อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 142 หนีออกจากเรือน ท่านอ๋องโมโหอย่างยิ่ง
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 142 หนีออกจากเรือน ท่านอ๋องโมโหอย่างยิ่ง
อาจเป็นเพราะเสียงของโม่เยว่ที่ดังเกินไป และสีหน้าที่ไม่น่าดูอย่างยิ่ง แม่นมจางจึงตกใจจนขาอ่อน และคุกเข่าลงตรงหน้าเขาโดยตรง!
“ท่านอ๋อง พระชายา นาง……”
“นางเป็นอะไร? !”
โม่เยว่โมโหอย่างยิ่ง “ถ้าหากตอบไม่ได้ ข้าก็จะตัดลิ้นเจ้าไปให้หมากินเสีย!”
แม่นมจางตัวสั่น รีบปิดปากเอาไว้ แล้วตอบอย่างไม่ชัดเจนว่า “ข้าน้อยก็ไม่รู้ว่าพระชายาไปไหน แต่ก่อนที่นางจะไป ได้กล่าวอย่างโมโหว่าอยากจะหนีออกจากเรือน……..”
นางไม่รู้ว่าหนีออกจากเรือนหมายความว่าอย่างไร
แต่ฟังดูแล้ว ก็ไม่ใช่คำพูดที่ดีนัก
และพระชายายังนำห่อผ้าเล็กใหญ่ อีกทั้งยังพาคุณชายน้อยไปด้วย……
สองวันมานี้พระชายากับท่านอ๋องทะเลาะกัน แม่นมจางก็คาดเดาได้ว่า พระชายาหมายความว่าอะไร
“หนีออกจากเรือน?”
โม่เยว่โมโหจนกำหมัดแน่น
ถึงอย่างไรภายในเรือนตอนนี้ เสาหรือกำแพงก็อยู่ห่างจากเขาอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะอยากทุบกำแพงด้วยความโกรธเคือง ก็ไม่อาจเดินขึ้นบันได ไปทุบกำแพงได้
เขาจึงถีบแม่นมจางที่อยู่ตรงหน้าอย่างโหดเหี้ยม
“ข้าเลี้ยงดูพวกคนไม่มีประโยชน์อย่างพวกเจ้า เอาไว้ทำไมกัน? ! กระทั่งคนคนเดียวก็ดูแลเอาไว้ไม่ได้!”
ไม่ ไม่ใช่เพียงคนเดียวสิ
คือคนสองคน!
แม่นมจางที่ถูกฝ่าเท้าเหยียบ ก็ล้มลงกับพื้นแล้วร้อง”โอ๊ย”
นางอายุมากแล้ว อีกทั้งยังเป็นหญิงชราคนหนึ่ง ไหนเลยจะรับได้ไหว?
ทันใดปากที่ปิดไว้ก็กระอักเลือดออกมา
นางไม่กล้าร้องไห้ รีบปีนป่ายขึ้นมา แล้วกล่าวอย่างสั่นเทาว่า “ท่านอ๋อง พระชายาต้องการจะไป ข้าน้อยก็ขวางเอาไว้ไม่ได้! นิสัยของพระชายานั้นท่านก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้……”
นางก็ขวางแล้ว!
แต่ในเวลานั้นหยุนหว่านหนิงก็อัดอั้นตันใจ!
แม่นมจางกลิ้งลงมาจากบันได
มิหนำซ้ำ ความเจ็บปวดใจนั้นยังไม่ทันหาย ยังมาถูกท่านอ๋องถีบอีก…..
แม่นมจางก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก!
พวกเขาสองคนทะเลาะกัน แล้วทำไมถึงมาระบายอารมณ์กับนาง?
นางแทบอยากจะให้ตนเองเป็นเต่าตัวหนึ่ง ที่บนหลังมีกระดอง อยากทำอะไรก็ได้ตามใจ หากนางไม่เต็มใจจะปรนนิบัติรับใช้ก็ทำตัวเป็นคนขี้ขลาด ใครจะทำอะไรนางได้? !
เพียงแต่คำพูดนี้นางก็ได้เพียงคิดๆ เท่านั้น ใครก็รู้ว่านางเป็นคนรับใช้คนหนึ่ง
“เจ้าเป็นใบ้หรือว่าแก่เสียจนโง่เขลาไปแล้ว? ทำไมถึงไม่ตอบข้า?”
โม่เยว่แสดงสีหน้าโหดร้าย
แม่นมจางตกใจจนพูดไม่ชัดเจน “ข้าน้อยอยากจะตอบท่าน แต่ว่า แต่พระชายาบอกว่า ถ้าหากข้าน้อยกล้ามารายงาน ก็จะตัดลิ้นข้าน้อยไปให้หมากินเจ้าค่ะ!”
คนทั้งสองสมกับเป็นคู่สามีภรรยากันจริงๆ
ทำไมถึงชอบตัดลิ้นคนเอาไปให้หมากินกันนะ? !
“คนไร้ประโยชน์!”
โม่เยว่โมโหมาก และถีบแม่นมจางไปยังเชิงกำแพงอีกครั้ง
เขาเดินเข้าไปในเรือนชิงหยิ่งอย่างโมโหเดือดดาล และไปตรวจสอบในห้องสองสามห้อง
ผู้หญิงคนนี้ ช่างโหดเหี้ยมเสียจริงๆ!
ไม่เพียงแค่จางไปคนเดียว ยังเอาข้าวของทั้งหมดไปด้วย!
สิ่งของมีค่าในเรือนชิงหยิ่ง เอาไปหมดไม่มีเหลือ!
ก็ไม่รู้ว่านางที่เป็นผู้หญิงอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงคนหนึ่ง จะสามารถนำหยวนเป่า และข้าวของภายในเรือนทั้งหมดนี้ไปได้อย่างไร!
เขารู้เสียที่ไหนกัน กับเรื่องของช่องว่างของหยุนหว่านหนิง?
ถ้าหาหยุนหว่านหนิงไม่ใจดำอำมหิตขนาดนั้น ก็เกรงว่ากระทั่งประตูของเรือนชิงหยิ่งก็จะต้องรื้อเอาไปด้วยเป็นแน่!
โม่เยว่โมโหจนปวดหัว
ในเวลานี้ หรูอวี้ได้รีบตอบกลับว่า กระทั่งวัตถุดิบเหล่านั้นของค่ายเสินจีนางก็เอาไปด้วย…..
“นายท่าน วัตถุดิบเหล่านี้ก็ช่างเถิด แต่ในจำนวนนั้นยังมีพวกอาวุธที่ใช้ดินปืนจำนวนไม่น้อย นั่นคือสิ่งที่พระชายาให้ท่านเมื่อสองวันก่อน ท่านยังไม่ทันได้เห็นเลยพ่ะย่ะค่ะ!”
หรูอวี้มีสีหน้าร้อนใจ
โม่เยว่ต้องการจะยับยั้งโม่หุยเฟิง ฉะนั้นจึงต้องการพัฒนาอาวุธที่ใช้ดินปืนเหล่านี้
หลายวันมานี้ไม่ใช่ช่องทางแม้แต่น้อย ฉะนั้นหยุนหว่านหนิงจึงมอบวัตถุดิบบางอย่างที่เกี่ยวกับอาวุธที่ใช้ดินปืนให้กับเขา
เขายุ่งอยู่กับงานทั้งวัน จึงยังไม่ทันได้ดูวัตถุดิบเหล่านั้นเลยจริงๆ
“เอาไปก็เอาไปสิ! ขาดวัตถุดิบเหล่านี้ไป ข้าจะสร้างอาวุธที่ใช้ดินปืนออกมาไม่ได้เชียวหรือ? !”
โม่เยว่ปากแข็งอย่างมาก
หรูอวี้อยากจะพยักหน้าอย่างมาก แต่คิดว่าหากไม่มีการช่วยเหลือจากพระชายา นายท่านของตนเองก็ผ่านมาหนึ่งถึงสองเดือนแล้ว ก็ยังไม่สามารถสร้างอาวุธออกมาได้จริงๆ แต่เขาก็ไม่กล้าพูด เกรงว่าหากนายท่านโกรธ เขาก็จะถูกเตะเหมือนลูกบอล
“ผู้หญิงคนนี้จิตใจโหดเหี้ยมอย่างมาก!”
เดิมทีโม่เยว่ด่าอยู่ในใจ
สุดท้ายก็อดไม่ได้จริงๆ จึงพูดออกมาด้วยความโกรธเคือง “นางต้องการจะไปก็ช่าง จะเอาข้างของไปด้วยก็ช่าง”
“ทำไมจะต้องพาหยวนเป่าไปด้วยล่ะ!”
เขาทุ่มเทพยายามอย่างมาก อยากให้หยวนเป่ายอมรับเขาเป็นพ่อ
พยายามมานานขนาดนี้ เพียงชั่วข้ามคืนก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม บัดนี้กระทั่งหน้าของหยวนเป่าเขาก็ไม่ได้เห็นแล้วจะไม่ให้โม่เยว่รู้สึกโมโหได้อย่างไร? !
โม่จงหรานก็ยังให้เขากลับมายอมรับผิดกับหยุนหว่านหนิงอีก…….
เขา! ไม่! ผิด!
โม่เยว่โมโหจนอกจะระเบิด “ไปสืบค้นที่อยู่ของผู้หญิงคนนั้นเดี๋ยวนี้!”
“เมื่อได้ข่าวอะไร จะต้องมารายงานข้าทั้งหมด!”
เขาจะต้องไปจับผู้หญิงคนนั้นกลับมาด้วยตัวเอง จะสับนางออกเป็นหมื่นๆ ชิ้น!
เห็นเขาแสดงท่าทีโมโห หรูอวี้ก็ตกตะลึง หลายปีมานี้นายท่านของตนเองมีนิสัยเย็นชา ใครจะรู้ว่าหลังจากพระชายาเลิกกักขังตนเอง คาดไม่ถึงว่าจะโมโหจนสุดขีดอยู่หลายครั้งหลายหน
กลัวว่าเขาจะถูกหยุนหว่านหนิงทำให้โมโหมาก หรูอวี้จึงงกล่าวอย่างอกสั่นขวัญแขวนว่า “นายท่าน………”
“ไสหัวไป! ไปตามหาคนเดี๋ยวนี้
ดวงตาทั้งคู่ของโม่เยว่แดงก่ำ
หรูอวี้ตกใจจนรีบหนีออกไป
พอเขาวิ่งหนีออกไป โม่เฟยเฟยก็เข้ามา
“พี่เจ็ด เสด็จพ่อและเสด็จแม่ให้ข้ามาดูว่า เจ้ากับพี่สะใภ้…….”
คืนดีกันหรือยัง
สองสามคำสุดท้ายยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็เห็นดวงตาที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟของโม่เยว่ จึงคืนคำพูดในปากลงไปทันที โม่เฟยเฟยจึงหัวเราะแห้ง “ก็ไม่มีอะไร!”
“ข้าก็แค่เข้ามาเยี่ยมเจ้าเท่านั้น ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว ข้าก็ขอตัวก่อน……”
ไม่ต้องถาม ก็รู้ว่าคนทั้งสองไม่ได้คืนดีกัน!
โม่เฟยเฟยจึงไม่อาจไปแตะต้องความโชคร้ายของโม่เยว่ในเวลานี้!
นางหัวเราะแห้งสองสามที และถอยหลังวางแผนจะจากไป
แต่เมื่อเดินไปได้สองก้าว ก็เห็นว่าโม่เยว่เดินเข้ามาใกล้นาง “เฟยเฟย หยุด!”
โม่เฟยเฟยตัวแข็งทื่อ ลูบจมูกด้วยสีหน้าจะร้องไห้ แล้วมองเขาด้วยสีหน้าที่ไม่มีความผิดว่า “พี่เจ็ด ข้าเพียงแค่ผ่านมาจริงๆ …….”
“เจ้าว่า ข้าน่ารังเกียจมากหรือไม่?”
คำถามนี้ ถามออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ไม่น่ารังเกียจนี่! เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
นางมองตาปริบๆ “ใครบังอาจมาว่าท่านพี่ของข้าน่ารังเกียจ ข้าจะไปจัดการมัน!”
“ช่างเถิด ถามเจ้าก็ไม่ได้ความจริงหรอก”
โม่เยว่เดินผ่านนางไป
โม่เฟยเฟยทึ่มทื่อไป ชำเลืองมองแม่นมจางที่นอนเหมือนตายอยู่มุมกำแพง แล้วเขย่งเท้ามองไปยังห้องที่ไม่มีข้าวของแม้แต่ชิ้นเดียว……นางจึงรีบตามไป “ท่านพี่ เจ้ารอข้าด้วย!”
“เมื่อครู่นี้หรูอวี้รีบร้อนออกไปทำอะไรหรือ? ไปตามหาพี่สะใภ้และหยวนเป่าใช่ไหม?”
“ข้าได้ยินเขาปรึกษาหารือกับหรูโม่ ถึงการโอบล้อม สืบค้น การตามหาจนเจออะไรบางอย่าง”
โม่เยว่หยุดชะงักฝีเท้าลง “อืม”
“หยุนหว่านหนิงพาหยวนเป่า หนีออกจากเรือนไปแล้ว”
“หนีออกจากเรือน? !”
โม่เฟยเฟยตกตะลึง และจุ๊ปากอย่างรู้สึกทึ่ง “พี่สะใภ้ช่างใจกล้าเสียจริงๆ! ความคิดคาดเดาไม่ได้เลยจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะกล้าหนีออกจากเรือเลยหรือ?”
จะมีพระชายาคนไหน ที่เอะอะก็หนีออกจากเรือนบ้าง? !
“คนจำนวนมากแค่ไหนที่อยากจะเป็นพระชายาหมิง แต่ก็ไม่มีใครได้เป็น คาดไม่ถึงว่านางจะต้องการหนีออกจากเรือนเชียวหรือ? !”
อีกทั้งยังพาหยวนเป่าไปด้วยอีก มิน่าล่ะพี่เจ็ดถึงได้โมโหเช่นนี้!
“ท่านพี่ เจ้าดีกับนางขนาดนั้น……”
หยุนหว่านหนิงใจแข็งหนีออกจากเรือนได้อย่างไรกัน? !
หลังจากที่โม่เฟยเฟยหายตกตะลึงแล้ว จึงรีบตามไป “พี่เจ็ด ไม่จำเป็นต้องไปค้นหาหรอก ข้ารู้ว่าพี่สะใภ้พาหยวนเป่าไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน!”
บทที่ 141 ยอมรับผิดกับภรรยาของเจ้า
บทที่ 143 โม่เยว่ถูกท่านรองกู้กลั่นแกล้ง