์จริงที่ฉันเคยประสบมา…”
“ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นทั้งหมดหรอกครับ โครงสร้างของสมองมนุษย์นั้นน่าทึ่งมาก บางครั้งเมื่อคุณต้องการจดจำบางสิ่งบางอย่าง คุณก็มักจะจำไม่ได้หรือแม้กระทั่งเกิดความสับสนในความทรงจำตัวเอง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปในระยะยาว มันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพคุณได้ อาการปวดหัวรุนแรงที่คุณเป็นมาก่อนหน้านี้เป็นคำเตือนที่ดีที่สุด”
คุณหมอลุกขึ้น
เดินไปที่ตู้กดน้ำพร้อมกับรินน้ำอุ่นให้เหนียนเสี่ยวมู่หนึ่งแก้ว
“อันที่จริงร่างกายคุณเหนียนก็ไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงอะไร แค่พักผ่อนให้เพียงพอ ผ่อนคลายสภาพจิตใจ แบบนี้ก็อาจจะช่วยรื้อฟื้นความทรงจำของคุณได้”
เหนียนเสี่ยวมู่ประคองแก้วน้ำไว้ในมือและเม้มริมฝีปาก
“ถ้าฉันต้องการรื้อฟื้นความทรงจำให้เร็วที่สุด มีวิธีที่ดีกว่านี้ไหมคะ?”
“……”
คุณหมอผงะและส่ายหน้าทันที
“อาการสูญเสียความทรงจำชั่วคราวจะรื้อฟื้นความทรงจำได้เมื่อไหร่? จะรื้อฟื้นความทรงจำอย่างไร? ปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลที่แน่นอน แต่ดูจากอาการของคุณแล้ว คุณลองคิดดูสิว่าช่วงนี้เกิดเหตุการณ์อะไรที่มีความเป็นไปได้สูงในการทำให้คุณได้รับการกระตุ้นจนทำให้ความทรงจำของคุณเริ่มฟื้นตัวขึ้นมา คุณลองพิจารณาจากมุมนี้ดูนะครับ”
คุณหมอทอดถอนใจ
เขามองเหนียนเสี่ยวมู่ สุดท้ายก็มองไปที่อวี๋เยว่หาน
“ในฐานะที่เป็นหมอ ผมไม่แนะนำให้ผู้ป่วยรื้อฟื้นความทรงจำโดยใช้วิธีการกระตุ้นผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะตกอยู่ในสภาวะสับสนทางจิตอันเนื่องมาจากรับไม่ได้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต บวกกับได้รับการกระตุ้นถึงสองครั้ง”
พอถึงตอนนั้นมันจะไม่ใช่แค่ความจำเสื่อมธรรมดา
สภาวะกดดันทางสภาพจิตใจที่มากเกินไปอาจทำให้คนเป็นบ้าได้!
“คุณเหนียน ถ้าคุณมีอาการนอนไม่หลับ ผมสั่งยากล่อมประสาทให้คุณได้นะครับ”
พอคุณหมอพูดจบ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ส่ายหัว
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”
นิ้วเรียวจับนิ้วเล็กของอวี๋เยว่หาน เธอพึมพำเบาๆเหมือนกำลังอาย
“เขาอยู่ข้างๆ ฉัน ฉันก็หลับสบายแล้วค่ะ”
“อะไรนะ?” คุณหมอได้ยินไม่ชัด
อวี๋เยว่หานก็ได้ยินไม่ชัด เพียงแค่จ้องมือตัวเองพลางยกมุมปากโดยไม่รู้ตัว
พอเหนียนเสี่ยวมู่เหลือบเห็นรอยยิ้มที่มุมปากก็คิดว่าเขายิ้มเยาะเย้ยตัวเอง
จากนั้นเสียงก็ดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ฉันบอกว่ามีหมาป่าหิวโซอยู่ด้วย แต่ละวันฉันถึงได้นอนหลับไม่เพียงพอ ฉันจะมีความสุขกับการนอนไม่หลับได้ยังไงคะ!”
อวี๋เยว่หาน “…”
คุณหมอ “…”
เจิ้งเหยียน “…”
ทั้งสามทำหน้ามึน
เหนียนเสี่ยวมู่หน้าแดงระเรื่อเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกไป เธอยื่นมือกุมหน้าแล้วซบอกอวี๋เยว่หาน
ในใจแอบคิดว่าเธอจะใช้ชีวิตออกไปพบผู้คนได้อย่างไรในเมื่อตัวเองรนหาเรื่องเอง
ทันใดนั้นประตูห้องทำงานคุณหมอก็มีคนผลักเข้ามาจากทางด้านนอก
ผู้ช่วยวิ่งวุ่นเข้ามา “คุณชายหาน หลังจากสิบสี่คนพวกนั้นฟื้นแล้วก็ได้รับสารภาพว่ามีคนซื้อตัวพวกเขาโดยมีเป้าหมายคือคุณเหนียน!”