หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 364 แค้นข้าต้องสะสางด้วยมือตน !
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 364 แค้นข้าต้องสะสางด้วยมือตน !
โรงโอสถจีเชิง
! ทําได้ดีมาก ! โรงโอสถจีเชิง
ทั่วร่างของเกอซีพลันปลดปล่อยอายเย็นยะเยียบที่เหน็บหนาวประดุจแท่งน้ําแข็ง สองตาของนางมืดมนราวภูตปีศาจ
“พวกเจ้าอยู่พักฟื้นอาการให้ดี หากไม่มีคําสั่งจากข้าห้ามออกจากหม้อปรุงโอสถใบนี้” กล่าวจบ นางก็หมุนกายเดินผละไปอย่างไม่รอช้า
และแน่นอนว่าบนโต๊ะภายในห้องโถงใหญ่ มีกระดาษทิ้งไว้ต่างหน้าแผ่นหนึ่ง บนแผ่นกระดาษนั้น คืออักษรที่ขีดเขียนไว้ด้วยความยโส
ซีเยว่ หากเจ้าหมายจะช่วยแม่นางน้อย ก่อนยามจือ” ของวันนี้
จงมายังเขตตะวันออกของเมืองเหยียนจิงเพียงลําพังผู้เดียว เมื่อถึงที่นั่นจงมุ่งหน้าไปทางเหนืออีกสามลี้แล้วเจ้าจะถึงตัวอาคารหากเจ้าผิดนัดหรือนําคนจากตําหนักราชันมัจจุราชมาด้วยพวกเราจะถลกหนังแม่นางน้อยผู้นี้ออกเสีย
*ยามลื่อคือช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่มถึง ตี 1
ขอเตือนเจ้าไว้ก่อนว่า จงอย่าได้คิดทดสอบความอดทนของข้ามาให้ตรงตามเวลานัดหมาย !
เพียงอ่านข้อความในสารนั้นจบ กระดาษแผ่นบางพลันกลับกลายเป็นเถ้าถ่านร่วงกระจายลงบนแผ่นพื้น
ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว เมื่อดวงตะวันได้ลาลับขอบฟ้าไปเนิ่นนานแสงเงินแสงทองที่เคยพาดผ่านท้องนภาลับหาย ไม่เหลือกระทั่งร่อง รอยให้แลเห็น
เกอซีหันหลังมุ่งเดินออกไปจากห้องอย่างไม่ลังเล หากทว่าขยับได้เพียงสองก้าวอู่ซินกลับเข้ามายืนขวางอยู่เบื้องหน้า
“ พระชายา ผู้น้อยขออนุญาตติดตาม”
ก็แค่พวกตัวตลกน่าขันไม่กี่ตัวเท่านั้นมิใช่หรือ จะโรงโอสถจีเชิงหรือผู้ใดหน้าไหน หากเขาหมายใจจะสังหารล้วนง่ายดายราวพลิก ฝ่ามือ
ทว่าหญิงสาวกลับส่ายหน้าด้วยท่าที่เฉยชา “ไม่จําเป็นเจ้าอยู่คู่มกันที่นี่อย่าให้พวกซีเรี่ยได้รับอันตรายใดก็เพียงพอ”
เนื่องเพราะข้อความในสารฉบับนั้น กล่าวถึงตําหนักราชันมัจจุราชจึงเข้าใจได้ว่ากลุ่มคนพวกนี้ย่อมต้องคอยระแวดระวัง หากเกิดความผิดพลาดพวกมันย่อมต้องทําร้ายเซี่ยวหลี
เพื่อความปลอดภัยของเซี่ยวหลี นางย่อมไม่กล้าเสี่ยงแม้ความเป็นไปได้จะมีแค่เพียงหนึ่งในหมื่น
อู่ซินขมวดคิ้วเข้ม “ผู้น้อยได้รับมอบหมายให้มาคุ้มกันพระชายายิ่งในยามนี้ พวกมันกล้าบุกเข้าเรือนพระชายาเช่นนี้ล้วนแสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้ย่อมต้องมีฝีมือไม่ธรรมดา หากพระชายาเข้าถ้ําเสือแต่เพียงลําพังแล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ผู้น้อยจะกลับไปรายงานท่านอ๋องเช่นไร ?”
เกอซียกยิ้มเย้ยค่อย ๆ กล่าวคําอย่างเนิบช้า “ พวกมันทําร้ายคนของข้าสิ่งนี้ล้วนคือความแค้นของข้า น่าหลานเกอซี เมื่อเป็นความแค้นของข้าข้าย่อมต้องชําระหนี้แค้นนี้ด้วยตนเอง ยังมีการล้างแค้นต้องค่อยเป็นค่อยไปไม่จําเป็นต้องเร่งรีบ”
“ข้าจะให้พวกมันได้ตระหนักว่าคนเช่นไรที่พวกมันไม่ควรล่วงเกินหาไม่สิ่งที่พวกมันจะได้รับ คือผลตอบแทนอันน่าสยดสยอง”
กล่าวจบ หญิงสาวก็หันไปมองอู่ซิน น้ําเสียงของนางอ่อนโยนลง “เมื่อครู่ข้าต้องขอขอบใจที่เจ้าช่วยเสริมความร้อนให้หม้อปรุง โอสถยามนี้ข้าคงต้องไหว้วานเจ้าช่วยคุ้มครองเรือนเบี้ยแห่งนี้ด้วย”
ไม่ว่าจะอย่างไร คนผู้นี้คือยอดฝีมือระดับย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณผู้เก่งกล้าซึ่งสมควรปลดปล่อยกระแสปราณเพลิงของตน เพียงเพื่อต่อสู้ และปกป้องตนและพรรคพวกเท่านั้น หากทว่ายามนี้เขากลับใช้พลังปราณของตนเพื่อต้มน้ําโอสถ ไม่ว่าสิ่งที่เขากระทําจะด้วยเหตุเพราะคําสั่งบัญชาจากผู้ใด หากทว่าน้ําใจในครานี้ย่อมสมควรนับถือ
อู่ซินยืนนิ่งค้างอยู่กับที่ด้วยอาการงุนงง ไม่รู้จะวางตนเช่นไรไปชั่วขณะ
เมื่อครู่ พระชายากล่าวขอบคุณน้ําใจของเขากระนั้นหรือ ? )ยังไหว้วานให้เขาช่วยเหลืออีกกระนั้นหรือ ?
เห็นได้ชัดว่าพลังฝีมือของเกอซียังคงต่ําต้อย ทว่าเมื่อได้ยินคํากล่าวระรื่นหู ได้เห็นแววตาที่มุ่งมั่น ความสยบพ่ายแพ้ต่อผู้เป็นนายอย่างมิอาจหาถ้อยคําบรรยายพลันท่วมท้นขึ้นภายในใจของอู่ซิน
เดิมที่เขาตัดสินใจแน่วแน่ไม่ยอมให้พระชายาต้องสุ่มเสี่ยงทว่าภายใต้สายตาที่เย็นยะเยียบ ทว่ากลับกระจ่างใสประหนึ่งหมู่ดวงดาราคู่นั้นกลับทําให้เขาไม่อาจกล่าวปฏิเสธ
อู่ซินทอดถอนหายใจยาว ขณะพยายามปกปิดความลําบากใจระคนแปลกใจที่ซุกซ่อนภายใต้ดวงตาของตนไว้ เขาบ่นจึมงํากับตนเองอยู่ครู่หนึ่ง ที่สุดจึงควักแผ่นป้ายชิ้นหนึ่งจากธํามรงค์เวทส่งให้เกอซี “เช่นนั้นขอพระชายาโปรดรับป้ายหยกนี้ไว้ เมื่อถึงคราวเจียนตัวขอพระชายาโปรดหักป้ายหยกชิ้นนี้ มันสามารถป้องกัน แรงโจมตีของยอดฝีมือขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณได้ เมื่อใดที่แผ่นหยกแตกหักผู้น้อยจะรับรู้และจะรีบรุดตรงไปช่วยพระชายาก่อนใดอื่น”
เกอซีออกจะแปลกประหลาดใจเล็กน้อย นางยื่นมือออกรับป้ายหยกชิ้นนั้นพร้อมคํากล่าวที่จริงใจ “ขอบใจเจ้ามาก”
กล่าวจบ นางก็เบี่ยงกายหลบอู่ซินเหาะขึ้นกระบี่เหินเวหาผละจากเรือนเบี้ยไปอย่างไม่รอช้า
***จบตอน แค้นข้าต้องสะสางด้วยมือตน !* * *