อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 158 บุรุษงาม ซ่งจื่ออวี๋
คือเสียงบุรุษสายหนึ่ง
น้ำเสียงนุ่มนวลดุจหยก
ที่ว่าฟังเสียงแยกแยะคน…เมื่อได้ยินเสียงนี้แล้ว หยุนหว่านหนิงก็จินตนาการเจ้าของเสียงในสมอง ต้องนุ่มนวลดั่งหยก สุภาพมีมารยาทแน่นอน
ท่านอาจารย์?
ข่าวลือบอกว่าเสวียนซันเซียนเซิงไม่มีลูกศิษย์ไม่ใช่หรือ!
หลิวต้าเหวินผู้นั้นก็แอบอ้างว่าเป็นลูกศิษย์ของเสวียนซันเซียนเซิงอวดอ้างหลอกลวง แล้วยังเป็นชินเทียนเจี้ยนอีก
บัดนี้ถูกเปิดโปง แล้วยังถูกกุมขังอยู่ที่คุกหลวง รอการตัดสินจากโม่จงหรานอยู่เลย!
ตอนนี้ไม่น่าจะมีคนกล้าแอบอ้างเป็นลูกศิษย์ของเขาต่อหน้าเสวียนซันเซียนเซิงกระมัง
“เอ๋! ศิษย์คนดีเจ้ากลับมาแล้ว!”
พอเสวียนซันเซียนเซิงเห็นคนมา ก็รีบปล่อยหยุนหว่านหนิง แล้ววิ่งไปแบบลิงโลด ความเร็วนั้น เร็วยิ่งว่าการวิ่งร้อยเมตรอีก หยุนหว่านหนิงรู้สึกเหมือนอย่างกับแค่มีลมพัดผ่านข้างใบหู
เส้นผมของนางถูกม้วนขึ้นสูง เสวียนซันเซียนเซิงกลายเป็นเงาสายหนึ่ง หายไปจากตรงหน้านางแล้ว
นางหันตัวขวับ
เห็นเสวียนซันเซียนเซิงโอบคนเข้าในอก “ศิษย์คนดี! หนนี้เอาอะไรกลับมาให้อาจารย์”
เป็นลูกศิษย์ของเขาจริงๆ ด้วย?!
ผู้ที่มาแบกตะกร้า ถูกเสวียนซันเซียนเซิงกอดจนหายใจไม่ออก
เมื่อนั้นจึงผลักเขาออก วางตะกร้าที่ลง “ท่านอาจารย์ ข้าเอาเหล้าชิวเซียงที่ขึ้นชื่อที่สุดของเป่ยจวิ้นมาให้ท่านขอรับ”
“เหล้าชิวเซียง?!”
ดวงตาทั้งคู่ของเสวียนซันเซียนเซิงเป็นประกาย “นี่คือสุราเลิศรสที่ขึ้นชื่อที่สุดของเป่ยจวิ้นเลยนะ!”
เมื่อได้สุรา ศิษย์คนดีก็ไม่เป็นที่ต้องการแล้ว เสวียนซันเซียนเซิงกอดไหสุราเดินกลับไปอย่างปลื้มปริ่ม
หยุนหว่านหนิงเพ่งพิศมองศิษย์คนดีของเขา
เห็นรูปร่างเขาดั่งหยก หน้าตาเกลี้ยงเกลา อยู่ในชุดยาวสีพื้น หน้าตาเผยกลิ่นอายแห่งความอบอุ่น ราวกับเป็นหยกล้ำค่าที่อ่อนโยนชิ้นหนึ่งโดยแท้
ครั้นเขาจัดเก็บตะกร้าเสร็จ ก็สังเกตเห็นสายตาของหยุนหว่านหนิง เขาเงยหน้าขึ้น…
กลับเห็นแม่นางที่ไม่เคยพบหน้าท่านหนึ่ง เขาตะลึงงัน
จากนั้นก็พยักหน้าอย่างสุภาพ
มารดา!
บุคลิกนี้ แทบจะเป็นอย่างที่หยุนหว่านหนิงรักที่สุด!
นางหลงแล้ว!
เพียงแค่ถูกเขามองมาหนเดียว หยุนหว่านหนิงก็ตะโกนอย่างบ้าคลั่งในใจว่า บุรุษงาม! นี่สิถึงเรียกว่าบุรุษงาม! เจ้าสุนัขโม่เยว่นั่นนับเป็นอะไร!
นางไม่สนว่าเมื่อครู่กำลังโกรธเสวียนซันเซียนเซิงอยู่ รีบคว้ามือเขาหมับ นี่“ใครน่ะ!”
“ศิษย์ของข้า”
“ท่านไม่แนะนำให้ข้าหน่อยหรือ”
นิ้วของหยุนหว่านหนิงจับแขนในแขนเสื้อเขาอย่างไม่สุ้มเสียง
เสวียนซันเซียนเซิงเจ็บ ใบหน้าชราย่นยู่ “มา ข้าจะแนะนำให้พวกเจ้ารู้จักกัน!”
“จื่ออวี๋มานี่”
จื่ออวี๋?!
มารดา ไม่ไหวแล้ว!
ชื่อนี้ถูกใจนางมาก!
“จื่ออวี๋เอ๋ย” ท่านนี้คือหยุนหว่านหนิง พระชายาหมิงแห่งเมืองหลวง
เสวียนซันเซียนเซิงอดทนต่อการหยิกของหยุนหว่านหนิงเต็มเหนี่ยว พูดแนะนำแบบแยกเขี้ยวยิงฟัน “นังหนูหนิง คนนี้คือซ่งจื่ออวี๋ ศิษย์คนเดียวของข้า”
แซ่ซ่ง?
ขนาดแซ่ก็ยังไพเราะเพราะพริ้งยิ่ง!
แต่ เมื่อกี้เสวียนซันเซียนเซิงแนะนำนางว่าอะไรนะ
นางคือพระชายาหมิงแห่งเมืองหลวง?!
นี่มิใช่เป็นการบอกซ่งจื่ออวี๋ว่านางมีสามีแล้วหรือ!
ไม่ได้เด็ดขาด!
ขณะที่หยุนหว่านหนิงกำลังจะอ้าปาก เห็นเพียงซ่งจื่ออวี๋ประสานมือคารวะนางอย่างสุภาพ “จื่ออวี๋คารวะพระชายาหมิง”
“…”
หยุนหว่านหนิงห่อเหี่ยวเหลือเกินแล้ว อดหยิกเสวียนซันเซียนเซิงอีกทีหนึ่งไม่ได้ “เหอะๆๆ คุณชายซ่ง ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่าเสวียนซันเซียนเซิงยังมีศิษย์ด้วย”
“จื่ออวี๋ท่องพเนจรอยู่ข้างนอกเวลานาน กลับมาอยู่เป็นเพื่อนท่านอาจารย์น้อยนักขอรับ”
ซ่งจื่ออวี๋อธิบาย
น้ำเสียงนี้ ทำหยุนหว่านหนิงลุ่มหลงเหลือเกินแล้ว
เสวียนซันเซียนเซิงแกะมือของหยุนหว่านหนิงออกด้วยความยากลำบาก นวดแขนที่ถูกนางหยิกเจ็บ “จื่ออวี๋เอ๋ย เจ้าเข้าไปเก็บของก่อนเถอะ”
“ขอรับ ท่านอาจารย์”
ซ่งจื่ออวี๋รู้ว่าเสวียนซันเซียนเซิงต้องมีคำพูดกล่าวกับหยุนหว่านหนิงแน่ จึงเดินจากไปอย่างเชื่อฟัง
“เป็นอย่างไร ศิษย์ของข้าคนนี้”
เสวียนซันเซียนเซิงเลิกคิ้วมองหยุนหว่านหนิง กระหยิ่มยิ้มย่อง
หยุนหว่านหนิงเก็บสายตากลับ ผงกหัวหงึกหงักอย่างบ้าคลั่ง “ยอดเยี่ยมไปเลย! หล่อเกินไปแล้ว!”
เสวียนซันเซียนเซิง “หือ?”
“อ้อ ไม่มีอะไร”
หยุนหว่านหนิงดึงสติกลับ “จริงสิ เมื่อกี้เรื่องที่ข้าบอกว่าลงเขา ท่านจะไม่ตรองดูอีกทีจริงหรือ ข้าเห็นท่านตัวคนเดียวเงียบเหงา ถึงกับมัดไก่ให้อาบแดดกับท่าน โดดเดี่ยวอ้างว้างชัดๆ”
“ท่านยายข้างล่างมากมาย แต่ละคนงดงามปากหวาน ท่านไม่พิจารณาลงเขาจริงหรือ”
นางยังไม่ตายใจ
เมื่อครู่จะจากไปด้วยความโกรธ แต่พอเห็นซ่งจื่ออวี๋…
หยุนหว่านหนิงคิดแผนการ จะให้เสวียนซันเซียนเซิง ทางที่ดีก็ให้ซ่งจื่ออวี๋ศิษย์ของเขาลงไปพร้อมกันเลย
ถึงนางจะออกเรือนกับโม่เยว่แล้ว
แต่เอาซ่งจื่ออวี๋ไว้ข้างกาย ได้เจริญหูเจริญตาก็ยังดี!
ต่างบอกว่าชื่นชมความงาม จะช่วยให้อารมณ์แจ่มใสอยู่เสมอ
ลงมือไม่ได้ ได้เห็นก็ยังดี
เสวียนซันเซียนเซิงขมวดคิ้ว “ข้าเป็นคนเช่นนี้หรือ”
“ท่านจะไม่ตรองสักหน่อยหรือ”
หยุนหว่านหนิงลอบคิดอยู่ในใจ ถ้าตาแก่นี่ไม่รับปาก พรุ่งนี้นางจะพาท่านยายขึ้นมา ต้องหลอกเขาลงเขาได้แน่!
“ข้างล่างมีท่านยายงดงามปากหวานจริงหรือ”
เสวียนซันเซียนเซิงแสดงออกว่าเริ่มหวั่นไหวแล้ว
หยุนหว่านหนิงพลันยิ้ม
รู้อยู่แล้วเชียว!
“แน่นอนว่ามี!”
“แต่ทำไมข้าได้ยิน มีเนื้อเพลงหนึ่งร้องว่า ผู้หญิงที่ราบคือเสือ เห็นแล้วต้องหลีกหนีเล่า”
เสวียนซันเซียนเซิงแสดงออกว่าฉงนใจมาก
หยุนหว่านหนิงหลอกล่อเป็นลำดับขั้นตอน “นั่นคือผู้หญิงที่ราบคือเสือ ไม่ใช่ท่านยายที่ราบคือเสือสักหน่อย! ข้าอยู่ในเมืองหลวงมายี่สิบกว่าปี ยังจะหลอกท่านหรือ”
“ก็จริง”
เสวียนซันเซียนเซิงมองนางแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างมีความคิด
หยุนหว่านหนิง “…”
แววตานี้ของเขาหมายความว่าอะไรเนี่ย
จะบอกว่านางคือเสือหรือ!
ขณะกำลังจะระเบิดอารมณ์ ซ่งจื่ออวี๋ก็ออกมา “ท่านอาจารย์ จวนจะได้เวลาแล้ว ท่านกินมื้อเที่ยงแล้วหรือ อยากกินอะไร ข้าจะทำให้ท่าน”
“เซาจีกง!”
เสวียนซันเซียนเซิงตอบอย่างไม่คิด
“เซาจีกงคือสิ่งใด”
ซ่งจื่ออวี๋มองเขาอย่างเป็นเด็กดี ถามอย่างไม่เข้าใจ
“เออ…ข้าก็ไม่รู้”
เสวียนซันเซียนเซิงก็ตอบไม่ได้
หยุนหว่านหนิงกอดอก เลิกคิ้วมองเขา สายตานั้นกำลังจะบอกเขาว่า ท่านตามข้าลงเขาเสียดีๆ ข้าจะทำเซาจีกงให้เดี๋ยวนี้แหละ!
สุดท้ายยังเป็นเซาจีกงที่เอาชนะความเด็ดเดี่ยวไม่ลงเขาของเขา
เสวียนซันเซียนเซิงโบกมือ “ข้าตามเจ้าลงเขาก็ได้!”
“จริงหรือ”
หยุนหว่านหนิงนึกว่าตัวเองหูฝาด
“ลั่นวาจาแล้ว สี่อาชาก็ยากจะตามกลับ ข้ายังจะหลอกเจ้าหรือ”
แม้ว่าเขาจะหลอกคนมาไม่น้อยเหมือนกัน
แต่พอเห็นสายตา ‘สัตย์จริง’ ของเสวียนซันเซียนเซิงแล้ว หยุนหว่านหนิงก็ยังไม่วางใจ ยื่นมือออกไปเกี่ยวนิ้วก้อยกับเขา “ถ้าท่านกลับคำก็คือเจ้าลูกเต่า”
เสวียนซันเซียนเซิง “…ได้”
หยุนหว่านหนิงจับไก่ตัวเมื่อครู่มาอย่างรวดเร็วฉับไว ไก่ผู้น่าสงสาร สุดท้ายก็ยังไม่พ้นชะตากรรมถูกถอนขนจนเกลี้ยง
ไม่นานก็ทำเซาจีกงเสร็จ
นางยังผัดผักอีกสองอย่าง ทั้งสามกินอย่างออกรสออกชาติ
หลังจากกินเซาจีกงเลิศรสเสร็จ เสวียนซันเซียนเซิงก็เรอเสียงดังด้วยความอิ่มเอมใจ
“เป็นอย่างไร รีบเก็บของตามข้าลงเขาเถอะ”
หยุนหว่านหนิงมองเขา
“ข้าไม่ลงเขาหรอก!”
(เจ้าลูกเต่า) เสวียนซันเซียนเซิงเอ่ยด้วยความขี้เกียจ
พอเห็นหยุนหว่านหนิงจะระเบิดอารมณ์อีก เขาก็รีบพูดขึ้น “เจ้าอย่าเพิ่งโมโห! ฟังข้าให้จบก่อน! ข้าไม่ลงเขา แต่ข้าจะให้จื่ออวี๋ตามเจ้าลงเขาแทน!”