องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 645 การเปลี่ยนแปลงกลับเนื้อกลับตัวคล้ายดั่งเทพพลัดถิ่น
- Home
- องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ
- บทที่ 645 การเปลี่ยนแปลงกลับเนื้อกลับตัวคล้ายดั่งเทพพลัดถิ่น
องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 645 การเปลี่ยนแปลงกลับเนื้อกลับตัวคล้ายดั่งเทพพลัดถิ่น
เวลาที่เหนือความคาดหมายมาถึง ฉีเฟยอวิ๋นมองเฟิงอู๋ชิงที่ลุกขึ้นแล้วกระโจนทะลวงมา ผมของเขายาวสลวยสะบัดพัดโบก บนตัวสวมใส่ชุดสีแดง ใช้มือข้างเดียวบีบกำคอของฉีเฟยอวิ๋น เพราะเขาต้องการจะสังหารเธอแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นขยับเล็กน้อย จ้องมองเฟิงอู๋ชิงที่บ้าบิ่น เดิมร่างกายของเขาก็เย็นเฉียบ คล้ายดั่งไก่ที่เปียกน้ำฉ่ำปรากฏขึ้นมาถึงจะถูก แต่ตอนที่เขามา และใช้พลังงานภายในทั้งหมด คล้ายดั่งแสงสีแดงสาดส่องลงมาตรงหน้าฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นหนีไม่ทันเลยถูกควบคุม
แต่เธอก็ไม่ได้กังวลใจอะไร เพียงแค่จ้องมองเฟิงอู๋ชิง
เฟิงอู๋ชิงรู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว มือของเขาขาวสะอาด จนกระทั่งประณีตละเอียดอ่อนกว่าเมื่อก่อน
ฉีเฟยอวิ๋นยกมือขึ้นผลักมือของเฟิงอู๋ชิงออก เฟิงอู๋ชิงก้มศีรษะมองมือของตัวเองทันที มือของเขาเทียบกับเมื่อก่อนนั้นดีมาก ไม่ได้มีอาการบวมเป่งแล้ว
เฟิงอู๋ชิงเดินไปที่หน้ากระจก แล้วส่องมองอย่างละเอียด บนใบหน้าของเขา บนร่างกายของเขามันหายดีแล้ว
อู๋ซังกับอู๋หมิงก็ต่างพากันตื่นตะลึง โดยเฉพาะหมอเทวดาที่รู้สึกทึ่งมากเป็นพิเศษ เลยรีบตามฉีเฟยอวิ๋นไป
ฉีเฟยอวิ๋นสวมใส่ชุดสีขาว มีเสื้อขนสัตว์อยู่บนบ่า เธอเดินพร้อมกับมองความกว้างใหญ่ของด้านในเรือนจวินจื่อ แล้วทอดถอนหายใจ กล่าวว่า“ท่านอ๋องไม่ได้อยู่ข้างกาย ข้าก็ถูกกลั่นแกล้งรังแก เฟิงอู๋ชิงต้องการสังหารข้า หากท่านอ๋องอยู่ เขาไม่มีทางแพร่งพรายเข้ามาข้างกายข้าได้”
อวิ๋นจิ่นยิ้ม กล่าวขึ้นว่า“นายท่านเพิ่งกลับมา ก็คิดถึงท่านอ๋องแล้วหรือเพคะ?”
ฉีเฟยอวิ๋นมองอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า“อวิ๋นจิ่นเจ้าก็มีคนที่เจ้าชอบ เจ้าก็ไม่คิดถึงเขาหรือ?”
อวิ๋นจิ่นหน้าแดงก่ำเล็กน้อย ก้มศีรษะลงกล่าวว่า“คิดถึงนะคิดถึงแน่นอนเพคะ แต่ความคิดถึงก็ทำแค่วางเก็บไว้ในใจ”
“อ้อ?”ฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวพอมองดูแล้วอายุของเธอดูน้อยกว่าอวิ๋นจิ่นมาหน่อย แต่ทว่าแววตาของเธอนั้นกลับดูโตเป็นผู้ใหญ่
มีบางเวลาที่อวิ๋นจิ่นก็รู้สึกว่าฉีเฟยอวิ๋นคล้ายดั่งหญิงที่ผ่านประสบการณ์มามากมาย
อวิ๋นจิ่นก้มศีรษะลงกล่าวว่า“ชอบคนคนหนึ่ง อยากจะอยู่กับเขาตลอดเวลา ทุกวันสามารถพบเจอเขาได้ แต่หากไม่สามารถเจอเขาได้ทุกวัน ความคิดถึงก็สามารถเป็นภัยพิบัติเพคะ”
“ดูเหมือนว่าเจ้ามีคนที่คิดถึง”ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวอย่างตลกขบขัน
อวิ๋นจิ่นไม่ได้กล่าวอะไร เพียงแค่เงียบอึมครึม
ฉีเฟยอวิ๋นรู้ว่านางไม่ชอบพูดคุย ก็เลยไม่ได้ถามอะไรอีก
แต่ทว่าอวิ๋นจิ่นกลับกล่าวว่า“หม่อมฉันก็คิดถึงเขาเช่นเดียวกับนายท่านเพคะ”
“น่าทึ่งเสียจริง คนที่เจ้าชอบเป็นคนไหนกัน”ฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวเดินไป ด้านหลังได้มีหมอเทวดาตามมาแล้ว
หมอเทวดาตามพร้อมกับตะโกนว่า“ท่านอาจารย์”
ฉีเฟยอวิ๋นหันมองหมอเทวดา เธอเป็นหญิงผู้หนึ่ง รับชายอายุสามสิบกว่าปีมาเป็นศิษย์ รู้สึกไม่ค่อยอิสระเลย
แต่อายุพ่ายแล้ว บุคลิกลักษณะไม่สามารถพ่ายได้
ฉีเฟยอวิ๋นหันไปด้วยท่าทางสงบจิตสงบใจ หมอเทวดาได้มาถึงตรงหน้าของฉีเฟยอวิ๋นแล้วก็กล่าวว่า“ท่านอาจารย์”
พอเจอหมอเทวดา ฉีเฟยอวิ๋นนึกถึงซุนหงอคงขึ้นมาทันที เสียงนั้นมักจะเรียกขึ้นว่า ท่านอาจารย์……
ฉีเฟยอวิ๋นยิ้มเล็กน้อย กล่าวว่า“มีธุระหรือ?”
“ท่านอาจารย์ เมื่อคืนข้าศึกษาการแก้พิษ แต่ข้าพบว่าสารพิษยิ่งแก้ยิ่งแกร่งขึ้น ยังต้องเอาชนะการแก้พิษนั่น
ต่อมาทำไอ้เฉาแช่ในน้ำก็ยิ่งหนักขึ้น ผิวเนื้อของเจ้าหอคล้ายดั่งเห็ดที่อยู่ใต้พื้นทะลวงขึ้นมา เบ่งบานจนน่าตกใจ
ทั้งตัวล้วนดำคล้ำ เส้นลมปราณปูดขึ้น
เหตุใดวันนี้ชโลมอาบน้ำเย็น กลับฟื้นคืนแบบเดิมของผิวแล้ว”
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวอย่างไม่ปิดบังว่า“ยาที่ให้เขากินคือแก้พิษ เชื่อมโยงกับเส้นลมปราณและเลือดในร่างกายของเขา ความจริงอาการโรคของเขาอยู่ที่พลังในร่างกายของเขา เลือดอุดกลั้น ลมปราณตับติดขัด ข้าไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงเป็นเช่นนี้ แต่สุขภาพร่างกายของเขานั้นไม่ดีจริง ที่เขาไอคือพิษความเย็น แล้วก็วัณโรคด้วย
โรคนี้ไม่นับว่ารักษายากแต่โรคของเขามันนานมาก ข้านึกไม่ออก จะรักษาตั้งแต่รากฐานยังไง เลยมีเพียงการใช้ความเย็นความร้อนมาปรับสมดุล
ข้าเลยนึกถึงขยายตัวด้วยความร้อนและหดตัวด้วยความเย็น ใช้พิษโจมตีพิษ
พิษได้ชนะแล้ว แต่ก็เชื่อมโยงเส้นเลือดและการหมุนเวียนในร่างกาย เพราะฉะนั้นร่างกายของเขาเลยแตกลายสะพรั่ง เพราะว่าพิษความร้อนและพิษความเย็นของเขาเจอกัน เพราะฉะนั้นเลยเป็นเช่นนั้น ร่างกายดำคล้ำทั้งตัว เพราะข้าต้องการปกป้องร่างกายเขา ใช้พิษอีกประเภทหนึ่ง ระงับที่เขาจะถูกพิษอีกอันทำร้ายตาย
เขานอนอยู่ทั้งคืนและร่างกายของเขาถึงขีด จำกัดแล้ว ตับและปอดของร่างกายมนุษย์เป็นสองอวัยวะที่แปลกประหลาด
ปอดเป็นอวัยวะของอวัยวะที่ว่าไม่ว่าจะเจอเชื้อโรคอะไร เขาก็จะโผเข้าจนสุดอวัยวะสุดท้ายอย่างสุดความสามารถ และสุดท้ายก็ประสบความพินาศไปกับเชื้อโรคได้ ตามตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือหากไม่สามารถจัดการเจ้าได้ มันก็จะพินาศไปพร้อมกับเจ้าด้วย
ส่วนตับไม่ใช่อย่างนั้น อวัยวะตับสร้างเลือดขับพิษ
พิษสามารถกลืนตับได้ กลืนทั้งหมดก็สามารถตายได้
ข้านับเวลาไว้แม่นยำแล้ว ตอนที่ปอดดับสูญไปหนึ่งรอบ โรคต่างๆที่อยู่ในร่างกายของเขาก็ดับสิ้น
ใช้น้ำหนึ่งกะละมังลงไป เซลล์ของเขาจะได้รับการกระตุ้น เขาจะสังหารข้า ทำให้สารพิษในร่างกายบุกทะลุ ทั้งร่างกายเต็มด้วยไฟ พลังจะถึงจุดสุดยอด
เวลานี้ ร่างกายของเขามีอากาศพลังสีขาวออกมาจากร่างกายเขา เขาคล้ายดั่งเกิดใหม่กลับเนื้อกลับตัว
พิษเย็นไปแล้ว ร่างกายของดีแล้ว ต่อไปจะไม่มีอาการไอ และเวลาเดียวกันอาการบวมจะหายไป ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าสามารถสัมผัสรู้สึกได้หรือไม่ แต่ร่างกายของเขาบวมนั้นเป็นความจริง
แน่นอน ก็ไม่สามารถอาศัยโชคชะตาได้
ในน้ำเย็นเหล่านั้นมียาที่สามารถรักษาอาการของเขาหายได้ ทั้งร่างกายของเขาร้อนมาก น้ำยาเข้าไปในร่างกายของเขาแล้วร่างกายเลยฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว”
หมอเทวดาพยักหน้า มองฉีเฟยอวิ๋นด้วยความมึนงง ทันใดนั้นหมอเทวดากล่าวว่า“พูดเช่นนี้ ครั้งนี้รักษาโรค ก็คือใช้พิษหรือ?”
ฉีเฟยอวิ๋นรู้ว่าหมอเทวดาคลั่งหมกมุ่นกับเรื่องนี้ เพื่อที่ไม่ให้หมอเทวดาคลั่งเกิน เลยกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“เจ้ามากับข้าเถิด ข้าจะเขียนให้เจ้ากลับไปศึกษา เดิมคือการใช้พิษโจมตีสู้พิษ เขามีพิษเย็น ข้าใช้พิษร้อนแก้ บวกกับการปรุงเท่านั้นเอง”
หมอเทวดากล่าวด้วยความดีใจว่า“ขอบคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างมาก”
“มิต้องเกรงใจ ในเมื่อเจ้าคือศิษย์ของข้า ข้าทีเรื่องอันใดดีๆแน่นอนว่าต้องสอนเจ้า เจ้าจำไว้ว่าไม่ทำเรื่องไม่ดีก็พอแล้ว”
“ไม่ทำเรื่องไม่ดีหรอก ข้าจะเป็นคนดีอย่างแน่นอน ต่อไปไม่มีคำสั่งของท่านอาจารย์ ข้าจะไม่เป็นมือสังหารไปทำร้ายคน”
“เรื่องนี้มิจำเป็น ชีวิตของคนโชคชะตาล้วนกำหนด เจ้าเป็นเจ้า ไม่ต้องสนใจข้า เจ้าเป็นคนหอทิงเฟิง ข้าไม่ก้าวก่ายเจ้า เจ้าเพียงแค่ไม่ใช้สิ่งที่ข้าสอนเจ้านี้ไปทำร้ายคนก็พอแล้ว”
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวชี้แจงอย่างชัดเจน จากนั้นได้เดินเข้าไปในห้องแล้วเขียนตำรับแก้พิษให้หมอเทวดา หมอเทวดาหยิบไปด้วยความสบายใจ
หมอเทวดาออกไปแล้ววิ่งกลับมาถามฉีเฟยอวิ๋นอีกว่า“ท่านอาจารย์ ท่านเป็นคนที่ใช้พิษเป็น?”
“ข้าใช้ยาพิษละเอียดขึ้นมาหน่อย ข้ารู้จักคนผู้หนึ่ง นางเป็นผู้ใช้เจ้าพิษที่เก่งกาจ ทั้งร่างกายของนางเต็มไปด้วยพิษ ต่อมานางให้สิ่งที่นางเรียนรู้มาในชีวิตทั้งหมดแก่ข้า”
หมอเทวดาตื่นเต้นแทบจะรอไม่ไหวที่จะกลับไปศึกษา
“ข้าจะกลับไปศึกษา ศึกษาเสร็จแล้วข้าจะมาหาท่านอาจารย์”หมอเทวดาหมุนตัววิ่งไป ฉีเฟยอวิ๋นตลกขบขัน ชายโตแล้วผู้หนึ่งกระโดดโลดเต้นคล้ายดั่งเด็กน้อย น่าตลกเสียจริง!
เฟิงอู๋ชิงนั่งเหม่อลอยอยู่ในห้อง ลมพาดผ่านชุดที่เขาสวมใส่ อู๋ซังมองด้วยความทึ่งเหม่อลอย เดิมลักษณะรูปโฉมของเจ้าหอเฟิงก็น่าทึ่ง วันนี้ดูแล้วคล้ายดั่งคนที่ไม่ใช่คนจริงๆ งดงามคล้ายดั่งคนบนสรวงสรรค์พลัดถิ่น
หมอเทวดารีบกลับมา เข้ามาแล้วจึงได้เห็นเฟิงอู๋ชิงหมุนตัว ผมดำขลับของเฟิงอู๋ชิงปะบ่า มือกำกอบกุมอยู่ด้านหลังแน่นขนัด มองแบะกล่าวกับหมอเทวดาด้วยความเดือดดาลว่า“หญิงอัปลักษณ์ผู้นั้นล่ะ?”
หมอเทวดาชะงักงัน กล่าวขึ้นว่า“ไม่…..ไม่รู้เลย!”