องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 440 เด็กน้อยที่ฉลาด
ฉีเฟยอวิ๋นตัวสั่นไปทั้งตัว และทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น
มีห้องสว่างอยู่ข้างหน้าเธอและมีคนกำลังเดินอยู่ในห้อง ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่าเธอตื่นแล้วและร่างกายของเธอก็เจ็บไปทั้งตัว
“ท่านอ๋อง……”
ฉีเฟยอวิ๋นนอนลงไปสักพักและเมื่อเริ่มรู้สึกมีสติแล้วจึงเรียกคนเข้ามา
อวิ๋นจิ่นเกือบจะโยนเด็กที่อุ้มอยู่ในอ้อมแขนออกไปและหันไปหาฉีเฟยอวิ๋น “นายท่านเจ้าคะ?”
ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นจากเตียง อวิ๋นจิ่นตื่นตระหนก “นายท่านฟื้นแล้ว รีบไปรายงานท่านอ๋อง”
อาอวี่รีบเดินออกไปรายงานให้ท่านอ๋องเย่ทราบ ขณะนี้หนานกงเย่กำลังลูกชายคนโตฟังไป่ซู่ซู่พูดอยู่ภายในเรือนด้านหน้า
เขาไม่ได้ดูรีบร้อนเลยสักนิด ออกมาได้สักพักหนึ่งแล้วก็ยังพูดไม่จบ อากาศเย็นเช่นนี้!
อาอวี่ตะโกนออกไป หนานกงเย่อุ้มลูกชายคนโตกลับเข้ามาในเวลารวดเร็ว เมื่อเด็กกลับมาก็มีฝูงนกติดตามมาข้างหลัง ทำให้ภายในเรือนราวกับมีว่าวขนาดใหญ่ปกคลุมอยู่ จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในเรือนสวนดอกกล้วยไม้
“อวิ๋นอวิ๋น”
เมื่อเข้าประตูมาหนานกงเย่ตะโกนเรียกฉีเฟยอวิ๋น เมื่อเห็นว่าฉีเฟยอวิ๋นนั่งอยู่บนเตียง ดวงตาของหนานกงเย่ก็เป็นประกายและเดินเข้ามาตรงหน้าของฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นมองดูลูกชายของเธออยู่ในภวังค์
เมื่อก้มหน้าลง ฉีเฟยอวิ๋นก็ถูกหนานกงเย่กอดไว้ในอ้อมแขน ฉีเฟยอวิ๋นจ้องมองลูกของเธออย่างปลาบปลื้ม
เมื่อเด็กน้อยเห็นฉีเฟยอวิ๋นก็อ้าปากยิ้ม ใบหน้าของเขาน่ารักอย่างมาก ฉีเฟยอวิ๋นถาม “นี่คือลูกของเราหรือเพคะ?”
หนานกงเย่ปล่อยฉีเฟยอวิ๋น “จะไม่ใช่ได้อย่างไร”
“ใหญ่เช่นนี้เลยหรือเพคะ? ทำไมดูเหมือนสามสี่เดือนเลยเพคะ?”
“เจ้าหลับไปสองเดือนแล้ว ใหญ่เช่นนี้จะแปลกอะไร น้ำนมของแม่นมทั้งหลายในจวนของเราดี ต้องขาวๆ อ้วนๆ เช่นนี้แหละ”
หนานกงเย่อดไม่ได้ที่จะจูบฉีเฟยอวิ๋นสองครั้ง ฉีเฟยอวิ๋นเงยหน้าขึ้นมองหนานกงเย่ “หม่อมฉันนอนไปนานแค่ไหนหรือเพคะ?”
“เจ็ดสิบวัน” หนานกงเย่พูดถึงเจ็ดสิบวันก็รู้สึกกัดฟันกรอด เช่นนี้ต้องมีความสัมพันธ์กับซูมู่หรงนานขนาดไหน เขารู้สึกโกรธมาก
ฉีเฟยอวิ๋นครุ่นคิด “ทำไมหม่อมฉันถึงไม่รู้เลย เวลาของพวกเราและของพวกเขาปรับคำนวณได้อย่างไรกัน ทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง หัวหน้ากล่าวว่า ครั้งนี้ที่หม่อมฉันกลับไปคือไม่ได้กลับมาห้าปีแล้ว”
“พวกเจ้าได้พบเจอกันจริงๆ ด้วย” หนานกงเย่โกรธจนกัดฟันกรอด
ฉีเฟยอวิ๋นหมดคำพูด “หัวหน้าได้รับบาดเจ็บและเกือบตาย ถึงแม้ที่นี่จะผ่านไปแล้วเจ็ดสิบวัน แต่ที่หม่อมฉันประสบพบเจอมาก็เพียงแค่เจ็ดวันเท่านั้น ไม่ได้ทำอะไรเลยในเจ็ดวัน เพียงแค่ฉีดยาและรักษาอาการป่วยให้กับคนที่ใกล้จะตาย”
“จริงหรือ?” หนานกงเย่ยังคงสงสัย
ฉีเฟยอวิ๋นจูบลงที่ปากของเขาเบาๆ จากนั้นอาการโกรธของเขาก็หายไป
หนานกงเย่จึงไว้ชีวิตเธอและกอดแขนของเธอไว้แน่น “ข้าคิดหาวิธีนับไม่ถ้วนเพื่อที่ต้องการจะไปหาเจ้า แต่ข้าก็หาไม่พบ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าร้อนใจเพียงใด ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่ต้องการข้าแล้ว ข้าเกือบจะเอาหัวไปกระแทกกับเสาเพื่อตายไป!”
ฉีเฟยอวิ๋นเกือบจะหัวเราะออกมา แต่เมื่อเห็นใบหน้าของลูกชายที่ยิ้มแย้มอย่างร่าเริง ฉีเฟยอวิ๋นก็รู้สึกสบายใจขึ้นมามาก
“ท่านอ๋องเพคะ เกิดออกมากี่คนหรือเพคะ?” ขณะนี้เธอเพิ่งจะนึกขึ้นได้และถามออกมา
หนานกงเย่รู้สึกหดหู่ ถึงแม้จะอยากตีเธอ มีลูกชายแล้วก็ลืมสามีเลยใช่ไหม?
“ท่านอ๋องเพคะ” เมื่อไม่ได้คำตอบจากหนานกงเย่ ฉีเฟยอวิ๋นจึงถามซ้ำ
หนานกงเย่จึงพูดขึ้นมา “เจ้านับเองไม่เป็นหรือ?”
ฉีเฟยอวิ๋นจึงปล่อยหนานกงเย่ออก และนับจำนวนที่อยู่ในห้อง ข้างหน้ามีเปลอยู่สามอัน ฉีเฟยอวิ๋นอยากรู้ว่าใช่สามคนหรือไม่ แต่เมื่อดูอย่างละเอียดทางนั้นยังมีเปลอีกสองอัน ฉีเฟยอวิ๋นก็เริ่มอยู่ไม่นิ่ง ห้าคน?
หนึ่งคอก?
“ท่านอ๋องเพคะ มีกี่คนกันแน่เพคะ?” ฉีเฟยอวิ๋นเกือบจะร้องไห้ออกมา อวิ๋นจิ่นอุ้มหนึ่งคนเข้ามาและวางลงให้กับฉีเฟยอวิ๋น
“พระชายาเจ้าคะ ทั้งหมดมีห้าคนเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ?”
ฉีเฟยอวิ๋นไม่สามารถอยู่นิ่งได้เลย ห้าคน?
ฉีเฟยอวิ๋นรีบมองไปรอบๆ ก็พบว่าบนเตียงของเธอมีเด็กน้อยสามคนนอนอยู่ ทั้งหมดสวยงามราวกับแกะสลักออกมา
และเมื่อมองไปที่อ้อมกอดของเธอ อ้อมกอดของอวิ๋นจิ่น……
ก็คือห้าคน!
ฉีเฟยอวิ๋นสูดลมหายใจ จะเป็นไปได้อย่างไร?
ทำไมคนสามารถให้กำเนิดได้เยอะเช่นนี้?
เมื่อประตูถูกผลักออก ฉีเฟยอวิ๋นก็ได้ยินเสียงคนเข้ามา เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเป็นไป่ซู่ซู่สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวและมีผ้าพันคอเดินเข้ามา
ฉีเฟยอวิ๋นจึงสงบลง ราวกับโลกนี้สงบลง
ไป่ซู่ซู่เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของฉีเฟยอวิ๋นและยิ้มให้เธอ “เจ้าฟื้นแล้วหรือ?”
ฉีเฟยอวิ๋นส่งลูกที่อยู่ในอ้อมแขนให้กับหนานกงเย่ และลุกขึ้นลงจากเตียง
“ข้ารู้ว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ครั้งนี้โชคดีของเจ้า” ฉีเฟยอวิ๋นต้องการจะเดินเข้าไปใกล้แต่ไป่ซู่ซู่ส่ายหน้า ฉีเฟยอวิ๋นจึงหยุดชะงักลง
“ทำไมหรือ?”
ไป่ซู่ซู่ไม่ได้บอก เพียงแต่มองไปที่ลูกชายทั้งห้าของฉีเฟยอวิ๋น “ที่นี่มีถุงหอมห้าอัน เจ้ารับไว้และให้พวกเขาคนละหนึ่งอัน ต้องรอให้โตแล้วค่อยแกะออกมา เรื่องนี้ต้องปิดเป็นความลับ ข้าได้ตรวจสอบแล้ว พิษในร่างกายของพวกเขาเหมือนกับของเจ้า สามารถถอนพิษได้นับร้อย แต่พวกเขายังเล็กเกินไป หากถูกพบเข้าและพวกเจ้าไม่ป้องกัน จะทำให้พวกเขาได้รับอันตรายได้ ฉะนั้นข้าจึงนำถุงหอมมาให้เจ้า”
ไป่ซู่ซู่หยิบถงหอมออกมาห้าอัน
ฉีเฟยอวิ๋นหันกลับไปมองและสอบถาม “นอกจากนี้แล้วยังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่?”
“ไม่มีแล้ว ข้าเก็บเอาไว้ก็เพื่อรอเจ้า และก็เพื่อจะได้เจอกับมู่เหมียนสักครั้ง แต่มู่เหมียนได้เข้าไปอยู่ภายในวัง แต่ข้ากลับไม่ยอมเข้าวังไป ไม่เจอนางก็ไม่เป็นไร”
“เช่นนั้นเจ้าต้องไปแล้วหรือ?” ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกไม่อยากให้นางจากไป ไป่ซู่ซู่หันกลับมามอง
ฉีเฟยอวิ๋นมองไปที่ดวงตาของไป่ซู่ซู่ ที่ประตูยังมีเด็กผู้ชายยืนอยู่ ฉีเฟยอวิ๋นจำได้อย่างคลุมเครือว่าตอนนั้นเด็กคนนี้และชายชราที่มีพิษปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน
“หากมีเรื่องอะไรให้ไปหาข้าที่หุบเขายา” ไป่ซู่ซู่หันหลังกลับและเดินจากไป ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปที่ประตูเพื่อมอง ไป่ซู่ซู่ก็หายไปในพริบตา ไปอย่างไรนั้น ฉีเฟยอวิ๋นก็ไม่รู้ได้
จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นก็หันกลับมาและเมื่อนึกถึงมู่เหมียนเธอก็ถามออกมา “แล้วมู่เหมียนล่ะ?”
หนานกงเย่อุ้มลูกชายไว้ในอ้อมอกและเดินไปหาฉีเฟยอวิ๋น จากนั้นจึงส่งลูกชายให้กับฉีเฟยอวิ๋นอย่างไม่มีความสุข “ดูไม่ออกว่าเจ้าเป็นห่วงนางเช่นนี้?”
“หม่อมฉันถามท่านนะเพคะ?” ฉีเฟยอวิ๋นหลับไปเจ็ดสิบวัน เรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกนั้นเธอต่างก็จำไม่ได้ อยากรู้ก็มีเพียงทางเดียวเท่านั้นก็คือถาม
แต่หนานกงเย่กลับไม่พูด เธอจึงรู้สึกโกรธ
ลูกชายที่อยู่ในอ้อมแขยื่นมือไปจับฉีเฟยอวิ๋น เมื่อมองไปที่ลูกชาย ฉีเฟยอวิ๋นจึงก้มศีรษะลง และใบหน้าเล็กๆ ของเขาก็ยื่นมือมาสัมผัสใบหน้าของฉีเฟยอวิ๋นและยิ้มขึ้นมา
ความรักที่มาจากลูกชายนั้นทำให้โลกของฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกสว่างไสว และหัวใจของเธอก็เหมือนกับก้อนฝ้ายที่อุ่นขึ้น
“เอ่อ……” เด็กๆ ยิ้มแย้มพูดคุยอะไรกันนะ ดูเหมือนรีบร้อนอยากจะพูดคุย ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกซาบซึ้งอยากร้องไห้ ลูกของเธอ นี่คือลูกของเธอ!
“แม่ไร้ประโยชน์มากที่ไม่ได้ดูแลเจ้า” ฉีเฟยอวิ๋นพูดพลางร้องไห้ออกมา
เมื่อเห็นเธอร้องไห้ ลูกชายก็ทำปากแบะและสูดลมหายใจเข้าอย่างเสียใจ จากนั้นก็ร้องไห้ออกมา
ฉีเฟยอวิ๋นเห็นจึงรีบพูดขึ้นมา “อย่าร้องนะ อย่าร้องนะ……เด็กผู้ชายห้ามร้องนะ!”
“……” ดูเหมือนจะเข้าใจที่ฉีเฟยอวิ๋นพูด เด็กน้อยก็เงียบลงทันที ดวงตาสีดำใส่จ้องมองไปที่ฉีเฟยอวิ๋นและมือน้อยๆ ก็ลูบไล้ใบหน้าของฉีเฟยอวิ๋น!
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกตกใจเมื่อเห็นลูกชายกำลังเช็ดน้ำตาให้เธอด้วยมือเล็ก ทั้งตัวของเธอแข็งเป็นหิน!
พระเจ้า!