หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 276 รวดร้าวใจ
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 276 รวดร้าวใจ
เกอซี่รับรู้ได้ถึงความตื่นเต้นยินดีของเถาวัลย์ม่วงที่เผย ผ่านออกมาจากเถาที่โยกโยนไปมา ทว่าปลายเถาหนากลับนิ่งไม่ไหวติง หญิงสาวย่อมพอคาดเดาได้ว่ามันกําลังตั้งหน้า ตั้งตาขุดอาหารกินอย่างขมักเขม้น ทําเอามุมปากเกอซีกระตุ๊กก๊ก
นางปัดเถาซึ่งกําลังยืดย้วยอยู่ตรงหน้าออกก่อนจะสั่งการบางสิ่ง และพาตนเข้าสู่ด้านในมิติเวททั้งยังไม่ลืมทิ้งกระแสจิตสัมผัสไว้กับเถาวัลย์ม่วงอเวจี เพื่อให้ตนสามารถรับรู้สถานการณ์โดยรอบที่เป็นไปได้โดยตลอดที่ร่างจิตคืนสู่มิติเวท
เพียงเกอซีเข้ามาในมิติเวทก็ได้ยินเสียงสะอึกสะอื่นร่ําไห้ของต้านต้าน
เมื่อรับรู้ได้ถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนแปรในมิติเวท ต้านต้านรีบแหงนหน้าหันซ้ายหันขวาไปมาราวกับลูกนกที่ขวัญผวาแม้เพียงเสียงกิ่งไม้หัก ครั้นเมื่อได้เห็นเกอซี เจ้าตัวน้อยก็รีบกระโจนเข้าหาอ้อมอกผู้เป็นมารดาในทันที
“ท่านแม่ ท่านแม่ เสียแล้ว ท่านแม่..!”
ฮือ… ข้าคิดว่าจะไม่ได้พบท่านแม่
เสียงร้องของเจ้าตัวน้อยแสนบีบรัดจิตใจประหนึ่งเขา กําลังระบายความอัดอั้นตันใจที่ต้องเก็บกดมาตลอดในช่วงไม่กี่ชั่วยามก่อนหน้า
ยามนี้ ร่างของต้านต้านกลับคืนสู่สภาพปกติดังที่เคยเป็นเพียงความกลมกลิ้งเรียบลื่นนุ่มนิ่มนั้นยังคงฟินอยู่บ้างเล็กน้อย สีผิวตลอดทั่วเรือนกายยังปรากฏความโปร่งใสดูคล้ายเด็กขาดสารอาหารสุขภาพไม่สมบูรณ์แข็งแรง
เกอซียกมือขึ้นหยิกใบหน้าน้อยๆที่กลมดึกเบาๆ ด้วยสีหน้าแฝงความปวดใจ น้ําเสียงของนางแฝงคติ “ต่อไป เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เอาชีวิตเข้าเสี่ยงเป็นของเล่นเช่นนี้อีก เข้าใจไหม? แม้นจะเป็นไปเพื่อช่วยเหลือข้าก็ไม่ได้!”
เมื่อครั้งที่ต้านต้านยังฟักอยู่ในไข่ใบยักษ์ เขาต้องดูดซับขุมพลังจากทั่วทุกหัวระแหงในตัวเมืองกว่าจะกระเทาะเปลือกไข่นั่นออกมาได้
โดยที่แท้ขุมพลังอันมหาศาลมิอาจประมาณได้ทั้งหมดนั้น คือพลังชีวิตของต้านต้าน ซึ่งหากพลังชีวิตอ่อนแรงหรือถูกถ่ายเทออกไป เขาอาจกลับคืนร่างสู่สภาพฟองไข่ดังเดิม ทั้งอาจเป็นได้ที่ต้านต้านต้องสูญสิ้นแม้ชีวิตของตน
ต้านต้านยังเอาหน้าคลุกถูไถไปมากับอกของเกอชีราวเด็กน้อยที่มักได้รับการเอาอกเอาใจอยู่เสมอ
ครั้นเมื่อเกอซีเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจคําตําหนิของตน นางจึงอดมิได้ต้องแค่นเสียงขึ้นอีกครา “ต้านต้าน แม้นหากข้าสิ้นใจไป ตราบเท่าที่วังซูมแห่งนี้ยังอยู่เจ้าจะยังคงเหลือรอดชีวิต ทั้งที่ไม่ต้องคืนกลับสู่ร่างไข่อีก และเมื่อเจ้าวังคนใหม่เข้ามาในมิติแห่งนี้ เจ้าก็จะได้รับความสุขไม่ต้องอยู่เพียงเดียวดายในฟองไข่เนิ่นนานหลายปีดังเดิมอีกหรือเจ้าอยากกลับไปเป็นไข่อีกครา? เบื้องหน้าต่อไป จงเชื่อคําข้า อย่าทําสิ่งที่สุ่มเสี่ยงเช่นนี้อีกเข้าใจไหม?”
“ต้านต้านไม่ต้องการ !” เขากําปอยผมของนางแน่นปากน้อยๆ เบะจนเป็นเส้นเรียวบางคล้ายจะบ่งบอกว่าเพื่อนน้ําตากําลังจะแตกอยู่รอมร่อ “ต้านต้านไม่อยากให้ท่านแม่ตาย ต้านต้านไม่อยากได้เจ้าวังคนใหม่ หากท่านแม่ตายต้านต้านจะขออยู่ในฟองไข่ ไม่ขอออกมาอีกตลอดไป! ฮือ… ท่านแม่ ท่านแม่อย่างทิ้งต้านต้านนะ !”
หญิงสาวทําได้เพียงทอดถอนใจ ภายในใจอัดแน่นไปด้วย ความขมขึ้นหากทว่าความรู้สึกกลับอ่อนระทวยไปหมด
เจ้าตัวน้อยผู้นี้ช่างทําให้ผู้คนรู้สึกปวดร้าวได้ยิ่งนัก กระทั่งนางผู้ใจแข็งดั่งศิลากลับอดไม่ได้ที่จะอ่อนไหวสันสะท้านไปด้วย
หญิงสาวก้มลงจุมพิตพวงแก้มน้อยๆที่อ่อนนุ่มของอีก ฝ่ายพลางกล่าวคํา “ได้ ข้าสัญญากับต้านต้านก็ได้ ว่าข้าจะไม่ยอมตาย จะไม่ทิ้งเจ้าไป ต้านต้านเด็กดี อย่าร้องไห้ไปเลย”
ความคิดความรู้สึกของต้านต้านนั้นเทียบได้กับเด็กน้อยวัย 4-5 ขวบ เช่นนั้นแค่เพียงได้ฟังเขาก็แย้มยิ้มหน้าบานขึ้นได้ในทันที เจ้าตัวน้อยยกมือขึ้นตบแปะบนพวงแก้มที่เกอชีจุมพิตไว้พลางส่งเสียงหัวเราะคิกคักด้วยใบหน้าที่เปี่ยมล้นด้วยความสุขสดใส
ทว่าเมื่อสายตาของเขาเหลือบไปเห็นร่างของเจ้ามังกรทองตัวจิ๋วที่ยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ขอบบ่อทิพย์ธารา เสียงร่ําร้องโหยไห้พลันดังสะท้านขึ้นอีกครา “ท่านแม่ ท่านแม่ เหตุใดหลงหลงยังไม่รู้สึกตัวอีก ? หลงหลงขาดใจตายแล้วหรือ ? ท่านแม่ผู้เก่งกาจช่วยหลงหลงได้ไหม?”
เมื่อเกอซีอุ้มต้านต้านก้าวขยับตรงมายังปากบ่อทิพย์ธารา จึงพบร่างที่เต็มไปด้วยริ้วรอยบาดแผล รอยฟกช้ําของเจ้ามังกรทองตัวจิ๋ว เพียงได้เห็นก็ราวกับในใจถูกเชือดเฉือน แทบมิอาจทนรับได้
นางเพิ่งสร้างพันธสัญญากับสัตว์เวทตนนี้ ความรู้สึกสัมพันธ์ใดต่อกันล้วนยังไม่ปรากฏ คงมีเพียงความดูหมิ่นเคลือบแคลงซึ่งกันและกันระหว่างสัตว์เวทและท่านนายเท่านั้น มิคิดเลยว่าเจ้าตัวจิ๋วตนนี้จะทุ่มเทปกป้องนางมากมายถึงเพียงนี้
***จบตอน รวดร้าวใจ***