องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 904 กลับเมืองหลวง
องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 904 กลับเมืองหลวง
หมอเทวดาเคยชินตั้งนานแล้ว เขาดูให้หวาชิงนับครั้งไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นเขาเลยไม่ได้ลังเล ในการถอดชุดของหวาชิง รอยแผลเป็นบริเวณหน้าอกของหวาชิงหายไป หมอเทวดามองฉีเฟยอวิ๋นด้วยความตื่นตะลึง ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นกล่าวว่า“ถือว่ามอบเป็นของขวัญการแต่งงานแก่พวกเจ้า อย่าลืมล่ะให้กำเนิดบุตรเยอะๆ อ้อ….ใช่แล้ว……”
ฉีเฟยอวิ๋นหันมองหมอเทวดา กล่าวว่า “พูดกันตามหลักเหตุผลเจ้าถือเป็นคนของปีกใต้ ตามความหมายของท่านอ๋อง อนาคตมีบุตรใช้แซ่ของแม่ และเจ้าต้องแต่งเข้าถึงจะถูก เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ปีกใต้ ข้าว่าเจ้ากล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมอยู่บ้างนะ”
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวจบจึงเดินออกไป หมอเทวดาคลายจุดให้หวาชิง หวาชิงถีบเข้าให้ แล้วสวมใส่ชุดวิ่งออกมา
ฉีเฟยอวิ๋นกลับมาเก็บของ หวาชิงตามมา
“ท่านไม่โทษข้าหรือ?”หวาชิงกล่าวอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย เดินเข้าไปถามฉีเฟยอวิ๋น ฉีเฟยอวิ๋นมองหวาชิงด้วยความตลก
“จนตอนนี้เจ้ายังคิดว่าเจ้าชอบผู้หญิงหรือ?”
หวาชิงหน้าแดงก่ำกล่าวว่า“ข้าไม่ได้ชอบผู้หญิง ข้าชอบฉีเสี่ยวฮวน”
“แต่ฉีเสี่ยวฮวนเป็นความฝัน หมอเทวดาคือความเป็นจริง ”ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวด้วยความน่าสนใจ หวาชิงเลยเหลือบมองหมอเทวดาตรงหน้าประตู
“ท่านออกไป”
หมอเทวดาหมุนตัวเดินออกไป ทั้งสองคนที่อยู่ด้านในเลยคุยกัน
หวาชิงถามฉีเฟยอวิ๋นว่าเมื่อไหร่เธอจะกลับมาอีก เป็นเวลานานฉีเฟยอวิ๋นถึงได้กล่าวขึ้นว่า“หากว่าข้าให้กำเนิดบุตรแล้วไม่เป็นไรล่ะก็ ข้าจะมาเยี่ยมพวกเจ้า แต่ตอนนี้ท่านอ๋องรีบกลับไป อยากให้ข้าให้กำเนิดบุตรที่เรือน เพราะฉะนั้นข้าเลยร่วมงานแล้วพวกเจ้าไม่ได้ แต่เจ้าวางใจ กลับไปข้าจะพูดกับฝ่าบาท เพื่อมอบรางวัลแต่งงานแก่พวกเจ้า ข้ารู้สึกว่าฝ่าบาทจะต้องดีให้ความสำคัญกับผู้นำแนวหน้าอย่างแน่นอน พวกเจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้อง”
“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว หากท่านกลับมาไม่ได้ข้ากลับไปก็ได้”
ในใจของหวาชิงไม่มีการมองหน้ากันไม่ติด นางยิ่มอย่างสดใส
ฉีเฟยอวิ๋นเตรียมตัวไป หวาชิงเลยรีบลุกขึ้นส่งเธอ
ขึ้นรถม้าหนานกงเย่ก็ชี้แจงเรียบร้อยแล้ว หวาชิงกับหมอเทวดาโบกสะบัดมือ ถึงได้ส่งพวกเขาจากไป
รอรถม้าไปไกลแล้ว หมอเทวดาจึงถามว่า“เหตุใดเลือดถึงสามารถรักษาโรคได้?”
หวาชิงชะงักงันครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวว่า“ข้าก็ไม่ได้ถาม ลืมเสียแล้ว”
หมอเทวดาหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย กล่าวว่า“ไม่ได้ถามก็ไม่ได้ถาม ต่อไปไม่ต้องจำเรื่องนี้ ไม่ต้องพูดกับคนอื่นด้วย ท่านอาจารย์เชื่อใจเจ้ากับข้า อย่าทำร้ายนาง”
“อืม”
ฉีเฟยอวิ๋นไปแล้วไม่กี่วัน บรรยากาศบนท้องฟ้ายิ่งเริ่มหนาว อีกทั้งยิ่งเดินทางยากมากขึ้น ระหว่างการเดินทางพบเข้ากับพายุหิมะ
รถม้าจอดอยู่ระหว่างการเดินทาง ฉีเฟยอวิ๋นจอดหยุดอยู่บริเวณจุดพักม้า ท้องยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ฉีเฟยอวิ๋นก็ยิ่งฝันมากขึ้นด้วย
“เป็นอะไรหรือ?”ฉีเฟยอวิ๋นนอนไม่หลับเลยลุกขึ้น หนานกงเย่ก็ลุกขึ้นด้วย
“ท่านอ๋อง พวกเรากลับกันเถิดเพคะ เหลืออีกสามวันก็จะถึงเมืองหลวงแล้ว ”ฉีเฟยอวิ๋นลงจากเตียง แล้วสวมใส่เสื้อผ้า
หนานกงเย่ก็รีบสวมใส่เสื้อผ้าเช่นกัน แล้วสั่งลงไปว่าให้เดินทางในคืนนั้นเลย
พอขึ้นรถม้าแล้ว หนานกงเย่โอบฉีเฟยอวิ๋นไว้ในอ้อมกอด ฉีเฟยอวิ๋นเงยหน้าขึ้นจูบเขา แล้วกล่าวว่า“ท่านอ๋อง หม่อมฉันฝันถึงซูมู่หรง เขาขาดใจ ท่านอ๋องว่าแปลกหรือไม่เพคะ?”
หนานกงเย่หลุบตาลง กล่าวว่า“เช่นนั้นไร้ประโยชน์เสียจริง ข้ายังคิดว่าเขาจะเก่งกาจ สุดท้ายใช้ไม่ได้เลย แล้วยังต้องถ่วงข้าด้วย”
“เขาไม่ได้ถ่วงท่านอ๋อง ท่านอ๋องกลับมาช้า แต่หม่อมฉันประมาทเลินเล่อทำให้หลี่ถิงตาย เขาตายแล้วหม่อมฉันมักจะฝันถึงซูมู่หรงเพคะ หม่อมฉันเลยรู้ว่าเวลาไม่มากแล้ว”
“ไร้สาระ นี่ก็ไม่ใช่ว่ายังดีๆอยู่หรือ ข้าได้ทำการติดต่อไป๋ซู่ซู่แล้ว ไม่นานนางกับมู่เหมียนจะมา แล้วพวกเราก็มีเวลาอีกสามวันที่จะถึงที่นั่น”
หน้าของหนานกงเย่ขาวโพลน ตั้งแต่ที่กลีบมาวันนั้น เขาก็นอนไม่ค่อยเต็มอิ่ม ฉีเฟยอวิ๋นพลิกตัวเขาก็ลืมตาขึ้นอยู่ กลัวว่านอนหลับไปจะเกิดเรื่องกับฉีเฟยอวิ๋นได้แล้วไม่รู้เรื่อง
“อืม แต่หากหม่อมฉันทนไม่ไหวล่ะ?”มีบางคำ ที่ฉีเฟยอวิ๋นไม่อยากพูด แต่ถ้าไม่พูดกลัวว่าจะไม่มีโอกาส
หนานกงเย่กอบกุมมือฉีเฟยอวิ๋นแน่น กล่าวว่า“ไม่มีทาง ข้าจะไม่มีทางให้เจ้าจากไป”
หนานกงเย่ก้มศีรษะลงจูบฉีเฟยอวิ๋น กอดเธอแน่นไม่ฟังคำที่เธอจะพูด แต่ฉีเฟยอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะพูด เธอกลัวจะไม่มีโอกาส
“ท่านอ๋อง หากหม่อมฉันไปแล้วจะต้องเอาความรักทะนุถนอมทั้งหมดมอบแก่เสี่ยวอวิ๋นนะเพคะ นี่เป็นสิ่งที่หม่อมฉันกับท่านอ๋องติดค้างนาง หากท่านอ๋องทำไม่ดีกับนาง หม่อมฉันจะกลับมาไม่ได้”
“…….”หนานกงเย่กัดฟันกรอดกล่าวว่า“หากว่าข้าดีกับนาง อวิ๋นอวิ๋นจะกลับมาจริงหรือไม่?”
“อืม จริง!”
“ไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ”หนานกงเย่กล่าวอย่างไม่เชื่อ
ฉีเฟยอวิ๋นหลับตาลง เอามือของหนานกงเย่วางบนท้อง กล่าวว่า“ท่านอ๋อง คนกล่าวว่า ลูกสาวคือคนรักของพ่อเมื่อชาติก่อน ท่านอ๋องว่า ท่านอ๋องชอบเสี่ยวอวิ๋นหรือไม่ หม่อมฉันพูดจริงนะเพคะ!”
หนานกงเย่มองฉีเฟยอวิ๋นด้วยแววตาอบอุ่นกล่าวว่า“ชอบ!”
“หากหม่อมฉันไม่มา หากว่าชื่อเสียงของเสี่ยวอวิ๋นไม่แย่ขนาดนั้น ท่านอ๋องจะชอบหรือไม่เพคะ”
“ชอบสิ!”
……..
ฉีเฟยอวิ๋นแสยะมุมปาก แล้วนอนหลับไป
หนานกงเย่ห่มผ้าเรียบร้อย จากนั้นมองไปทางด้านนอก แล้วหลับตาอิงรถม้า
หนานกงเย่นอนฝัน ฝันว่าฉีเฟยอวิ๋นนอนแล้วไปสถานที่แห่งหนึ่ง หนานกงเย่เลยตื่นขึ้นมาทันที
ฟ้าสางแล้วในที่สุดรถม้าก็หลบหิมะหนักออกมาได้ ทางด้านหน้าไม่มีหิมะแล้ว หนานกงเย่ก้มมองฉีเฟยอวิ๋น แล้วกล่าวว่า“อวิ๋นอวิ๋น พวกเราจะถึงเรือนแล้ว”
ฉีเฟยอวิ๋นอิงแอบอยู่ในอ้อมกอดของหนานกงเย่ จะเคลื่อนไหวก็ไม่เคลื่อนไหว แล้วก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร หนานกงเย่ชะงักงัน เป็นเวลานานถึงได้เอามือไปอังวางบนจมูกของฉีเฟยอวิ๋น เพื่อทดสอบหยั่งเชิงดู เธอยังหายใจอยู่ แต่เขาเรียกเธอ ทำไมถึงไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ ร่างกายก็ร้อนผ่าว
หนานกงเย่ก้มศีรษะลง จับบีบปากของฉีเฟนอวิ๋นแล้วจูบลง จากนั้นกัดเธอเล็กน้อย
เลือดกระจายออก หนานกงเย่สูดหายใจเข้าลึกๆ ฉีเฟยอวิ๋นยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาใจหนักอึ้งจนแทบจะขาดดิ้นแล้ว
หนานกงเย่กระชับอ้อมแขนเขามากขึ้น มือวางอยู่บนท้องของฉีเฟยอวิ๋น แล้วกล่าวว่า“อีกไม่นานพวกเราจะถึงเรือนแล้ว”
เฟยอิงถามมาจากด้านนอกรถม้าว่า“ท่านอ๋อง พวกเราจะหยุดพักด้านหน้าหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“ไม่ต้อง ไปต่อเลย”
เฟยอิงรู้สึกว่าผิดปกติ ลังเลอยู่นานเลยเปิดม่านรถม้าดู ดูเสร็จแล้วเลยเร่งปิดม่านลงทันที
เฟยอิงรีบสั่งให้เดินทางทันที อีกทั้งห้ามหยุด วันพรุ่งนี้จะต้องถึงเมืองหลวง
เฟยอิงนึกถึงเรื่องที่ฉีเฟยอวิ๋นได้กล่าวไว้ก่อนหน้า หากระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น ให้รีบเร่งพากันกลับไป เฟยอิงกับคนอื่นอีกสิบสองคน หลังจากนี้ให้ดูแลและห่วงความปลอดภัยของหนานกงเย่ รวมถึงเรื่องการหาทางลัดฆ่าตัวตายด้วย
เฟยอิงหายใจเข้าลึกๆ น้ำตาหลั่งไหลลงมา แต่ไม่นานเขาก็เช็ดออกเร่งเดินทาง
ระหว่างเดินทางรถม้าไม่ได้หยุดเลย หนานกงเย่ไม่ได้เอ่ยปาก และไม่ลงรถด้วย ทุกอย่างอยู่ภายใต้คำสั่งของเฟยอิง ทุกครั้งที่ผ่านด่านเขาจะแอบมองหนานกงเย่ สุดท้ายไม่เห็นการตอบสนองของฉีเฟยอวิ๋นเลย หนานกงเย่ก็ตาเหม่อลอยอิงอยู่
ในที่สุด วันต่อมาเขาก็มาถึงเมืองหลวงของต้าเหลียงก่อนฟ้ามืด มีคนสองสามคนรออยู่นอกเมืองหลวง หนึ่งในนั้นรวมเฟิงอู๋ชิงด้วย
ข้างกายของเฟิงอู๋ชิงมีเสี่ยวเฉียวกับอามู่ยืนอยู่ ไป๋ซู่ซู่กับมู่เหมียนแต่งกายเป็นชายยืนรออยู่ทางด้านนั้น
เฟยอิงเห็นคนเลยรีบกล่าวว่า“ท่านอ๋อง ถึงแล้ว มีคนรอพวกเราอยู่พ่ะย่ะค่ะ”
ด้านในรถม้ามีเสียงหนานกงเย่ดังออกมา กล่าวว่า“เข้าเมือง กลับจวน”
เฟยอิงรีบเร่งรถม้าเข้าเมืองหลวง ไป๋ซู่ซู่และคนอื่นต่างทยอยพากันขึ้นรถม้า แล้วเข้าเมืองพร้อมกัน
ไป๋ซู่ซู่รู้ว่าเกิดเรื่องแล้ว พอถึงจวนอ๋องเย่เลยรีบลงจากรถม้า หนานกงเย่อุ้มฉีเฟยอวิ๋นลงมา ไป๋ซู่ซู่รีบเดินเข้าไปตรวจ ฉีเฟยอวิ๋นยังมีลมหายใจ แต่คนไม่มีการตอบสนองแล้ว
“นานแค่ไหนแล้ว?”ไป๋ซู่ซู่กล่าวถาม
“สองวัน”
“เข้าไปก่อน”
กลุ่มของมู่เหมียนรีบเข้าไป ฉีเฟยอวิ๋นถูกอุ้มมาที่สวนดอกกล้วยไม้!