CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
หน้านิยาย
สล็อตเว็บตรง

องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1139

  1. Home
  2. องครักษ์เสื้อแพร
  3. ตอนที่ 1139
ตอนก่อน
หน้านิยาย

“…ปีรัชสมัยไท่ชางที่หนึ่ง ถึงปีรัชสมัยไท่ชางที่ห้า มีบันทึกกันไม่ธรรมดา ในยามที่จะเปลี่ยนฮ่องเต้ บรรยากาศหดหู่สิ้นหวังมักปกคลุมไปทั่วหมู่ราษฎร มีเรื่องไม่สงบสุขเป็นส่วนมาก บรรดาพวกมีอำนาจวาสนา ราษฎรสามัญไม่เศร้าสลดก็จะยินดีบ้าคลั่ง ทั้งสังคมล้วนตกใจภาวะผิดปกติ

แต่ทว่า ห้าปีมานี้กับเมื่อก่อนล้วนต่างกันมาก หวังทงได้แสดงให้โต้หล้าได้เห็นความสามารถตน เขาทำให้ใต้หล้าดีขึ้นเรื่อยๆ  คิดไปถึงว่ารอให้ทุกอย่างยิ่งเป็นระบบ ก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก

ด้วยการวิเคราะห์กับความคิดเช่นนี้ ในหมู่ประชาถึงกับทั้งสังคมทุกวงการ บรรยากาศล้วนผ่อนคลายมีความสุข  เรื่องนี้ได้เป็นที่ประจักษ์พบเห็นในผลงานต่างๆ…”

“วันที่ 5 เดือนสี่ ปีรัชสมัยไท่ชางที่สาม กลางดึกเที่ยงคืน อ๋องฉินใช้คำแหน่งนำก่อกบฏ ออกจากจวนอ๋องมาได้ถนนสองสายก็พ่ายกลับไป ผู้ก่อการรวมทั้งหมด 85 คน ล้วนเป็นคนงานรับใช้ในจวนอ๋อง…ก่อนก่อกบฏ อ๋องฉินเคยจ่ายเงินสี่พันสองร้อยตำลึงซื้อตัวขุนพลซีอาน จากนั้นไม่รู้เหตุใด ตอนเงินไปถึง เหลือแค่พันสองร้อยตำลึง…คนฟ้องอ๋องฉินก่อการ หนึ่งเป็นพระชายาอ๋องฉิน สองเป็นบุตรชายคนโตอ๋องฉิน…”

“อ๋องถังที่เหอหนานก่อกบฏ อ๋องถังใช้ชีวิตหรูหรา ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย จากนั้นเงินทองล่อใจ โจรกลับบุกเข้าปล้นสมบัติอ๋องถัง อ๋องถึงไม่รู้ทำเช่นไร ไปแจ้งขอทางการมาช่วย…”

“อันเล่อโหวถูกขุนนางชั่วชักนำ นำกองกำลังหลวง ขันทีเป็นกำลังหลัก คิดการไม่ซื่อ ฮ่องเต้ต้าหัวได้ยินเรื่องนี้ เข้าวังมาตำหนิอันเล่อโหว ถามว่า ‘ท่านต้องการกบฏ?’ ลือกันเหลวไหล เหลวไหลน่าขันโดยแท้”

***************

หลังหวังทงได้เป็นอ๋องจี้  นับเป็นอันดับหนึ่งใต้หล้า ทุกคนแม้ว่าไม่เคยเห็นมาก่อน แต่บันทึกประวัติศาสตร์มีกล่าวไว้กระจ่างไม่น้อย  ตามนี้ย่อมไม่มีผิดพลาด

ต้นปีรัชสมัยไท่ชาง มีขุนนางยื่นฎีกา ทูลให้โอรสสวรรค์ยอมรับบัญชาสวรรค์ สละบังลังก์ วาจานี้เหิมเกริมไร้คุณธรรม ฟ้าย่อมพิโรธ  อ๋องจี้ก็พิโรธ นายกองซานซีถูกปลดไปประจำเมืองชายแดนที่ต้าถง เป็นแค่นายอำเภอท้องถิ่น

สำหรับพวกที่คิดกล่าววาจาคุณธรรมใหญ่โตเพื่ออำนาจวาสนาแล้ว  นี่เป็นการเตือนทุกคนว่า กล่าวอันใดอาจไม่ผิด แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลา หวังทงมีเรื่องต้องทำอีกมาก

กองกำลังหู่เวยนอกจากหน่วยหนึ่งกลับเมืองหลวงอยู่ใต้บัญชาการของหวังทงแล้ว หน่วยที่เหลือล้วนส่งไประจำที่ต่าง ๆ ในนี้มีหานกังนำกำลังไปเหอหนาน มีเฉินต้าเหอนำกำลังไปเขตปกครองใต้ประจำที่สวีโจว มีซุนซิงนำไปป้องเมืองหนิงเซี่ย ประจำหูกว่าง ถานเจี้ยนนำกำลังไปที่ซานตง

ปีรัชสมัยไท่ชางที่สาม เจ็ดหน่วยหู่เวยกลายเป็นเจ็ดทัพ แต่ละทัพเป็นระบบสามหน่วยกำลัง แยกเป็นพลปืนไฟ 600  พลทวนยาว 1,000 กองปืนใหญ่ห้าร้อย ปืนใหญ่สิบห้ากระบอกรวมหน่วยกองบริการหนึ่งพันนาย ยังมีทหารม้าอีกพันนาย ในการนี้ยังมีค่ายทหารพื้นที่ชายแดนที่ปรับเปลี่ยนมาอีก มีค่ายทหารราบขึ้นตรงพันห้าร้อย ทหารม้าขึ้นตรงห้าร้อย ปรับเปลี่ยนมาจากทหารประจำค่ายทหารท้องที่ในอดีต ค่ายทหารที่เหลือที่ไม่มีขึ้นตรงทัพใด ก็ให้กระจายกำลังออกประจำที่ต่าง ๆ โดยรวมแล้วก็คือการปรับเปลี่ยนระบบทหารเดิมใหม่หมด

ทัพหนึ่งไม่เหมือนทัพอื่น ทัพหนึ่งมีหกกองงานกับอีกสามค่ายกำลังขึ้นตรง ในหกกองงานมีหนึ่งกองงานเป็นหน่วยอารักขาใกล้ชิดหวังทง รวมสองพันนาย ที่เหลืออีกห้ากองงานเป็นระบบทหารกองกำลังหลวง  ยังมีกองทหารม้าอีกสามพัน สามค่ายกำลังขึ้นตรงนี้ ส่วนใหญ่มาจากกองกำลังหลวงกับกองกำลังวังหลวงเดิมปรับเปลี่ยนมา ในทัพหนึ่งมีสองกองงานประจำที่เทียนจินหนึ่งและประจำที่ทงโจวอีกหนึ่ง

นอกจากนี้ องครักษ์เสื้อแพรในยามคับขันต้องสามารถนำกำลังสามพันออกศึกได้  กองผู้คุ้มกันติดอาวุธเทียนจินยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยามที่นั่นต้องการ ต้องสามารถเคลื่อนกำลังได้ราวหมื่น

ขนาดกองทัพเรือก็ขยายใหญ่ ขนาดกองเรือสามธาราขยายยิ่งเร็วกว่า เทียนจินกับซงเจียงสร้างเรือใหญ่ปล่อยลงทะลไม่ขาด ปีรัชสมัยไท่ชางที่สอง เขตปกครองใต้แค่มีร่องรอยความไม่สงบ ตอนนี้กองเรือสามธารามีกำลังมากกว่าเรือยักษ์ใหญ่สิบลำตอนนั้นอีกเท่าแล้ว เรือรบกองนี้แล่นเข้าแม่น้ำแยงซีเกียง เป็นเรือติดอาวุธ ทุกอย่างล้วนจบ

หวังทงอาศัยกองกำลังหู่เวยเจ็ดหน่วยและกำลังกลุ่มพ่อค้าติดอาวุธคุมนตอนเหนือแผ่นดินหมิง จากนั้นก็อาศัยกองทัพเรือพาแผ่นดินหมิงสยบผืนทะเล พวกที่เหลืออยู่ไม่อาจเป็นกำลังต่อต้านได้อีก

กลางปีรัชสมัยไท่ชางที่สาม ในขณะที่ปรับเปลี่ยนระบบกองกำลังหลวง หวังทงเริ่มปรับเปลี่ยนระบบเครือราชวงศ์ เดิมที่อ๋องแต่ละพื้นที่ห้ามออกไปนอกพื้นที่ปกครองตนนั้นให้ยกเลิก แต่การมอบพื้นที่ให้ปกครองก็ยกเลิกไปด้วยเช่นไน

 ให้ทางเลือกบรรดาเชื้อพระวงศ์สองทาง ระดับชินอ๋องและจวิ้นอ๋องที่แตกต่างกัน แต่ล้วนสามารถนำครอบครัวมาพักอาศัยที่เทียนจินกับเมืองซงเจียงได้ ระดับจวิ้นอ๋องลงไป หาทางทำมาหากินเอง

เพราะแค่ระดับชินอ๋องและจวิ้นอ๋องเท่านั้นที่มีที่ดินพระราชทาน ระดับอื่นล้วนอาศัยเงินเบี้ยจากทางการ  และเบี้ยทางการที่ว่าก็เป็นแค่ตัวเลขบนกระดาษ พวกเขาตอนนี้เดิมก็เลี้ยงตัวเองกันอยู่แล้ว พวกราชวงศ์ที่ซานซีกับส่านซีออกไปนอกด่านหาเลี้ยงชีพกันนานแล้ว ดังนั้นพวกระดับต่ำกว่าจวิ้นอ๋องนั้นไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

ชินอ๋องและจวิ้นอ๋องกลับไม่อาจสลัดทิ้งอำนาจวาสนาเดิมตน พวกเขาล้วนได้รับพระราชทานที่ดินที่ดีที่สุดในพื้นที่ กิจการระดับนี้จะทิ้งไปได้อย่างไร

เรื่องน่าเศร้าก็อยู่ที่  พวกเขาถูกขังได้เมืองนานไป  ไม่มีความกล้าหาญที่จะลุกขึ้นต่อต้านใดๆ ราษฎรท้องที่หลายรุ่นมาล้วนถูกเชื้อพระวงศ์เหล่านี้รังแกทำร้าย การจากไปของพวกเขาย่อมเป็นที่ยินดีตบมือของทุกคน ไม่มีคนอยากจะไปช่วยเหลือหรือทำอะไรให้

พวกอ๋องที่ไม่ยอมไม่กี่คนคิดจะก่อการกบฏ คิดไปว่าแผ่นดินหมิงหลายร้อยปีมานี้  อย่างไรก็คงมีคนคิดติดตามตนบ้าง ไม่ก็ใต้หล้าอาจจะมีอยู่ ผลปรากฏนอกจากพวกบัณฑิตเรียนตำรากันสมองพังพวกนั้นแล้ว ก็เงียบกริบ ถูกปราบโดยง่าย มีคนหนึ่งรู้ว่าต่อต้านไม่สำเร็จ และไม่อาจยอมให้ถูกจัดการเช่นนั้น ก็คืออ๋องลู่ หลังอ๋องลู่ได้ข่าวนี้ก็ปลิดชีวิตตนเอง อ๋องฝูที่ลั่วหยางกลับไปเทียนจินดีอกดีใจ และยังยื่นฎีกาต่อฮ่องเต้ไท่ชาง คิดจะพาพระสนมกงผู้เป็นมารดาตนออกจากวังไปอยู่ด้วย  คำขอนี้ได้รับพระราชานุญาติ

ให้เชื้อพระวงศ์ออกจากเมืองไปหาทางเลี้ยงชีพได้ ย้ายบรรดาอ๋องไปเมืองเทียนจินและเมืองซงเจียง ได้รับการยอมรับว่าเป็นอุบายดีเยี่ยม  การปล่อยเชื้อพระวงศ์ออกจากเมืองก็แค่ปล่อยคนยากจนให้มีทางรอด บรรดาอ๋องพวกนี้ไปเมืองเทียนจินกับเมืองซงเจียงแล้ว หนึ่งจะได้จับตาดูใกล้ชิด สองจะทำให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง

 อ๋องเหล่านี้ล้วนมีเงินทองในมือกันมาก ไม่คิดนั่งกินนอนกินจนหมดตัวก็ต้องทำการค้า เงินทองพวกเขาทุ่มลงไป หรือแม้แต่ทุ่มใช้จ่ายไป ก็ล้วนทำให้เศรษฐกิจได้รับประโยชน์มาก

อ๋องส่วนใหญ่ยอมไปยังสองแห่งนี้ หนึ่ง เพราะรู้สึกวันหน้าตระกูลจูไม่มั่นคงแล้ว อีกเรื่องคือในที่สุดก็ได้หนีออกจากเมืองที่กักขังพวกเขาไว้แล้ว ได้เห็นความรุ่งเรืองที่สุดในใต้หล้าที่เมืองเทียนจินกับเมืองซงเจียง ล้วนไม่ยินดีหรอกหรือ แน่นอน ในการนี้มีกี่คนที่คิดว่ามีสุราวันนี้ก็ควรเมาเสียวันนี้  ไม่ต้องคิดถึงวันหน้า ก็ไม่อาจรู้ได้

ประเด็นสำคัญก็คือ พอบรรดาอ๋องจากไป  ทิ้งที่นากับผลผลิตไว้จำนวนมาก ที่นาเหล่านี้ถูกยกเป็นของหลวง ก็คือไม่ว่าผู้ใดทำนาเพาะปลูก เจ้าของเป็นผู้ใด มีสิทธิประโยชน์ใด ล้วนต้องจ่ายภาษีให้แผ่นดิน ไม่อาจลดหย่อน จากนั้นก็มีคำสั่งว่าให้ทหารเจ็ดหน่วยหู่เวยเข้าทำนาเพาะปลูก  ตอนเป็นทหารสามารถปลอดภาษี หลังปลดประจำการสามารถลดภาษี วิธีการนี้ หนึ่งทำให้ส่วนกลางได้เงินทองเข้าคลังมาก สองทำให้ระบบหวังทงแน่นหนาและกว้างไกล

เริ่มปีรัชสมัยฮ่องเต้ว่านลี่ที่ 34 มีขุนนางยื่นฎีกาไม่ขาด มีขุนนางใหญ่เสนอว่า เรื่องคำสั่งให้ขุนนางมีความชอบไม่ต้องจ่ายภาษีเป็นการทำลายแผ่นดิน ควรยกเลิก

มาถึงปีรัชสมัยไท่ชางที่สาม เขตปกครองเหนือและใต้เริ่มมีคำสั่งรวบรวมเสบียงจากพวกขุนนาง นี่ไม่ใช่ขุนนางคิดเพื่อชาติอันใด แต่เป็นเพราะแผ่นดินหมิงเขตปกครองเหนือใต้รุ่งเรืองสุด บรรดาพ่อค้าเริ่มไม่พอใจเจ้าของที่ที่ครองแรงงานไว้มากขึ้นเรื่อยๆ  พวกเขาอย่างน้อยต้องถูกจำกัดด้วยคำสั่งให้สะสมเสบียงจะได้ไม่มีกำไรมากเช่นนั้น

การขนส่งเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปีรัชสมัยไท่ชางที่หนึ่ง ประหยัดต้นทุนไปมาก การขนส่งทางทะเลเริ่มเข้าแทนที่ทางคลองส่งน้ำ  ปีรัชสมัยไท่ชางที่สอง  เพราะเงินที่ส่งไปดูแลคลองส่งน้ำเริ่มลดลง ท้องพระคลังร่ำรวยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 ปีรัชสมัยไท่ชางที่ห้า  นำทหารเหลียวหนิงทหารและกลุ่มพ่อค้าติดอาวุธไปเจี้ยนโจวกับไห่ซี รวมเป็นกองกำลังหู่เวยหน่วยแปดประจำเหลียวหนิง เจี้ยนโจว ไห่ซีและเกาหลี ตั้งเป็นกองทัพเรือตะวันออก และกองกำลังหู่เวยหน่วยที่เก้าประจำที่ประเทศวัว

……

ปลายปีรัชสมัยไท่ชางที่ห้า มหาอำมาตย์สวีกว่างกั๋วและรองอำมาตย์หลี่ว์วั่นไฉแห่งคณะเสนาบดีใหญ่ ราชบัณฑิตหยางซือเฉินร่วมถวายฎีกา ขอให้ทำตามความต้องการปวงประชา สละราชย์ให้อ๋องจี้

……

จากนั้น จากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการ

*******************

“บอกกับซุนซิงปราบพวกตระกูลมู่ ‘พวกเนื้อร้ายทางใต้ที่ยังหลงเหลือ’ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญที่ยืนบนดินแดนนั่นให้มั่นคง พื้นที่ตอนใต้ในแถบเสฉวน กวางตุ้ง กุ้ยโจวไม่ใช่ว่ามีพ่อค้าไม่น้อยตามไปหรือ? ให้พวกเขาคิดให้มากว่าตอนนั้นเราเหตุใดจึงตีเมืองกุยฮว่าเฉิงกับเจี้ยนโจว อาศัยกำลังทหารเราตีไปเปลืองกำลังมากเกินไป ต้องให้กลุ่มพ่อค้าร่วมด้วย จึงจะประหยัดกำลัง”

ในห้องหนังสือ หวังทงพูด หลายคนจดบันทึก  กำลังจะมีราชโองการไปยังฉู่กั๋วกงซุนซิงที่ยูนนาน ซุนซิงตอนนี้เป็นแม่ทัพคุมการรบพม่ากับสยาม ก่อนหน้านี้ยังมีเฉียนกั๋วกงตระกูลมู่แห่งยูนนานไม่ยอมศิโรราบ  คิดตั้งฮ่องเต้ใหม่ที่ยูนนาน  นี่ก็คือสิ่งที่แผ่นดินต้าหัวอู่เรียกว่า ‘พวกเนื้อร้ายทางใต้ที่ยังหลงเหลือ’

แต่ทว่าก่อนการเปลี่ยนแปลง หวังทงให้ซุนซิงรับคำสั่งไปเป็นกงสุลใหญ่เสฉวน กวางตุ้ง กุ้ยโจว คุมกำลังทหาร หากตระกูลมู่เคลื่อนไหว ก็ให้ยกกำลังกองกำลังหลวงที่เตรียมไว้ก่อนแล้วเข้าตี ปล่อยให้หนีเข้าเขตแดนพม่า

ตระกูลมู่คุมยูนนานเกือบ 200 ปี ลงรากลึกมานาน ทหารหมื่นกว่าตามเขาเข้าเขตแดนพม่า ซุนซิงนำกำลังทัพใหญ่มองตามจากที่ไกลๆ ไม่เร่งร้อน

กองกำลังพ่อค้าจำนวนมากติดตามทัพใหญ่ไปยังประเทศตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขามองพ่อค้าทางเหนือได้รับทรัพย์สินเงินทองกันตาเป็นมัน พวกเขาก็คิดทำตามแบบบ้าง

“เราจากนี้ก็อาจมีลูกหลานไร้กตัญญู ตอนนี้พวกเราจะยึดที่ให้กว้างออกไปอีก ถึงตอนนั้นแม้ว่าลูกหลานสำราญทำลายทรัพย์สินเงินทองที่เราหามาก็ยังมีให้พวกเขาได้ทำลายไปไม่สิ้น”

หวังทงเคยกล่าวเช่นนี้หรือไม่ในประวัติศาสตร์ก็ยังเป็นที่ถกเถียงมาตลอด แต่ทว่าแผ่นดินต้าหัวตั้งแต่นั้นก็ไม่หยุดที่จะขยายดินแดน เป็นเช่นนี้ไปทุกสมัย จากบนบกออกสู่ท้องทะเล ในเรื่องการครอบครองดินแดนี้เหมือนว่าเป็นความต้องการไร้ที่สิ้นสุด  แม้แต่ในหมู่ประชาชนล้วนยังใช้อาณาเขตพื้นที่เป็นมาตรฐานในการวิพากษ์วิจารณ์ผู้ปกครอง

หวังทงดำรงตำแหน่งได้ปีที่ 10  ทหารม้าลาดตระเวนตอนเหนือที่เรียกว่าหน่วยทหารเขา ‘สามมณฑลเผ่าหนี่ว์เจิน’ ถูกพวกที่มาจากหลัวซากั๋ว (รัสเซีย) โจมตี ความจริงนั้นเป็นข้ออ้างของกลุ่มพ่อค้าทางเหนือที่ขยายพื้นที่ออกไปอีกไม่ได้แล้ว กลุ่มพ่อค้ากลุ่มใหญ่ออกเดินทางไกลอาศัยรถใหญ่ ใช้ปืนขับไล่พวกหลัวซากั๋วออกไปจากพื้นที่เรื่อยๆ และยังไล่ล่าจากตะวันตกไปไปทางตะวันออก ค่อยๆ ไล่ต้อนให้ถอยกลับไป เกิดการต่อสู้กันบ้าง และยังทำให้ดินแดนทั้งซีอวี้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่

เก่าไปใหม่แทน  ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง ไม่อาจจะราบรื่นตลอด ครั้งแรกที่วุ่นวายไม่ใช่เพราะตระกูลจูแห่งราชวงศ์หมิง แต่เป็นการจัดการตรวจที่ดินทั่วหล้า เขตปกครองใต้เกิดความวุ่นวาย ชนชั้นสูงเมืองหนานจิงและตระกูลใหญ่แดนใต้สมคบคิดกัน ใต้หล้าวุ่นวายได้ราวสองเดือนกว่า พอราชสำนักส่งทหารเข้าไป ร้านสามธาราส่งผู้คุ้มกันไปถึงเมืองฉางโจว เรื่องก็สงบลง

ความวุ่นวายนี้ทำให้ใต้หล้ารู้ว่า หวังทงมอบที่ดินเดิมของบรรดาอ๋องในราชวงศ์ก่อนให้กับขุนนางบู๊ตนเองกับราษฎร เป็นฐานใหญ่เพียงพอ กอปรกับกิจการการทหารและอาณาจักรการค้าของเขาเอง ไม่มีอิทธิพลอำนาจใดสามารถสั่นคลอนราชอาณาจักรเขาได้อีกแล้ว

*****************

การวาดภาพสีน้ำมันแบบตะวันตกเหมือนจริงนั้นใช้เวลามาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยังมีความไม่สะดวกหลายอย่าง เช่นว่า หลี่ซุ่นอยู่แต่ที่ประเทศวัวมาตลอด ยากจะกลับมาสักครั้ง

เดือนสี่ ปีรัชสมัยต้าหัวอู่ที่สาม หวังทงมาหอชมฟ้า ชั้นสองแสงสว่างมาก จิตรกรดึงผ้าคลุมออก แล้วก็คำนับถอยออกไป เหลือหวังทงอยู่หน้าภาพวาดคนเดียว

หวังทงนั่งนิ่งไม่ขยับ ทหารผู้คุ้มกันด้านหลังสองนายไม่เข้าใจภาพนี้ แต่พวกเขาเข้าใจได้ถึงอารมณ์หวังทง สองทหารผู้คุ้มกันล้วนยืนนิ่ง

—–จบบริบูรณ์—–

ตอนก่อน
หน้านิยาย

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 1139"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์