องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 1 นางสนม
อ่าน องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บท 1
บทที่ 1 นางสนม
ในช่วงเหมันตฤดูหิมะโปรยปราย ลมหนาวเหน็บเข้ากระดูก
ณ เมืองต้าเหลียง ภายในจวนของท่านอ๋องยุ่งวุ่นวายกันไม่ได้พักเลย เพราะงานอภิเษกสมรสครั้งใหญ่ของท่านอ๋องเย่นั้น พระชายาเย่ของท่านอ๋องเย่ได้สิ้นพระชนม์ลงอย่างกะทันหัน จนถึงวันนี้ยังไม่ฟื้นคืนชีพขึ้นมา
“ท่านอ๋อง พระชายาสิ้นพระชนม์แล้วพ่ะย่ะค่ะ “หมอหลวงภายในจวนพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าแล้ว จึงได้กราบทูลต่อท่านอ๋องเย่หรือหนานกงเย่
ตรงบริเวณลูกกรงหน้าต่าง หนานกงเย่มีสีหน้าเย็นชา สวมใส่ชุดจีนโบราณสีแดงสด ศีรษะสวมใส่มงกุฎทองคำ และยืนเอามือไขว้หลังอยู่เป็นเวลานาน
เมื่อได้ยินคำกราบทูลนั้น เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่คละเคล้าไปด้วยความสิ้นหวังว่า “ในเมื่อยังไม่ทันได้เริ่มใช้ชีวิตร่วมกันก็เป็นเยี่ยงนี้แล้ว เช่นนั้นก็ส่งกลับไปเสียเถิด ดูเหมือนว่าข้าจะไม่มีวาสนาที่จะได้มีความสุขแล้วล่ะ!”
ฉีเฟยอวิ๋นถูกชายหนุ่มที่มีน้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะทำให้ตื่น เลยพลิกตัวแล้วเปล่งเสียงออกมา
มันไม่ง่ายที่เธอจะได้นอนสักพักหนึ่ง เหตุใดถึงได้มีเสียงชายหนุ่มโวยวายเธอนะ?
ไม่สิ!
ผู้คนที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างชะงักงันกัน เพราะฉีเฟยอวิ๋นฟื้นขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”หมอภายในจวนตื่นตระหนกตกใจจนคุกเข่าลงที่พื้น
ท่านอ๋องเย่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉีเฟยอวิ๋น แล้วบีบที่คางของเธอ สีหน้าอันหล่อเหลาเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน กล่าวขึ้นว่า “ฉีเฟยอวิ๋น เจ้าไม่ควรมีชีวิตอยู่!”
ภายในใจของฉีเฟยอวิ๋นเหมือนคำรามด่าแม่ขึ้นมา เธอจ้องมองชายหล่อเหลาที่อยู่ตรงหน้า และยังไม่ทันที่จะได้มีปฏิกิริยาตอบโต้ ร่างกายก็เจ็บปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาโดยฉับพลัน
เธอถูกชายหนุ่มสลัดทิ้งลงบนพื้น!
“แม่เจ้า!” ฉีเฟยอวิ๋นคลานขึ้นมา เตรียมตัวเตะตัดล่างเพื่อทำให้ชายหนุ่มล้มลง แต่ทว่าถูกชายหนุ่มจับค้างที่คอไว้ จากนั้นบีบยกขึ้นมา
“คุณ……”ดวงตาสองคู่มองประสานกัน ภายในใจของฉีเฟยอวิ๋นร้อนคล้ายดั่งเปลวไฟปะทุออกมา แต่ทว่ากลับเปล่งเสียงออกมาได้อย่างยากลำบาก
ท่านอ๋องเย่กัดฟันกรอด กล่าวว่า”ฉีเฟยอวิ๋น วันงานอภิเษกสมรส เจ้ากล้าวางยาข้า วันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้าจะต้องตกนรกทั้งเป็นยากที่จะหลบเลี่ยงได้”
ฉีเฟยอวิ๋นกรอกตาขาวมองบน ในสมองมีภาพเหตุการณ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก
ตึง!
ครั้งนี้ฉีเฟยอวิ๋นถูกทิ้งลงบนพื้นโดยตรง เหล่าคนรับใช้ต่างพากันหลบหลีก ฉีเฟยอวิ๋นนอนคว่ำหน้าที่พื้นอีกนิดหนึ่งกระดูกก็จะแตกร้าวแล้ว
เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับท่านอ๋องเย่ด้วยสายตาเย็นชา ฉีเฟยอวิ๋นกัดฟันกรอด สบถด่าสารเลวไร้ยางอายอยู่เงียบๆ ถึงแม้ว่าจะหน้าตาหล่อเหลาแต่การกระทำต่ำช้าเหลือเกินขนาดผู้หญิงยังทำร้ายได้ลงคอ!
“เจ้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งพระชายา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถอดยศพระชายาออก และลดตำแหน่งให้เป็นนางสนม! “แววตาคล้ายดั่งจะสังหารคนมองฉีเฟยอวิ๋นที่ขดอยู่บนพื้น จากนั้นได้หมุนตัวเดินออกไป
เหล่าคนรับใช้ก็ไม่ได้ให้ความสนใจฉีเฟยอวิ๋นที่อยู่บนพื้นอีกเลย ชั่วประเดี๋ยวเดียวในห้องนั้นก็เหลือเธอเพียงคนเดียวลำพัง
ฉีเฟยอวิ๋นคลานลุกจากพื้น มองรอบบริเวณภายในห้อง และหันเดินไปที่เตียงนอน เธอนอนลงและหลับตาครุ่นคิด
เจ้าของร่างเดิมเป็นผู้ที่คลั่งไคล้ชายหนุ่ม หลงใหลหนานกงเย่ตลอดมา เมื่อวัยเยาว์ครั้งแรกที่ได้พบเจอหนานกงเย่ก็ถูกทำให้หลงใหลอย่างหนัก แต่น่าเสียดายที่เทพธิดาตามจีบแล้วกลับถูกปฏิเสธ ไม่ว่าเจ้าของร่างเดิมจะชอบหนานกงเย่อย่างไร จะเอาใจอย่างไรสุดท้ายหนานกงเย่ก็ไม่แยแสดังเดิม
และเจ้าของร่างเดิมทำเพื่อที่จะได้หนานกงเย่มาครอบครองแล้วนั้น แผนกลอุบายโดยการ ร้องไห้โวยวายผูกคอตายแต่ละอย่างล้วนมีครบถ้วน
โชคดีที่ว่าเจ้าของร่างเดิมมีท่านพ่อเป็นท่านแม่ทัพปกป้องบ้านเมือง บุคคลที่ปกป้องต้าเหลียงและมีคุณความดี มือกุมกองกำลังทหารที่เข้มแข็ง และเป็นบุคคลที่องค์จักรพรรดิอวี้ตี้ให้ความสำคัญเพราะมีความสามารถในช่วงเวลานี้
และเขายังคล้อยตามเจ้าของร่างเดิมทุกสิ่งอย่าง รักทะนุถนอมเป็นอย่างที่สุด
มีท่านพ่อเช่นนี้ อยากจะประสบความสำเร็จก็มิใช่เรื่องยากเลย
ครั้งนี้ท่านแม่ทัพฉีจือซานเลยมาขอคำปรึกษาเพื่อลูกสาวของตนเอง ปัจจุบันองค์จักรพรรดิอวี้ตี้ก็รักใคร่ท่านแม่ทัพฉีจือซานอยู่มาก เลยยอมข่มความเจ็บปวดให้น้องชายท้องเดียวกันของตนเองหนานกงเย่มาอภิเษกสมรสกับเจ้าของร่างเดิม
และวันนี้เจ้าของร่างเดิมสมใจปรารถนาแล้ว แต่เป็นเพราะการไม่เจียมตัวจนเกินไป เพิ่งจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสก็ได้กินยาปลุกกำหนัดมากเกินขนาด จนเสียชีวิต!
และเธอมักหาเรื่อง โชคร้ายใส่ตัวจริงๆ เพียงเพราะว่าการทดสอบฉีดยาที่ค้นพบใหม่ให้กับตนเอง ผลสรุปก็เลยได้มาอยู่แห่งนี้
ภาพมายา เป็นภาพมายาอย่างแน่นอน มายาเพ้อฝันกว่าละครโทรทัศน์
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกใจคอห่อเหี่ยว เธอเป็นหมอหน่วยพิเศษของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด เป็นบุคคลที่อัจฉริยะมีผลงานอันยอดเยี่ยมของกองทัพพิเศษ คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นวิญญาณเข้าร่างคนอื่นเช่นนี้
ที่กลัดกลุ้มใจก็คือคิดไม่ถึงว่าจะเข้าร่างของบุคคลชั้นสูงที่มีชื่อแซ่เดียวกันด้วย
ชีวิตที่ดีแต่ผลลัพธ์ของเรื่องราวไม่ดี เจ้าของร่างเดิมก็น่าสงสาร หากว่าไม่มีผู้วางแผนร้ายอยู่ทางด้านหลัง เกรงว่าก็ไม่สามารถที่จะกินยาปลุกกำหนัดมากเช่นนี้จนต้องตายหรอก
รู้อยู่แล้วว่าหนานกงเย่ไม่มีทางแตะต้อง ยังต้องกินยานั่น ในนั้นก็ไม่ง่ายแล้วล่ะ
ฉีเฟยอวิ๋นหลับตาลง สัมผัสความทรงจำที่ซับซ้อนของเจ้าของร่างเดิม ตามแง่มุมของผู้ที่มองดูอยู่ด้านข้าง จะต้องลงกลอนจับผู้ที่ใช้วิธีการสกปรกนี้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เข้าใจสถานการณ์ความจริงนั้นแล้ว ดวงตาทั้งสองข้างของฉีเฟยอวิ๋นเบิกกว้างขึ้น เมื่อนึกถึงคำพูดของหนานกงเย่แล้ว เธอจนปัญญาจริงๆ เป็นพระชายาที่หลงรักข้างเดียวก็โชคร้ายเพียงพอแล้ว ยังต้องถูกลดตำแหน่งเป็นนางสนม?
เธอเคยอ่านวรรณกรรมความฝันในหอแดง นางสนมเทียบกับเด็กสาวบริสุทธิ์นั้นยังเทียบไม่ได้เลย?
ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นแล้วผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เดิมทีนึกว่าถูกโยนทิ้งลงจนพิการ แต่ร่างกายภายในเหมือนกับมีอะไรกำลังซ่อมแซมรอยบาดแผลอยู่ คาดไม่ถึงว่าไม่ปวดเช่นนั้นแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นหรี่ตาคู่สวยลง ดีใจกับเรื่องราวที่คาดไม่ถึง ร่างกายนี้น่าจะนำพลังงานของยาตัวใหม่ที่ทำให้เนื้อเยื่อเกิดขึ้นมาใหม่ติดตัวมาด้วย!
ของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สามารถช่วยเหลือรักษาประสิทธิภาพของอวัยวะสรีระร่างกายได้ มีความสามารถแข็งแกร่งในการฟื้นฟู ที่น่ากลัวที่สุดคือสามารถเปิดบัญชีประวัติมวลมนุษย์ที่ไม่เคยมีมาก่อนของระบบการรุกราน
ฉีเฟยอวิ๋นลองสูดหายใจเข้า เธอรู้สึกว่าภายในร่างกายมีกระแสอากาศที่กีดขวางเธอ อีกทั้งการกีดขวางเช่นนี้คล้ายกับจะสามารถกระทบกับพฤติกรรมของเธอด้วย
กำลังจะสืบเสาะเข้าไปอย่างลึกซึ้งอีก ก็ถูกสาวใช้สองคนที่เดินมาไม่พูดไม่จาคำอื่นอันใดเลย จับเธอลากออกไปทางด้านนอก
และได้พาเธอมาทิ้งลงในห้องของคนรับใช้ กล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า
“ท่านอ๋องมีรับสั่งให้ที่นี่เป็นที่พักของท่าน จากนี้ไปไม่มีรับสั่งของท่านอ๋องท่านไม่สามารถออกไปได้”
ฉีเฟยอวิ๋นมองภายในห้อง มืดดำสนิท เยือกเย็นอย่างไม่มีอะไรสามารถมาเทียบได้เลย
พื้นของเตียงไม่มีฟูกและผ้าห่ม ชัดเจนเลยว่าอยากให้เธอหนาวตาย
ฉีเฟยอวิ๋นนึกถึงท่านพ่อของเจ้าของร่างเดิมที่ไม่กลัวอะไรเลยคนนั้นขึ้นมา ทันใดนั้นนึกกลอุบายออกมาได้ หากที่นี่ไม่ยอมรับเราต้องมีสักที่ที่ยอมรับเรา ไปดูก็รู้แล้ว!
ฉีเฟยอวิ๋นใช้ขาข้างหนึ่งถีบประตูแล้วออกมาจากทางด้านหลังจวน
ลานหลังจวนของท่านอ๋องเย่ไม่มีคนเฝ้าเวรยาม ฉีเฟยอวิ๋นแอบสังเกตอย่างเงียบๆ และคิดว่าจะยกเลิกงานอภิเษกสมรสนั่นอย่างไร แล้วค่อยไปหาหนานกงเย่เพื่อคิดบัญชีให้กับเจ้าของร่างเดิม ไม่เสียแรงเปล่าที่ใช้ร่างของเจ้าของร่างเดิม นี่ถือว่าเป็นการตอบแทนน้ำใจ
ชาติก่อนเธอเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่เล็กไร้ที่พึ่งพิง ชาตินี้หากว่ามีครอบครัว เธอก็ยินยอมที่จะทวงความยุติธรรมให้เจ้าของร่างเดิมด้วย
ฉีเฟยอวิ๋นอาศัยความจำเดินออกมาจากจวนท่านอ๋องเย่ กลับมาที่จวนท่านแม่ทัพ
ฉีเฟยอวิ๋นแกล้งเป็นลมตายอยู่ที่หน้าประตูจวนท่านแม่ทัพ เหมาะเจาะกับที่หัวหน้าพ่อบ้านมองเห็นพอดี เลยได้รีบเรียกคนให้ไปดู
พอมองเห็นต่างก็ตกใจกัน นี่ไม่ใช่คุณหนูหรือ?
พ่อบ้านตื่นตระหนกจนมือไม้อ่อน เลยสั่งคนไปเชิญท่านแม่ทัพฉีจือซานมาดู
ฉีเฟยอวิ๋นนอนแกล้งเป็นลมตายอยู่ที่พื้น
ถ้าหากไม่ทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ก็จะไม่รู้ว่าท่านพ่อของเจ้าของร่างเดิมนั้นรักทะนุถนอมเจ้าของร่างเดิมเพียงไหน การยกเลิกงานอภิเษกสมรสเช่นนี้เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องไม่ร้ายแรงก็กระทบไปชั่วชีวิต ร้ายแรงก็ทำให้ถึงขั้นเอาชีวิตได้ นางหลงใหลมาหลายปีแล้ว ถ้าไม่ใช่ท่านแม่ทัพจนปัญญาไม่มีทางเลือก ก็ไม่มีทางให้ฉีเฟยอวิ๋นทำเรื่องวุ่นวายหรอก
ต่อให้รักทะนุถนอมอย่างไร จักต้องมีขอบเขตที่จำกัด ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องใหญ่ชั่วชีวิต หนานกงเย่ทำทุกสิ่งอย่าง ไม่ใช่ต้องการให้เจ้าของร่างเดิมตาย ท่านแม่ทัพก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้
ท่านแม่ทัพรีบมาดูอย่างรวดเร็ว มองเห็นฉีเฟยอวิ๋นเป็นลมอยู่ ไม่ได้คำนึกถึงคำนินทา กอดฉีเฟยอวิ๋นแน่นร้องไห้น้ำตาไหลพราก
“ลูกสาวข้าไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกสาวข้าน่าสงสาร!”เพิ่งจะอภิเษกสมรสเสร็จหนึ่งวัน ยังไม่ถึงวันที่สามที่ต้องกลับจวน ก็โดดเดี่ยวเดียวดายมาเป็นลมอยู่นอกจวนแล้ว น่าจะประสบได้รับโทษยิ่งใหญ่เท่าไหร่กัน!
ฉีเฟยอวิ๋นกรอกตาขาว ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเจ้าของร่างเดิมนิสัยเหมือนผู้ใด
แต่ว่านี่ประจวบเหมาะกับผลลัพธ์ที่เธอต้องการพอดี
**********************