หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 995 คนเมืองกรุงนี่รู้จักเล่นจริงๆ ข้าน้อยขอยอมแพ้! ตอนที่ 996 เซอร์ไพรส์! ทำการใหญ่!
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 995 คนเมืองกรุงนี่รู้จักเล่นจริงๆ ข้าน้อยขอยอมแพ้! ตอนที่ 996 เซอร์ไพรส์! ทำการใหญ่!
ตอนที่ 995 คนเมืองกรุงนี่รู้จักเล่นจริงๆ ข้าน้อยขอยอมแพ้!
เหนียนเสี่ยวมู่ทำแก้มป่องด้วยความโมโหและกำลังจะหันหน้าหนี แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง “แกรก”
ยังไม่ทันรู้ตัวก็เห็นรูปขึ้นมาบนหน้าจอ
เธอโมโหพองลมจนเหมือนปลาปักเป้า!
ด้วยท่าทางการโพสต์ เธอเหมือนเจ้าสาวที่ถูกแย่งมา…
“จุ๊ๆ เหนียนเสี่ยวมู่ คุณทำหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง? ไม่อยากแต่งเหรอ?” อวี๋เยว่หานไม่ได้รับรู้ถึงอารมณ์ของคนข้างๆ เลย
เขาปรับมุมถ่ายรูปใหม่และเตรียมจะถ่ายอีกครั้ง
เวลานี้ เหนียนเสี่ยวมู่ที่ได้ยินประโยคนั้นก็หัวเราะ “หึๆ” ในใจ
ยินดีด้วย คุณชายหาน คุณเดาถูกแล้ว
คุณจะไม่มีคู่หมั้นในเร็วๆนี้แล้ว ยังจะมีหน้ามาถ่ายรูปสติ๊กเกอร์อยู่ได้!
“ทำไมเครื่องไม่ขยับเลยล่ะ? ผมไม่เคยเล่นเจ้านี่มาก่อน คุณทำเป็นไหม?” อวี๋เยว่หานจิ้มนิ้วไปบนหน้าจอสองครั้ง เมื่อเห็นว่าเครื่องไม่ตอบสนอง หน้าหล่อๆ ก็หันมาถามเหนียนเสี่ยวมู่
ทำหน้าถ่อมตัวเพื่อขอคำแนะนำ
น้อยมากที่จะมีเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ
แม้เหนียนเสี่ยวมู่จะแอบโมโหอยู่ในใจ แต่เธอก็ยังมีเหตุผล
แน่นอน เธอจะไม่ละทิ้งช่วงเวลาสำคัญในการสร้างบารมีเพื่อที่จะยกสถานะตัวเองในครอบครัว!
เธอก้าวไปข้างหน้าทันที หยิบเหรียญออกมาสองสามเหรียญจากในกระเป๋าแล้วยัดเข้าไปในช่องใส่เหรียญ
จากนั้นกดปุ่มสตาร์ทอีกครั้ง
“บิ๊บบิ๊บ!”
เครื่องตอบสนองอย่างรวดเร็ว
เธอเหลือบมองอวี๋เยว่หานอย่างดูถูกดูแคลน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “รูปเมื่อกี้เป็นรูปทดลอง คุณไม่หยอดเงินมัน แน่นอนว่ามันก็ไม่ให้คุณเล่นต่อ”
เดิมทีเธอไม่พอใจอย่างมากที่เขาพาเธอมาถ่ายรูปแต่งงานที่ร้านถ่ายรูปสติ๊กเกอร์
แต่พวกผู้หญิงมักจะเกิดมาพร้อมกับความกระตือรือร้นที่ไม่อาจบรรยายได้
เมื่อเครื่องเริ่มส่งเสียงบิ๊บ เธอก็แทบจะขยับไปอยู่ตรงหน้ากล้องโดยสัญชาตญาณ
สางผมยาวของตัวเองแล้วหามุมที่สวยที่สุด…
“แชะ แชะ แชะ!”
ถ่ายติดต่อกันสามครั้ง สวยระเบิดระเบ้อ!
อวี๋เยว่หานที่ถูกเธอลืมไปแล้วกำลังจับจ้องไปที่รูปแต่งงานของตัวเอง เหนียนเสี่ยวมู่ลืมไปเลยว่ายังมีเจ้าบ่าวอยู่ข้างๆ หน้าหล่อๆกำลังจะชะโงกไปข้างหน้า แต่จู่ๆกลับมีมือหนึ่งยื่นมาบังหน้าเขาไว้
“คุณไปยืนข้างหลัง ตรงนี้บังกล้องฉัน”
อวี๋เยว่หาน “???”
ภาพแต่งงานที่ไม่ต้องการเจ้าบ่าว?
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!
“เหนียนเสี่ยวมู่ ผมเป็นคนบอกว่าจะมาถ่ายรูป” อวี๋เยว่หานเตือนสติอย่างใจดี
เหนียนเสี่ยวมู่ “อ้อ แต่เมื่อกี้ฉันเป็นคนหยอดเหรียญ เงินฉันเป็นคนจ่าย ไม่อยากถ่ายกับคุณไม่ได้หรือไง?”
อวี๋เยว่หาน “…”
พอเหนียนเสี่ยวมู่พูดจบก็นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาคบกันมานานขนาดนี้แล้ว แต่ออกมาช้อปปิ้งดูหนังกันน้อยมากจนน่าสมเพช ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปฏิสัมพันธ์อันหวานแหววระหว่างคู่รักหนุ่มสาวพวกนั้นเลย
ยิ่งคิดก็ยิ่งพบว่าโอกาสนั้นหาได้ยาก
เธอจึงทนยอมไม่คิดเล็กคิดน้อยว่าใครเป็นคนหยอดเหรียญ หันไปมองชายหนุ่มที่กำลังน้อยใจอยู่
“จะถ่ายไหม?”
“ถ่าย!” อวี๋เยว่หานไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าเมื่อสักครู่นี้เขาเพิ่งโดนรังเกียจ
เมื่อได้ยินที่เธอพูดก็รีบเอนตัวไปข้างหน้า
“แชะ แชะ แชะ!”
ถ่ายติดต่อกันสามครั้งอย่างรวดเร็ว
เหนียนเสี่ยวมู่เปลี่ยนท่าสามท่าเพียงอึดใจเดียว ซึ่งทั้งสามท่านั้นมีแต่สวยกับสวย
ส่วนอวี๋เยว่หานนั้น…อืม ในฐานะที่เป็นผู้ชายทั้งแท่ง เขายังงงอยู่เลยว่าเซลฟี่คืออะไร
เป็นอัมพาตที่หน้าตลอดการถ่ายรูป
แต่โชคดีที่เกิดมาหล่อมากพอ ไม่ว่าจะมองยังไงก็ดูสบายหูสบายตา
หลังจากทั้งสองคนเล่นกันไปแล้วหนึ่งรอบ จำนวนรูปก็ถึงขีดจำกัด
เครื่องหยุดทำงาน
คราวนี้ไม่ต้องรอให้เหนียนเสี่ยวมู่ได้เอ่ยปาก อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือควานหาเหรียญในกระเป๋า
ตั้งใจจะไม่ให้เธอหาข้ออ้างว่า “ใครจ่าย” ในการผลักเขาออกจากเฟรม
ตอนที่ 996 เซอร์ไพรส์! ทำการใหญ่!
แต่ผลคือพอควานในกระเป๋าก็เจอแค่แบล็กการ์ดใบหนึ่ง มองเธอด้วยความรู้สึกผิด
“เหนียนเสี่ยวมู่ เครื่องมันรูดบัตรได้ไหม?”
“ไม่ได้”
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่พูดจบ ก็เผชิญหน้ากับสายตาของเขาและพูดเสริมอย่างไม่รักษาน้ำใจ “นอกจากรูดบัตรไอคิวแล้ว คุณยังต้องจ่ายภาษีไอคิวอะไรพวกนั้นด้วย”
อวี๋เยว่หาน “…”
สุดท้ายเหนียนเสี่ยวมู่ก็เป็นคนหาเหรียญมาหยอดและเริ่มสตาร์ทเครื่องใหม่
ถ่ายได้อีกหนึ่งชุด
ตอนที่ล้างรูปออกมา เหนียนเสี่ยวมู่ดูมีความสุขที่สุด ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนที่อยากเล่นที่สุด
“รูปแต่งงานสติ๊กเกอร์นี่ถือว่าเป็นรูปแต่งงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา มันสามารถล้างออกมาแล้วติดไว้บนโต๊ะทำงานของฉันก็ได้ และยังมีไดอารี่อีก…อ้อ ไม่สิๆ ตอนนี้ฉันไม่ได้เขียนไดอารี่แล้ว เพราะจับได้ว่ามีหมาป่าอวดหางบางตัวแอบมาอ่านไดอารี่ของฉันทุกวัน”
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่พูดถึงหมาป่าอวดหาง ร่างสง่าผ่าเผยก็เดินมาตรงหน้าเธอ
พอได้ยินที่เธอพูด ก็ยื่นมือมารวบตัวเธอเข้าไปกอด แล้วพูดว่า
“อือ ผมมันเป็นหมาป่าอวดหาง วันๆ ก็ได้แต่หาคำพูดค่อนแคะที่คู่หมั้นเขียนไว้ในไดอารี่ ที่ผมแอบอ่านไดอารี่ของคุณก็เพราะอยากปรับปรุงข้อบกพร่องของตัวเอง ไม่ดีเหรอ?”
ช่างเป็นข้อแก้ตัวที่แปลกแหวกแนวเสียจริงๆ
เธอจะพยายามอดทนไม่ตอบโต้
อวี๋เยว่หานเลิกคิ้ว มองคนที่กำลังจ้องรูปพร้อมกับยิ้มร่าด้วยสายตาที่อ่อนโยน
เมื่อเห็นว่าเธอไม่สนใจ ก็ยื่นมือหยิบโทรศัพท์ออกมาดู
“เดี๋ยวเราจะไปทำอะไรกันต่อ?” เหนียนเสี่ยวเก็บรูปแล้วหันหน้าไปถาม
หาได้ยากมากที่พวกเขาจะออกมาเดินเล่นด้วยกัน
หรือจะถือโอกาสนี้ไปกินข้าว แล้วไปดูหนัง?
แต่พอคิดได้ว่าเรื่องตระกูลมั่วยังไม่คลี่คลาย เหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรเลย
“กลับบ้าน”
อวี๋เยว่หานบอก
พูดเรียบๆ เพียงสองคำแล้วจูงมือเธอเดินออกไป
เหนียนเสี่ยวมู่ยังงงๆ
ถึงเธอจะไม่ได้อยากกินข้าวดูหนังอะไรขนาดนั้น แต่นานๆ ทีพวกเขาอุตส่าห์ออกมาซักครั้งนึง จะกลับไปทั้งอย่างนี้เลยเหรอ?
ได้รูปแต่งงานไม่กี่ใบก็กลับแล้วเนี่ยนะ?
ระหว่างทางกลับ
เหนียนเสี่ยวมู่อดไม่ได้ที่จะเปิดดูรูปสติ๊กเกอร์แต่งงานที่พวกเขาเพิ่งถ่ายเมื่อกี้
แม้ปากจะไม่พูดอะไร แต่ในใจยังรู้สึกผิดหวังอยู่หน่อยๆ
แน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอคอยช่วงเวลาที่เธอจะได้สวมชุดเจ้าสาวให้ผู้ชายที่เธอรัก
อวี๋เยว่หานพูดออกมาจากปากเองว่าจะแต่งงานก่อนกำหนด แต่ก็ยังไม่พาเธอไปถ่ายรูปแต่งงานสักที
หรือจะเป็นไปได้ไหมที่เขาคิดจะเอารูปสติ๊กเกอร์พวกนั้นออกมาล้างเมื่อถึงเวลา และมอบเป็นของที่ระลึกให้กับแขกที่มาร่วมงานแต่งงานของพวกเขา?
คิดคิดดูแล้วเธอก็ยิ่งน้อยใจ
หันไปมองอวี๋เยว่หานที่อยู่ข้างๆ
ที่แท้เขาก็หลับไปแล้ว
“วังหลังกำลังจะลุกเป็นไฟแต่ไม่รู้ตัวเลยซักนิด มิน่าล่ะถึงได้โสดมาตั้งยี่สิบกว่าปี ที่เป็นโสดก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล อวี๋เยว่หาน คุณสามารถหาคู่หมั้นดีดีอย่างฉันได้ แสดงว่าคุณสั่งสมความดีมาตั้งแต่ชาติที่แล้วแน่ๆ…”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดพร่ำไปเรื่อย
คิดว่าเขาไม่ได้ยิน
แต่ไม่ได้สังเกตว่าที่อวี๋เยว่หานหลับตานั้น เขาแค่งีบ
เขาได้ยินที่เธอพูดมาทั้งหมด
ยิ้มมุมปากโดยไม่อธิบายใดๆ
รถเลี้ยวเข้าคฤหาสน์ตระกูลอวี๋
เขาค่อยๆลืมตาขึ้น ลงจากรถ และรอเหนียนเสี่ยวมู่ออกมาเพื่อที่จะจูงมือเธอเข้าไปข้างใน
เขาเดินด้วยเสียงที่เงียบมาก แต่เร็วกว่าปกติ
ขาสั้นๆ ของเหนียนเสี่ยวมู่ที่เดินตามเขารู้สึกเมื่อยเล็กน้อย กำลังจะบอกเขาให้ช้าลงหน่อย แต่จู่ๆเธอก็เห็นนายหญิงอวี๋ยืนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์หลักจากที่ไกลๆ
กำลังอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่ว
โดยที่ข้างหลังเป็นคนรับใช้ทั้งคฤหาสน์ บางคนก็เหมือนจะเป็นญาติผู้ใหญ่ในตระกูลอวี๋ที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน
เหมือนกำลังรอพวกเขาอยู่…