หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 365 ไม่มีผู้ใดคิดหนีใช่หรือไม่ ?
หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 365 ไม่มีผู้ใดคิดหนีใช่หรือไม่ ?
แสงสุดท้ายเหนือแผ่นฟ้าจางหาย ค่ําคืนนี้ไร้แสงดาราและจันทรา ดินแดนหมีหลัวถูกปกคลุมด้วยความมืดสนิท
ยามนี้สองฝั่งทางเดินทุกตรอกซอกซอยในเมืองเหยียนจินล้วนสว่างไสวด้วยแสงประทีป ตลอดทางเดินถูกประดับด้วยเปลวไฟสีเหลืองที่ส่องนําทางยามค่ําคืน
เขตแดนฝั่งตะวันออกยามนี้เงียบสงัดไร้ผู้คน เนื่องเพราะสภาพบรรยากาศสลึมสลือ ร้านรวงทั้งหลายปิดการค้าขายตั้งแต่พลบค่ํา
ไม่เว้นกระทั่งโรงโอสถจีเชิง ยามนี้จิ๋นฮ่ายกําลังนั่งสั่งการเด็กรับใช้บนเก้าอี้นายใหญ่ “วางมือได้ แล้วไปปิดประตูร้านให้แน่นหนาได้ยินหรือไม่ ? หากมัวทําอืดอาดยืดยาด ข้าจะพาเจ้าไปพบบรรพบุรุษในปรโลกโน่น บิดาผู้นี้เชิญสวะไร้ค่าอย่างเจ้ามาทํางานในร้านได้อย่างไรกันนี่ ขายหน้าโรงโอสถจีเชิงของพวกเรายิ่งนัก”
เด็กรับใช้ผู้นั้นรีบรับคําก่อนจะรวบไม้กระดาน เพื่อเตรียมปิดบานประตูหน้าต่างให้แน่นหนา
ทว่าในขณะที่กําลังจะปิดบานประตู ขุมพลังอันยิ่งใหญ่พลันปะทุผ่านบานประตูไม้เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว เด็กรับใช้ผู้ต่ําต้อยเซถลาถอยไปสองก้าว แผ่นไม้ในมือร่วงหล่นแตกกระจาย คงได้ยินเพียงเสียงร้องโอดครวญด้วยความตื่นตระหนก
จิ๋นฮ่ายตกตะลึงงงงันไปกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นเช่นกัน เขารู้สึกตัวอีกครา เมื่อเรือนร่างบางที่คลุมเครือปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืดสลัวภายในร้านที่จุดประทีปส่องสว่างแค่เพียงเล็กน้อย
เด็กหนุ่มผู้นี้เห็นจะมีอายุราวสิบหก หรือสิบเจ็ดปีเท่านั้น อาภรณ์ที่สวมใส่ขาวสะอาดตาเฉกเช่นเหล่าชาวยุทธทั่วไป เรือนผมถูกรวบเกล้าขึ้นสูง เพื่อปักที่เสียบผมเรียบง่ายเผยดวงหน้างดงามไร้ตําหนิ
แน่ชัดว่าใบหน้าที่ปรากฏเบื้องหน้าพวกเขาในยามนี้ กล่าวได้ว่า คือความงดงามที่สามารถล่มสลายเมืองทั้งผองให้สิ้นสูญ เพียงทว่านัยน์ตาหงส์ของหนุ่มน้อยผู้นี้กลับบรรจุความเย็นยะเยียบเสียดกระดูกเมื่อได้แลเห็น
จิ๋นฮ่ายสะดุ้งโหยงจากเก้าอี้นายใหญ่ในทันที มันชี้นิ้วใส่หน้าหนุ่มน้อยผู้นั้นพลางโพล่งวาจาออกมา “ไอ้หนุ่ม มาทําอะไรตอนนี้ ? ไม่เห็นรีว่าพวกเรากําลังจะปิดร้าน? จะเรื่องใดก็ไว้กลับมาใหม่วันพรุ่งนี้โน่น!”
มันเบี่ยงสายตาหันกลับมามองเด็กรับใช้ที่ล้มกลิ้งเกลือกไม่เป็นท่าพร้อมไม้กระดาน ก่อนจะเคลื่อนย้ายสายตามาหยุดอยู่ที่เกอซี พลางชี้มือชี้ไม้ “ทว่าเมื่อครู่ เจ้าทําร้ายเด็กข้า เจ้าต้องชดใช้ค่ารักษามาหนึ่งร้อยหินผลึก หาไม่ก็จงอย่าหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน”
สีหน้าท่าทางของหนุ่มน้อยยังคงด้านชา ทว่าที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยคงเป็นรอยยิ้มเยาะที่เผยออกมา “คนทั้งหมดของจีเชิงอยู่ในนี้แล้วใช่หรือไม่ คงไม่มีผู้ใดแอบหลบหนีไปก่อนกระมัง ?”
จิ๋นฮ่ายผู้เดิมยังอยู่ในอาการตะลึงค้างเล็กน้อย พลันโกรธเกรี้ยวขึ้นในทันที “เจ้าหนุ่มหน้าเหม็น เห็นทีเจ้าคงเบื่อจะหายใจเสียแล้วกระมัง ? ไม่ได้ยินที่ข้าพูดรี ? ยังไม่รีบชดใช้ค่ารักษาร้อยหินผลึกมาอีกรี ? ไม่ชดใช้ค่าเสียหายทั้งยังคิดจะหาเรื่อง เจ้านี่มันไม่รู้จักแหกตาดูให้ชัดเสียบ้างว่าที่นี่คือที่ใด !”
กล่าวจบมันก็ใช้มือข้างที่ถือพัดหวายยื่นออกคว้าตัวเด็กหนุ่ม
ทว่ายังไม่ทันจะยุดชายอาภรณ์ของหนุ่มน้อยผู้นั้น ที่ข้อมือพลันรู้สึกเจ็บแปลบอย่างประหลาด
จิ๋นฮ่ายตกตะลึงค้างไปครู่หนึ่งอีกครา กว่ามันจะรู้สึกตัวก็เมื่อโลหิตมากมายพรั่งพรูออกจากแนวข้อมือ และแค่เพียงไม่นาน อุ้งมือทั้งสองของมันกลับร่วงหล่นลงบนแผ่นพื้น
แท้จริง.อุ้งมือทั้งสองล้วนถูกตัดให้ขาดสะบั้นออกในเวลาเดียวกันอย่างแท้จริง !!
สองตาของมันตื่นตกใจ “อ๊ากกกกก” เสียงแหกปากร้องโหยหวนดังขึ้นในทันที
ทว่ายังไม่ทันที่เสียงของมันผู้นั้นจะก้องกังวานไปทั่วตรอกน้อยอันเงียบสงบ เถาวัลย์สีม่วงสายหนึ่งพลันตรงเข้ารัดรอบลําคอ มันบีบเค้นรัดแน่นไม่อนุญาตให้จิ๋นฮายปลดเปล่อยน้ําเสียงใดออกมา
เด็กรับใช้ผู้กอดแผ่นไม้แตกตื่นตกใจหวาดกลัว กระทั่งทําสิ่งใดไม่ถูกไปนานแล้ว ทั่วร่างของเขาสั่นสะท้าน เสียงฟันกระทบกันดัง กึก กึก
ชั่วเวลาแค่เพียง 1 เค่อ” เปลือกตาทั้งสองของเด็กรับใช้ผู้นั้น พลันปิดสนิทพร้อมร่างที่หมดสติร่วงฟุบลงกับพื้น
*1 เค่อคือ 15 นาที
เด็กหนุ่มผู้คล้ายจะแบกความแค้นฝังลึกกับคนในโรงโอสถจีเชิงมายาวนานผู้นี้คือเกอซี นางทําให้เด็กรับใช้ผู้นั้นหมดสติไปก่อน จากนั้นจึงรวบแผ่นไม้ขึ้นใช้ปิดทางเข้าอออกของร้าน
***จบตอน ไม่มีผู้ใดคิดหนี้ใช่หรือไม่ ?***