หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 975 เกือบจะกลายเป็นพ่อเลี้ยง ตอนที่ 976 รู้สึกแย่!
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 975 เกือบจะกลายเป็นพ่อเลี้ยง ตอนที่ 976 รู้สึกแย่!
ตอนที่ 975 เกือบจะกลายเป็นพ่อเลี้ยง
ทันทีที่ได้ยินคำว่า “คนกันเอง” เหนียนเสี่ยวมู่ก็ระเบิดความอัดอั้นตันใจออกมา
เธอสลัดมือออกจากมืออวี๋เยว่หานและเดินไปข้างๆนายหญิงอวี๋ “คุณย่า ยังมีคุณย่าที่รักหนูที่สุด!”
อวี๋เยว่หาน “…”
เกิดอะไรขึ้น?
เขาทำอะไรผิดอีกแล้ว?
ทำไมภรรยาทำหน้าไม่พอใจแบบนั้น ถึงได้วิ่งไปฟ้องคุณย่า?
“ไปกันเถอะ ไปโรงพยาบาลกันก่อน” อวี๋เยว่หานหรี่ตาพูด
หลังจากขึ้นรถ
ขณะที่เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะไปนั่งกับนายหญิงอวี๋ อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือลากเธอกลับมานั่งข้างตัวเอง
“อย่าหาเรื่องสิ”
“คุณไม่มีคู่หมั้นแล้ว ปล่อยมือ ฉันจะไปนั่งกับคุณย่า!” เหนียนเสี่ยวมู่ถลึงตาใส่เขา พูดด้วยเสียงเย็นชา
อวี๋เยว่หานรวบตัวคนมากอดแน่นๆพลางกระซิบ “คุณแน่ใจเหรอ ถ้าผมไม่มีคู่หมั้นแล้วก็คงต้องหาแม่เลี้ยงให้เสี่ยวลิ่วลิ่วสักคน ถ้าไม่ดูให้ดีดีแล้วเกิดไปเจอแม่เลี้ยงใจร้ายเข้า วันวันคงเอาแต่รังแกเสี่ยวลิ่วลิ่วแน่ๆ”
“ดูท่าแล้วคุณน่าจะเป็นพ่อเลี้ยงเสียมากกว่า! วันวันก็คิดแต่จะให้เสี่ยวลิ่วลิ่วไปยั่วโมโหฟ่านอวี่ ไหนจะหาแม่เลี้ยงมารังแกเธออีก ลูกสาวฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจกันแน่?”
เหนียนเสี่ยวมู่ตบไปบนหน้าอกของเขาพร้อมกับกัดฟันด้วยความโมโห
อวี๋เยว่หาน “…”
ลูกสาวไม่ได้ทำให้เขาไม่พอใจ แต่แม่ของเธอนี่สิที่ทำให้เขาไม่พอใจ
มันง่ายนักเหรอที่เขาจะพยายามทำให้ตัวเองไม่เป็นโสด?
เหนียนเสี่ยวมู่เห็นว่ามีผู้ใหญ่อยู่ในรถ เธอจึงไม่ได้ต่อปากต่อคำและนั่งดีดี
อย่างไรก็ตามเธอเงียบไปตลอดทาง
เมื่อถึงโรงพยาบาล นายหญิงอวี๋ก็เอาแต่คิดเรื่องเหวินหย่าไต้ฆ่าตัวตาย เธอดูเป็นห่วงเหวินหย่าไต้มากอย่างเห็นได้ชัด
ตระกูลอวี๋มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลเหวิน
ตอนแรกที่เหวินหย่าไต้ถูกจับ นายหญิงอวี๋ยังเคยออกหน้าแทนเธอ โดยเจรจากับอวี๋เยว่หานว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ให้เขาไว้ชีวิตเธอด้วย
ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ตระกูลเหวินเคยช่วยไว้ในตอนนั้น
ต่อมา เหวินหย่าไต้โดนตัดสินจำคุกเป็นเวลายี่สิบปี
การลงโทษดังกล่าวก็มากพอแล้วสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้ได้ยินข่าวว่าเธอฆ่าตัวตาย…เหนียนเสี่ยวมู่ก็เกือบจะลืมไปแล้วว่าคนคนนี้ยังมีตัวตนอยู่
“เรียบร้อยแล้วเหรอ? เข้าไปเยี่ยมเธอได้ไหม?”
นายหญิงอวี๋ถามด้วยความร้อนใจเมื่อเห็นผู้ช่วยออกมา
ผู้ช่วย “ทำเรื่องเรียบร้อยหมดแล้วครับ เข้าไปเยี่ยมได้ แต่อย่านานเกินไป เยี่ยมได้แป๊บเดียวก็ต้องออกมานะครับ”
นายหญิงอวี๋ “งั้นพวกเรารีบเข้าไปดูหน่อยดีกว่า ขอแค่เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!”
ขณะที่พูด นายหญิงอวี๋ก็ถือไม้เท้าเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย
เหวินหย่าไต้ยังอยู่ในช่วงต้องโทษ
ถึงจะรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่ห้องผู้ป่วยก็ต่างจากห้องผู้ป่วยธรรมดาทั่วไป
หน้าประตูมีคนเฝ้าอยู่
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้ตามเข้าไป เธอแค่ยืนอยู่ที่หน้าประตูพลางชำเลืองเข้าไปข้างใน
เมื่อเทียบกับภาพลักษณ์อันสูงส่งตอนที่เจอกันครั้งแรกกับผู้หญิงที่หน้าตาซีดเซียวที่กำลังนอนบนเตียงสีขาวเหมือนกำลังจะตายอยู่ในโรงพยาบาลนั้น เธอแทบจะจำไม่ได้
บนหน้าผากเหวินหย่าไต้พันด้วยผ้ากอซ
ตรงกลางผ้ากอซยังมีเลือดซึมออกมา…
สภาพหดหู่ไปทั้งตัว เห็นได้ว่าเธอไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ
“คุณเหวินเป็นคนทะนงตัวมาตลอด เธอสะเทือนใจมากกับการเข้าคุกกะทันหัน ผมได้ยินมาว่าหลังจากที่เธอเข้าคุกแล้ว ไม่มีใครในตระกูลเหวินมาเยี่ยมเธอซักคน เธอเป็นคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง”
เมื่อผู้ช่วยเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ดูสีหน้าไม่ค่อยดี เขาจึงอธิบาย
เหนียนเสี่ยวมู่หันมามองเขา
ผู้ช่วยพูดต่อ “ตระกูลเหวินล้มละลายแล้ว คนส่วนใหญ่ต่างก็คิดว่าได้รับผลพวงมาจากเหวินหย่าไต้ พวกเขาก็เลยไม่มาเยี่ยมเธอเลย แม้แต่ประธานเหวิน...”
ซึ่งเป็นญาติสนิทที่สุดของเหวินหย่าไต้
ยังกลัวว่าจะลำบากไปด้วย วันที่เธอเข้าคุกก็ประกาศตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกับเธอ
คนที่น่าสงสารย่อมมีสิ่งที่น่ารังเกียจ
ที่เหวินหย่าไต้มีวันนี้ได้ล้วนแล้วแต่เป็นกรรมตามสนอง!
ตอนที่ 976 รู้สึกแย่!
ไม่มีใครเห็นใจคนที่ทำชั่วมามากได้จริงๆ
อย่างมากที่สุด เมื่อเห็นเธอมีจุดจบที่น่าอนาถ ก็พูดได้แค่ว่า : น่าเสียดาย
นายหญิงอวี๋กับอวี๋เยว่หานดูเหมือนจะเป็นห่วงเหวินหย่าไต้มาก
เหนียนเสี่ยวมู่มองไปทางผู้ช่วย “คุณอยู่กับอวี๋เยว่หานมานานหลายปีแล้ว คุณรู้เรื่องที่เหวินหย่าไต้เคยช่วยอวี๋เยว่หานในช่วงแรกๆไหม?”
ผู้ช่วยผงกหัว “รู้ครับ”
“ช่วยเล่าให้ฉันฟังได้ไหม โดยเฉพาะเรื่องที่เหวินหย่าไต้ช่วยอวี๋เยว่หานอย่างไรในระยะเวลาที่ผ่านมา?” เหนียนเสี่ยวมู่ถามซักไซ้
“คือ…” ผู้ช่วยอยากจะบอกแต่ก็ต้องหยุด
“คุณเหนียน เรื่องนี้ผมพูดไม่ได้ครับ”
“……”
เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ มีความลับบางอย่างที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
ยิ่งกว่านั้นมันเป็นความลับที่ไม่สามารถพูดได้
สายตาเหนียนเสี่ยวมู่เป็นประกายเล็กน้อยเมื่อเห็นอวี๋เยว่หานและนายหญิงอวี๋ออกมาจากห้องผู้ป่วย
ริมฝีปากบางของอวี๋เยว่หานเปิดออกเล็กน้อย ใบหน้าคมชัดดูไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึก
นายหญิงอวี๋ถอนหายใจเบาๆอยู่ข้างหลังเขา
“ตอนแรกฉันรับเธอมาบ้านตระกูลอวี๋ก็เพื่อที่จะให้เธอมาเป็นเพื่อนเล่นแก จะได้ไม่เหงา แต่ไม่คิดเลยว่าพวกแกจะไม่มีวาสนาต่อกัน ใครจะรู้ว่าเธอกลับคิดไม่ซื่อ…เฮ้อ โชคดีที่ยังรักษาชีวิตไว้ได้…”
นายหญิงอวี๋พูดพลางเงยหน้าขึ้นเตือนเพื่อบอกว่าเธอคิดอย่างไร
“ตอนนี้ฉันมีเสี่ยวมู่มู่เป็นหลานสะใภ้สุดที่รักแล้ว แกก็ต้องเอาอกเอาใจเธอเพื่อฉันด้วยล่ะ ไม่อย่างงั้นฉันจะเอาเรื่องแก!”
พอนายหญิงอวี๋พูดจบ อวี๋เยว่หานก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเหนียนเสี่ยวมู่
ดูเย็นชาอยู่หน่อยๆ
อวี๋เยว่หานขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นว่านายหญิงอวี๋ใช้ไม้เท้าจิ้มเขา เขาก็พูดเบาๆว่า “รู้แล้ว”
จากนั้นก็เดินไปข้างๆเหนียนเสี่ยวมู่แล้วจูงมือเธอ
เมื่อเห็นว่าเธอไม่สะบัดมือออกก็ค่อยเบาใจลง
ทั้งหมดออกมาจากโรงพยาบาล
เงียบตลอดทาง
นายหญิงอวี๋อายุมากแล้ว เธอมักจะเหนื่อยง่ายหลังจากที่ออกแรง
วันนี้ยังตกใจกับเรื่องเหวินหย่าไต้ฆ่าตัวตายและวิ่งวุ่นไปแล้วรอบนึง พอขึ้นรถก็เริ่มพักสายตา
เธอตื่นตอนที่มาถึงคฤหาสน์
กอดเหนียนเสี่ยวมู่สักพักก็กำชับอวี๋เยว่หานว่าห้ามรังแกเธอ จากนั้นก็ให้คนประคองเธอกลับเข้าข้างในคฤหาสน์ตัวเอง
อวี๋เยว่หานกับเหนียนเสี่ยวมู่ยืนอยู่ข้างรถ มองจนร่างนายหญิงอวี๋หายไป
เหนียนเสี่ยวมู่ชักมือกลับและทำเหมือนอวี๋เยว่หานไม่มีตัวตน เดินเข้าไปข้างในคฤหาสน์ตระกูลอวี๋
ในคฤหาสน์
กำลังจะไปหาเสี่ยวลิ่วลิ่ว แต่ก็กลับพบว่าเจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยหลับไปแล้ว
“คืนนี้ฉันจะนอนกับเสี่ยวลิ่วลิ่ว” เหนียนเสี่ยวมู่พูดทิ้งไว้หนึ่งประโยคและเตรียมจะเข้าไปในห้องนอนเด็ก ขณะจะก้าวเท้าก็ถูกอวี๋เยว่หานลากกลับมา
อวี๋เยว่หานจับที่ไหล่ของเธอ ดวงตาดำขลับจับจ้องเธอ
“เหนียนเสี่ยวมู่ หึงหรือไง? หรือว่าโกรธ? หืม?”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทำให้ความโกรธที่อยู่ในใจลึกๆของเหนียนเสี่ยวมู่ทะลักออกมา
สายตาแฝงไปด้วยความอัดอั้นตันใจ ตะโกนใส่เขา
“คุณย่าเห็นฉันเป็นคนกันเอง แล้วคุณล่ะ? คุณกับคุณย่าเป็นห่วงเหวินหย่าไต้ขนาดนั้น มีแค่ฉันเท่านั้นที่ได้แต่สงสัย แม้แต่ผู้ช่วยยังรู้มากกว่าฉัน คุณรู้ไหมว่ามันเป็นความรู้สึกที่คนทั้งโลกเข้าใจ แต่มีแค่ฉันที่ถูกซ่อนไว้อยู่คนเดียว รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่?”
เป็นความรู้สึกที่แย่เอามากๆ!
เหนียนเสี่ยวมู่ผลักมือเขาออกแล้วเดินเข้าไปในห้อง
แต่กลับถูกอวี๋เยว่หานคว้าตัวมาอย่างรวดเร็ว
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังคุณ แต่แค่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูด”
“อะไรที่เรียกว่าไม่จำเป็น? ตอนนี้คุณอยู่ต่อหน้าฉัน แต่เป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงคนอื่นว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง ฉันหึงจะแย่อยู่แล้ว ฉันยังต้องแสร้งทำหน้าไม่สนใจ นี่ยังจะเรียกว่าไม่จำเป็นอีกเหรอ?”
เหนียนเสี่ยวมู่กอดอกเหลือบมองเขา