องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 698 การปกป้องและเข้าข้างในทางที่ผิดของฝ่าบาท
องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 696 การปกป้องและเข้าข้างในทางที่ผิดของฝ่าบาท
ฉีเฟยอวิ๋นกินอาหาร อ๋องตวนมองอย่างไรก็เฉื่อยชา อารมณ์สักนิดหนึ่งไม่มีเลย
อวิ๋นหลัวฉวนกินเพียงเล็กน้อย นางไม่กินแต่ลูกก็ต้องกินนะ
หนานกงเย่ยกจอกเหล้าดื่มเล็กน้อย นับว่ากินอาหารเล็กน้อยแล้ว ทั้งสี่คนนั่งอยู่อย่างนั้นไม่มีผู้ใดกล่าวพูด รอคนมายินดีที่จวนอ๋องตวนออกไป อ๋องตวนถึงได้ลุกแยกออกจากโต๊ะ
ภายในเรือนสงบเงียบลงทันที พ่อบ้านตกใจไม่น้อย
“เรียกคนมา ลากเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ออกไป เฆี่ยนตีด้วยไม้ตะบองห้าสิบที
อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวว่า“นี่ท่านอ๋องทำอะไรเพคะ ท่านอ๋องจะเฆี่ยนตีเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ เช่นนั้นฝ่าบาท……”
“ภรรยาน้อยของข้า ยังพูดไม่เชื่อฟัง นางมาที่จวนอ๋องตวนไม่ใช่ว่ามาปรนนิบัติเป็นวัวเป็นม้าให้ข้าหรือ ในเมื่อเป็นวัวเป็นม้าแล้ว ก็คือบ่าว บ่าวถูกเฆี่ยนตีทำไมจะไม่ได้?”อ๋องตวนกล่าวอย่างเคร่งขรึมผงาด อวิ๋นหลัวฉวนมองอ๋องตวนจนไร้คำจะกล่าว
พ่อบ้านมิกล้าชักช้าอืดอาดยืดยาด รีบไปลากเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ออกมา เวลานี้เฉินอวิ๋นเอ๋อร์รออ๋องตวนไปหา แม้ว่านางจะใช้กลอุบายแผนการที่ต่ำตม แต่ภายในใจของนางรู้สึกมีความโชคดีอย่างคาดไม่ถึง คิดว่านี่ก็ไม่มีอะไร ไม่ช้าไม่นานอ๋องตวนก็จะสามารถมาเลื่อมใสในตัวนางได้
พ่อบ้านเข้ามาเฉินอวิ๋นเอ๋อร์อิงหมอนนั่งอยู่ สาวใช้ข้างกายแปลกใจกล่าวว่า“พวกเจ้าเป็นอะไรกัน เข้ามาได้อย่างไร?”
“เอาออกไป”พอพ่อบ้านโบกสะบัดมือ คนจำนวนหนึ่งจึงได้ลากเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ออกไปด้านนอก
สาวใช้จะออกตามไปด้วย จึงได้ถูกพ่อบ้านผลักจนล้ม พอนางลุกขึ้นจะตามเฉินอวิ๋นเอ๋อร์นั้นได้ถูกลากไปเสียแล้ว
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ไม่ยินยอม หยุดฉุดกระชากกล่าวว่า“พวกเจ้าทำอะไรกัน ข้าเป็นพระชายารองของท่านอ๋องตวน ใครบอกพวกเจ้าท ทำไมกล้าหาญนัก กล้าที่จะมาลากฉุดกระชากข้าได้ถึงเพียงนี้”
คนเหล่านี้ไม่พูดไม่จา ลากเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ออกไปแล้วโยนลงบนพื้น รอเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ลุกขึ้น สิ่งที่ติดอยู่บนศีรษะหล่นลง กลีบช่อมงกุฎดอกไม้ก็หล่นลงบนพื้น ผมเงาดำขลับกระจายลง คนทั้งคนตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
ฉีเฟยอวิ๋นยืนอยู่อีกด้านนึกถึงความหยิ่งผยองของเฉินอวิ๋นเอ๋อร์เวลานั้นขึ้นมาทันที หลังจากที่เธอเจอท่านอ๋องเย่ไม่นาน เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ก็เคยปรากฏ พวกเขาเจอกันในพระราชวัง นางออกมาปรากฏตัวพร้อมกับหนานกงเย่
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์เมื่ออดีตก็เป็นคนที่สูงส่ง แต่ทว่าวันนี้กลับกลายเป็นเยี่ยงนี้
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ลุกขึ้นยืนมองไปทางอ๋องตวน จากนั้นกล่าวว่า“ท่านอ๋องตวน ท่านทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน?”
“วันนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี ทหาร เฆี่ยนด้วยไม้ตะบองห้าสิบที”
“พวกเจ้า……”เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ถูกกดลงไป ไม้นานได้มีคนนำไม้ตะบองมาเฆี่ยนตีลงที่เฉินอวิ๋นเอ๋อร์หนึ่งยก ยกหนึ่งตีเสร็จ ก้นของเฉินอวิ๋นเอ๋อร์แตกลายเหมือนดอกไม้แล้ว
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์นอนร้องโอดครวญร่ำไห้อยู่บนพื้น นางไม่เคยได้รับความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อนเลย
อ๋องตวนกล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกว่า“เจ้าไม่ควรมาที่จวนอ๋องตวน แต่ในเมื่อเจ้ามาแล้ว ก็ดี ตายในมือคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ข้าก็ไม่สามารถขจัดความเกลียดชังได้ มิสู้กับตายในมือของข้า
ให้คนล่ามโซ่นางแล้วเอาไว้ในโรงม้าหลังเรือนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โรงม้าเป็นที่อยู่ของนาง ช่วงค่ำคืนนางพักที่นั่น ช่วงกลางวันขัดส้วม หากผู้ใดกล้าขัดขวาง แจ้งให้ทราบ ว่าข้าไม่มีทางปล่อยไป
คนเรือนหลังที่ฟังอยู่ หากไม่ระวังเฉินอวิ๋นเอ๋อร์หนีไปได้ เช่นนั้นทุกคนจะถูกเฆี่ยนด้วยไม้ตะบองยี่สิบครั้ง”
พ่อบ้านรีบกล่าวว่า“พวกกระหม่อมจะดูอย่างเคร่งครัดพ่ะย่ะค่ะ”
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์มองอ๋องตวน กล่าวขึ้นว่า“ท่านอ๋องตวน ท่านทำได้อย่างไร?”
อ๋องตวนกล่าวอย่างเย็นชาว่า“เจ้าไม่ควรมาตั้งแต่แรก เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่ง่ายต่อการกลั่นแกล้งจริงๆนะหรือ?”
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์หมอบอยู่บนพื้น ดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยเส้นเลือด อยากจะขอให้อ๋องตวนไว้ชีวิต พอมองเห็นฉีเฟยอวิ๋นกับหนานกงเย่เลยกลืนคำลงไป
ที่จริงฉีเฟยอวิ๋นก็ไม่ได้อยากจะสนใจเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ เธอมองอวิ๋นหลัวฉวน แล้วกล่าวว่า“ท่านมานี่หน่อย ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน”
ฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวเดินออกไปก่อน หนานกงเย่ไม่วางใจ เวลานี้เขาต้องเกาะติดฉีเฟยอวิ๋นไม่ห่างถึงจะถูก
ฉีเฟยอวิ๋นพาอวิ๋นหลัวฉวนไปด้านหน้า หนานกงเดินตามอยู่ทางด้านหลัง
ทั้งสองคนเดินมาด้านนอก ฉีเฟยอวิ๋นถึงได้ถามว่า“ท่านมีการวางแผนอะไรไหม?”
ที่จริงเรื่องจวนอ๋องตวนฉีเฟยอวิ๋นไม่คิดที่จะไปยุ่งเกี่ยว แต่ตอนนี้อวิ๋นหลัวฉวนมีลูก ไม่สามารถเห็นแล้วจะไม่สนใจได้
แม้ว่าอ๋องตวนจะปกป้องภรรยาอย่างแน่วแน่ แต่ไม่ได้ทำให้เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ไร้โอกาสเลยแม้แต่น้อย
“วางแผน…”ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นหลัวฉวนจึงได้เหลือบมองไปทางด้านหลัง อ๋องตวนยืนอยู่ไกลๆไม่ได้มาด้วย
“เมื่อก่อนข้าคิดว่า ข้าสามารถรับได้ที่ท่านอ๋องตวนชอบผู้หญิงคนอื่น อย่างน้อยสามารถมีพระชายารองได้ แต่ตั้งแต่ที่ฝ่าบาทมีพระราชบัญชา แล้วท่านอ๋องตวนแต่งเฉินอวิ๋นเอ๋อร์เข้ามาข้าก็เริ่มนั่งไม่ติด จนกระทั่งข้านอนไม่หลับ ท่านอ๋องตวนก็ไม่ได้อธิบายกับข้า ข้าก็ไม่อยากถาม ด้านในนี้ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันอย่างแน่นอน เฉินอวิ๋นเอ๋อร์เคยทำอะไรไว้
แต่….ด้านในนี้หากไม่มีความประมาทของท่านอ๋องตวน เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ก็ไม่มีทางมีโอกาส เพราะฉะนั้นข้าเลยไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว”
อวิ๋นหลัวฉวนทอดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก กล่าวอีกว่า“ครั้งนี้ข้าอยากกลับไปจวนกั๋วกง แล้วก็ไม่อยากเจอใครอีกแล้ว ท่านพี่ท่านมีธุระให้อาอวี่มาหานะ อาอวี่กับตงเอ๋อร์สนิทกัน แน่นอนว่าตงเอ๋อร์จะต้องกล่าวพูดกับข้า”
”ท่านจะไปเช่นนี้ ไม่สนใจท่านอ๋องตวนแล้วนะหรือ?”
“ไม่ใช่ไม่สนใจ ข้าสนใจ ตอนนี้การค้าของจวนอ๋องตวนอยู่ที่ข้า ข้ายุ่งทุกวัน เพราะฉะนั้นข้าวางแผนคิดว่าจะให้พวกเขาไปหาข้าที่จวนกั๋วกง ข้ายังต้องสนใจการค้าอยู่”
“เช่นนั้นเจ้าโกรธกับใครหรือ อ๋องตวน?” ฉีเฟยอวิ๋นชำเลืองมองอ๋องตวนที่ซูบผอมลงมาก
อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวว่า“ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ข้าแค่รู้สึกว่าข้าอยากจะใจเย็นลงสักช่วงเวลาหนึ่ง ตรงกลางระหว่างข้ากับท่านอ๋องตวนเดิมมีความเข้าใจผิดกัน หากข้าไม่คิดพิจารณาให้ชัดเจน สิ่งที่ข้าต้องการคืออะไร เขาไม่คิดให้ชัดเจนว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร สุดท้ายคนที่โชคร้ายคือข้าสองคน และสุดท้ายคนที่เจ็บปวดทรมานคือลูก เพราะฉะนั้นข้าเลยพูดเช่นนี้”
“อย่างนี้นี่เอง ท่านดูแลตนเองดีๆ ที่จริงข้าไม่กังวลเฉินอวิ๋นเอ๋อร์เท่าไหร่ ที่กังวลใจกลับเป็นบางคน มีบางคนรู้สึกว่านี่คือโอกาส หากเกิดเรื่องกับท่านแล้ว เช่นนั้นจวนอ๋องตวนจะมีพระชายาตวนคนใหม่
เช่นนั้น ไม่ว่าพระชายาตวนผู้นี้จะเป็นใคร ล้วนเป็นพระชายาตวน
พอถึงตอนนั้น ก็ยากที่จะจัดการแล้ว”
“ข้ารู้ ข้ากลับจวนกั๋วกงคนทั่วไปไม่ได้เจอข้าหรอก จวนกั๋วกงยังมีความปลอดภัย ท่านพี่ไม่ต้องกังวลใจ ข้าจะดูแลตนเองและลูกดีๆ ไม่ให้ผู้ใดมาทำร้ายข้าได้ ข้าไม่ใช่จวินเซียวเซียว ใครก็ไม่สามารถทำอะไรข้าได้ตามอำเภอใจ ข้าไม่อยากเป็นอะไรไป ใครก็ไม่สามารถทำให้เกิดเรื่องกับข้าได้
ต่อให้นางมีตำแหน่งที่สูงศักดิ์ ก็ทำไม่ได้”
ฉีเฟยอวิ๋นสูดหายใจเข้าลึกๆ และทอดถอนหายใจออกกล่าวว่า“ หญิงสาวเมื่อได้เป็นแม่คนจากที่อ่อนแอจะแข็งแกร่งขึ้น ข้าอยู่กับเขาที่นั่น ช่วยท่านไม่ได้ ท่านสามารถดูแลตนเองได้ ข้าก็เบาใจลงบ้าง”
อวิ๋นหลัวฉวนพยักหน้ากล่าวว่า“วางใจเถิด ตั้งแต่เล็กข้าไม่ห่างตำราทหาร หากไม่ติดกับดักความรัก ไม่มีทางที่จะถูกโจมตีเช่นนี้ เรื่องครั้งนี้ทำให้ข้าหนาวเหน็บขยาด วันนี้เมืองต้าเหลียงมองดูแล้วคล้ายดั่งสงบสุข ความเป็นจริงไม่ใช่
ทันทีที่มีปัญหาภายในและภายนอก ทุกด้านพบกับศัตรู เมืองอื่นล้วนจ้องพร้อมตะคลุบดั่งพญาเสือ และภายในวังพลุ่งพล่านเกิดกระแสคลื่นโหมซัดกระหน่ำ พอเริ่มสงบลง กระแสน้ำที่มืดมิดนั้นได้เพิ่มขึ้นตั้งนานแล้ว
มู่เหมียนเป็นตัวอย่าง วันนี้นางเป็นเช่นนั้น ข้ารู้สึกเจ็บปวดทรมานมาก
จวินเซียวเซียวก็เช่นกัน
ฝ่าบาทปกป้องและเข้าข้างในทางที่ผิด ทำให้คนเหนื่อยหน่ายจนปัญญาเสียจริง
ไม่มีมูลเหตุก็ได้เกิดเรื่องกับท่านได้ รถม้าจะทำร้ายท่าน คิดไม่ถึงเลยว่าเวลานี้ฝ่าบาทจะให้ท่านอ๋องตวนแต่งงานอย่างนี้ ข้าไม่ได้โง่ซื่อบื้อ
เมื่อก่อนเพียงคิดว่า มีเพียงไปสู้รบ สังหารศัตรู ถึงจะปกป้องบ้านเมืองได้ แต่ทว่าวันนี้ข้ากลับไม่ได้คิดเช่นนั้น”