หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 354 สนองคืนเท่าทวี
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 354 สนองคืนเท่าทวี
เมื่อได้เห็นร่างของคนทั้งสามเลือนสลายไป มังกรทองตัวน้อยผู้อยู่ข้างกายเกอซีจึงกล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงหม่นมัว “น่าเสียดาย หากจังหวะยั้งหยุดในช่วงส่งต่ออํานาจการควบคุมอาณาจักรกําบังยาวนานกว่านี้อีกสักนิด เจ้าพวกนั้นคงได้ถูกสัตว์อสูรฉีกร่างกระจุยไปแล้ว”
หากทว่าความคิดนั้นตรงข้ามกับเกอซีผู้นิ่งเฉยไร้อาการตอบสนอง นางยังคงยืนชื่นชมผลงานการปล้นทรัพย์ที่ยอดเยี่ยมของตนในครานี้ นางกล่าวด้วยน้ําเสียงแผ่วเบา “เฟงอวิ่นจึงมีพลังฝีมือขั้น 5 ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณ แม้หากถึงคราวเจียนตัว สัตว์อสูรพวกนั้นล้วนไม่อาจทําร้ายเขาได้ ทั้งความจริง อาจเป็นได้ที่อาณาจักรกําบังแห่งนี้จะกลับกลายเป็นฝ่ายล่มสลายลงเสียด้วยซ้ํา”
“เจ้าไม่เห็นความเย็นชาที่แฝงอยู่ในแววตาของเนียจินเฉินกระนั้นหรือ ? เห็นที่เขาจะไม่มีใจสวามิภักดิ์เทิดทูนเทพธิดาบัวเผือกแข็งของเขาอีกแล้วกระมัง”
“ทั้งเรื่องน่าขายหน้าของเฟิ่งเหลียนอิ่ง ย่อมต้องกลายเป็นที่โจษจันไปทั่วอย่างแน่นอน หึหึหึ…”
ภายในห้องควบคุมเขตแดนมังกรแห่งนี้ เกอซีหาได้มีความสามารถในการควบคุมเฉพาะสิ่งที่ปรากฏอยู่ภายใต้อาณาจักรกําบังเท่านั้น นางยังสามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยรอบในระยะสิบลี้ได้อย่างชัดเจนเช่นกัน หากจะกล่าวอีกนัยยะหนึ่ง นั่นคือ หากนางยังไม่ออกจากอาณาจักรกําบังแห่งนี้ นางย่อมสามารถควบคุมทุกสิ่งภายใต้อาณาบริเวณแห่งเทือกเขาฉางทั้งหมดเช่นกัน
และด้วยเหตุนั้น แม้เฟิ่งเหลียนอิ่งกับทั้งเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายจะถูกเขียออกจากอาณาจักรกําบังไปแล้ว หญิงสาวย่อมยังคงเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
มุมปากของเกอซียกขึ้นแสดงรอยยิ้มที่ไร้ความไยดี นางโบกมือ สมบัติวิเศษทั้งหลายที่เพิ่งกอบโกยมาได้เมื่อครู่พลันถูกส่งกลับเข้าสู่มิติเวท สุ่มเสียงของนางกล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจ “เฟิ่งเหลียนอิ่งผู้นี้คือดอกบัวขาวที่โหดร้ายเลือดเย็นอย่างยิ่ง คราแรกนางลงมือทําร้ายข้ากับต้านต้าน จากนั้นยังพยายามสร้างเรื่องใส่ร้าย หมายลงมือเข่นฆ่าสังหารข้า จะให้นางสิ้นใจภายใต้กรงเล็บสัตว์อสูรง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร? จะไม่นับว่าง่ายดายเกินไปกระนั้นหรือ
“วางใจเถิดหลงหลง หญิงชั่วผู้นี้เป็นผู้ทําร้ายเจ้ากับต้านต้าน นางจะต้องชดใช้การกระทําในครานี้ทบคืนนับเท่าทวีอย่างแน่นอน”
สิ้นสุดคํากล่าวของเกอซี มังกรทองตัวน้อยพลันหยุดหงุดหงิดขึ้นมาในทันที
คนผู้นี้ควรค่าแก่การเป็นนายท่านของเขา แม้พลังฝีมือของคนผู้นี้จะกระจอกไปเสียหน่อย หากทว่าแรงใจมุมานะนับได้ว่าไร้ที่เปรียบ
หากเพียงคํากล่าวบางคําของเกอซีกลับทําให้เขารู้สึกอึดอัดขึ้นมา “อย่ามาเรียกข้าว่าหลงหลง ไม่เหมาะควรกับข้าสักนิด ข้าคือมังกรทองผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร จะมาเรียกขานข้าด้วยนามระคายหูราวลูกมังกรน้อยเช่นนั้นได้เยี่ยงไร?”
*หลงหลง แปลว่ามังกร มักเป็นการเรียกเด็กๆ คือการใช้ชื่อเล่น เรียกซ้ําสองครั้งเช่น หลิงหลิง ก้วยก้วย
เกอซีหัวเราะคิกคัก “ชื่อเล่นของเจ้านี้ต้านต้านเป็นผู้ตั้งให้ หากเจ้าอยากทัดทานก็ไปบอกต้านต้านโน่น! ทว่าข้าขอเตือนเจ้าเสียก่อนว่า หากเจ้าทําให้ต้านต้านของข้าเสียใจ เถาม่วงน้อยของข้าเห็นจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไว้เป็นแน่”
เถาม่วงน้อย ย่อมหมายถึงเถาวัลย์ม่วงอเวจี นับแต่เถาม่วงน้อยกับต้านต้านชวนกันไปเขมือบพฤกษาในสวนสมุนไพรเสียแทบเกลี้ยง สายสัมพันธ์ด้านรสนิยมการกินของทั้งคู่จึงรุดหน้าไปมาก
นับรวมกับที่ต้านต้านเฉลียวฉลาดไหวพริบดีโดดเด่น ทั้งยังว่านอนสอนง่าย ต้านต้านจะร้องเรียกหาท่านป้าเถาม่วงอยู่ทุกวี่ทุกวัน กระทั่งเถาวัลย์ม่วงปฏิบัติกับต้านต้านอย่างดี ยิ่งกว่านางซึ่งเป็นเจ้านายเสียอีก
สีหน้าของมังกรทองร่างน้อยสลดลงในทันที เขาหาได้หวั่นเกรงต่อต้านต้านไม่ หากแต่เมื่อนึกถึงเจ้าสุกรสีชมพูตัวน้อยที่แสนน่ารักต้องเสียใจน้ําตาร่วงเผาะ เขากลับรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทุกแผ่นเกล็ดบนร่าง ราวทั้งร่างสั่นกระตุกเหลือจะทานทน
เกอซีหาได้ใส่ใจเจ้าตัวน้อยผู้กําลังสับสนว้าวุ่นอยู่ในยามนี้ไม่ นางบ่ายหน้ามุ่งตรงไปยังห้องทางด้านบนที่ตนสะดุดใจ
ห้องลับแห่งนี้ย่อมไม่ถูกก่อสร้างขึ้นเพียงห้องเดียวอย่างแน่นอน สถานที่แห่งนี้เป็นเพียงชั้นใต้ดินในวังแห่งนี้เท่านั้น
เมื่อเกอซีได้รับอํานาจการควบคุมอาณาจักรกําบัง นางจึงมองหินเพดานห้องด้านบนได้อย่างแจ่มชัด ครั้นเมื่อนางแหงนเงยศีรษะขึ้นจึงได้เห็นความงดงามที่พร่างพรายสายตา
***จบตอน สนองคืนเท่าทวี *-*-*