หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 989 เคราะห์ร้าย ตอนที่ 990 หากชาติหน้ามีจริง
ตอนที่ 989 เคราะห์ร้าย
แต่น่าเสียดายที่เขายังไม่ทันได้มอบชุดเจ้าสาวให้เธอ โรคหัวใจของเขาก็กำเริบ
บนโลกใบนี้ สิ่งที่เขามีไม่เคยขาดมากที่สุดคือเคราะห์ร้าย
เคราะห์ร้ายเพียงส่วนหนึ่งก็มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวต่างๆ ได้มากมาย
สิ่งที่น่าเจ็บปวดไปยิ่งกว่านั้นก็คือช่องว่างระหว่างพวกเขาทั้งสองถูกลิขิตให้อยู่ร่วมกันไม่ได้ไปตลอดชีวิต…
พอคิดถึงตรงนี้แล้ว สายตาถังหยวนซือก็ดูหม่นหมอง
“ซินเอ๋อร์ เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าเธอชอบชุดเจ้าสาวชุดนี้หรือเปล่า?
“ชอบ! ฉันชอบมาก!”
เมื่อรู้ว่าเขาเป็นคนออกแบบชุดเจ้าสาวให้เธอเองกับมือ ซั่งซินก็ถึงกับพูดไม่ออก
ขณะที่เขาจับมือเธอ เธอก็พยักหน้าอย่างสุดชีวิต
ไม่รอให้ถังหยวนซือได้เอ่ยปาก ก็หันไปบอกพนักงานร้านช่วยเธอถือชุดเจ้าสาว เธออยากเข้าไปลองชุดแล้ว
ถังหยวนซือรออยู่ข้างนอก
ชุดสูทของผู้ชายค่อนข้างเปลี่ยนง่าย เขาใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็เปลี่ยนเสร็จแล้ว
ช่างแต่งหน้าต้องการจะแต่งหน้าให้เขา แต่พอหยิบเครื่องมือมาสเก็ตช์อยู่ตั้งนาน ก็เห็นว่าใบหน้าที่หล่อเหลาของคนที่อยู่ตรงหน้าไม่จำเป็นต้องเติมแต่งตรงไหน
บวกกับถังหยวนซือยังถลึงตาใส่ช่างแต่งหน้ามาทีหนึ่ง
ช่างแต่งหน้าตกใจจนไม่กล้าลงมือทำอะไร จึงเดินออกไปที่ฉาก
เจ้าสาวเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัวซึ่งแยกกับห้องแต่งหน้า
ซั่งซินเป็นคนสวยมาแต่กำเนิด ผิวพรรณและใบหน้าของเธอดูโดดเด่นอยู่แล้ว บวกกับเธอกำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นช่างแต่งหน้าจึงแต่งหน้าทาปากนิดหน่อย และแต่งแบบเบาบางมากถึงมากที่สุด
แต่ถึงกระนั้น ตอนที่เธอเดินออกจากห้องแต่งตัว ทุกคนก็ยังจับจ้องมาที่เธอ!
“สวยจัง! ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกตัดเย็บออกมาเพื่อคุณซั่งซินเลยนะเนี่ย”
“สง่างามมาก! รูปลักษณ์ของคุณซั่งซินก็ดูดีมาก ตอนที่ฉันเห็นเธอในทีวีก่อนหน้านี้ ฉันยังรู้สึกว่าเธอก็แค่คนสวยคนหนึ่ง ไม่คิดว่าตัวจริงจะดูสูงส่งเหมือนเจ้าหญิงแบบนี้… ”
“ถ้ามีผู้ชายมอบชุดเจ้าสาวให้ฉันล่ะก็ ฉันอาจจะมีความสุขตายไปเลยก็ได้…”
“……”
พนักงานในสตูดิโอถ่ายภาพแต่งงานต่างก็ตกตะลึงและส่งเสียงชื่นชมไม่รู้จบ
ซั่งซินสวมรองเท้าส้นสูงและยกชายกระโปรงเดินมาตรงหน้าถังหยวนซืออย่างระมัดระวัง
เธอคุ้นเคยกับการเดินบนเวทีมาโดยตลอด การสวมรองเท้าส้นสูงที่สูงกว่าสิบเซนติเมตรจึงถือว่าเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเธอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเดินแทบจะไม่เป็นเพราะเกิดจากความประหม่า
เมื่อเห็นถังหยวนซือไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
เธอก็เม้มปาก ประหม่ายิ่งกว่าเดิม
“พี่เสี่ยวซือ…”
“ซินเอ๋อร์ของฉัน สวยมาก สวยจนละสายตาไม่ได้เลย” ถังหยวนซือพูดขึ้นมาทันที
ทันทีที่เขาอ้าปากก็แน่นที่ลำคอ
ความรู้สึกเสียใจที่อธิบายไม่ถูกผุดขึ้นมาในใจ อยากจะเก็บความงามของเธอซ่อนเอาไว้
ซ่อนอยู่ในที่ที่มีแต่เขาเท่านั้นที่มองเห็น
พอคิดได้ถึงตรงนี้ ถังหยวนซือก็หันไปมองผู้ช่วยและบอดี้การ์ดที่อยู่ในฉาก
ผู้ช่วยเย็นสันหลังวาบ จึงรีบโบกมือให้บอดี้การ์ดออกไป
ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นห่วงสภาพร่างกายของถังหยวนซือ ผู้ช่วยเองก็อยากจะออกไปด้วย
สายตาอาฆาตของบอสที่ยืนอยู่ตรงนี้สร้างความกดดันให้เขาเป็นอย่างมาก!
“เริ่มถ่ายได้หรือยัง?” ซั่งซินไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของเขา เธอก้มหน้าถามเพราะถูกเขาชมจนเขิน
เมื่อได้ยินดังนั้น ถังหยวนซือก็ครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า
“เปลี่ยนเป็นช่างภาพผู้หญิงก็เริ่มถ่ายได้เลย”
ซั่งซิน “???”
ในที่สุด การถ่ายภาพแต่งงานก็เป็นไปอย่างราบรื่นหลังจากเปลี่ยนเป็นช่างภาพผู้หญิงที่มีประสบการณ์ของสตูดิโอเป็นการชั่วคราว
รูปร่างหน้าตาของถังหยวนซือกับซั่งซินถือว่าเป็นคู่สวรรค์สร้างในบรรดาคู่รักที่ช่างภาพเคยถ่ายมา
เนื่องจากซั่งซินเป็นนางแบบ เธอจึงมีเซ้นส์เรื่องมุมกล้อง
ในการเคลื่อนไหวแต่ละท่วงท่าจึงทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเหมือนได้ผ่านการขัดเกลามาเป็นอย่างดี
ภาพถ่ายเซตแรกถ่ายเสร็จอย่างรวดเร็ว
“เปลี่ยนชุดได้ เดี๋ยวถ่ายชุดต่อไปเลย”
ตอนที่ 990 หากชาติหน้ามีจริง
ทันทีที่ช่างภาพพูดจบ ถังหยวนซือก็จับมือซั่งซิน “ฉันยังเตรียมชุดพิเศษให้เธออีกหนึ่งชุด อยากลองดูไหม?”
“……”
ซั่งซินพยักหน้าอย่างว่าง่าย
ผู้ช่วยหยิบชุดเจ้าสาวผ้าชีฟองสีฟ้าออกมาจากกล่อง
สีและเนื้อผ้าของชุดเจ้าสาวมีความพิเศษมาก แต่ที่พิเศษที่สุดคือบริเวณหน้าท้อง
ตำแหน่งตรงหน้าท้องของชุดเจ้าสาวถูกออกมาแบบมาโดยเฉพาะ มีแค่ผ้าซีทรูคลุมไว้หนึ่งชั้น
ถ้าเอียงข้างและมีลมพัดมาที่ผ้าชั้นนั้นเบาๆ ก็จะเผยให้เห็นสะดือที่ดูเซ็กซี่
ซั่งซินเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อได้ทันที
ดวงตาเธอเปลี่ยนเป็นสว่างไสว พลางหยิบชุดเจ้าสาวเข้าไปเปลี่ยนในห้องแต่งตัว
คนส่วนใหญ่จะรู้สึกเหนื่อยหรือเมื่อยล้าไปทั้งตัวหลังจากถ่ายรูปแต่งงาน
แต่น่าจะเป็นเพราะทั้งสองคนรู้ว่ารูปแต่งงานเซตนี้อาจจะเป็นเซตสุดท้ายสำหรับพวกเขา
หลังจากถ่ายเสร็จก็ไม่มีใครรู้สึกเหนื่อยเลย
ก่อนที่ช่างภาพจะพูดอะไรบางอย่าง พวกเขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอดูรูปสักหน่อย
รูปเซตแรกเป็นรูปที่สวยที่สุด
เมื่อชุดเจ้าสาวที่เขาออกแบบมากับมือสวมอยู่บนตัวเธอ มันทำให้เธอดูงามสง่าราวกับเจ้าหญิง
เป็นเจ้าหญิงของเขาเพียงคนเดียว
สายตาของทั้งสองคนต่างจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
ถังหยวนซือนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาโดยที่ซั่งซินซบอยู่ในอ้อมแขนของเขา จ้องรูปเดียวกันเป็นเวลานาน คลิกไปที่รูปต่อไปอย่างอาลัยอาวรณ์
ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะดูรูปเซตแรกเสร็จ
เปิดไปที่เซตที่สอง
เป็นชุดเจ้าสาวที่เห็นสะดือ…
ในรูปแรก พวกเขากำลังยืนอยู่บนชายหาดหันหน้าไปทางพระอาทิตย์
ซั่งซินยกมือบังหน้าผาก พลางหรี่ตามองไปที่ไกลๆ
ถังหยวนซือเหยียดแขนทั้งสองข้างโอบเอวเธอด้วยความอ่อนโยน สุดท้ายมือก็อยู่ในท่าประสานกันและวางที่หน้าท้องของเธอพอดี
เหมือนกอดเธอกับลูกไปพร้อมๆ กัน..
มันดูสวยและดูอบอุ่นมาก
เหมือนทั้งคู่ต่างก็ตกอยู่ในภวังค์…
“นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเราถ่ายรูปครอบครัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาได้ไหม?” เสียงของถังหยวนซือเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ซั่งซินมองรูปที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับพยักหน้าโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“ใช่!”
“ดีจัง” ถังหยวนซือมองรูปถ่ายใบนั้น เมื่อเห็นหน้าท้องของเธอยังคงแบนราบ ดวงตาดำขลับก็ฉายแววไม่พอใจ
นิ้วลูบรูปภาพบนหน้าจอซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่รู้ว่าลูบไปตั้งกี่รอบแล้ว…
ในใจเขารู้ดีว่าที่คุณหมอตั้งใจให้เขาออกจากโรงพยาบาลนั้น หมายความว่าอย่างไร
แม้ว่าเธอจะไม่พูดอะไร แต่เขาก็รู้ดีว่านี่คือรูปครอบครัวใบแรกและอาจจะเป็นใบสุดท้าย
ซั่งซินไม่ได้สังเกตอารมณ์ความรู้สึกของเขาที่เปลี่ยนไป เธอยังคงยิ้มตาหยี
“เราเอารูปนี้มาขยายใหญ่ก็ได้แล้วแขวนไว้บนหัวเตียง รอจนลูกคลอดออกมา ก็บอกเขาว่าตอนที่เขาอยู่ในท้องแม่ พ่อกับแม่รอไม่ไหวก็เลยพาเขาไปถ่ายชุดแต่งงานด้วยกัน!”
“……”
เมื่อถังหยวนซือเห็นเธอยิ้มราวกับดอกไม้บาน เขาก็ยิ้มตาม
เขาหยิกแก้มเธอด้วยความเอ็นดูแล้วตอบเบาๆว่า “ได้สิ ทำตามที่เธอว่า”
“งั้นเราสัญญากันนะ พอถึงตอนนั้นคุณจะเป็นคนบอกลูกเอง” ซั่งซินยื่นนิ้วออกมารอให้เขาเกี่ยวก้อย
ถังหยวนซือตัวแข็งทื่อ จ้องไปที่นิ้วที่ยื่นออกมาตรงหน้าเขาโดยไม่ตอบสนองอยู่เป็นเวลานาน
เขากำหมัดอย่างเงียบๆ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยาก แต่เขาทำไม่ได้
เขารู้ดีว่าไม่สามารถให้คำมั่นสัญญากับเธอได้ เพราะเขาทำไม่ได้ที่จะต้องแสร้งทำเป็นเมินคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ
“พี่เสี่ยวซือ เงียบทำไม?” ซั่งซินเขย่านิ้วก้อยที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วพูดเร่ง
“ซินเอ๋อร์…” ถังหยวนซือขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกหดหู่ใจ
สายตาหม่นหมองเผชิญหน้ากับสายตาที่คาดหวังของเธอ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปอย่างลำบากใจ “ฉันสัญญา”