CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 525 ถูกหลอกเสียแล้ว

  1. Home
  2. องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ
  3. บทที่ 525 ถูกหลอกเสียแล้ว
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 525 ถูกหลอกเสียแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นมาที่พระตำหนักเฉาเฟิ่งกับหนานกงเย่ ไห่กงกงกราบทูลให้ทั้งสองเข้าเฝ้าพร้อมกันได้เลย

“หม่อมฉันถวายบังคมเสด็จแม่เพคะ”ฉีเฟยอวิ๋นทำความเคารพพร้อมกับหนานกงเย่

ครั้งนี้พระพันปีเห็นพวกเขาก็เกิดความโมโห กล่าวว่า“พอแล้ว ขึ้นมาเถิด ดูเจ้าเด็กน้อยนี่สิว่าเป็นอะไร ตั้งแต่เมื่อคืนก็เป็นเช่นนี้แล้ว หมอหลวงมาแล้ว ก็ดูไม่ออกว่าสาเหตุมาจากอะไร”

พอฉีเฟยอวิ๋นได้ยินว่าเกิดเรื่องกับลูกชาย ก็เร่งฝีเท้าเดินขึ้นไป

ถึงตรงหน้าของพระพันปีฉีเฟยอวิ๋นจึงได้ถอนสายบัว และอุ้มลูกน้อยขึ้น

เมื่อเจ้าห้าอยู่ในอ้อมกอดของแม่ตนเอง ก็ได้เบิกตาลืมขึ้นมามอง ฉีเฟยอวิ๋นจับแมะคลำชีพจร ก็ไม่สามารถแมะเจอสิ่งใดเลย ฉีเฟยอวิ๋นรู้เลยว่าลูกของตนกลั่นแกล้ง เลยไม่ได้พูดอะไร จำใจต้องพูดว่าเป็นโรคเก่าของเขา

“โรคเก่าหรือ?”พระพันปีกล่าวด้วยความแปลกใจอีกว่า“เหตุใดเมื่อวานไม่ได้ยินว่าเขามีโรคเก่าด้วย!”

“พอไม่มีความสุขก็จะกลั่นแกล้งมีอารมณ์ หลังจากนั้นก็มิสนใจผู้ใดเพคะ “ฉีเฟยอวิ๋นได้ตอบตามความจริง

เดิมพระพันปีอยากจะเอาหลานน้อยไว้ ตอนนี้เห็นเป็นเช่นนี้ก็ไร้หนทางที่จะเอาไว้แล้ว

“ข้าตกใจหมดเลย เช่นนี้ก็กลับกันไปเถิด”

พระพันปีก็เหนื่อยแล้ว ถูกทำให้ตกใจตั้งแต่เช้า เลยโบกมือเพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่ากลับกันได้แล้ว จากนั้นได้หมุนตัวไปหวีผมแต่งตัว

ฉีเฟยอวิ๋นคล้ายดั่งรู้สึกผ่อนคลายลง เลยอุ้มลูกน้อยกลับไป

พอออกมาจากพระราชวังฉีเฟยอวิ๋นได้นั่งบนรถม้า เจ้าห้าก็ได้เบิกตาขึ้นมอง มือน้อยๆได้นำปิ่นสีชาดที่อยู่ในมือมอบแก่ฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นเห็นปิ่นสีชาดก็ชะงักงัน เธอหยิบมาใบหน้าเต็มไปด้วยความตื้นตัน ก้มศีรษะจูบสัมผัสลูกน้อย เจ้าห้ามีความพึงพอใจอย่างมาก แววตาอบอุ่นขึ้นมามากพอสมควร ก็มีเพียงกับฉีเฟยอวิ๋นที่จะสามารถทำให้เขามีแววตาเช่นนี้ได้

หนานกงเย่อิงแอบอยู่อีกด้านคิดไม่ถึงเลยว่าจะไร้ชีวิตจิตใจ ความรู้สึกเขาก็คือศิลปะทางอารมณ์สุนทรีอย่างหนึ่ง

ฉีเฟยอวิ๋นเก็บปิ่นสีชาดไว้ แล้วก็อุ้มลูกชายตัวน้อยเล่นอย่างสนุกสนาน

หนานกงเย่ถามเกี่ยวกับเรื่องของมู่เหมียนไม่กี่ประโยค ฉีเฟยอวิ๋นเห็นเขาโกรธ เลยขี้เกียจที่จะพูดคุยอะไรกับเขา

พอกลับมาถึงจวนอ๋องเย่ฉีเฟยอวิ๋นได้ออกตัวไปพักผ่อนก่อน

ตื่นมาก็เข้าช่วงเที่ยงแล้ว หนานกงเย่ออกไปตั้งนานแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นเล่นกับลูกๆอยู่สักพักหนึ่ง ออกมาจากเรือนจวินจื่อแล้วได้กลับไปที่สวนดอกกล้วยไม้

จนตกถึงตอนเย็นหนานกงเย่ก็ยังไม่กลับมา ฉีเฟยอวิ๋นมีความรู้สึกที่นั่งอยู่ไม่ติด

“อาอวี่ ออกไปเดินเป็นเพื่อนข้าหน่อย”ฉีเฟยอวิ๋นออกมาจากจวนอ๋องเย่แล้วไปเดินบนท้องถนน

ฟ้ามืดเมืองหลวงมีความคึกครื้น ทุกครัวเรือนมีคนเข้าออก แม้แต่ถนนก็เริ่มพลุกพล่านแล้ว

เกิดในเมืองหลวงก็เป็นเช่นนี้ เมื่อเทียบกันแล้วเหล่าอาณาประชาราษฎร์ที่อยู่ในเมืองหลวงจะไม่ความสนุกครึกครื้นในชีวิตประจำวันมากกว่าด้านนอก

ฉีเฟยอวิ๋นกับอาอวี่เดินผ่านฝูงชน เพื่อไปจวนกั๋วกง

ประตูหน้าจวนกั๋วกงเต็มไปด้วยการจราจรติดขัดรถม้าวิ่งขวักไขว่ กล่องแต่ละกล่องได้บรรจุวางบนรถม้าเรียบร้อยแล้ว คนของจวนกั๋วกงยืนสิ้นหวังที่ประตู บางคนกำลังดูความตื่นเต้นคึกครื้น แต่ส่วนใหญ่ก็ถูกไล่แตกกระเจิงกัน

อาอวี่กล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาว่า“ทรัพย์สินฐานะของจวนกั๋วกงมั่งคั่ง บนรายงานกล่าวว่า ค่ำคืนนี้สิบรถม้า ตอนเช้ายังมีสิบรถม้าด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

ฉีเฟยอวิ๋นชำเลืองมองอาอวี่ และมองไปทางหน้าประตูจวนกั๋วจิ้ว

รถม้าสิบคันขบวนออกไป ทิศทางคือท้องพระคลังนั่นเอง

รถม้าเคลื่อนตัวออกไปและมีทหารร่วมเดินทางไปด้วยส่วนหนึ่ง เมื่อเดินหันเข้าไปด้านหน้าและส่องเข้าไปภายในจวนกั๋วจิ้วได้มีเสียงคร่ำครวญพยาบาทดังสนั่น โดยเฉพาะหญิงจำนวนหนึ่ง กำลังนั่งร่ำไห้อยู่ทางด้านใน คล้ายดั่งฟ้าล่วงหล่นลงมา

“ไปเถิด”มองดูแล้วฉีเฟยอวิ๋นก็ไป ตอนที่เดินทางได้พบรถม้าของราชครูจวิน เดิมทีเธออยากจะแอบ แต่เพิ่งผ่านเธอก็ได้ถูกคนในรถม้าเรียกไว้ ฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวมองคนที่กำลังออกมาจากรถม้ามิใช่ราชครูจวิน ยังจะมีผู้ใดหรือ?

ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปถอนสายบัวให้ราชครูจวินเยี่ยงคนมีมารยาท จากนั้นกล่าวว่า“ราชครู”

“พระชายาเย่จะไปที่แห่งใดหรือ?”ราชครูจวินถามเธอ

“ข้าต้องการกลับไปที่จวนอ๋องเย่”ฉีเฟยอวิ๋นตอบกลับ

“พระชายายินดีทีจะร่วมไปที่แห่งหนึ่งกับข้าหรือไม่”ราชครูจวินถามอย่างนี้แล้ว ฉีเฟยอวิ๋นก็ไม่กล้าปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้จึงขึ้นไปในรถม้ากับราชครูจวิน

รถม้าเปลี่ยนเส้นทางที่จะไปจวนอ๋องเย่ไปอีกสถานที่แห่งหนึ่ง ฉีเฟยอวิ๋นมองบริเวณโดยรอบรถม้า เลยกล่าวถามราชครูจวินว่า“สถานที่ที่ราชครูต้องการจะไปคือที่คุกใช่หรือไม่?”

“ในเมื่อพระชายาเย่ทราบ เหตุใดถึงได้ถามอีกเล่า?”ราชครูจวินกล่าวถามพร้อมกับมองฉีเฟยอวิ๋น นึกถึงหลานสาวที่ตายผู้นั้นของตน รู้สึกว่าพ่ายแพ้ไม่มีผิดเลย

ราชครูจวินไม่อยากพูดมาก ฉีเฟยอวิ๋นจึงไม่ถามอะไรมากเช่นกัน

พอรถม้าถึงคุก ทั้งสองลงรถม้าตามไปกันฉีเฟยอวิ๋นโค้งเอวเพื่อเป็นการเคารพราชครูจวิน แล้วเชิญให้เขาเดินก่อน

ราชครูจวินก็ไม่ได้เกรงใจ เดินสาวเท้าก้าวเข้าไปในคุกเลยทันที

เมื่อพูดกล่าวถึงคุก ไม่ใช่สถานที่ที่คนอยู่อย่างแท้จริง เมื่อก่อนในโทรทัศน์ฉีเฟยอวิ๋นก็เคยเห็นมาแล้วแต่ไม่เคยคิดเลยว่า คุกเป็นอย่างนี้นี่เอง

ลานกว้างด้านนอกล้อมรอบด้วยห้องขังทุกด้านและสามด้าน ห้องขังไม่มีหน้าต่าง มีเพียงแต่ประตู ประตูเป็นเสาไม้ทั้งหมด หากต้องการเข้าไปจะต้องก้มโค้งเอวลงด้วย

ฉีเฟยอวิ๋นเดินเข้าไปด้านในกับราชครูจวิน เดินผ่านช่องทางมืดๆแล้วมาหยุดอยู่หน้าห้องขังห้องหนึ่ง

ได้มีคนเปิดประตูคุกให้แก่ราชครูจวิน ราชครูจวินชำเลืองมองฉีเฟยอวิ๋นแล้วเชิญเธอเข้าไป

“ในเมื่อพระชายาเย่มาแล้ว เหตุใดจะต้องถ่อมตัวเยี่ยงนี้ ขอเชิญพระชายาเย่เข้าไปเป็นการดี”

กล่าวพูดจบราชครูจวินมุ่งหน้าเดินก่อน ฉีเฟยอวิ๋นสีหน้าจนปัญญา ราชครูจวินพูดกับเธอขนาดนี้แล้ว หากว่าเธอยังไม่เข้าไป ไม่ใช่ว่าจะทำให้ต้ากั๋วจิ้วคิดว่าเธอเป็นคนชั้นผู้น้อยมาดูความคึกครื้นหรืออย่างไรกัน

ฉีเฟยอวิ๋นเลยสาวก้าวเท้าเดินเข้าไป อีกทั้งสภาพแวดล้อมในคุกก็ไม่ใช่จะดี ในวันปกติต้ากั๋วจิ้วดูแข็งแกร่งกำยำ แต่เข้ามาในคุกอีกทั้งพบเจอการเปลี่ยนแปลงมากมาย แน่นอนว่ากระทบต่อร่างกาย

ฉีเฟยอวิ๋นวัดด้วยตาเปล่า พบว่าต้ากั๋วจิ้วป่วยแล้ว และยังเป็นโรคที่ใช่ว่าจะดี

คนป่วยแล้วพูดยาก แต่มองจากมุมของหมอ คนที่ป่วยส่วนใหญ่เกี่ยวกับทางด้านจิตใจด้วย อารมณ์จิตใจดีก็น้อยที่จะป่วย อารมณ์เสียจิตใจไม่ดีโรคก็เยอะตามมา

โรคของต้ากั๋วจิ้ว เป็นอารมณ์จิตใจที่ก่อให้เกิดขึ้น

ราชครูจวินเห็นต้ากั๋วจิ้วจึงได้ทำความเคารพกล่าวว่า“ท่านกั๋วจิ้ว”

หวังฮวายเต๋อเห็นราชครูจวิน จึงกล่าวอย่างเฉื่อยชาว่า“เจ้ามาได้อย่างไร?มาดูความตลกขบขันหัวเราะเยาะข้าหรือ?”

“ที่ไหนกันเล่า”ราชครูจวินยิ้ม และมองบริเวณโดยรอบ

ฉีเฟยอวิ๋นมาหยุดยืนอยู่อีกด้าน เธอถูกเชื้อเชิญร่วมเดินทางมาด้วย แน่นอนว่าไม่ได้พูดมากอยู่แล้ว

หวังฮวายเต๋อมองฉีเฟยอวิ๋นด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่ฉีเฟยอวิ๋นคิดเลย

ความรู้สึกที่ให้เธอคือหวังฮวายเต๋อไม่มีค่าควรแก่การที่จะมาคิดเล็กคิดน้อยกับเธอ

ราชครูจวินกล่าวอย่างราบเรียบว่า“ท่านอ๋องเย่ได้ค้นเรือนและยึดทรัพย์แล้ว ทรัพย์สินตระกูลของท่านลากไปได้แล้วยี่สิบรถม้า พอรวบรวมแล้ว สิบล้านตำลึงจีนเชียวนะ”

ราชครูจวินกล่าวถึงเรื่องค้นเรือนยึดทรัพย์และตั๋วเงิน หวังฮวายเต๋อหัวเราะอย่างเยือกเย็นกล่าวว่า “ตั๋วเงินนั่นเป็นข้าที่หามา อย่างไร?ไม่ได้หรือ?”

“ได้หรือไม่ได้นั้นแน่นอนว่าต้องดูหลักฐาน ในเมื่อท่านอ๋องเย่สามารถค้นเรือนยึดทรัพย์ แน่นอนว่าต้องมีเหตุผล”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”หวังฮวายเต๋อยังคงกำเริบเสิบสาน

ราชครูจวินไม่ได้ใส่ใจ กล่าวว่า “วันนี้ที่มาเพราะมีรับสั่ง ความหมายของฝ่าบาทคือเชิญท่านลาออก และจะเก็บท่านไว้ที่เมืองหลวงใช้ชีวิตวัยเกษียณ”

หวังฮวายเต๋อไม่ตอบตกลง นั่งแล้วมองราชครูจวิน จากนั้นกล่าวว่า“เชิญราชครูจวินกลับเสียเถิด”

ราชครูจวินมองฉีเฟยอวิ๋น และกล่าวว่า “ควรจะเป็นท่านแล้ว!”

ราชครูจวินพูดจบก็เดินไป ทิ้งฉีเฟยอวิ๋นไว้ลำพังในคุก ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่าถูกหลอกเสียแล้ว!

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 525 ถูกหลอกเสียแล้ว"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์