องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 538 หลุมฝังศพถูกทำลาย
องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 536 หลุมฝังศพถูกทำลาย
อวิ๋นหลัวฉวนหาสถานที่ที่เงียบสงบและเผาศพของจงชินอ๋อง และเก็บเถ้ากระดูกไว้ในโลงศพขนาดเล็ก
จากนั้นก็ปักป้ายหน้าหลุมฝังศพ และอวิ๋นหลัวฉวนก็หันหลังจากไปอย่างไม่อาลัยอาวรณ์
ตงเอ๋อร์หันกลับไปมองและถามอย่างเป็นกังวลว่า:“เช่นนี้จะถูกค้นพบหรือไม่เจ้าคะ?”
“ไม่หรอก” อวิ๋นหลัวฉวนไปบนขึ้นรถม้าและกลับเข้าไปในเมือง
ในที่สุดอวิ๋นหลัวฉวนก็เข้าใจความรู้สึกในตอนนั้นที่อ๋องตวนมาส่งจวินฉูฉู่ หากปล่อยวางได้ก็จะไม่ต้องนึกถึงมัน
จะไม่ชอบก็ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน
หลังจากที่เห็นว่ารถม้าจากไปไกลแล้ว คนคนหนึ่งก็เดินออกมาจากที่ที่ไม่ไกลมากนัก คนผู้นี้สวมหน้ากากและมองดูหลุมฝังศพที่โดดเดี่ยวอย่างเหม่อลอยอยู่นาน
“นายท่าน เราควรไปกันได้แล้ว!” ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังกล่าว ผู้ที่สวมหน้ากากโบกมือ และผู้หญิงที่อยู่ที่ข้างหลังก็หันหลังจากไปอย่างไม่เต็มใจ
ผู้ที่สวมหน้ากากมองดูอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยกมือขึ้น เสียงดังปัง และป้ายหน้าหลุมฝังศพถูกดึงออก โลงศพที่อยู่ในหลุมฝังศพกระจัดกระจายออกไป เถ้ากระดูกข้างในลอยไปตามลมท่ามกลางหิมะ และหน้ากากก็จะปลิวก็ปลิวออกไป ผู้ที่สวมหน้ากากจับหน้ากากผีไว้และหันหลังเดินจากไป
“หาทางส่งข่าวบอกพระชายาตวนว่าหลุมฝังศพถูกทำลายแล้ว” ผู้ที่สวมหน้ากากสั่งก่อนที่จะจากไป
ผู้หญิงคนนั้นตอบรับอย่างไม่เต็มใจ:“เจ้าค่ะ”
เมื่ออวิ๋นหลัวฉวนกลับไปถึงเมืองหลวง นางก็กลับไปที่จวนอ๋องตวนก่อน จากนั้นก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และเก็บเสื้อผ้าเตรียมที่จะจากไป
อ๋องตวนดื่มชาที่กองสอดแนมสองสามกาจนเกือบจะเมาแล้ว จึงถูกปล่อยให้ออกมา แต่เมื่อเขากำลังจะจากไป ก็มีคนเข้ามาและพูดเบา ๆ ข้างหูของหวังฮวายอัน
หวังฮวายอันมองไปที่อ๋องตวนและหยุดเขาไว้:“อ๋องตวน!”
อ๋องตวนหันกลับมา หวังฮวายอันกล่าวว่า:“พระชายาตวนเก็บศพของหนานกงเซวียนเหอด้วยตนเอง จากนั้นก็เผาและฝังศพ”
สีหน้าของอ๋องตวนทรุดลง:“กั๋วจิ้วหมายความว่าอย่างไร?เรื่องนี้ยังต้องให้พระชายาตวนต้องโทษด้วยหรือไม่?ข้าเห็นแล้วว่าศพนั่นถูกโยนทิ้งไว้”
หวังฮวายอันรู้สึกประหลาดใจ:“ดูไม่ออกเลยอ๋องตวนรักพระชายาตวนอย่างลึกซึ้ง ข้าคิดว่าอ๋องตวนจะวู่วามแล้วไปคิดบัญชีกับพระชายาตวนเสียแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีท่าทีเช่นนี้ เพียงแต่อ๋องตวนปฏิบัติเช่นนี้ต่อพระชายาตวน เชื่อว่าฮูหยินใหญ่กั๋วกงจะต้องดีใจมาก
แต่มีบางเรื่องที่อ๋องตวนต้องเตรียมใจไว้บ้าง”
“เรื่องอะไรขึ้น?” อ๋องตวนเป็นกังวลว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวโยงไปถึงอวิ๋นหลัวฉวน และในเวลานี้เขาก็ไม่ควรจะทะเลาะกันเพราะความหึงหวง
หวางฮวายอันกล่าวว่า:“หลุมฝังศพถูกคนทำลายแล้ว คนของกองสอดแนมไปที่นั่น และเห็นงว่าถูกคนทำลายไปแล้ว ทำไมเจ้ายังไม่รู้”
“……” สีหน้าของอ๋องตวนทรุดลง:“ใครเป็นคนทำ?”
“ประการแรกไม่ใช่กองสอดแนม ประการที่สองไม่ใช่อ๋องเย่ และประการที่สามก็ไม่ใช่อ๋องตวน เช่นนั้นอ๋องตวนคิดว่าใครเป็นคนทำ?”
สีหน้าของอ๋องตวนไม่น่ามองมากขึ้นเรื่อย ๆ แววตาของเขาลึกล้ำและคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ อ๋องตวนกัดฟันและกล่าวว่า:“หนานกงเซวียนเหอ?”
“……” หวางฮาวยอันไม่พูดอะไร อ๋องตวนมองไป:“คนของกองสอดแนมของพวกท่านน่าจะรู้ตั้งนานแล้วว่าคนผู้นั้นไม่ใช่จงชินอ๋อง?”
“ไม่ใช่คนของกองสอดแนมของข้าที่รู้ตั้งนานแล้วว่าคนผู้นั้นไม่ใช่จงชินอ๋อง แต่เป็นอ๋องเย่ที่รู้ตั้งนานแล้ว คราวนี้เป็นเพียงแผนการที่แอบหลบหนีไปอย่างแยบยล
กองสอดแนมเฝ้าสังเกตการณ์ตามคำสั่งของอ๋องเย่ ไม่คิดว่าจงชินอ๋องจะปรากฏตัวขึ้นจริง ๆ และโชคดีที่มีพระชายาตวน หากไม่ใช่เพราะพระชายาตวน จงชินอ๋องก็คงจะไม่ปรากฏตัวออกมา กองสอดแนมบอกว่าผู้ที่ปรากฏตัวออกมาสวมหน้ากากผี และเอาหน้ากากออกมาจากหลุมฝังศพ
ดูเหมือนว่าเขาอดไม่ได้ที่จะปรากฏตัวออกมา และสิ่งที่ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะปรากฏตัวออกมาก็คือพระชายาตวน”
“หนานกงเซวียนเหอ ข้ากับเจ้าคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้!”
อ๋องตวนกัดฟันด้วยความโกรธแค้น
หวังฮวายอันกล่าวว่า:“เรื่องนี้เกรงว่าจะไม่ง่าย หนานกงเซวียนเหอตายไปแล้ว นี่เป็นการตัดสินของอ๋องเย๋ แม้ว่าต่อไปหนานกงเซวียนเหอจะปรากฏมา เขาก็จะเป็นเพียงคนผู้หนึ่ง และต้าเหลียงก็ไม่ยอมรับคนเช่นนี้
ราชวงศ์ก็ไม่ยอมรับเช่นกัน!”
อ๋องตวนมองไป:“อ๋องเย่ต้องการที่จะปลอดขวัญราษฎรเป็นการชั่วคราว?”
“ใช่ สำหรับต้าเหลียงแล้ว ไม่ต้องการจงชิน และไม่ต้องการผู้ที่สมรู้ร่วมคิดกันก่อกบฏ ดังนั้นหนานกงเซวียนเหอต้องตายและหายสาบสูญ
นี่เป็นกลอุบายของอ๋องเย่ และที่เหมือนกันก็คือเป็นการคาดการณ์ผิดพลาดหนานกงเซวียนเหอ
เขาเพียงต้องการหาสถานที่สำหรับรักษาจิตวิญญาณและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ได้ทุกเมื่อ
มีการเตรียมการดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการที่อ๋องเย่จะถูกศัตรูที่รายล้อมไล่ฆ่า
แต่เขาหนีไม่พ้น และตรงกันข้ามเขากลับสูญเสียสถานะของการเป็นจงชิน
ตั้งแต่นี้ต่อไปจะไม่มีหนานกงเซวียนเหออีก เขาเป็นเพียงกากเดนที่เป็นกบฏคนหนึ่ง”
แววตาของอ๋องตวนดูลึกซึ้ง:“เช่นนั้นต้องการให้ข้าทำอะไร?”
“อ๋องตวนเป็นคนฉลาด จะต้องรู้อย่างแน่นอน หากต้องการจะปกปิดความจริงเรื่องที่หนานกงเซวียนเหอยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องมีคนเป็นแบกแพะรับบาป ใครที่เป็นคนทำลายหลุมฝังศพ และต้องมีใครสักคนยอมรับ”
หวังฮวายอันรู้สึกสงสารอ๋องตวนจริง ๆ คนที่ซื่อสัตย์ก็ต้องถูกรังแก
อ๋องตวนมองไปที่หวังฮวายอัน และทันใดนั้นก็รู้สึกขบขัน:“หลุมฝังศพนั้นมีเพียงข้าที่สามารถทำลายได้ใช่หรือไม่?”
“ใช่” หวังฮวายอันกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอยู่ในใจ เมื่อเห็นท่าทางที่โกรธจัดของอ๋องตวน เขาก็รู้สึกดีใจมาก เขาเรียนรู้ที่จะเลวแล้วงั้นหรือ?
อ๋องตวนหันหลังเดินจากไป:“ข้าควรจะกลับไปได้แล้ว”
หวังฮวายอันยิ้ม:“น้อมส่งเสด็จอ๋องตวน”
หลังจากที่อวิ๋นหลัวฉวนเก็บของเรียบร้อยแล้ว นางก็เตรียมที่จะจากไป พ่อบ้านกลับเข้ามาจากข้างนอกด้วยสีหน้าที่ดูแปลกใจ
ตงเอ๋อร์จึงถามว่า:“มีอะไรหรือ?”
พ่อบ้านกล่าวว่า:“เมื่อครู่มีคนมาที่ข้างนอก และถามว่าพระชายาไปนอกเมืองแล้วใช่หรือไม่ แถมยังบอกอีกด้วยว่าศพของจงชินอ๋องหายไปแล้ว และถามพวกเราว่าพระชายาเห็นแล้วหรือไม่ จากนั้นก็ไล่ข้าออกไป”
“พวกเราไม่เห็น” ตงเอ๋อร์รีบกล่าว อวิ๋นหลัวฉวนไม่พูดอะไรและเตรียมที่จะจากไป
พ่อบ้านกล่าวอีกว่า:“แต่คนพวกนั้นที่เพิ่งจากไป ดูรีบร้อนออกไปนอกเมือง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?บางทีพวกเขาอาจจะพบศพของจงชินอ๋องแล้ว”
สภาพอากาศหนาวเย็น พ่อบ้านจึงเอามือใส่เข้าไปในแขนเสื้อ เขาก้มหน้าลงอย่างประหลาดและกล่าวว่า:“บ่าวเพียงแค่สงสัยว่าศพของจงชินอ๋องถูกชำแหละแล้ว แล้วเหตุใดคนพวกนั้นต้องไปตามหาเขาด้วย?หรือว่าอยากจะทำลายเถ้ากระดูก?”
พ่อบ้านไม่เข้าใจ ตงเอ๋อร์ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน:“ชำแหละศพก็ไม่มีอะไรแล้วไม่ใช่หรือ?ทำไมต้องไปหาเขาด้วย?”
ตงเอ๋อร์หันกลับไปมองอวิ๋นหลัวฉวน อวิ๋นหลัวฉวนรีบร้อนออกไป และขี่ม้าตรงไปที่นอกประตูเมือง
อ๋องตวนเฝ้ามองอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นว่าอวิ๋นหลัวฉวนออกไปแล้ว เขาก็ตามออกไป เมื่อไปถึงหลุมฝังศพที่ถูกทำลายอยู่นอกเมือง อวิ๋นหลัวฉวนก็ตกตะลึง หลุมฝังศพถูกทำลายทั้งหมด
อวิ๋นหลัวฉวนยืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม เมื่อทุกคนไปกันหมดแล้ว นางจึงจากไป
ผู้หญิงคนนี้อยู่ในฝูงชนและจ้องมองที่อวิ๋นหลัวฉวนด้วยความเกลียดชัง
แต่นางต้องการไปในทันที เพราะนี่คือเป็นความต้องการของนายท่าน
หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้ว อวิ๋นหลัวฉวนก็ดินไปที่หน้าหลุมฝังศพ แล้วมองดูหลุมฝังศพที่ถูกทำลาย นางหันกลับมาและกำลังจะจากไป แต่เห็นอ๋องตวนที่ยืนอยู่ที่นั่น
อวิ๋นหลัวฉวนจึงถามว่า:“เป็นท่านใช่หรือไม่?”
อ๋องตวนมองไปที่ด้านหลังของอวิ๋นหลัวฉวน และหันหลังจากไปโดยไม่ตอบ
อวิ๋นหลัวฉวนจึงตามอ๋องตวนกลับไปที่จวนอ๋องเย่ นางเก็บสัมภาระและจากไป เมื่อตงเอ๋อร์เห็นว่า อ๋องตวนไม่ได้ขัดขวาง จึงตามหลังไปอย่างใกล้ชิด
พ่อบ้านเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจอยู่ที่หน้าประตู แต่ก่อนทั้งสองคนทะเลาะกันก็ไม่ได้กลัวอะไร แต่คราวนี้น่าแปลกที่จะเลิกรากัน เขารู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เล็กน้อย และไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร?
“ท่านอ๋อง พระองค์จะไม่ตามไปดูหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ จะทรงปล่อยให้พระชายากลับไปที่จวนกั๋วกงหรือ?”
“นางต้องการจะกลับไป ข้าจะทำอะไรได้?” อ๋องตวนนั่งข้าง ๆ และถอนหายใจ
พ่อบ้านถามว่า:“เช่นนั้นหากพระมเหสีทรงตรัสถามขึ้นมา ท่านอ๋องจะทรงอธิบายอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
อ๋องตวนใจลอย:“ข้าจะรู้ได้อย่างไร ควรจะไปถามอ๋องเย่สิ”
“ท่านอ๋องเย่ เรื่องนี่เกี่ยวอะไรกับท่านอ๋องเย่หรือพ่ะย่ะค่ะ?” พ่อบ้านประหลาดใจ จากนั้นอ๋องตวนก็โบกมือเพื่อบอกให้เขาออกไป