หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 361 รวบรวมร่างศพ
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 361 รวบรวมร่างศพ
ทว่าภาพฉากเบื้องหน้าสายตากลับทําให้เขารู้สึกมึนงง
ไม่คาดคิด ไม่เพียงเกอซีจะใช้แท่งเข็มร้อยเย็บซากศพทั้งหมดให้กลับคืนเท่านั้น นางยังหันไปคว้าท่อนแขนท่อนขาที่กระจัดกระจาย แท่งเข็มในมือพลันโบกพริ้วฝีเข็มปักร้อยร่ายอย่างอ่อนช้อยเช่นเดิม เมื่อนางเริ่มประสานท่อนแขนท่อนขาทั้งหมดเข้าหาซากร่างผู้เป็นเจ้าของอีกครา
อู่ซินต้องยอมรับว่าท่วงท่าสีหน้า เมื่อยามกําลังจดจ่อกับฝีเข็มของสาวน้อยผู้นี้ช่างพิสุทธิ์งดงาม คงความศักดิ์สิทธิ์ประหนึ่งนางคือเทพธิดาบนสวรรค์ชั้นฟ้าผู้สามารถกําหนดความเป็นตายให้ผู้คนในใต้หล้า
ครั้นเมื่อเกอซีเย็บท่อนแขนท่อนขาของซีเจี้ยกลับคืนร่างเรียบร้อยแล้ว กลับสร้างความตื่นตะลึงใจให้ผู้ได้พบเห็น เนื่องเพราะนอกไปเสียจากรอยแผลเล็กน้อยบนร่างนั้น ย่อมไม่อาจมีผู้ใดล่วงรู้ได้ว่าร่างของคนผู้นี้เคยถูกนั่นแขนขาจนขาดสะบั้น
หากแต่ความเป็นจริงข้อนี้ล้วนมิอาจแปรเปลี่ยน สิ่งที่ต้องเผชิญนั้นโหดร้ายสั่นสะเทือนความรู้สึกกระทั่งน่าหลานเกอซียังแทบล้มพับหมดสติ
คนธรรมดาสามัญทั่วไป มีหรือที่จะปฏิบัติต่อซากร่างศพที่แขนขาถูกสะบั้นขาดเยี่ยงนี้ จะมีผู้ใดตั้งใจช่วยเย็บประสานอวัยวะกลับคืนซากร่างให้อย่างปราณีตตั้งใจเช่นนี้
หากทว่า สิ่งที่น่าตื่นตระหนกยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เมื่อหญิงสาวเย็บร่างของซีเจียกลับคืนอย่างสมบูรณ์แบบ นางกลับยังไม่ยั้งหยุดร่างศพที่เหลืออีกถึงเก้า ถูกนํามากองรวมกันไว้ ณ มุมหนึ่ง ทั้งนางยังเริ่มปักแบ่งเข็มเงินลงบนจุดชีพจรต่าง ๆ ก่อนเริ่มลงฝีเข็มเย็บซากร่างที่ถูกฉีกกระจุยแหลกเป็นโพลงเข้าหากันอย่างตั้งใจ
ครั้นเมื่อนางเย็บเก็บรูโพรงบนร่างของคนทั้งเก้าเข้าหากันเรียบร้อยแล้ว อู่ซินจึงอดมิได้ที่จะก้าวเข้ามากล่าวด้วยน้ําเสียงอ่อนเบา “ พระชายา พวกเขาล้วนสิ้นใจไปแล้ว ท่านโปรดอย่าได้ทุกข์โศกอีกเลย โปรดยอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้นด้วยเถิด”
ฝีเข็มในมือของเกอซีกลับมิยอมชะงัก คงมีเพียงปลายขนตางอนงามคู่นั้นที่กระดูกยกขึ้นจ้องใบหน้าที่แสดงความงุนงงของอู่ซินสายตาที่เขาใช้จ้องมองนางแสดงออกอย่างชัดเจนว่าในยามนี้ นางเสมือนผู้เสียสติที่มิอาจควบคุมความรู้สึก และการกระทําของตนได้อีก
ทว่าเกอซีกลับมิได้แยแส ครั้นร่างศพทั้งหมดได้รับการเย็บประสานรอยแผลอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว หญิงสาวจึงนําหม้อปรุงโอสถจือจินออกมาจากมิติเวท
ในคราแรกที่หม้อโอสถจือจินถูกนําออกมา มันมีขนาดเพียงหนึ่งกําปั้น หากทว่าเพียงเมื่อสัมผัสผิวพื้น ขนาดของมันกลับขยายใหญ่โตยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ และเพียงชั่วพริบตา สิ่งนี้กลับกลายเป็นเตาหลอมปรุงยาขนาดใหญ่ซึ่งสามารถบรรจุผู้คนลงไปได้นับสิบ
เกอซีนําทิพย์ธาราออกมาจากในมิติเวท นางค่อย ๆ เทหยาดน้ําทิพย์ลงในเตาหลอมโอสถ กระทั่งปริมาณของน้ําสูงท่วมกว่าครึ่งการถ่ายเทน้ําจึงสิ้นสุดลง
นางใช้หางตามองไปยังอู่ซินผู้ยังยืนตะลึงงงพลางกล่าวอย่างเชื่องช้าชัดคํา “หากเจ้าว่างนัก ก็ขยับไปหลอมรวมปราณเพลิงเพิ่มความร้อนให้หม้อโอสถที่ด้านข้างโน่น”
อู่ซินตะลึงนิ่งค้างด้วยความงุนงง และแค่เพียงครู่ เขากลับเดือดดาลอย่างหนักด้วยความอัปยศอดสู
เขาคือยอดฝีมือระดับย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่ หากทว่าในยามนี้ ผู้ใดจะคาดคิดว่าสตรีร่างน้อยผู้นี้จะกล้าออกคําสั่งกับเขาราวกับเด็กรับใช้ตัวน้อย
ยังมีคนเหล่านั้นล้วนสิ้นลมหายใจไปเนิ่นนาน ร่างนั้นไม่บ่งชี้กระทั่งสัญญาณแห่งชีวิตหรือพลังชีวิตใดหลงเหลือ หากแต่หญิงผู้นี้กลับลุกขึ้นมาต่อร่างศพเหล่านั้นที่ละชิ้นทีละส่วน ที่สุดแล้วนางต้องการทําสิ่งใดกันแน่ ?
อู่ซินพยายามฝืนบังคับห้ามใจตนมิให้ลงฝ่ามือตบสตรีเบื้องหน้าเขากดน้ําเสียงกล่าวอย่างเย็นชา “พระชายา การที่ข้าเรียกท่านว่าพระชายาล้วนเพียงเพื่อไว้หน้านายท่าน ทางที่ดี ท่านจงอย่าได้คืบเอาศอก คนพวกนั้นล้วนสิ้นใจไปแล้ว ท่านจะให้ข้าต้องเตือนอีกสักกี่หน
ยังไม่ทันกล่าวจบ ปลายจมูกของเขาพลันห่อย่น นัยน์ตามีเพียงความเหลือเชื่อ ทั้งร่างนิ่งค้างตรงแข็งราวแท่งศิลา ไม่กล้าแม้จะขยับกระดิก สายตาอันตื่นตระหนกน้องนิ่งอยู่บนดวงหน้างดงามละเอียดเนียนของสาวน้อยผู้อยู่ด้านข้าง
ในอุ้งมือเรียวบางของเกอซีคล้ายจะเป็นกริช ทั้งคมกริชด้ามนี้ก็อาบประกายสีเขียวอมม่วงที่แปลกตา ทั้งมันยังปลดปล่อยอายพลังอันเย็นเยียบแผ่ซ่าน
และในยามนี้เอง กริชด้ามนั้นจรดนิ่งหนักแน่นอยู่บนลําคอของเขา ประหนึ่ง หากนางกดปลายกริชเล่มนั้นลงอีกแม้เพียงน้อย สะกิดผิวของเขาให้เกิดรอยแผล พิษร้ายย่อมสามารถแพร่กระจายเข้าสู่ร่างของเขาได้อย่างรวดเร็ว
เพียงคํา แตกตื่นใจ ล้วนไม่เพียงพอจะบรรยายความรู้สึกของอู่ซินในยามนี้ แม้เมื่อครู่ เขาจะไม่ทันระวังตัวมิได้ปลดปล่อยพลังคุ้มกันร่างตนก็ตามที หากทว่าการที่ผู้ฝึกยุทธฝีมือต่ำต้อยเพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์หมายจะจู่โจมเขาผู้ซึ่งมีพลังฝีมื่อถึงขั้นย้าย เคลื่อนจิตวิญญาณย่อมกล่าวได้ว่าเป็นเพียงภาพฝันเพ้อกลางวัน
หากแต่เมื่อครู่เขากลับไม่เห็นแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของนางไม่อาจเข้าใจได้ว่านางใช้กลวิธีใดในการกักเก็บลมหายใจ ซ่อนความเคลื่อนไหว ก่อนจะมาปรากฏกายเบื้องหน้าเขานี้
***จบตอน รวบรวมร่างศพ***