องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 373 ประสานมือเพื่อสาบาน จะไม่เสียใจอย่างแน่นอน
- Home
- องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ
- บทที่ 373 ประสานมือเพื่อสาบาน จะไม่เสียใจอย่างแน่นอน
องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 373 ประสานมือเพื่อสาบาน จะไม่เสียใจอย่างแน่นอน
หนานกงเยี่ยนถาม “หรือว่าจากคำพูดของจักรพรรดิ แผ่กิ่งก้านเพื่อจักรพรรดิและเพิ่มทายาทในราชวงศ์ มิใช่ว่าเป็นการจงรักภักดีต่ออาณาจักรต้าเหลียงหรือจงรักภักดีต่อจักรพรรดิหรอกหรือ?
ข้าคิดว่า คงจะเปลี่ยนวิธีซะมากกว่า”
อวิ๋นหลัวฉวนไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านกำลังกังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ปกป้องคุ้มครองอาณาจักรและการมีทายาทเพื่อสืบสกุลให้กับท่านอ๋องจะไปเหมือนกันได้อย่างไร?”
“ทำไมจะไม่เหมือนกัน ให้กำเนิดลูกชายมาให้จักรพรรดิหลายๆ คน ต่อไปจะสามารถพาไปสู้รบออกศึกได้ ไปทำให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น นั่นถึงจะเรียกว่าจงรักภักดี นั่นต่างหากคือความสามารถ
เจ้าไปออกรบคนเดียว หากตายไปจะทำอย่างไร?
เจ้าไม่มีรุ่นหลังรุ่นต่อไป เจ้าก็ทำได้เพียงจงรักภักดีต่อตัวเอง หากเจ้ามีลูกมากๆ ต่อไปก็จะได้จงรักภักดีต่ออาณาจักรต้าเหลียงไม่ดีหรือ?
ปกป้องคุ้มครองอาณาจักรต้าเหลียงให้สงบสุขไม่ดีหรือ?”
อวิ๋นหลัวฉวนมีสีหน้ามึนงง “การให้กำเนิดลูกนั่นเป็นหน้าที่ของผู้หญิงคนอื่น ต่างกับข้า ข้า……”
“ข้าคิดว่าไม่มีอะไรต่างกัน ก็แค่กังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเท่านั้น”
อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกตะลึงและรู้สึกว่าพูดอย่างไรก็ไม่ชัดเจน อยากจะพูดปฏิเสธแต่ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไร หากไม่พูดปฏิเสธหนานกงเยี่ยนก็ดูเหมือนไม่พอใจ!
ส่งผลให้ทั้งคู่ต่างเงียบไปพร้อมกัน
หลังจากนั่งจ้องมองกันอยู่นาน อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกว่าหนานกงเยี่ยนขยับเข้ามาใกล้ และเดิมทีก็ใกล้มากแล้ว ร่างกายของทั้งสองได้แนบชิดติดกันแล้ว
อวิ๋นหลัวฉวนจึงต้องการจะออกมา
นางต้องการถอยออกไปอีกฝั่ง แต่ถูหนานกงเยี่ยนดึงเอาไว้
“ท่านปล่อยข้านะ ท่าน……”
“ฉวนเอ๋อร์ ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”
เมื่อเห็นว่าหนานกงเยี่ยนดูเคร่งขรึม อวิ๋นหลัวฉวนคิดว่าเขามีเรื่องร้อนใจอะไรจึงไม่ได้ปฏิเสธเขา
“ท่านถามมาสิ”
“หากจงชินอ๋องและข้าเปรียบเทียบกัน เจ้าคิดว่าข้าด้อยกว่าเขางั้นหรือ?” เรื่องนี้อยู่ในใจของหนานกงเยี่ยนมาโดยตลอดไม่อาจลืมได้
อวิ๋นหลัวฉวนส่ายหน้า “คนด้วยกันไม่สามารถเปรียบเทียบได้ ท่านและจงชินอ๋องก็ไม่เหมือนกัน”
“เช่นนั้นทำไมถึงไม่เหมือนกันล่ะ?” หนานกงเยี่ยนระงับความทุกข์ในใจ พยายามสงบสติอารมณ์เพื่อถามความจริง
เห็นได้ชัดว่าอวิ๋นหลัวฉวนไม่คาดคิดว่าหนานกงเยี่ยนจะคิดมากเช่นนี้
“เขาและข้าเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเขาดีมากอะไร เขาและพี่ชายของข้าอายุไล่เลี่ยกัน แต่เขารักการเรียนรู้มากกว่าใครๆ และก็รู้จักอดทน ส่วนเรื่องอื่นก็คงเป็นเรื่องของนิสัยใจคอ ข้าคิดว่าจงชินอ๋องนิสัยดีมาก
ข้าจำได้ว่าตอนเด็กๆ ที่เล่นอยู่บนถนน เขาเห็นเด็กคนอื่นถูกรังแก เขาก็เข้าไปช่วย”
หนานกงเยี่ยนถอนหายใจเล็กน้อย ดูเหมือนเด็กสาวคนนี้ยังพอมีความหวัง
“เช่นนั้นแล้วข้าล่ะ? ข้านิสัยไม่ดีหรือ?” หนานกงเยี่ยนรู้สึกไม่ยอม
อวิ๋นหลัวฉวนส่ายหน้า “ท่านอ๋องตวนก็นิสัยดี อย่างน้อยก็ดีกับจวินฉูฉู่……”
อวิ๋นหลัวฉวนไม่ต้องการพูดถึงจวินฉูฉู่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะอดไม่ได้
ท่านอ๋องตวนถาม “ทำไมหรือ?”
“อันที่จริงท่านอ๋องตวนก็รู้พฤติกรรมของจวินฉูฉู่ ท่านอ๋องไปหาข้าก็ต้องคอยหลบนาง แต่สุดท้ายท่านอ๋องก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้ ได้ยินมาว่าท่านอ๋องยังไปส่งนางเป็นครั้งสุดท้ายด้วย ก็สามารถมองเห็นนิสัยใจคอที่ดีของท่านอ๋องได้ อย่างน้อยก็เป็นคนดีมีคุณธรรม……”
เพียงแต่งมงายเล็กน้อย อวิ๋นหลัวฉวนไม่กล้าพูดออกมา
เพื่อป้องกันไม่ให้หนานกงเยี่ยนสงสัย อวิ๋นหลัวฉวนจึงกล่าวว่า “อีกทั้งท่านอ๋องยังมีความเมตตา และเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างยอมรับ ไม่ผิดอย่างแน่นอน”
“อืม เรียนรู้ที่จะประจบชมเชยข้าแล้วหรือ?” หนานกงเยี่ยนยิ้ม ดูเหมือนจะอารมณ์ดีไม่น้อย
คำพูดของผู้หญิงคนนี้ทำให้เขามีความสุขได้หลายวัน ผู้หญิงคนนี้น่าทึ่งจริงๆ!
อวิ๋นหลัวฉวนส่ายหน้า “ข้าประจบใครไม่เป็น”
“แล้วนี่เรียกว่าอะไรหรือ?”
“คือความจริง”
หนานกงเยี่ยนขมวดคิ้ว “มีโอกาสข้าจะต้องประชันกันจงชินอ๋องให้ได้ ถึงตอนนั้น ข้าจะให้ฉวนเอ๋อร์เห็นว่าข้าดีกว่าเขา”
อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกโกรธเล็กน้อย “ทำไมท่านถึงชอบทะเลาะวิวาทด้วยนะ เขาไม่ได้ทำอะไรให้ท่านสักหน่อย!”
“เขายังไม่ทำให้ข้าโกรธหรือ? เขาจะพาพระชายาของข้าหนีไปแล้ว พระชายาของข้าวันๆ เอาแต่จะหย่างร้างเพื่อไปหาเขา ข้ายังไม่ไปหาเขาหรือ?”
“อย่าคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ข้าไปหาเขาก็แค่ในฐานะเพื่อนเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น ทำไมท่านถึงเป็นเช่นนี้?”
“ข้าเป็นแบบไหนหรือ?”
“จิตใจคับแคบ ทั้งๆ ที่ไม่มีเรื่องอะไร ท่านยัง……”
“ก็หวังว่าจะไม่มี ข้าก็จะไม่ทำให้เขาตาย แต่หากมี……”
“พวกเราหย่าร้างกัน พวกเราไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกัน ท่านก็ไม่สามารถไปหาเขา……”
“ไปพักผ่อน!” ทันทีที่สงครามปะทุ เขาจะไม่ยอมปล่อยจงชินอ๋องไปอย่างแน่นอน
อวิ๋นหลัวฉวนถอนหายใจ “หากท่านต้องการทำเช่นนั้นก็ทำ อย่าบอกข้า ข้าต้องการหย่าร้าง”
“เช่นนั้นข้าจะทำให้ฉวนเอ๋อร์มีลูก หลังจากนั้นก็ให้กำเนิดลูกให้กับข้า”
หนานกงเยี่ยนกอดอวิ๋นหลัวฉวนไว้ เขาต้องการอยากจะมีลูกตอนนี้ด้วยซ้ำ
อวิ๋นหลัวฉวนตกใจมากจนนางผลักหนานกงเยี่ยนไว้ “ท่านรีบปล่อยมือนะ ข้าจะบอกท่านย่า ท่านย่าจะต้องไปจัดการท่าน”
“เช่นนั้นข้าจะนำศีรษะมอบให้กับท่านไป” ไอรีนโนเวล
หนนากงเยี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ก่อนที่เขาจะก้มศีรษะลงไปจูบปากของนาง อวิ๋นหลัวฉวนตกตะลึงและเงยหน้าขึ้นมองหนานกงเยี่ยนด้วยท่าทางโง่เขลา
ในหนึ่งเดือนมานี้ อวิ๋นหลัวฉวนกินดื่มไปไม่น้อย ของอร่อยที่สามารถทานได้ก็ถูกนางกินไปหมด อาหารที่มาจากในวังล้วนเป็นของพระมเหสีหวานำมามอบให้ บางอย่างแทบจะไม่เคยเห็นมาก่อน
กินเข้าไปจนแก้มกลม
ขณะนี้หนานกงเยี่ยนกำลังมองอวิ๋นหลัวฉวน ดูเหมือนกำลังมองหญิงสาวที่สวยที่สุดและไม่มีใครเทียบได้
ริมฝีปากสีแดง หน้าขาว และกลม ดวงตาของนางสวยราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่กว้างใหญ่ มีเสน่ห์ราวกับอัญมณี
ลมหายใจเริ่มติดขัด หนานกงเยี่ยนถอนหายใจและกอดอวิ๋นหลัวฉวนไว้ในอ้อมแขน “อย่าทำให้ข้าโมโห ข้าจะไม่ให้ตงเอ๋อร์แต่งงานออกไป แต่หากฉวนเอ๋อร์ต้องการหย่าร้างกับข้าเพื่อจงชินอ๋องนั่น ข้าจะฆ่าเขาให้ได้ ไม่เพียงแต่ฆ่าเขา และยังฆ่าคนในจวนจงชินอ๋องทั้งหมด”
อวิ๋นหลัวฉวนดิ้นรนและหน้าแดงอยู่ครู่หนึ่ง ได้ยินมาว่าหากถูกคนอื่นมาจูบปากแล้ว จะทำให้เกิดลูกง่าย ไม่รู้ว่าจะบังเอิญเช่นั้นหรือไม่ ต้องเกิดลูกอีก!
แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ป้าๆ ได้เคยพูดเรื่องเหล่านั้น อวิ๋นหลัวฉวนก็ยิ่งหน้าแดง ถูกผู้ชายจูบจะไม่สามารถเกิดลูกได้!
เมื่อมองไปที่หนานกงเยี่ยน ฉีเฟยอวิ๋นลืมเรื่องที่ท่านอ๋องตวนโกรธจงชินอ๋องไป และพูดขึ้นมาว่า “เรื่องการหย่าร้างได้ปรึกษาท่านย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านบอกว่าจะไปพูดกับจักรพรรดิ จักรพรรดิจะต้องตอบตกลงอย่างแน่นอน”
“ข้ารู้ว่าฮูหยินจะต้องบังคับด้วยการตาย”
ถึงแม้ว่าหนานกงเยี่ยนจะทำไม่ลง แต่ก็ยอมปล่อยอวิ๋นหลัวฉวน หนานกงเยี่ยนหันกลับไปนั่งอีกฝั่งหนึ่งและชี้ไปที่กระดานหมากรุก “ได้ยินมาว่าเจ้าเล่นหมากรุกเป็นหรือ?”
“ท่านพี่เสียนเฟยสอนข้า มีแต่จวนของเขาที่มี”
“ข้าเล่นไม่เป็น นั่นคือสิ่งที่นางทำขึ้นมา แต่หากข้าเล่นเป็นแล้วและชนะเจ้า หรือว่าก็จะสามารถทำให้เจ้าอยู่ที่นี่ได้?”
“หมายความว่าอย่างไร?” อวิ๋นหลัวฉวนไม่เข้าใจ
หนานกงเยี่ยนกล่าว “เมื่อไม่กี่วันก่อนได้เห็นเจ้าและแม่นมเว่ยเล่นกันครั้งหนึ่ง ข้าก็อยากเล่น หากข้าชนะเจ้า เช่นนั้นฉวนเอ๋อร์จะต้องอยู่ที่นี่หนึ่งปีดีหรือไม่
หลังจากผ่านหนึ่งปีไปแล้ว หากฉวนเอ๋อร์ยังต้องการจะจากไป เช่นนั้นข้าก็จะไม่ขัดขวาง
เป็นอย่างไรบ้าง?”
อวิ๋นหลัวฉวนคิดว่าก็ดีเหมือนกัน
กระดานหมากรุกเป็นสิ่งที่ฉีเฟยอวิ๋นทำขึ้นมาเพื่อให้เขาผ่อนคลาย มีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเล่นได้ หากนางชนะท่านอ๋องตวน เช่นนั้นก็สามารถหย่าร้างได้
เพราะถึงอย่างไรหากท่านอ๋องตวนไม่ยอมหย่าร้าง จักรพรรดิก็จะให้พวกเขาหย่าร้างให้ได้
“เช่นนั้นหากท่านแพ้ล่ะ?”
“ข้าจะยอมหย่าร้าง!”
“เช่นนั้นหากท่านเสียใจล่ะ?”
“ประสานมือเพื่อสาบาน จะไม่เสียใจอย่างแน่นอน!”
หนานกงเยี่ยนยกมือขึ้นมาเตรียมที่จะประสานมือ