องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 420 รักษาอีกาแก่
องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 420 รักษาอีกาแก่
พักผ่อนเสร็จฉีเฟยอวิ๋นจึงจะเตรียมตัวไปหาเจ้าอีกาน้อยกับจิ้งจอกหางสั้น
ฉีเฟยอวิ๋นเดินออกจากค่ายก็เอานกหวีดที่หนานกงเย่มอบให้ไว้ที่ปาก ก่อนจะใช้แรงเป่าหนึ่งครั้ง
ชั่วอึดใจเดียวก็มีอีกาแก่บินวนอยู่เหนือศีรษะ สักพักหนึ่งก็โรยตัวลงมาเกาะก้อนหินตรงหน้าฉีเฟยอวิ๋น
“ท่านพี่เสียนเฟยเก่งจัง หาอีกาแก่เจอจริงๆด้วย”
ฉีเฟยอวิ๋นฉงนสนเท่ห์ “ทำไมถึงเป็นเจ้า พญาอีกาไม่อยู่หรือ?”
อีกาแก่สะบัดปีกบินลับไป ฉีเฟยอวิ๋นมองทิศทางที่อีกาแก่บินหายไป ทางโน้นคือค่ายศัตรูนี่นา
“อะไร ทำไมมันต้องบินไปด้วย?” อวิ๋นหลัวฉวนรีบเข้าไปถามฉีเฟยอวิ๋นด้วยใบหน้ามึนงง
ฉีเฟยอวิ๋นก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่รู้ว่าอีกาแก่บินไปทางค่ายศัตรูทำไม ทั้งที่ก่อนหน้าเธอสั่งให้พญาอีกาปกป้องบิดาของเธอ
ฉีเฟยอวิ๋นรอสองชั่วยามกว่า ด้วยเพราะร่างกายเป็นเหตุทำให้เธอไม่อาจรอต่อไปได้ จึงหมุนกายกลับเข้าค่ายทหาร
หลังกินข้าวเสร็จ ม่านรัตติกาลก็โรยร่วงลงมา ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นออกไปด้านนอก แม่ทัพฉีเห็นจึงตามบุตรสาวออกไปด้วย
สองพ่อลูกมาถึงจุดที่เธอขานเรียกอีกาแก่มา แม่ทัพฉีเอ่ยอย่างไม่วางใจ “อวิ๋นอวิ๋น เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“ยังไม่ทราบแน่ชัดเจ้าค่ะ แต่ตอนท่านพ่อมา ข้าสั่งให้พญาอีกานำฝูงกาปกป้องท่าน แต่มาหลายวันแล้วก็ยังไม่ได้เจอพญาอีกา เมื่อกี้ตอนข้าเรียกมีอีกาแก่มาตัวหนึ่ง ตามหลักแล้วอีกาแก่จะไม่ร่วมเดินทางไกลกับพรรคพวก
เมื่อก่อนเจ้าอีกาน้อยไม่เคยขัดคำสั่งเลย ข้าบอกให้มันกับเจ้าจิ้งจอกน้อยไปหาท่านพ่อ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา ไม่รู้ว่าพญาอีกาเกิดเรื่องหรือเปล่า”
ฉีเฟยอวิ๋นยืนข้างก้อนหินอย่างวิตกกังวล พลางเห็นอีกาแก่ตัวหนึ่งบินกลับมา
ซึ่งเป็นอีกาแก่ตัวเดิม มันทิ้งตัวลงมาอยู่บนก้อนหินใหญ่เสร็จก็มองมาที่ฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นจ้องอีกาแก่อย่างเหลืออด “ทำไมเจ้าไม่ขันร้อง เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า เจ้าไม่ส่งเสียงข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือว่าพญาอีกาอยู่ตรงนั้นหรือ?”
อีกาดำอ้าปากพร้อมกับน้ำตาไหลพราก
อีกาแก่กระพือปีกพรึ่บพึ่บแล้วบินวนหนึ่งรอบ ก่อนจะกลับมาเกาะบนก้อนหินใหญ่อีกครั้ง ฉีเฟยอวิ๋นดึงแม่ทัพฉีออกห่าง “ท่านพ่อเจ้าค่ะ ข้าจะไปดูหน่อย ท่านอย่าพึ่งเข้าใกล้นะเจ้าค่ะ อันที่จริงอีกากลัวคนมาก โดยเฉพาะคนที่มีอายสังหาร ท่านพ่อทำศึกมานาน ร่างกายมีรอยเปื้อนเลือดสดของมนุษย์ พวกมันสัมผัสได้เจ้าค่ะ”
แมีทัพฉีฟังสิ่งที่บุตรสาวกล่าว เพียงแต่กำชับหนึ่งประโยคว่า “เจ้าระวังตัวหน่อย”
“ข้ารู้เจ้าค่ะ”
ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปอยู่ด้านหน้าก้อนหินใหญ่ ก่อนจะยื่นมือให้อีกาแก่ “เจ้าลงมา”
อีกาแก่เดินไม่กี่ก้าวก็มาอยู่ที่มือของฉีเฟยอวิ๋น จากนั้นก็ก้มหน้าจิบสักพัก ซึ่งไม่ทำให้ฉีเฟยอวิ๋นเกรงกลัวแต่อย่างใด อีกาแก่เดินตามแขนของฉีเฟยอวิ๋นแล้วสิ้นสุดที่ไหล่ของเธอ ซึ่งมันทำให้ฉีเฟยอวิ๋นเหนื่อยไม่เบา เธอเริ่มมีเหงื่อไหลซึม คนท้องอย่างเธอก็มักจะเหนื่อยง่ายเช่นนี้แหละ
ฉีเฟยอวิ๋นอุ้มอีกาแก่ไว้แล้วเอามือวางที่ปีกของมัน ครั้นฉีเฟยอวิ๋นตรวจอาการอย่างละเอียดยิบย่อยก็ต้องขมวดคิ้วแน่นเป็นปม “เจ้าโดนวางยาพิษจนเป็นใบ้เหรอ?”
ใบหน้าฉีเฟยอวิ๋นเผยความเสียใจ “เจ้าสบายใจได้ ข้ารักษาเจ้าหายแน่ ข้าจะพาเจ้ากลับเข้าไปก่อน”
ฉีเฟยอวิ๋นอุ้มอีกาแก่พลันละสายตามองแม่ทัพฉี “ท่านพ่อเจ้าค่ะ ในค่ายมีเนื้อไหม?”
“มี”
“ประเดี๋ยวท่านสั่งให้ลูกน้องเอามานะเจ้าค่ะ ข้าจะป้อนอีกาแก่”
“อืม”
แม่ทัพฉีประหลาดใจกับความสามารถของบุตรสาวมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าก็ไม่ได้พูดกระไร เพียงแต่เห็นเธออุ้มด้วยความลำบาก แม่ทัพฉีจึงคิดอยากช่วย “ให้พ่อเถอะ เจ้าเหนื่อยแล้ว”
“ไม่ต้องเจ้าค่ะ อีกาแก่กลัวท่านพ่อ หรือว่าท่านพ่อมองไม่ออกว่ามันไม่กล้ามองท่านพ่อเลย?”
ฉีเฟยอวิ๋นไม่บอก แม่ทัพฉีก็มองไม่ออกจริงๆ อีกาแก่ไม่กล้ามองเขาจริงๆด้วย
ฉีเฟยอวิ๋นมองไปเบื้องหน้า ยามนี้ค่ายทหารก็อยู่ไม่ไกลแล้ว เขาจึงตามใจบุตรสาว
พอกลับมาถึงค่ายทหารก็เห็นอวิ๋นหลัวฉวนกับมู่เหมียน เห็นฉีเฟยอวิ๋นกลับมาพวกนางก็รีบมาต้อนรับ “หาเจอแล้วหรือ?”
“คอหอยของอีกาแก่ไม่ดีแล้ว ข้าจะรักษาให้มัน พวกเจ้าพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยหารือเรื่องช่วยพญาอีกา”
“อืม”
อวิ๋นหลัวฉวนกับมู่เหมียนฟังฉีเฟยอวิ๋น ทั้งสองออกจากค่ายทหารแล้วจากไป
ฉีเฟยอวิ๋นให้อีกาแก่กินเนื้อจนอิ่มหนำสำราญแล้วค่อยทำการรักษา
แม่ทัพฉีกล่าวอย่างเป็นห่วง “อวิ๋นอวิ๋น เจ้ารักษาคนได้ แต่เจ้าจะรักษาอีกาได้หรือ?”
“ท่านพ่อ คนกับสัตว์ไม่ต่างกันหรอกเจ้าค่ะ และข้าถนัดยาพิษที่สุด ประเดี๋ยวท่านพ่อต้องช่วยข้าเฝ้าหน้าประตู อย่าให้ผู้ใดเข้ามาเด็ดขาด”
“กลัวคนอื่นเห็นหรือ?”
“ไม่ใช่เจ้าค่ะ กลัวท่านพ่อเห็น” ฉีเฟยอวิ๋นกังวลว่าเดี๋ยวเธอนำเลือดของตัวเองให้อีกาแก ท่านพ่อเธอจะสงสารเอา
ใบหน้าแม่ทัพฉีสับสนมึนงง ทว่าไม่ได้ถามอะไรมาก อีกาแก่กินเนื้อเสร็จ ฉีเฟยอวิ๋นรู้ว่าอีกาแก่ไม่เป็นอะไรแล้ว จึงบอกให้แม่ทัพฉีไปเฝ้านอกกระโจม เธอจะได้รักษาคอหอยอีกาแก่
แต่ไหนแต่ไรแม่ทัพฉีมักจะเชื่อฟังบุตรสาว ไม่เคยสงสัยอะไร เขาจึงไปรอนอกกระโจม
ฉีเฟยอวิ๋นนำมีดออกมากรีดข้อมือ จากนั้นก็หยิบถ้วยมารองรับเลือดสด แม่ทัพฉีแหวกกระโจมดูหน้าประตู
“อวิ๋นอวิ๋น เจ้าทำอะไร?” เห็นฉีเฟยอวิ๋นกรีดข้อมือ แม่ทัพฉีสะดุ้งตกใจ รีบเดินเข้ามา
ฉีเฟยอวิ๋นจับข้อมือแม่ทัพฉีไว้ พร้อมกับมองอีกาแก่ “เจ้าดื่มก่อน”
อีกาแก่ก้มหน้า เริ่มทำการดื่มเลือดของฉีเฟยอวิ๋น ใบหน้าแม่ทัพฉีกราดเกรี้ยว “นี่เป็นวิธีรักษาอันใด ถึงกับดื่มเลือดบุตรข้า”
ฉีเฟยอวิ๋นรู้ว่าแม่ทัพฉีมีสัมผัสไวต่อเลือด เธออยากให้เขารออยู่นอกกระโจม คาดไม่ถึงว่าเขาจะมาเห็นเข้า
ทว่าเมื่อถึงจุดนี้ก็คงปิดบังต่อไปไม่ได้อีก ฉีเฟยอวิ๋นรีบยกข้อมือให้แม่ทัพฉีดู “ท่านพ่อดูข้อมือข้าสิ เห็นไหมไม่เป็นอะไรแล้ว?”
แม่ทัพฉีก้มหน้ามองมือของบุตรสาว ความตกตะลึงพรึงเพริดก็ทะยานเข้าใส่ “นี่มัน?”
“ท่านพ่อ ลูกแยกแยะเป็น แค่เลือดนิดเดียวเอง ในวิชาแพทย์ คนเราปล่อยเลือดออกถือเป็นเรื่องดีเจ้าค่ะ และเลือดของข้ามีคุณสมบัติพิเศษ……แก้พิษได้เจ้าค่ะ”
แม่ทัพฉีงงเป็นไก่ตาแตกกับถ้อยคำที่ฉีเฟยอวิ๋นเอ่ยออกมา สักพักเขาก็ออกไปนั่งเหม่อลอย
ฉีเฟยอวิ๋นรู้ว่าแม่ทัพฉีต้องปรับตัวชั่วครู่ จึงไปดูอีกาแก่ก่อน
อีกาแก่ดื่มเลือดแล้วรู้สึกเปลี่ยนไปอย่างลิบลับ เสมือนกลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง มันยืนอยู่ตรงนั้นอย่างแข็งแกร่งและองอาจ ดวงตาวาวโรจน์ มีชีวิตชีวาเหลือแสน
ฉีเฟยอวิ๋นรู้ว่าสภาพร่างกายอีกาแก่ฟื้นฟูแล้ว เอื้อมมือไปลูบหัวอีกาแก่ “เจ้าดูเหมือนดีขึ้นเยอะเลย เจ้าลองพูดดูสิ”
อีกาแก่เข้าใจพลันส่งเสียงร้อง กู่ๆ สองเสียง ฉีเฟยอวิ๋นคลี่ยิ้ม “ไม่เป็นไรแล้ว เจ้าพูดได้แล้ว ตอนนี้เจ้าลองเล่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“กู่กู่……” อีกาแก่ส่งเสียงออกมาไม่หยุด แม่ทัพฉีรู้สึกอึ้ง จ้องอีกาแก่ตาค้าง ถึงแม้จะดีใจที่อีกาแก่ไม่เป็นอะไร แต่กลับรู้สึกร้อนรุ่มกลุ้มใจขึ้นมา
แม่ทัพฉีเลิกคิ้วมองบุตรสาว โลหิตของบุตรสาวช่วยแก้พิษได้ มันอาจนำหายนะมาสู่บุตรสาวได้
“เจ้าบอกว่า พญาอีกาโดนจับไปขังอยู่ในกระโจมของแม่ทัพใหญ่ที่ค่ายศัตรู พวกเจ้าเลยไปช่วย แต่ถูกจับไปขับในกรงด้วย?”
“กู่กู่……”
ฉีเฟยอวิ๋นเข้าใจ ทว่ากลับรู้สึกสงสัยในเวลาต่อมา “แล้วพวกเจ้าไปที่นั่นทำไม?”
“กู่กู่……”
“มีคนจงใจล่อพวกเจ้าไป แล้วจับพวกเจ้าไว้?”
“กู่กู่……”
“แล้วเห็นเจ้าอีกาน้อยไหม?”
“……” ผ่านไปสักพักอีกาแก่จึงส่งเสียงกู่กู่อีกสองครั้ง บอกว่ามันไม่เห็น จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นก็ถามต่ออีกหลายประโยค และรู้ว่าไม่เห็นเจ้าจิ้งจอกน้อยด้วย
“เจ้าพักผ่อนก่อน ข้าจะหาวิธีส่งคนไปช่วยพญาอีกาเอง”
อีกาแก่ไปพักผ่อน ฉีเฟยอวิ๋นจึงจะไปหาแม่ทัพฉี สองพ่อลูกคุยกันประมาณหนึ่งชั่วยาม ฉีเฟยอวิ๋นเหนื่อยจนรู้สึกเปลือกตาต่อสู้กัน แม่ทัพฉีเห็นเลยให้เธอไปพักผ่อน และไม่ฟังคำอธิบายของเธอ