องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 275 ตีสุนัขต้องดูเจ้านาย
ตงเอ๋อร์ได้ยินคำว่าหกหมื่นตำลึงก็อารมณ์เสีย ถึงตอนนี้ยังไม่ได้ล้างมลทินที่กล่าวหาว่านางขโมยเงินหกหมื่นตำลึงเลย เดี๋ยวนี้พูดถึงเรื่องเงิน นางเลยไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
“พระชายาเย่รู้ที่ไปของเงินหกหมื่นตำลึงไหมเพคะ?” ตงเอ๋อร์ไม่สนว่าจะเป็นผู้ใด นางล้วนขึงขังจริงจังทั้งสิ้น
ฉีเฟยอวิ๋นมองหน้าจวินฉูฉู่ที่ซีดเซียว จึงไม่ได้พูดกับนางต่อ
“ไปกันเถอะ ข้าตรวจเจ้าแล้วจะได้สั่งยาให้”
จวินฉูฉู่ชิงชังถึงขีดสุด ทว่าตะลอนหาหมอมากมายก็ไม่เห็นผล หากไม่มีบุตรต่อไปเช่นนี้ นางก็ยังพอว่า เพราะฝ่าบาทเองก็ยังไม่มีเลย ดังนั้นคนนอกจะลือครึกโครมเช่นไรหนานกงเหยี่ยนก็มีส่วนในสาเหตุที่มีบุตรไม่ได้ด้วย
ทว่ายามนี้อวิ๋นหลัวฉวนตั้งครรภ์แล้ว นางที่เป็นชายาเอกยังไม่มี จะอธิบายอย่างไร?
วาจาคนนั้นน่ากลัวยิ่ง หากเป็นเช่นนี้ต่อไป นางก็ไม่ต้องเป็นพระชายาตวนอะไรแล้ว นางต้องโดนปลดตำแหน่งในไม่ช้าแน่
“พระชายาเย่เชิญ” จวินฉูฉู่เอ่ยพิธีรีตอง นางยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สูงศักดิ์แบบไม่อาจต้านทาน ผ้าเช็ดหน้าในมือสะบัดถือว่าให้เกียรติฉีเฟยอวิ๋นอย่างเต็มที่แล้ว
เห็นอิริยาบถของจวินฉูฉู่แล้ว ฉีเฟยอวิ๋นไม่ใคร่อยากยุ่งเท่าใดนัก
หลังตรึกตรองไปมาก็คิดว่าช่างเถอะ อย่าถือสากับสตรีที่สู้หน้าผู้คนไม่ได้ เก่งแต่พาลใส่คนข้างกายเลย
เมื่อเดินไปในเรือนของจวินฉูฉู่ พอถึงตำหนักฉู่เซวียน จวินฉูฉู่ก็เชิญฉีเฟยอวิ๋นไปยังห้องข้าง ความเดือดดาลจึงฉายชัดบนใบหน้าหงเถา
“ดูไม่ออกเลย จวนอ๋องตวนออกจะกว้างใหญ่ แต่เมื่อเชิญพระชายาของพวกเรามาดูอาการกลับต้องอยู่ในห้องรอง ไม่รู้ว่าห้องหลักเก็บไว้ให้ผู้ใด” หงเถากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์
จวินฉูฉู่รู้สึกขบขัน ยกผ้าเช็ดหน้าบังปาก เป็นเสียงหัวเราะที่หยามเหยียด ทว่ากลับมีอารมณ์นับหมื่นผสมปนเปไว้ในที
นางหัวเราะแบบไม่ให้เห็นฟัน แววตาเย้ยหยันตัดทอนฉีเฟยอวิ๋นชนิดที่ไม่มีคุณค่าแม้แต่อีแปะเดียว
สาวใช้ที่ติดตามนางหลายคนก็เรียนแบบตาม พากันมองหงเถาลี่ว์หลิ่วด้วยสายตาดูแคลนและเหน็บแนม
หงเถาโกรธขึ้งจนหน้าแดงก่ำ รู้ว่าตัวเองเสียมารยาทเอง จึงรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็สรรหาสิ่งใดมาพูดไม่ได้
ฉีเฟยอวิ๋นไม่ใช่คนอ่อนแอ หากไม่ลองดีกับข้าก็แล้วไป หากมันผู้ใดริอ่านเป็นปรปักษ์กับข้า มันผู้นั้นก็ต้องมีฝีมือต่อกรถึงจะได้
พูดตามตรงก็คือ ต้องทนกระทืบตบตีไหว
ฉีเฟยอวิ๋นดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากแขนเสื้อ เธอไม่ค่อยชื่นชอบสิ่งนี้เอาซะเลย ทว่าช่วงนี้ร้านค้าทั้งสามแห่งมีอวิ๋นจิ่นดูแลอย่างมีระบบแบบแผน ซึ่งของสิ่งนี้ดีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ได้ยินว่าต้องใช้หนึ่งพันตำลึงเงินถึงจะซื้อได้หนึ่งผืน ดังนั้นเธอจึงใช้ของที่ดีที่สุด อวิ๋นจิ่นบอกว่าปีหนึ่งจะผลิตได้ทั้งหมดหกผืน ซึ่งนางบอกว่าจะให้ฉีเฟยอวิ๋นทั้งหมดเลย ไม่เอาไปขายแล้ว ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้อยู่ในเสื้อผ้าเธอตลอด ปกติไม่ค่อยนำออกมาใช้สอย ทว่าได้ยินว่าสวยงามมากทีเดียว
วันนี้ดูจากรูปการณ์ที่โดนหาเรื่อง คงต้องนำออกมาประลองดูสักตั้งแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นสะบัดผ้าเช็ดหน้า จากนั้นก็เช็ดมือของตัวเอง ต่อด้วยโยนไปให้หงเถา “จะตีสุนัขก็ต้องดูเจ้านายเสียบ้าง ช่างไม่รู้จักดูเลยว่าที่นี่ที่ใด ต้องไว้หน้าท่านอ๋องตวนบ้าง ท่านอ๋องตวนร่ำรวยยิ่ง พวกเรากลัวผู้มีเงินทอง อันนี้ก็ยังไม่รู้อีก วันหลังจะทำการค้าได้เยี่ยงไร รายได้หลักของร้านค้าเรานั้นมาจากคนส่วนมากในจวนอ๋องตวนนะ เจ้าคิดจะทุบหม้อข้าวของข้าใช่หรือไม่ ยังไม่รีบขอโทษพระชายาตวนอีก?”
หงเถามีไหวพริบไว รับผ้าเช็ดหน้ามาก็รีบย่อกายคำนับ “บ่าวขออภัยพระชายาตวนด้วยเพคะ บ่าวดูผิดไป ล่วงเกินแล้วเพคะ”
จวินฉูฉู่รู้สึกโกรธ ด่าใครว่าสุนัข?
จวินฉูฉู่อยากปริปากพูด ทว่าฉีเฟยอวิ๋นชิงพูดก่อน “หงเถา ประเดี๋ยวข้าตรวจอาการพระชายาตวนแล้ว เจ้าต้องดูเทียบยานี้ดีๆนะ ต้องถูกต้องแม่นยำสมุนไพรทุกตัว อย่าให้ผิดพลาดล่ะ หากผู้ป่วยไม่หายดันเสียชีวิต มันจะเสียชื่อเสียงของข้าได้”
“เพคะพระชายา บ่าวจะทำให้ดีที่สุดเพคะ ดื่มยาแล้วไม่ตายแน่เพคะ” หงเถารีบเอ่ย
ใบหน้าจวินฉูฉู่ซีดขาว สาวใช้หลายคนข้างกายนางก็หัวเราะไม่ออกเช่นกัน
ฉีเฟยอวิ๋นเห็นจวินฉูฉู่โดนขู่จนหวาดกลัวแล้ว จึงกล่าวว่า “ยื่นมือมาเถอะ ข้าจะดูให้”
จวินฉูฉู่อยากสบถด่าคน ยิ่งอยากฆ่าคนมาก ทว่านางอยากมีลูกใจแทบขาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด นางก็ต้องยื่นมือออกไป
ฉีเฟยอวิ๋นจับชีพจรให้นาง พลางเปิดความสามารถในการตรวจอาการขึ้น จึงทำให้เข้มขรึมขึ้นมา
อนึ่งคือมดลูกเย็น และอย่างที่สองคือจวินฉูฉู่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน มดลูกจึงถูกทำร้าย
ฉีเฟยอวิ๋นถาม “ตอนเด็กเจ้าเคยบาดเจ็บใช่หรือไม่?”
ฉีเฟยอวิ๋นปล่อยมือออก ใช้สายตามองมืออีกข้างอย่างมีเลศนัย จวินฉูฉู่สงสัย “ตอนเด็กหรือ?”
จวินฉูฉู่จำไม่ได้ว่าเคยบาดเจ็บตอนเด็ก กล่าวว่า “นับตอนที่ข้าอายุสิบขวบหรือไม่?”
“ไม่นับ น่าจะเด็กกว่านั้น” ฉีเฟยอวิ๋นตรวจเจอว่าเด็กมาก ซึ่งไม่ใช่อายุสิบขวบ
จวินฉูฉู่ครุ่นคิดดูสักพัก “ข้าจำไม่ได้ เจ้าพูดมาเถอะ อย่าได้เกรงใจ”
“มดลูกเจ้าเย็นจริงๆ มดลูกยังบาดเจ็บอีกด้วย เหมือนโดนทำร้ายจนเปลี่ยนรูปร่างแล้ว มดลูกคนเรานั้นเป็นรูปกลมๆ แต่มดลูกของเจ้าในตอนนี้แปลกประหลาดมาก คล้ายกับถูกอัดจนกลายเป็นเมล็ดถั่วเล็กๆ มดลูกมีไว้ให้เด็กเติบโตอยู่ด้านใน
หากเจ้าต้องการตั้งท้อง ข้าต้องฟื้นฟูมดลูกของเจ้าโดยการผ่าตัดก่อน”
จวินฉูฉู่ชักมือกลับ จ้องฉีเฟยอวิ๋นเขม็ง “เจ้าจะทำร้ายข้า?”
“เจ้าเป็นคนขี้ระแวง อยากพูดอะไรก็แล้วแต่ เจ้าไปถามคนอื่นดูว่าตอนเด็กเคยบาดเจ็บหรือไม่ เจ้าจำไม่ได้ เจ้าก็ถามท่านพ่อท่านแม่เจ้าดูสิ”
ฉีเฟยอวิ๋นพูดถึงตรงนี้ก็ลุกขึ้นยืน “ข้าจะเขียนใบสั่งยาที่รักษามดลูกเย็นโดยเฉพาะ หากเจ้าอยากตั้งท้องก็ไม่มีปัญหา แต่ลักษณะนี้เจ้ากับลูกในท้องอาจจะมีอันตรายได้”
ฉีเฟยอวิ๋นหยิบกระดาษพู่กันออกมาเขียน พลางยื่นเทียบยาให้จวินฉูฉู่ “เจ้าลองดู โรคมดลูกเย็นจะรู้สึกมือเท้าเย็น ถึงแม้อากาศดี แต่เจ้าจะรู้สึกว่าอุ่นไม่พอ ดังนั้นเจ้าจะรู้สึกหนาวในหน้าร้อน
เจ้าลองดูก่อน เจ้าเชื่อถือข้าแล้วค่อยมาเชิญข้า
ในเมื่อข้ารับปากพระชายารองอวิ๋นแล้ว ข้าก็จะไม่เพิกเฉยต่อเจ้าแน่นอน”
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวจบก็ออกจากธรณีประตู พวกอาอวี่ก็ตามออกไปด้วย จวินฉูฉู่โกรธจนอาละวาด
นางรู้สึกเกลียดแค้น ฉีเฟยอวิ๋นมีอะไรดีนักหนา
ฉีเฟยอวิ๋นออกไปก็ตรงไปที่ประตูจวนอ๋องตวนทันที ตงเอ๋อร์ส่งพวกเธอถึงหน้าประตูแล้วค่อยกลับเข้าไป ฉีเฟยอวิ๋น หงเถากับลี่ว์หลิ่วกลับจวนด้วยการเดินเท้า หงเถาคืนผ้าเช็ดหน้าให้ฉีเฟยอวิ๋น ของราคาแพงเช่นนี้นางไม่กล้าเอาหรอก
“พระชายา นี่เพคะ”
หงเถากลัวทำสกปรก
ฉีเฟยอวิ๋นมองปราดหนึ่ง “เจ้าเก็บไว้เถอะ เห็นเจ้าชอบ รอให้ข้ากลับไปแล้วจะมอบชุดนี้ให้เจ้าด้วย หากเจ้าไม่รังเกียจ เข้าก็จะให้เป็นสินเจ้าสาวของเจ้า”
“พระชายา บ่าวไม่บังอาจเพคะ?”
หงเถารีบยืนตรงด้วยใบหน้าซีดเผือด
ฉีเฟยอวิ๋นถาม “เจ้ากลัวอะไร?”
“แต่ได้ยินมาว่าชุดนี้ราคาห้าพันตำลึงเงิน ส่วนผ้าเช็ดหน้าก็หนึ่งพันตำลึงเงิน แม่นางอวิ๋นจิ่นบอกว่าอันนี้มีน้อยมาก แม้แต่ผู้มีฐานันดรชินอ๋องยังซื้อไม่ได้เลยนะเพคะ”
“นั่นมันพวกเขา เจ้าไม่เหมือนกัน ใครให้เจ้าเป็นคนข้างกายข้าเล่า เจ้าย่อมใส่ได้อยู่แล้ว หากเจ้าไม่มีเงินขึ้นมา เจ้าก็เอาไปขายได้”
หงเถาอยากร้องไห้ “พระชายาไม่โกรธหรือเพคะ?”
ฉีเฟยอวิ๋นแปลกใจ “ทำไมต้องโกรธด้วย?”
“บ่าวเสียมารยาทจนเกือบทำให้พระองค์ขายหน้าแล้ว” หงเถาทำตัวไม่ถูก