หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 311 สถานที่ปลอดอันตรายอย่างที่สุด ?
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 311 สถานที่ปลอดอันตรายอย่างที่สุด ?
ยามนี้บนใบหน้าของทุกคนล้วนแสดงความรู้ สึกผ่อนคลาย ทุกสายตาจับจ้องมายังเฟิ่งเหลียนอิ่งด้วยประกายแห่งความชื่นชมเปี่ยมความซาบซึ้ง
เหล่าผู้เยี่ยมยุทธทุกชีวิตในสวนสมุนไพรที่คลุ้มคลั่งฆ่าฟันกันเอง ทั้งที่กัดกลืนกินพฤกษาสมุนไพรล่วงลําคอไปล้วนเริ่มสร่างอาการมัวเมา ความผวาหวาดกลัว ความสับสนงุนงงเผยผ่านออกมาทางสีหน้าของพวกเขาทั้งหมด
ฉับพลัน เสียงเปล่งอุทานก็โพล่งขึ้นจากยอดฝีมือผู้หนึ่งซึ่งได้สติกลับคืนมา “ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นพระคุณของเทพธิดาบัวเยือกแข็งแห่งสํานักหลิวหลีมิสงสัยเลยว่าเหตุใดนางจึงสามารถขจัดฤทธิ์กล่อมประสาทให้แก่ทุกคนได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ !”
“เทพธิดาบัวเยือกแข็งคือผู้ที่มีจิตใจใสสะอาดบริสุทธิ์สมดั่งตํานานที่กล่าวขานเล่าลืออย่างแท้จริง ! พวกเราทุกคนในสวนสมุนไพรแห่งนี้สามารถรอดพ้นภัยพิบัติในครานี้มาได้ล้วนต้องขอบคุณในน้ำใจความช่วยเหลือของท่านผู้เสมือนหนึ่งเทพธิดา !”
เสียงสรรเสริญเยินยอที่ดังกึกก้องทั่วสารทิศยิ่งส่งให้ความหยิ่งผยองโอหังเผยปรากฏบนดวงหน้างามของเฟิ่งเหลียนอิ่ง
หากทว่าเพียงนางตวัดสายตาเหลือบเห็นหนานกงยว ประกายตาทั้งคู่กลับแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใส “เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หาได้ควรค่าจะกล่าวถึงไม่ การได้ช่วยเหลือทุกท่านล้วนเป็นสิ่งที่เหลียนอิ่งสมควรกระทํายิ่งแล้ว”
“ท่านพี่ยว รีบเข้าไปเก็บพฤกษาเวทในสวนสมุนไพรเถิด สถานที่แห่งนี้อุดมไปด้วยเหล่าพฤกษาเวทล้ำค่าหายาก บางทีอาจเป็นประโยชน์ในการรักษาอาการเจ็บป่วยของท่านอย่างยิ่งก็เป็นได้
เหล่ายอดฝีมือผู้ยามนี้สมองกลับคืนปลอดโปร่งแจ่มใส และรังรออยู่นอกสวนสมุนไพร เพียงได้ยินถ้อยคําที่เอ่ยกล่าว หลายคนล้วนมิอาจนิ่งเฉยอดทนอยู่ได้ ต่างเร่งรุดวิ่งหวนกลับเข้าสู่สวนสมุนไพรอย่างไม่รอช้า
อากัปกิริยาที่ปรากฏตรงหน้าเช่นนี้ยิ่งเร่งเร้าความร้อนรนใจให้เหล่าอารักขาประจําตําหนักราชันมัจจุราช กระทั่งหวูอวี้ยังกระเหี้ยนกระหือรือหมายจะพุ่งร่างเข้าไปขุดคว้าพฤกษาในสวนสมุนไพรด้วยเช่นกัน
หากทว่าเกอซีกลับยกมือขึ้นยั้งหยุดทุกคนไว้ “ช้าก่อน ! สวนสมุนไพรแห่งนี้ยังคงความซับซ้อนกว่าที่คาดคิด พวกเจ้าไม่ควรเร่งกระทําการบุ่มบ่าม”
เฟิ่งเหลียนอิ่งหัวเราะเยาะใส่เกอซีในทันที “คุณชายซีมิใช่จะหวาดระแวงเกินกว่าเหตุกระนั้นหรือ ? ม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพรในอาณาจักรไม้ขจี ล้วนถูกสรรสร้างเพาะปลูกขึ้นด้วยฝีมือของท่านปรมาจารย์จื่อจินโดยตรง ม่านหมอกขาวที่ปกคลุมสวนสมุนไพร ตลอดถึงขุมวิญญาณทั้งหมดทั้งมวลล้วนถูกปลดปล่อยออกจากพรรณพฤกษาทั้งหลายในที่นี้ ทั้งหมดทั้งมวลเป็นไปเพื่อปัดเป่าเหล่าอสูรเวทตลอดถึงผู้ที่หมายจะเข้ามาทําลายสถานที่แห่งนี้ทั้งสิ้น เช่นนั้นย่อมสามารถกล่าวได้ว่า สวนสมุนไพรแห่งนี้คือสถานที่ปลอดอันตรายอย่างที่สุดในเขตแดนผนึกมังกร”
“ส่วนอาการประสาทหลอนที่ปรากฏ ” เฟิ่งเหลียนอิ่งส่ายศีรษะไปมาด้วยสีหน้าดูหมิ่นน้ำเสียงดูแคลน “คุณชายซีออกจะขาดปัญญา ด้อยประสบการณ์จนเกินไป เช่นนั้นจึงไม่อาจเข้าใจ ภายใต้สวนสมุนไพรแห่งนี้ล้วนประกอบด้วยพฤกษาเวท 2 ประเภท ซึ่งเมื่อพฤกษาเวทเหล่านี้เจริญเติบโตจนเต็มที่ กลิ่นของมันจะประสานหลอมรวมกระทั้งเกิดอาการหลอนกล่อมประสาทสร้างความสับสนบันปวนความคิดจิตใจ หากทว่าอาการหลอนประสาทนี้คงส่งผลเพียงผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังฝีมือต่ำเตี้ยกว่าขั้นที่ 4 ปฐพี สะท้านสะเทือนตลอดถึงผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอเท่านั้น หาได้จงใจมุ่งหมายที่พวกเราอย่างแท้จริงไม่”
“คาดไม่ถึงเลยจริง ๆ เพียงกลิ่นหลอนประสาทก็สามารถสร้างความขวัญผวาให้เกิดขึ้นแก่คุณชายซีได้เสียแล้ว ! หึหึหึ”
เนียจินเฉินขยับฝ่าเท้าก้าวออกมาหยุดยืนเคียงข้างเฟิ่งเหลียนอิ่ง เพื่อช่วยเสริมส่งความคิดเห็นของนางด้วยการกล่าวหยามเหยียดอีกฝ่าย “น้องหญิงเหลียนอิ่ง เขาก็แค่เพียงผู้ฝึกยุทธขั้นต่ำเตี้ยผู้มีพื้นเพมาจากฐานะอันต่ำต้อย
ย่อมเป็นธรรมดาที่เขาจะยังไม่เคยประจักษ์ในโลกกว้าง ไม่จําเป็นที่เจ้าจะต้องลดตัวลงไปข้องเกี่ยวกับคนพรรณนี้”
กล่าวจบ เขาก็หันไปหาหนานกงยว “หนานกง ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เจ้าจะให้ความเชื่อถือเด็กเมื่อวานซืนผู้นั้นยิ่งไปกว่าคําวินิจฉัยจากเหลียนอิ่งใช่หรือไม่ ? จงอย่าได้หลงลืมไปว่าเหลียนอิ่งนั้นคือท่านหมอผู้มีทักษะแพทย์สูงส่งถึงขั้นที่ 6 แล้ว”
หนานกงยี่กดเปลือกตาหรี่ลงเล็กน้อย อายรัศมีแฝงความมุ่งร้ายที่เย็นยะเยือกอัดแน่นแฝงในแววตาคู่นั้น กระนันบนดวงหน้ายังคงความนิ่งเฉยไร้อารมณ์ขณะรอยยิ้มบางถูกยกขึ้นพร้อมคํากล่าว “ข้ามาเหยียบเยือนสวนสมุนไพรแห่งนี้ก็เพียงเพื่อซีเอ๋อผู้เดียวเท่านั้น เมื่อซีเอ๋อกล่าวว่าไม่จําเป็นต้องเก็บสมุนไพรเหล่านั้น เช่นนั้นข้าก็จะไม่แตะต้องพฤกษาทั้งหมด”
สายตาที่เย็นชาเฉียบคมตวัดกวาดไปหาอารักขาผู้รายล้อมรอบกาย “หากมันผู้ใดกล้ามีข้อกังขาในทุกถ้อยคํากล่าวของคุณชายซีซึ่งเคยให้ไว้ก่อนหน้า เช่นนั้นมันผู้นั้นจงไสหัวออกไปจากริ้วอาคมเมฆาแห่งนี้ในทันที”
ทันทีที่สิ้นสุดคํากล่าว เหล่าอารักขาแห่งตําหนักราชันมัจจุราชทุกคนล้วนปิดปากสนิทด้วยความหวาดผวา ขณะที่เฟิ่งเหลียนอิ่งกลับตรงข้าม ยามนี้นางทําได้เพียงยืนจับจ้องมองเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยความโกรธเกรี้ยวเดือดดาล
เนียจินเฉินเห็นสีหน้าม่วงคล้ำ เพราะความเกรี้ยวกราดของศิษย์น้องหญิง ก็ยิ่งคับแค้นเจ็บใจ เขากัดฟันกล่าวคํา “น้องหญิงเหลียนอิง จงอย่าได้ใส่ใจพวกคนขลาดตาขาวเหล่านี้อีกเลย ข้าจะเข้าไปเก็บผล เฉินเซียงที่เจ้าหมายมั่นมาให้”
กล่าวจบชายหนุ่มก็หันมาถลึงตาใส่เกอซีครานึง ก่อนจะหมุนกายมุ่งหน้าเข้าสู่ใจกลางสวนสมุนไพร
***จบตอน สถานที่ปลอดอันตรายอย่างที่สุด ?***