หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 334 ขอบใจ
หัตถ์เทวะธิดาพญายม
ตอนที่ 334 ขอบใจ
ความสํานึกละอายแก่ใจของมู่หรงจางฟงพลันถูกลบเลือนไปด้วยความอํามหิตเห็นแก่ตัวของมันเอง “เจ้ามันไม่คู่ควรเป็นลูกหลานสกุลมู่หรง
มารดาของเจ้ามิได้มีฐานะใด หากเป็นแค่เพียงอนุผู้หนึ่ง ส่วนตัวเจ้าก็มิได้มีฐานะใด หากเป็นแค่เพียงบุตรนอกคอกผู้หนึ่งเท่านั้น พวกเราเป็นผู้ชุบเลี้ยงเจ้ามา เราจะทุบตีเจ้าบ้างจะเป็นไร เพียงสั่งสอนเด็กไร้มารยาทไม่รู้ความผู้หนึ่งจะนับว่าผิดแปลกที่ใด ?”
“หากเจ้ารู้สิ่งอันพึงกระทําก็จงเร่งมอบโอสถถอนพิษมาให้ข้า หาไม่ เมื่อข้ากลับไป ข้าจะถอดถอนชื่อของเจ้าออกจากรายนามสกุลมู่หรง เมื่อนั้นหนทางเลือกของเจ้าจะมีเพียงหนึ่งคือสิ้นใจตายในสภาพวิญญาณร่อนเร่ไร้ญาติ!”
กู้หลิวเฟิ่งระเบิดเสียงหัวเราะลั่นก่อนจะหันมาจ้องมู่หรงจางฟงเขม็ง “ที่ข้าสํานึกเสียใจอย่างที่สุดนั้นคือการต้องถือกําเนิดในสกุลมู่หรง หากเจ้าจะช่วยถอดถอนชื่อของข้าจากรายชื่อสกุลได้ ข้าจะซาบซึ้งน้ําใจอย่างยิ่ง! เสียดาย เจ้าจะกลับคืนเรือนมู่หรงได้หรือไม่นั้นจําต้องมีชีวิตรอดพ้นวันนี้ให้ได้เสียก่อน พูดนั้นย่อมง่ายหากทว่าจะทําให้ได้ดังที่กล่าวเห็นจะยากเย็น”
“ข้าอยากจะฆ่าเจ้า ทว่าข้ายังไม่อยากให้เจ้าตายง่ายดายเกินไป ข้าจะให้เจ้าได้สัมผัสกับความเจ็บปวดทรมานที่กัดกินเจ้าทีละน้อยๆ กระทั่งถึงความสิ้นหวังขาดใจในที่สุด หากจะเปรียบกับความตายด้วยคมกระบี่ สิ่งนี้ล้วนน่าสนุกกว่ากันหลายเท่านัก”
ครั้นเมื่อสายตาของเขาเหลือบมาเห็นแววตาของกู้หลิวเฟิ่ง ทั้งร่างของเขาพลันสั่นเทา ยามนี้เขาไม่เหลือความหวังจะขอความช่วยเหลือจากกู้หลิวเฟิ่งอีกต่อไป เพียงความหวังเดียวที่หลงเหลืออยู่คือเกอซี เขารีบคุกเข่าโขกศีรษะครั้งแล้วครั้งเล่าพลางร่ําร้อง “ท่านหมอซียอดอัจฉริยะ ขอท่านอย่าได้ใส่ใจวาจาไร้สาระของเดรัจฉานไร้ยางอายตัวนั้น หากท่านช่วยชีวิตข้า ตระกูลมู่หรงพร้อมจะมอบทรัพย์สินให้ท่านถึงสามส่วนเพื่อทดแทน !”
เกอซียกยิ้มอ่อนบางพลางควักขวดโอสถออกมาจากแขนเสื้อ ใบหน้าของมู่หรงจางฟงพลันเอิบอาบไปด้วยความชื่นบานสองตาของเขาจ้องเขม็งอยู่กับขวดโอสถใบนั้น ที่สุดเขาก็สามารถโน้มน้าวจิตใจของแพทย์เทวะผู้นี้ได้
หากทว่าเกอซีกลับหันมาโยนขวดโอสถส่งให้กู้หลิวเฟิ่งพร้อมคํากล่าวกลั้วเสียงหัวเราะน้อยๆ “ขวดใบนั้นบรรจุโอสถสมุนไพร กับทั้งพิษโลหิตหลั่งสําราญ เมื่อใดที่มันผสมรวมตัวกัน จะเกิดปรากฏการณ์อันน่าตื่นตา หากเจ้าอยากเห็นมันผู้นั้นทรมานยิ่งไปกว่านี้ ก็จงโปรยโอสถนั้นบนร่างของมันเสีย
“เจ้า เจ้ามัน !!” มู่หรงจางฟงไม่คาดคิดว่าตนจะ ต้องเผชิญหน้ากับเสี้ยวนาทีสุดท้าย หัวใจที่เคยเปี่ยมล้นไปด้วยความหวังกลับกลายได้รับผลลงเอยอย่างไม่คาดคิด
ใบหน้าที่น่าตื่นผวา เนื่องเพราะรอยแผลเป็นสายนั้นพลันเผยรอยยิ้มอย่างจริงใจขณะชายหนุ่มรับขวดโอสถนั้นไว้
เขาย่างสามขุมตรงเข้าหามู่หรงฉางฟง และยังมิทันที่อีกฝ่ายจะอ้าปากใส่ความสิ่งใด ชายหนุ่มก็ทําการโปรยผงโอสถรดลงบนร่างของมันผู้นั้นรวมถึงร่างของมู่หรงฮ่ายผู้ยังคงหลับใหลไม่ได้สติ
เสี้ยวนาทีนั้นเองทั่วสวนสมุนไพรพลันปรากฏเพียงเสียง “อ๊าคคคคคค” ที่ดังก้องสนั่นสั่นสะเทือนสวรรค์ บาดรูหูทุกผู้คนราวแก้วหูจะระเบิด
ผลที่ติดตามมานั้นคือ มู่หรงจางฟงกับทั้งมู่หรงฮ่ายผู้อยู่ในสภาพสิ้นสติแต่เดิมพลันลุกขึ้นมากลิ้งเกลือกคลุกกับพื้นด้วยความทรมาน พวกมันทั้งคู่ส่งเสียงร้องโหยหวนไม่หยุดหย่อน ขณะสายโลหิตสีคล้ําบางไหลซึมออกมาจากร่าง
เสียงร่ําร้องแห่งความทุกข์ทรมานดําเนินไปยาวนานสิ้นช่วงเผาก้านธูป ธารโลหิตสีดําคล้ําจึงกลืนกินร่างบุรุษทั้งสอง หลอมละลายพวกมันทั้งคู่ได้อย่างสมบูรณ์
กู้หลิวเฟิ่งยกขวดโอสถขวดนั้นขึ้นอีกครา เขาราดรดพิษโลหิตหลั่งสําราญลงบนกองโลหิตหย่อมน้อย
เพียงไม่นาน บ่อโลหิตกลุ่มนั้นพลันส่งเสียงดัง “ซีซี่” ก่อนจะระเหยกลายเป็นไอและสูญสลายไปในที่สุด ใบหน้าที่ดูร้ายเหี้ยมโหดของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ระคนทั้งเศร้าสลด และเคียดแค้นอย่างไม่อาจคลาดสายตา
ครั้นเมื่อเขาหันมาพบกับแววตาที่ดําขลับกระจ่างใสบนดวงหน้าที่งดงามอย่างหาใดเปรียบของหนุ่มน้อยผู้นั้น กู้หลิวเฟิ่งพลันรู้สึกราวกับก้อนศิลาหนักอึ้งที่เคยทับถมหัวใจของเขามาเนิ่นนานหลายสิบปี พลันถูกขยับให้เคลื่อนออกไปได้เล็กน้อย
ชายหนุ่มก้าวขยับฝ่าเท้าเข้าหาพร้อมสายตาล้ําลึกที่จดจําจ้องอยู่กับเกอซี “เกอซี ขอบใจเจ้ามาก ข้า…”
นางยกมือขึ้นทั้งยังกล่าวแทรกวาจาของเขา “เจ้าเป็นผู้กล่าวว่า คําขอบใจไม่จําเป็นสําหรับสหายมิใช่หรือ?”
กู้หลิวเฟิ่งนิ่งค้าง ปลายขนตายาวสั่นระริกเล็กน้อย แม้รอยแผลเป็นสีแดงสดบนดวงหน้าจะส่งให้ดวงหน้านั้นน่าตื่นผวาหวาดกลัว หากทว่ามุมปากทั้งสองของชายหนุ่มกลับปรากฏรอยยิ้มน้อยๆที่แสนอ่อนโยน
*-*-*จบตอน ขอบใจ***