องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ - บทที่ 906 หมอเทวดาขอความช่วยเหลือ
องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บททึ่ 903 หมอเทวดาขอความช่วยเหลือ
“เช่นนั้นก็ไม่ถึงกับต้องดีใจขนาดนั้น ปีกใต้ไม่ได้ดีไปกว่าแคว้นเฟิ่ง ผู้หญิงก็เอาใจปลอบใจง่าย ท่านอ๋องส่งเสริมสตรีแคว้นเฟิ่งอย่างจริงจังให้แต่งงานกับผู้ชายจากเมืองต้าเหลียง และพวกเขาก็เบื่อผู้หญิงที่จะออกไปทำสงคราม และพวกเขาก็ชอบวิธีการไต่สวนต้าเหลียงพวกเรา คำพิพากษาของต้าเหลียง วิธีที่มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่ยินยอมเต็มใจที่จะยอมจำนนศิโรราบ แต่หลังจากเวลาผ่านไปนานพวกเขาจะยอมจำนนศิโรราบเสมอ
ปีกใต้สังหารคนจำนวนไม่น้อย หากไม่ใช่ว่าปลอบใจแล้ว หลังจากนี้เกรงว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายได้ แม้ว่ากองกำลังทหารสองแสนนายจะอยู่ที่แห่งนี้ แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะสามารถสะดวกสบายได้ ไม่กี่วันจะต้องกดดันเร่งรีบ”
“วางใจเถิด หวาชิงกับเฉินอวิ๋นเจี๋ยอยู่ที่แห่งนี้ บวกกับข้าได้เลือกข้าราชการพลเรือนจำนวนหนึ่งไว้ ได้จัดการเตรียมนานแล้ว”
“หากท่านอ๋องคิดว่าได้ อย่างนั้นก็ได้เพคะ แต่ท่านอ๋อง ท่านอ๋องบอกว่าห้ามสตรีต้าเหลียงของพวกเรามีสัมพันธ์โดยการแต่งงานกันกับชายปีกใต้ แต่ทว่ากลับได้ยอมให้สตรีปีกใต้แต่งกับชายต้าเหลียง นี่ก็ไม่น่าพอใจนัก
หากว่าสตรีของพวกเขาล้วนแต่งกับชายเมืองต้าเหลียง เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่โสดแล้ว อนาคตผ่านไปนานๆก็จะไม่สมรู้ร่วมคิดต่อต้านทำการกบฏ ”ฉีเฟยอวิ๋นกับหนานกงเย่ได้ตั้งข้อบังคับนี้ จิตใจลึกๆของชายเหล่านั้นรู้สึกเสียบ้านเมืองอย่างจำใจ
หนานกงเย่เหลือบมองฉีเฟยอวิ๋น พร้อมกล่าวขึ้นว่า“ข้าเพียงแค่กำหนด พวกเขาจะอย่างไร ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร?”
“….นั่นก็คือ เพียงแค่ประกาศไปก่อน ไม่กระพือข่าวจนเกินไปก็พอแล้วใช่หรือไม่เพคะ?”
“ที่จริงพวกเขาสามารถแต่งเข้าได้เช่นกัน อย่างไรก็เป็นคนนอกไม่ใช่เครือญาติเดียวกัน หากต้องการแต่งลูกสะใภ้ล่ะก็ ยกครอบครัวมา เพียงแค่ผู้ชายให้กำเนิดบุตร แล้วลูกจะต้องแซ่เดียวกับแม่”
“……”ฉีเฟยอวิ๋นมองหนานกงเย่ด้วยความกลัดกลุ้มใจ กล่าวว่า“หกคูเมืองของปีกใต้ จะมีสตรีของต้าเหลียงที่ไหนกัน เกรงว่าล้วนเป็นสตรีของพวกเขานะเพคะ สตรีเหล่านี้ต้องแต่งงานกับผู้ชายของพวกเรา เช่นนั้นพวกเขาก็ไร้หนทางที่จะแต่งเข้าไปแล้ว”
“ทั้งหมดเป็นเพียงชั่วคราว วันนี้พวกเขามีสามคน ห้าคน ไม่ใช่ล้วนแต่งกับคนของตนเอง แผนการนี้เพียงหวังว่าทั้งสองเมืองจะสามารถบูรณาการหลอมรวมได้โดยเร็วที่สุด แต่ข้าไม่ได้ไปก้าวก่ายการที่พวกเขาจะได้รับผลงานและตำแหน่งชื่อเสียงอยู่ที่นี่ ชัดเจนว่าปล่อยนโยบายไป พวกเขาก็สามารถมาที่ต้าเหลียงได้ ดังนั้นก็ไม่ใช่ว่าสามารถแต่งภรรยาได้แล้วหรือ?”
“ท่านอ๋อง ท่านเรียกพวกเขาแต่งเข้า พวกเขายินยอมหรือไม่เพคะ?”
“หากเป็นข้า ข้าอาจจะยินยอม”
ฉีเฟยอวิ๋นมองหนานกงเย่ ไม่เชื่อใจคำพูดของเขา แต่ตอนนี้ก็ไม่อยากจะพูดอะไรกับเขามอง เลยทำได้แค่มอง
สองสามีภรรยาพักผ่อน เช้าวันต่อมาก็เตรียมตัวกลับไปที่เมืองหลวงของต้าเหลียง การที่จะกลับไปฉีเฟยอวิ๋นจึงได้จัดงานสังสรรค์เพื่อสร้างความสุขแก่พวกหวาชิงก่อน
ช่วงนี้หวาชิงไม่ค่อยมองหน้าของฉีเฟยอวิ๋น คล้ายกับว่ามองเธอแล้วขาดความมั่นใจ ฉีเฟยอวิ๋นพอได้ยินมาบ้างว่าหมอเทวดากับหวาขิงได้ทำการสู่ขอกันแล้ว เดิมหมอเทวดาควรจะกลับไป อย่างน้อยต้องกลับกับเธอ อย่างไรหมอเทวดาค่อนข้างให้ความสำคัญกับวิชาการแพทย์
แต่ครั้งนี้หมอเทวดาวางแผนจะอยู่ที่นี่ เพื่ออยู่เป็นเพื่อหวาชิง
สามารถสละทิ้งที่ต้องการในท้ายที่สุด และมาเลือกคนคนหนึ่ง ในจินตนาการคนนั้นสำคัญแค่ไหนกันล่ะ
ฉีเฟยอวิ๋นดูออก หมอเทวดาให้ความสำคัญกับหวาชิงมาก
วันนี้ตอนกินข้าว หมอเทวดานั่งอยู่ด้านข้างหวาชิง และคีบอาหารให้หวาชิงไม่หยุด
กินข้าวเสร็จฉีเฟยอวิ๋นจึงอออกไป บรรยากาค่อนข้างหนาวเล็กน้อย
ทางปีกใต้ไม่มีทางที่จะหิมะตก บรรยากาศตั้งแต่ต้นจนจบจะเป็นอารมณ์ไม่อุ่นไม่ร้อน เวลาหนาวก็ไม่ได้หนาวแบบเมืองต้าเหลียง
หมอเทวดาเดินออกมาจากด้านใน ฉีเฟยอวิ๋นเหลือบมอง ไม่เห็นหวาชิง
“มีธุระหรือ?”
“ท่านอาจารย์”เวลานี้หมอเทวดารู้สึกละอายใจ เดินมาหยุดอยู่ด้านข้างฉีเฟยอวิ๋น
“พูดมา มีเรื่องอะไรหรือ”
“เมื่อก่อนที่หวาชิงถูกหนอนพิษกู่ กระหม่อมเอาหนอนออกมา แต่เหลือรอยแผลเป็น กระหม่อมลองหลายหนทางแล้ว ก็ไม่สามารถเอารอยแผลเป็นนั้นออกไปได้ ตอนนี้มันค่อนข้างน่าเกลียด และมันเป็นความผิดของกระหม่อมเองที่เย็บไม่ดี นางปฏิเสธไม่ยอมแต่งงาน จึงขอท่านอาจารย์ช่วยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ฉีเฟยอวิ๋นหันมองหมอเทวดา เขาเป็นชายอายุสามสิบปีแล้ว เธอเป็นหญิงที่อายุน้อย แต่เขากลับให้ความเคารพ ก็นับว่าเห็นบุคลิกของหมอเทวดา
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวถามว่า“เช่นนั้นรอยบาดแผลน่าเกลียดหรือไม่?”
หมอเทวดาเงียบอยู่นานชั่วขณะหนึ่ง กล่าวขึ้นว่า“สำหรับสตรีแล้วนั้นมันไม่สวยงามพ่ะย่ะค่ะ ตอนนั้นแมลงมีขนาดเท่าฝ่ามือกระหม่อม และมันนอนอยู่ในนั้น ถ้าเป็นรูเล็กๆ กลัวว่าจะวิ่งหนีเสียแล้ว ที่ก้น ก็เลยใช้เข็มปักลงไปสองด้าน แล้วกรีดกระดุมเส้นหนึ่ง สั้นยาวเท่าฝ่ามือ ทีแรกคิดไม่ออก แต่ตอนนี้มันน่าเกลียดมาก เหมือนตะขาบใหญ่เลยพ่ะย่ะค่ะ
กระหม่อมไม่ได้สนใจ มีเพียงนางที่ใส่ใจพ่ะย่ะค่ะ”
“เดี๋ยวข้าจะดู”ฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวเดินตามหมอเทวดาไป หวาชิงกำลังเหม่อลอยอยู่ในห้อง พอเห็นฉีเฟยอวิ๋นกับหมอเทวดาจึงรีบลุกขึ้น
“ท่านมาได้อย่างไร?”หวาชิงนอนฝันยังคิดไม่ถึงเลยว่านางจะชอบหวาชิงได้ ยังสามารถพูดเรื่องออกเรือนด้วย
แต่เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว นางไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
ฉีเฟยอวิ๋นนั่งลงกล่าวว่า“ได้ยินหมอเทวดาบอกว่าหน้าอกของเจ้ามีรอยแผลเปที่น่ากลัวหรือ ข้าขอดูหน่อย”
“เป็นเขาที่ปากมาก”หวาชิงมองหมอเทวดาด้วยความไม่พอใจ หมอเทวดาจึงก้มหน้าลงไม่กล้าสบตา ท่าทางคล้ายกับหนูเจอแมว จนฉีเฟยอวิ๋นตลกขบขัน
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า“เจ้ารีบหน่อย ข้ายังมีธุระ รออีกสักครู่ท่านอ๋องก็จะมาหาข้าแล้ว”
หวาชิงก็ไม่ใช่คนเสแสร้ง เดินมาตรงหน้าฉีเฟยอวิ๋นแล้วถอดชุดออก ฉีเฟยอวิ๋นชะงักงันเล็กน้อย เหลือบมองหมอเทวดาที่ยืนอยู่อีกด้าน
ฉีเฟยอวิ๋นคิดในใจ แบบนี้หมอเทวดายังไม่ใจสั่น สรุปเขาเป็นผู้ชายไหม
“ไม่ต้องแล้ว ข้าจับแมะชีจรก็พอ เจ้านั่งลง”
หวาชิงปล่อยมือออก นั่งลงแล้วยื่นมือให้ฉีเฟยอวิ๋น กล่าวขึ้นว่า“ท่านยังมีความสามารถเช่นนี้หรือ?”
ไม่ดูรอยบาดแผล ก็สามารถตรวจดูได้?
“ความสามารถข้ามาก เจ้าไม่เข้าใจหรอก”
จับแมะชีพจรเสร็จ ฉีเฟยอวิ๋นจึงปล่อยมือออก
แล้วหยิบกริชออกมา กล่าวว่า“หมอเทวดา เอาถ้วยเล็กมา”
หมอเทวดากล่าวถามด้วยความแปลกใจว่า“ต้องการเอาถ้วยมาทำอะไร?”
“เอามา!”ฉีเฟยอวิ๋นออกคำสั่ง หมอเทวดาเลยรีบเอาถ้วยเล็กวางลง ฉีเฟยอวิ๋นกรีดที่ข้อมือ เลือดเลยไหลออกมา
หวาชิงรีบลุกขึ้น ฉีเฟยอวิ๋นโบกสะบัดมือ บอกเป็นนัยว่าไม่ต้องสนใจ
ไม่นานเลือดหนึ่งถ้วยก็ไหลออกมา ชัดเจนว่าฉีเฟยอวิ๋นค่อนข้างชี่พร่องแล้ว ตอนนี้เธอตั้งครรภ์ ร่างกายไม่เหมือนเมื่อก่อน เลือดหนึ่งถ้วยถือว่าสูงสุดแล้ว
“เจ้าดื่มลงไป”ฉีเฟยอวิ๋นยื่นถ้วยให้หวาชิง หวาชิงมองฉีเฟยอวิ๋นตาค้าง
“เจ้าวางใจ ข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้า เจ้าดื่มแล้วก็รู้เอง”
หวาชิงส่ายหน้ากล่าวว่า“ข้าไม่ดื่ม”
“เจ้าไม่ดื่ม ไม่นานมันจะแข็งตัว มันก็จะสิ้นเปลือง สิ้นเปลืองแล้วก็ไร้ประโยชน์”
หมอเทวดายกถ้วยขึ้นทันที จากนั้นเดินมาตรงหน้าของหวาชิง เขายกมือขึ้นกดจุดของหวาชิง นิสัยอารมณ์ของหวาชิงนั้นหมอเทวดารู้ดี เขาไม่สามารถให้ฉีเฟยอวิ๋นเสียเวลาหรอก
หวาชิงจ้องเขม็งใส่หมอเทวดา แววตาเต็มไปด้วยความดุร้าย
หมอเทวดาเอาเลือดให้นางดื่มลงไป ไม่ได้แก้ตรงจุดออก ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า“เจ้าเปิดชุดของนางดู”