องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1126
โจรหมิงขี่บนหลังม้า จากที่สูงสู้กับที่ต่ำ อาศัยกำลังม้าปะทะ ย่อมไร้แรงต้านทาน ปืนโจรหมิงอานุภาพรุนแรง ยิงได้ไกล ยิ่งไม่อาจต้านทาน แต่บรรดาซามูไรกรำศึกมาสองร้อยปี ย่อมไม่ด้อยเรื่องการรบด้วยดาบปะทะกันระยะประชิด ย่อมต้องการใช้เลือดโจรหมิงมาล้างความอับอายตนและการพ่ายศึกก่อนหน้าของพวกตน
บรรดาซามูไรสวมเกราะประจำตระกูล กวัดแกว่งดาบยาวกับทวนยาวที่ตีอย่างประณีต ตะโกนดังบุกเข้าด้านหน้าสุด กองกำลังหมิงตรงข้ามราวกับไม่ตื่นกลัวแต่อย่างใด ยังคงรักษาความเร็วบุกหน้าเหมือนเดิม
ซามูไรวัวโค่วกับทหารราบที่รุกขึ้นหน้าล้วนอยู่ ๆ รู้สึกว่าที่ตนเองเผชิญหน้าอยู่นั้นไม่ใช่ทหารชาวฮั่นถืออาวุธคนเดียว แต่เป็นหนึ่งเดียว กองรบสัตว์ประหลาดที่ประกอบด้วยทหารหลายร้อยพัน สัตว์ร้ายที่สามารถกลืนกินกระดูกคนเข้าไปอย่างไม่เหลือ
แต่ละคนยืนชิดติดกันมาก ทวนยาวหนาแน่นแทงออกมาด้านหน้า ใต้แสงอาทิตย์ คมทวนยาวสะท้อนแสงวิบวับ บุกเข้าไปแล้วทำอย่างไร เหมือนว่าไม่ว่ามุมใด ล้วนต้องปะทะกับทวนยาวหลายสิบของศัตรู ไม่อาจหลบได้พ้น แต่ตอนนี้ไม่บุก ก็คงถูกเพื่อนทหารด้านหลังสังหารหรือเหยียบตายแทน
กองกำลังหมิงร่วมเดินลุยหน้าไปด้วยความเร็วพร้อมกัน เสียงกลองเป็นจังหวะและตีได้นิ่งก็เริ่มเปลี่ยนไป ทำให้คนจิตใจเริ่มวุ่นวาย
บุกหน้ามาได้กลางทาง คิดจะหยุดก็ยากยิ่ง ถูกคนด้านหลังผลักให้เดินหน้าไม่หยุด ได้แต่ปะทะเข้ากับแถวทวนยาวกองกำลังหมิง ถูกทวนยาวแทงตาย
อย่างไรทหารโจรวัวโค่วก็คนมาก ถูกสามกองกำลังล้อมไว้อย่างรวดเร็ว ด้านหน้าอาจโจมตีไม่เข้า แต่ปีกข้างเล่า แต่ด้านหลังเล่า?
ปืนไฟดังขึ้นอีกรอบ รอบนอกแถวทวนยาวมีพลปืนไฟวิ่งยิงอยู่ พวกเขามีกองกำลังทวนยาวเป็นกำบัง ยิงไปเรื่อยๆ
ซามูไรกับทหารราบไม่สามารถหาทางทะลายแนวป้องกันทวนยาวได้ ปืนไฟที่ยิงมาจากแต่ละที่ก็ยิ่งป้องกันไม่ได้ บุกมาหน้าสุด สังหารไปรอบสองรอบ มีซามูไรคิดสู้ตายกับทวนยาว ใช้ชีวิตตนเองเปิดทางให้เพื่อนทหารด้านหลังได้โจมตี มีคนตายภายใต้คมทวนยาว มีคนคิดจะฟันพลทวนยาว แต่ปืนไฟก็ยิงมาทันที
เพราะอย่างไรก็ถูกล้อมไว้ พื้นที่เคลื่อนไหวของพลปืนไฟจึงแคบมาก ไม่อาจทำได้เต็มที่ มีซามูไรบางคนเปิดช่องแถวทวนยาวได้สำเร็จ ดูเหมือนว่าจะทะลุเข้ามาได้
หัวหน้าแถวกองกำลังหู่เวยถือทวนขวานยักษ์พุ่งออกมาในช่องว่างนั้นทันที พวกเขาสวมเกราะทั้งตัว มือถือทวนขวานใช้ฟันทุบทำลาย โจรวัวโค่วทวนยาวกับดาบยาวตรงหน้า ไม่อาจมีวิธีรับมือได้ ได้แต่แทงไปไม่ก็ฟันไป พวกเขามีเครื่องป้องกัน ดาบทวนโจรวัวโค่วหากไม่แทงเข้าตามร่องก็ยากจะทำร้ายให้บาดเจ็บได้ ทวนขวานในมือพวกเขา เกราะโจรวัวโค่วกลับยากจะต้านทานอยู่
บนสนามรบเคร่งเครียดเช่นนี้ แต่ละคนล้วนตื่นตระหนก จะมีโอกาสเสแสร้งเล่นลูกไม้หลอกได้อย่างไร ได้แต่ใช้แรงกำลังทั้งหมดทุ่มเข้าสังหารอีกฝ่ายอย่างเต็มกำลังเท่านั้น สามารถสังหารคนตายกับโอกาสตัดสินแพ้ชนะเป็นเรื่องเดียวกัน หากการเคลื่อนไหวนี้ โจรวัวโค่วไม่มีผู้ชนะ
แถวทวนยาวก้าวไปไม่หยุด ในพวกเขาก็มีบาดเจ็บล้มตาย โจรวัวโค่วไม่อาจสนใจอันใด โยนทวนยาวในมือทิ้ง ทหารราบถูกคนผลักใส่ทวนยาว คนด้านหลังยังคงทะลักขึ้นมาก พลทวนยาวกองกำลังหู่เวยเองมีเกราะป้องกัน แต่เริ่มปรากฏมีทหารบาดเจ็บล้มตายแล้ว
แต่วินัยก็คือวินัย บุก บุก เข้าที่มั่นกลางศัตรู คนหนึ่งล้มลง อีกคนก็ย่อมเข้าแทนตำแหน่ง ปืนไฟของพลปืนไฟหมดไฟ ไม่ก็กระสุนตกไปตอนวิ่งไปมา รีบใช้ปืนไฟเป็นดังท่อนเหล็กแทน ไม่ก็ควักดาบสั้นของตนออกมาขึ้นหน้าสังหารตัวต่อตัว
ทัพใหญ่โจรวัวโค่วทุ่มกำลังเข้าสู่สนามรบ ดำทะมึนไปทั้งแถบ แต่ละกองแบกธงสีต่างกัน กรูกันออกมาสังหารราวกับระลอกคลื่นทะเล แต่ทวนยาวกองกำลังหู่เวยก็เหมือนกับหินโสโครกใต้ทะเล ไม่ว่าคลื่นใหญ่เพียงใด ปะทะหินโสโครกก็ต้องแตกกระจาย
สามหน่วยยังคงเดินหน้าช้าๆ ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคงยิ่ง โจรวัวโค่วที่ออกมารับศึกล้มลงทีละแถบ
พวกที่กล้าหาญที่สุดมักอยู่หน้าสุด พอพวกเขาตายไป พวกด้านหลังย่อมไม่มีใจหยัดยืนต่อ คนยิ่งอยู่หลังก็ยิ่งย่ำแย่
ทหารใหม่กองกำลังหู่เวยเดิมยังหวาดกลัว เบื้องหน้ากางเขี้ยวเล็บข่มขู่ โจรวัวโค่วหน้าตาบิดเบี้ยว พวกเขากวัดแกว่งทวนและดาบท่าทางดุร้ายมาก มีเสียงเพื่อนทหารร้องโหยหวนล้มลงตลอดเวลา เลือดเนื้อของเพื่อนทหารราดรดบนกายตน นักรบศัตรูยังคงกวัดแกว่งอาวุธเข้าปะทะกันอย่างไม่หวั่นเกรง พลปืนไฟด้านหน้าวิ่งไปมาไม่หยุด พวกเขาเข้าใกล้ศัตรูมากกว่า พลตีกลองยังคงตีกลองจังหวะไม่ช้าไม่เร็ว พลยกธงข้างหัวหน้ากองตีกลองก็ยังมีหน้าเด็ดเดี่ยว ธงยังคงโบกสะลัด พวกเขาค่อยๆ ตั้งสติมั่น ตามการฝึกปกติ เข้าสังหารไปทีละก้าว ไม่ก็ก้าวขึ้นหน้ารอศัตรูเข้าปะทะ
ตอนเริ่มพลทวนยาวตะโกนดังติดๆ กัน แต่ละคนล้วนคำรามโมโหเพื่อให้ตนมีกำลังใจฮึกเหิม ราวกับเสียงตะโกนยิ่งดัง ก็ยิ่งทำให้ตนเองคลายความอ่อนแอหวาดกลัวในใจลงได้
เดินหน้าต่อไม่หยุด ทหารกองกำลังหู่เวยเงียบลง ก็แค่สังหารศัตรูเท่านั้น มีคนรู้สึกไม่เห็นมีอันใด มีคนรู้สึกสะใจยิ่ง ไม่ว่าฝึกซ้อมตรากตรำเพียงใด ล้วนไม่อาจเทียบได้กับกลิ่นคาวเลือดและความตายตรงหน้า ทหารที่ผ่านเรื่องพวกนี้ไปแล้ว ก็จะได้เป็นนักรบที่แท้จริง
อย่างไม่รู้ตัว สามหน่วยกองกำลังหู่เวยยิ่งเร่งความเร็วเดินหน้า เพราะหลังจากเริ่มฮึกเหิมแล้ว โจรวัวโค่วก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้กองกำลังที่ราวกับเม่นเหล็กนี้อีก กองกำลังนี้ยังมีลูกไฟยิงออกมาตลอด หากเข้าใกล้ก็คงมีจุดจบแค่ความตาย
พื้นที่รอบๆ ยิ่งเปิดกว้าง ยิ่งไร้ผู้คน โจรวัวโค่วไม่ว่าเป็นซามูไรหรือเป็นทหารราบล้วนไม่กล้าขึ้นหน้า มีซามูไรฮาตาโมโตะกับนักรบขี่ม้ามากวดขันสนามรบเป็นระยะ มีแต่ฟันสังหารและแส้โบยจึงจะทำให้พวกเขาเดินหน้าได้ แต่พอเดินหน้าไปแล้ว จุดจบก็ยังคงเป็นความตาย
การต่อสู้เช่นนี้ สำหรับทุกคนในกองกำลังหู่เวยแล้วเป็นเรื่องที่ไม่แปลก แต่สำหรับทหารม้าต้าถงกับทหารราบจากเมืองชายแดนที่อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมมาตลอด แต่ยังไม่ได้ออกรบสักครั้งแล้ว ตอนนี้ถึงกับเริ่มตื่นเต้นอย่างมาก ถึงกับเรียกได้ว่าจิตใจเริ่มสั่นไหวตื่นเต้นอย่างมาก
ในสายตาพวกเขา ทหารราบกองกำลังหู่เวยห้าพัน ก้าวไปทีละก้าวตีศัตรูที่ได้เปรียบกระจุย และยังก้าวต่อไปเข้าสู่วงล้อม เห็นอยู่ว่าทะลุเข้าไปกลางหมู่ศัตรูแล้ว ใช้น้อยสู้มาก และในการเคลื่อนไหว ข้อได้เปรียบเรื่องปืนน้อยลงไปมาก ยังมีกำลังใจต่อสู้มากเช่นนี้ ช่างไม่น่าเชื่อ
สถานการณ์เช่นนี้ได้แต่ใช้เหตุผลมาอธิบาย ก็คือกองกำลังหู่เวยเป็นกองกำลังแข็งแกร่งแห่งใต้หล้า!
มองดูสถานการณ์รบในตอนนี้ ทหารราบชายแดนกับทหารม้าต้าถงล้วนดูกันจนเลือดในกายเดือดพล่าน ความองอาจกล้าหาญเพิ่มทวี รองแม่ทัพต้าถงหมากุ้ยอดไม่ได้ขี่ม้ามาด้านหน้าหลี่หู่โถว เอ่ยขึ้นขอออกศึกว่า
“ใต้เท้า พี่น้องกองกำลังหลวงเข้าปะทะตัวตัวกับโจรวัวโค่วแล้ว พวกข้าน้อยก็ไม่อาจยืนรอดูเฉยได้ ขอใต้เท้าออกคำสั่ง ให้พวกข้าน้อยได้ออกไปล้างเลือดบ้าง ได้ความชอบบ้าง”
หลี่หู่โถวมองเขาแวบหนึ่ง ยิ้มส่ายหน้ากล่าวว่า
“พี่น้องจากชายแดนเราวันนี้ยังคงต้องอยู่ที่นี่ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ตอนนี้ภาพรวมราบรื่น ไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนออกไปสังหารให้เหนื่อย!”
จากนั้นวาจากล่าวออกมาอย่างไร้เหตุไร้ผลดื้อๆ หลี่หู่โถวอยู่ๆ ตะโกนดัง
“ถ่ายทอดคำสั่ง! กองหนึ่ง กองห้า กองหก หยุดรบ พลปืนไฟตั้งแถวยิง แล้วรีบถอย ใต้เท้าหมากุ้ย ขอท่านนำทหารม้าช่วยตัดตอนกองกำลังหลวงกลับ!”
“ใต้เท้า สถานการณ์ดีมาก ไยต้องถอย เรื่องนี้…”
หมากุ้ยขอออกศึกอย่างมุ่งมั่น กลับได้ยินเช่นนี้ ไม่สนใจตำแหน่งใหญ่หรือเล็กกว่า หลุดปากถามขึ้น พอเห็นสีหน้ายิ้มของหลี่หู่โถว ก็รู้ว่าเรื่องไม่ง่ายเช่นนั้น จึงพยักหน้า ตะโกนดัง เตรียมนำกำลังออกไปตัดตอนกลับ
ทางกองกำลังหมิงดูกันอย่างออกรสตื่นเต้น แต่ทางโจรวัวโค่วกลับลนลานสิ้นหวัง คนของตนมากกว่ากองกำลังหมิงมาก แต่กลับถูกกองกำลังหมิงรุกให้ถอยมาเรื่อยๆ โคนิชิ ยูกินากะกับคุโรดะ นากามาสะตอนเริ่มยังให้ซามูไรฮาตาโมโตะเตรียมม้าให้ดี แต่สุดท้ายล้วนจับอาวุธ สถานการณ์ตอนนี้ หนีจะหนีไปไหน ไม่สู้สู้ตายดีกว่า นับว่าสมกับชื่อซามูไร
แต่ในตอนนี้เอง กองกำลังหมิงดูเหมือนว่าอยู่ ๆ จะหยุดเดินหน้ากะทันหัน สนามรบวุ่นวายถึงกับเงียบไปช่วงสั้น ๆ มีหลายครั้งไม่ได้รุกหน้ากันมาหนาแน่นเช่นเดิม กองกำลังหมิงหลายพันอยู่ ๆ วิ่งกลับไป ไม่ว่าฝึกมาดีแค่ไหน แต่การสวมเกราะถือทวนยาววิ่ง ยังมีพื้นดินที่ไม่ได้เรียบทั้งหมด คิดจะรักษาแถวขณะวิ่งให้เรียบร้อยนับว่าไม่ง่าย เห็นชัดว่าเริ่มไม่เป็นระเบียบ
ทหารโจรวัวโค่วที่ใกล้แตกกระเจิงล้วนอึ้งมาก กองกำลังหมิงตรงหน้านี้เหมือนว่าเริ่มวุ่นวาย หากไล่ตี เหมือนว่าสามารถได้เปรียบ
แต่ทว่าทหารม้ากองกำลังหมิงที่เอาแต่นิ่งเงียบตอนนี้ออกมาแล้ว การป้องกันทัพใหญ่ทำให้พวกเขาไม่ได้มีโอกาสออกรบ สภาพตอนนี้ทำให้พวกวัวโค่วรู้สึกงงมาก
โจรวัวโค่วแต่ละกองรบที่เมื่อครู่ถูกตีกระเจิงถอยไป ระหว่างไล่โจมตีแตกกระจัดกระจาย ตอนนี้ได้แต่เร่งจัดการระเบียบกองกำลัง คิดพักหายใจ ไม่เช่นนั้นคงได้แตกสลายพ่ายแพ้เป็นแน่แล้ว
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
โคนิชิ ยูกินากะกับคุโรดะ นากามาสะเป็นนับรบออกรบมานาน แม้ว่าไม่เคยได้เก่งกล้านำรบราวเทพ แต่ก็ไม่ได้ระงับตัวเพราะการเปลี่ยนแปลงกะทันหันบนสนามรบเช่นนี้
“มัทซูอูระ เจ้านำกำลังสองพัน ทหารม้าห้าร้อย มุ่งหน้าไปโจมตีกองกำลังหมิงทัพกลาง!”
โคนิชิ ยูกินากะออกคำสั่งอย่างเร็ว กองกำลังที่เตรียมเป็นกองหนุนหลังมาตลอด นับว่าเป็นกำลังเก่งกล้า ได้ยินคำสั่งนี้ก็เริ่มเดินหน้าบุก กองกำลังหมิงอยู่ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้พวกเขามีความกล้าขึ้นมาไม่น้อย
“ก็ไม่รู้ว่าการทำเช่นนี้ทำให้อีกฝ่ายมองออกหรือไม่ พวกโจรวัวโค่วรบไม่เอาไหน จะแกล้งแสดงอย่างไรก็ล้วนยุ่งยาก!”
หลี่หู่โถวหลังมีคำสั่งให้พาคนเจ็บไปดูแลแล้ว ก็พึมพำกับตนเองบนหลังม้า มองเห็นโจรวัวโค่วหลายพันเริ่มมุ่งมาทางนี้ หลี่หู่โถวออกคำสั่งอีกว่า
“ทหารเมืองชายแดนออกศึก ห้ามใช้ปืน อาวุธระยะไกลอนุญาตแค่ธนู!”