อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 145 ข้าเป็นพ่อของเจ้า
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 145 ข้าเป็นพ่อของเจ้า
ขายาวของโม่เยว่ เพียงไม่กี่ก้าวก็สามารถจับกุม”มือสังหาร”กลับมาเพื่อยุติคดีได้
เขามองหยวนเป่าในมือที่ดิ้นไม่หยุด ขมวดคิ้วแน่น “หยวนเป่า นี่เจ้าจะทำอะไร?”
เมื่อครู่นี้ที่ได้ยินเสียงประทัด เขาคาดเดาว่าคือหยวนเป่าเป็นอันดับแรก
อย่างไรเสียก่อนหน้านี้สองวัน หรูอวี้บอกว่าหยวนเป่าต้องการประทัด…..
เขาคาดไม่ถึงเลยว่า ที่เจ้าเด็กคนนี้ต้องการประทัด ท้ายที่สุดแล้วก็เพื่อระเบิดเรือนทิงจู่ของเขา? !
เพียงแต่หยวนเป่าก็รู้จักลำดับความสำคัญเช่นกัน
ถึงแม้ว่าจะโยนเข้าไปในเรือน แต่ก็โยนไปในที่โล่งเท่านั้น เห็นดวงตาเล็กๆ คู่นั้นที่มองเขาอย่างแค้นเคืองใจ เห็นได้ชัดว่ามาเพื่อระบายความโกรธ ไม่ใช่ว่าอยากจะระเบิดเรือนทิงจู่จริงๆ
หยวนเป่าถูกเขาหิ้วอยู่ในมือ เดิมทีไม่ได้ร้องขอความเมตตาเลย
เขาต่อสู้ดิ้นรนเล็กน้อย และเมื่อเห็นว่าต่อสู้ดิ้นรนไม่สำเร็จก็ยอมแพ้ไป
“ต้องการจะฆ่ากันก็ตามแต่ใจท่านเลย! ข้าไม่มีอะไรแล้ว มีเพียงชีวิตน้อยๆ เท่านั้น! หากมีความสามารถท่านก็ทำได้เลย!”
เขาเป็นเหมือนลูกหมาป่าที่ถูกจับ ท่าทางกล้ำกลืนความอัปยศเพื่อที่จะดำเนินการให้สำเร็จ
ได้ยินคำพูดนี้ โม่เยว่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ใครสอนคำพูดนี้ให้แก่เจ้า?”
เด็กสามขวบคนหนึ่ง น่าจะไม่สามารถเข้าใจอะไรได้มากมายขนาดนี้?
หยวนเป่าคอตั้งต้องจ้องมองเขา “มีอะไรน่าขบขันหรือ? ข้าเป็นลูกผู้ชาย ยอมตายดีกว่าถูกเหยียดหยาม! ไม่จำเป็นจะต้องมีใครมาสอนคำพูดนี้กับข้า!”
รอยยิ้มบนใบหน้าโม่เยว่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ยังคงเป็นลูกผู้ชาย
เขายื่นมือไปจิ้มแขนเล็กๆ ขาสั้นๆ ของเขา อีกทั้งยังนำเขามากอดไว้ในอ้อมแขน “แม่เจ้าสอนมาใช่หรือไม่?”
“อีกอย่าง อะไรคือยอมตายดีกว่าถูกเหยียดหยามล่ะ? ข้าไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนะ ไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้หรอก”
“พูดมาเถอะ ว่าเจ้าต้องการมาระเบิดเรือนทิงจู่ของข้า?”
“ใช่!”
หยวนเป่าหันหน้าไปด้วยความโกรธ “แต่น่าเสียดายที่จ้าไม่ได้มีประทัดมากขนาดนั้น! มิเช่นนั้นข้าจะระเบิดเรือนของท่านให้ราบเลย ทำให้ท่านต้องไปนอนข้างถนนเลย”
หรูอวี้กับหรูโม่ที่อยู่ข้างหลังก็อดกลั้นไม่ได้เช่นกัน ทั้งสองคนหัวเราะออกมาเสียงดัง
ต่อให้ระเบิดทั้งจวนอ๋องหมิง นายท่านก็คงไม่ได้นอนข้างถนนหรอก?
เพียงแต่คุณชายน้อยท่านนี้ของพวกเขา……
อายุยังน้อย คาดไม่ถึงว่าจะกล้าหาญเช่นนี้?
พ่อเป็นเสือลูกก็ต้องไม่ธรรมดา
โม่เยว่ก็ถูกเขาทำให้หัวเราะเช่นกัน จากนั้นก็มองเขาอย่างจริงจัง “ข้าเป็นพ่อของเจ้า เข้ามีความเคียดแค้นอะไรหรือ? คาดไม่ถึงว่าจะมาระบายอารมณ์ที่เรือนทิงจู่นี้ของข้า?”
ด้วยประโยค”ข้าคือพ่อของเจ้า”นี้ คิ้วของหยวนเป่าก็ขมวดแน่นยิ่งขึ้น
พ่อหรือ?
เขา! ไม่! เหมาะสม!
ตราบใดที่ทำให้ท่านแม่เสียใจ ก็คือคนเลวเท่านั้น!
“ท่านทำให้ท่านแม่โกรธจนหนีออกจากเรือน ท่ายังคิดว่าจะเป็นพ่อของข้าอีกหรือ ท่านฝันไปเถอะ!”
หยวนเป่าสาดน้ำเย็นใส่เขาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
หรูอวี้กับหรูโม่มองหน้ากัน กระแอมเบาๆ และรีบกล่าวว่า “นายท่าน ข้าน้อยยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ ขอตัวก่อน”
ตอนนี้เห็นได้ชัดว่านานท่านถูกทำให้โกรธ
เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงของเขา ทั้งสองคนจึงแอบชิ่งหนีไป
คุณชายน้อยท่านนี้ช่างกล้าพูดจริงๆ!
บนโลกใบนี้มีสักกี่คน ที่อยากเป็นบุตรชายของนายท่าน ยอมรับนายท่านเป็นท่านพ่อ แต่นายท่านกลับไม่ยินยอม
คุณชายน้อยท่านนี้ ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นบุตรชายของนายท่านไม่ใช่หรือ……
เพียงเพราะว่านายท่านรักเขา ก็ไม่ควรจงใจมากระตุ้นให้เขาโมโหอย่างนี้!
ทั้งสองคนรีบหนีไปทันที
ใบหน้าของโม่เยว่บึ้งตึง คาดไม่ถึงว่าจะถูกคำพูดของหยวนเป่าทำให้โกรธจนพูดไม่ออก เป็นเวลาครู่หนึ่ง จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “คำพูดนี้แม่ของเจ้าสอนมาใช่หรือไม่?”
“ข้าไม่ใช่เด็กโง่นะ ทำไมท่านจะต้องพูดว่าท่านแม่สอนมาด้วย?”
หยวนเป่าไม่ได้กลัวเขา
ระเบิดเรือนของเขาก็กล้าทำมาแล้ว ยังจะกลัวสายตาที่จ้องเขม็งของเขาไปทำไมกัน
ได้ฟังคำพูดนี้ โม่เยว่ก็รู้สึกโล่งอก
ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าหยุนหว่านหนิงผู้หญิงคนนั้นจะปากคอเราะราย และน่ารำคาญเล็กน้อย……
แต่ว่าปกติแล้ว นางจะเอาใจใส่เกี่ยวกับการสั่งสอนหยวนเป่าเป็นอย่างมาก
นางจะสอนหยวนเป่าเสมอว่าต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์
และยิ่งไปกว่านั้นคืออยากให้เขาได้เห็นด้านที่สวยงามของโลกใบนี้ จะไม่ยอมให้เขาต้องแปดเปื้อนความสกปรก ฉะนั้นคำกล่าวที่ว่า”สามแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง” หยุนหว่านหนิงก็จะไม่สอนหยวนเป่า
โม่เยว่โล่งอก “หยวนเป่า เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่ควรเข้ามายุ่งนะ”
“ทำไมข้าถึงไม่ควรเข้าไปยุ่งหรือ?”
หยวนเป่าย้อนถาม “ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านทำให้แม่ของข้าโกรธขนาดไหน?”
เรื่องนี้ โม่เยว่ไม่รู้จริงๆ
หรือว่าไม่ใช่เพราะหยุนหว่านหนิงที่ทำให้เขาต้องโมโหแทบแย่?
เขาถูกดุด่าในพระราชวัง เมื่อไปรับนางที่ตระกูลกู้ด้วยตัวเอง ก็ถูกกู้หมิงเยาะเย้ยถากถางอีก
เขาเป็นถึงอ๋องหมิง ไหนเลยจะเคยได้รับความโกรธเคืองเช่นนี้?
เขายอมวางศักดิ์ศรีของตนเองลงแล้ว ใครจะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ยังจะปีนขึ้นไปบนเสา ไม่รู้จักการลงบันได บัดนี้ในทางกลับกัน จะบอกว่านางถูกทำให้โกรธขนาดไหนหรือ?
โม่เยว่หัวเราะเยาะภายในใจ
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหยวนเป่า แววตาของเขาก็อ่อนโยน “โมโหขนาดไหนหรือ?”
“แม่ของข้าร้องไห้!”
หยวนเป่าชูกำปั้นน้อยๆ แล้วกล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า “แต่ไหนแต่ไรแม่ของข้าไม่เคยร้องไห้! ครั้งนี้คาดไม่ถึงว่าจะร้องไห้!”
ฉะนั้นเขาจึงมาวางระเบิดที่จวนของโม่เยว่ด้วยความโกรธเคือง ต้องการสร้างเรื่องเดือดร้อนให้โม่เยว่
โม่เยว่ชะงักไปเล็กน้อย
หยุนหว่านหนิงร้องไห้?
วันนั้นตอนทะเลาะกับเขาที่เรือนชิงหยิ่ง ก็ดูแข็งแกร่งห้าวหาญ ไม่เห็นว่านางจะหลั่งน้ำตาแม้แต่น้อย เดิมทีก็โมโหจนจะร้องไห้ แต่กลับยกมือขึ้นมาตบหน้าเขา
อีกทั้งยังไล่เขาออกไป!
คนที่ควรน้อยใจก็คือเขาใช่หรือไม่?”
“ท่านไม่เชื่อหรือ?”
เห็นโม่เยว่ไม่เอ่ยปากพูด หยวนเป่าจึงขมวดคิ้ว “ฉะนั้นท่านลุงเฒ่าจึงไม่ให้ท่านเข้าเรือน!”
มิน่าล่ะกู้หมิงถึงได้แสดงสีหน้าที่ไม่ดีกับเขา ที่แท้ก็เพราะสาเหตุนี้เอง
ภายในใจของโม่เยว่ค่อนข้างสับสน
เขาไม่เคยคิดเลยว่า ผู้หญิงอย่างหยุนหว่านหนิงจะร้องไห้
ผู้หญิงคนอื่นทำจากน้ำ ส่วนนางทำจากคอนกรีตเสริมเหล็กจริงๆ!
ไม่ต้องพูดถึงร้องไห้…….ใครทำให้นางต้องเสียใจ นางจะต้องเอาคืนเป็นสิบเท่าอย่างแน่นอน
แต่คาดไม่ถึงว่านางจะร้องไห้เพื่อเขาเช่นนั้นหรือ?
ครั้งนี้เขาทำเกินไปจริงๆ ใช่ไหม?
โม่เยว่คิดๆ แล้ว วันนั้นที่เขาพูดคำเหล่านั้นต่อหน้านาง มันก็ค่อนข้างมากเกินไปจริงๆ
“ท่านจะต้องไปกล่าวขอโทษแม่ของข้า! เข้าใจหรือไม่?”
เห็นเขาไม่พูดจา หยวนเป่าจึงยื่นมือไปจับที่แก้มของเขา “ถ้าหากท่านง้อแม่ของข้าดีๆ ไม่ทำให้นางต้องเป็นทุกข์ ข้าก็จะให้เก้าคะแนนสำหรับพ่อเก๊คนนี้”
พ่อเก๊?
ชื่อเรียกนี้ ทำไมโม่เยว่ถึงรู้สึกตลกเช่นนี้นะ?
“ข้าคือพ่อแท้ๆ ของเจ้า”
เขาปล่อยให้หยวนเป่าจับใบหน้าของเขา แล้วกล่าวอย่างมีความสุขว่า “ข้าคือเสด็จพ่อของเจ้า ไม่ได้จอมปลอม”
“ข้าบอกว่าปลอมก็ปลอมสิ”
หยวนเป่าแสดงท่าทีไม่ฟังเหตุผล ช่างเหมือนกับท่าทีของหยุนหว่านหนิงเสียบจริงๆ
โม่เยว่ก็ไม่ได้โต้เถียงกับเขาอีก เพียงแค่มองเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เจ้าบอกว่าจะให้ข้าเก้าคะแนน คะแนนเต็มคือเท่าไรหรือ? หนึ่งร้อยคะแนนหรือเปล่า?”
“สิบคะแนน……”
หยวนเป่าแสดงสีหน้าไม่แยแส
โม่เยว่: “…..”
ความรักของพ่อที่เขาเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี สุดท้ายก็เปล่าประโยชน์!
ฉะนั้นความรักก็จะค่อยๆ มลายหายไป
“ท่านได้ยินหรือไม่! จะต้องไปกล่าวขอโทษแม่ของข้า! ถ้าหากท่านง้อแม่ของข้าไม่ดี ข้าก็จะไม่ยอมรับพ่ออย่างท่าน!”
หยวนเป่าแสดงอำนาจ
เห็นท่าทีโกรธเคืองของเขา โม่เยว่จะมีวิธีไหนอีกหรือ?
บุตรชายของตนเอง ทำได้เพียงรักใคร่เอ็นดู!
“ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว”
เขาพยักหน้ารับปากอย่างเอาจริงเอาจัง
หยวนเป่าพึงพอใจแล้วจึงกลับตระกูลกู้ ตั้งหน้าตั้งตารอให้โม่เยว่มากล่าวขอโทษ ง้อแม่ดีๆ และพาพวกเขากลับจวนอ๋อง แต่ใครจะรู้ว่า รอจนดอกไม้ร่วงโรยแล้ว โม่เยว่ก็ยังไม่มาเสียที
หยุนเสี่ยวหยวนจึงโมโหอย่างมาก!