อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 189 หลอก ลูก
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 189 หลอก! ลูก
“น้อยหน่อยเถอะ! ถวายหัวเพราะเงินของข้าชัดๆ”
หยุนหว่านหนิงทำหน้าดูถูก เปิดโปงความคิดของเขาอย่างไม่ลังเล “เรื่องนี้ค่อยทำคืนนี้! ตอนนี้ที่สำคัญคือต้องให้ความร่วมมือกับงานของซ่งจื่ออวี๋”
งาน?
นั่นมันคือสิ่งใด
หรูอวี้ไม่เข้าใจ แต่ก็ฝืนทำเป็นเข้าใจ “ขอรับ พระยาชากล่าวได้ถูกต้อง”
“ข้าน้อยจะไปให้ความร่วมมือกับงานของคุณชายซ่งเดี๋ยวนี้”
เขาออกไปหาบยาน้ำอย่างขยันขันแข็ง
ไม่นานก็ถึงยามเหม่า
โม่เยว่เข้าวังไปแล้ว บอกกล่าวเรื่องนี้กับโม่จงหราน
ด้วยเหตุนี้ การประชุมเช้าในวันนี้จึงง่ายมาก โม่จงหรานนำเหล่าขุนนางทั้งหมดออกไปรออยู่ที่นอกตำหนักฉินเจิ้ง
เขาแหงนน้าขึ้นมองท้องฟ้า “วันนี้แดดแรงนะ!”
เหล่าขุนนาง นี่ยังต้องพูดอีกหรือ!
อาทิตย์ส่องก้นแล้ว ใครบ้างไม่รู้ว่าวันนี้แดดแรง!
ทว่าคนที่เอ่ยคือองค์จักรพรรดิ เหล่าขุนนางจึงได้แต่บ่นอยู่ในใจ
“หน้าร้อนร้อนแรงราวกับแผดเผา ยามหยินดวงอาทิตย์ก็ลอยเด่นแล้ว ข้าเห็นว่าอาทิตย์เจิดจ้าเช่นนี้ วันนี้หากอยู่ท่ามกลางแสงแดด แม้น้ำมันหมูก็ยังละลายได้”
โม่จงหรานมองโม่เยว่ที่อยู่ด้านข้าง “เยว่เอ๋อร์ เจ้าว่าอย่างไร”
“เสด็จพ่อตรัสถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“หากยามเหม่า ไม่มีฝนตกลงมา ข้าจะลงโทษให้เจ้าตากแดดทั้งวัน!”
โม่จงหรานเอ่ย
โม่หุยเหยียนมองโม่เยว่ด้วยสายตาซับซ้อน โม่ฮั่นอี่ว์หัวเราะคิกคิก “น้องเจ็ด เสด็จพ่อจะเอาเจ้าเป็นหมูตากแดดแน่ะ!”
“พอผ่านเที่ยงวันไป เจ้าก็จะกลายเป็นกากหมู!”
โม่เยว่ไม่สนใจเขา
เขาเชื่อซ่งจื่ออวี๋เต็มร้อย “เสด็จพ่อโปรดวางพระทัย ฝนต้องตกแน่พ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นข้าจะตั้งตารอนะ”
ยามนี้ จวนอ๋องหมิง
วันนี้หยุนหว่านหนิงไม่ได้ส่งหยวนเป่าไปที่ตระกูลกู้ ตอนนี้สองแม่ลูกเพิ่งกินอาหารเช้าเสร็จ
หยวนเป่าไม่อยากจะเชื่อเลย ท่านแม่ที่บังคับให้เขา ‘ทำการบ้าน’ มาตลอด วันนี้กลับให้เขาโดดเรียนแบบหน้าตาเฉย ไม่ไปเรียนหนังสือกับท่านตาทวดที่นั่น
เขาโคลงศีรษะ กินแอปเปิ้ลอยู่ใต้ชายคา “ท่านแม่ ท่านกำลังดูอะไรอยู่หรือ”
หยวนเป่านั่งอยู่บนเก้าอี้ แข้งรากบัวอวบทั้งสองห้อยแกว่งอยู่บนเก้าอี้
เนื่องจากเป็นหน้าร้อน ทั้งยังอยู่ในจวนอ๋องไม่ออกไปไหน
ดังนั้นหยุนหว่านหนิงจึงให้เขาใส่เสื้อผ้าบางๆ
เป็นเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นที่นางหยิบออกมาจากช่องว่าง แล้วยังใส่หมวกกันแดดให้หยวนเป่าด้วย เท้าอวบอ้วนเหยียบอยู่บนรองเท้าแตะลายการ์ตูน
นอกจากผมเปียยาวของหยวนเป่าแล้ว ก็คือ ‘เด็กยุคปัจจุบัน’ อย่างแท้จริงคนหนึ่ง
ถ้าไม่กลัวว่าโม่เยว่จะจับนางใส่กรงไม้ไผ่ถ่วงน้ำ หยุนหว่านหนิงก็อยากใส่เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้นเหมือนกัน
จนใจที่นางคือสตรี
กลัวว่าใส่แล้วทำให้ทุกคนตื่นตระหนกตกใจ บอกว่านางผิดแผกแปลกแยก…เป็นแม่คนแล้ว นางต้องระวังภาพพจน์ตลอดเวลา จะทำให้หยวนเป่าลำบากไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ นางจึงได้แต่ใส่ชุดกระโปรงยาวต่อด้วยความตรอมตรมมิอาจเอื้อนเอ่ย
พระอาทิตย์อยู่กลางกระหม่อม
หยุนหว่านหนิงโบกพัดทรงกลม เหงื่อไหลไคลย้อย “นี่ยังไม่ถึงยามเหม่า เลย แดดแรงขนาดนี้แล้ว!”
“พวกซ่งจื่ออวี๋กำลังขอฝน หรือกำลังขอแดดกันแน่เนี่ย”
ถ้าฝนไม่ตก เจ้าซ่งจื่ออวี๋อยู่ที่เขาอู้หยุนกลับไม่เป็นอะไร
เกรงแต่เสด็จพ่อจะทรงกริ้ว จะรื้อจวนอ๋องหมิงนะสิ
นางเดินกลับไปที่ใต้ชายคา ยกเครื่องดื่มเย็นบนโต๊ะขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด
แล้วยังแย่งแอปเปิ้ลจากมือหยวนเป่ามากัดคำหนึ่ง ก่อนจะคืนให้เขา “ร้อนจะตายอยู่แล้ว! วันนี้ถ้าอาซ่งของเจ้าขอฝนไม่ได้ พวกเราก็จบเห่แล้ว”
“เพราะอะไรหรือ”
หยวนเป่าถามอย่างจริงจัง
“เพราะเสด็จปู่ของเจ้าจะโกรธ”
หยุนหว่านหนิงตอบ
“เพราะอะไรหรือ”
หยวนเป่าถามต่อ
“เพราะเมืองหลวงกำลังเผชิญกับวิกฤต เป็นข้ากับพ่อเก๊ของเจ้านำเสนออาซ่งของเจ้า เสด็จปู่ของเจ้าหวังกับเขามาก ถ้าความหวังพังทลาย ก็ต้องถูกตัดหัว”
หยุนหว่านหนิงตอบอย่างจริงจัง
“เพราะอะไรหรือ”
หยวนเป่ายังถามอีก
เด็กในวัยนี้ ทุกวันล้วนต้องมีหนึ่งแสนทำไม
หยุนหว่านหนิงคิด “อย่างนั้นพวกเรามาพนันกันเถอะ”
“พนันอะไรหรือ”
หยวนเป่าถูกชักนำความสนใจทันที
หยุนหว่านหนิงกล่าวเสียงหนัก “พวกเรามาพนันกันว่ายามเหม่า ฝนจะตกหรือไม่! ถ้าเจ้าชนะ ข้าจะคิดวิธีทำไอศกรีมให้เจ้ากิน! ถ้าข้าชนะ เจ้าต้องทำอะไรให้ข้าเรื่องหนึ่ง!”
“ทำอะไรหรือ”
หยวนเป่ากะพริบตาด้วยความอยากรู้
ลักษณะดวงตาโตดำมิดคู่หนึ่งกะพริบตาปริบๆ น่ารักน่าชังเสียไม่มี
หยุนหว่านหนิงทำท่าลึกลับ “เก็บเป็นความลับไว้ก่อน! เอาไว้ให้ข้าคิดได้แล้ว เจ้าค่อยทำให้ข้า”
“ได้! เช่นนั้นข้าจะพนันว่าฝนไม่ตก! แดดแรงเช่นนี้ บอกว่าฝนตกก็ตกหรือ”
หยวนเป่าเชิดหน้าหยิ่ง “ท่านแม่ ข้าเลือกว่าฝนไม่ตก เช่นนั้นท่านก็ได้แต่เลือกว่าฝนตกแล้ว!”
“ได้ เจ้าเลือกก่อนแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะเลือกว่าฝนตก ”
หยุนหว่านหนิงหัวเราะ ขยี้หมวกกันแดดของหยวนเป่า
ทั้งหล่อทั้งน่ารัก! ทำไมนางถึงได้คลอดบุตรชายน่ารักเช่นนี้ออกมาได้นะ!
นางเลื่อมใสในตัวเองจริงๆ!
เมื่อครู่ยังคิดอยู่ นางต้องชิงเลือกว่าฝนตกก่อน…ถ้าหยวนเป่าเลือกเหมือนนาง นางก็จะหลอกหยวนเป่า ว่าจะเลือกเหมือนกันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะไม่เป็นการพนัน
นางช่างเป็นหม่ามี๊ผู้ปราด (หลอก) เปรื่อง (ลูก) ที่สุดในประวัติศาสตร์เลย!
ในเมื่อหยวนเป่าเลือกก่อน เช่นนั้นก็สมดั่งใจหมายพอดี!
หยวนเป่าก็มั่นใจเต็มเปี่ยมเช่นกัน
ไหนเลยจะรู้ ครั้นกล่าวจบ กลางเวหาที่มีดวงอาทิตย์เจิดจ้าลอยเด่นอยู่เมื่อครู่ กลับเปลี่ยนสีพลัน
ลมพายุไม่รู้ว่ามาจากแห่งหนใดพัดหวีดหวิวไปทั่ว หอบฝุ่นคลุ้งจากพื้น ท้องนภามีเมฆดำเกาะกลุ่มรวมเป็นปื้น เมฆสีนิลเป็นชั้นๆ บดบังดวงอาทิตย์ในทันใด
พริบตาเดียว ท้องฟ้าก็คล้ายจะมืดครึ้ม
ไม่รู้ว่าอะไรถูกลมพายุพัดตก ‘เพล้ง’ ทีหนึ่ง หยวนเป่าตกใจสั่นระริก!
หยุนหว่านหนิงรีบโอบเขาเข้าอ้อมอก ปลุกปลอบให้คลายความตระหนก
นี่คือลางบอกว่าฝนจะตก!
นางรีบถามหรูเยียน “ยามใดแล้ว”
“พระชายา ยามเหม่าพอดีขอรับ”
หรูเยียนตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
หยุนหว่านหนิงเงยหน้ามองท้องฟ้า เห็นสายฟ้าสีม่วงฟาดฝ่ากลางอากาศ!
จากนั้น ก็คือเสียงฟ้าร้อง ‘ครืนๆ’ จากทั้งที่ใกล้และที่ไกล คล้ายระเบิดดังอยู่เหนือศีรษะ แม้แต่จวนอ๋องก็ยังเหมือนจะสั่นคลอนตามเสียงฟ้าไปด้วย
การที่ท้องฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทำให้ประชาชนในเมืองหลวงที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุต่างตระหนกตกใจ
คนสัญจรตามถนนต่างรีบวิ่งกลับบ้าน
ไม่ถึงหนึ่งจิบถ้วยชา เม็ดฝนเท่าเม็ดถั่วก็ร่วงลงมาจากเมฆดำ ชะล้างเมืองหลวง
เมฆดำแต่ละก้อน คล้ายลอยมาจากเขาอู้หยุน รวมกลุ่มกลางอากาศเหนือเหมืองหลวง
ฝนรอบนี้ตกเพียงไม่ถึงครึ่งก้านธูปก็หยุดแล้ว
ครั้นพิรุณขาดสาย ดวงอาทิตย์เจิดจรัสก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง สาดส่องหยาดน้ำบนผืนพิภพ สะท้อนเป็นแสงระยิบระยับ แต่ฝนนี่ดูเหมือนจะมีอะไรต่างจากฝนปกติ…
ทว่าตอนนี้ใครก็ไม่มีเวลาสนใจไปตรวจสอบ ว่าโดยแท้แล้วต่างกันที่ตรงไหนกันแน่
โม่จงหรานและเหล่าขุนนางที่ไม่ทันวิ่งกลับมาหลบฝนที่ตำหนักฉินจิ้ง ดังนั้นจึงเปียกมะล่อกมะแล่กเป็นลูกหมาตกน้ำ
เป็นเพราะโม่จงหรานยังอึ้งอยู่ จึงไม่ทันได้วิ่งกลับ
ขุนนางทั้งหลายอย่างจะวิ่งเหมือนกัน แต่ฝ่าบาทไม่วิ่ง แล้วพวกเขาหรือจะกล้าขยับ!
กระทั่งฝ่าบาทวิ่งนำ แต่ทุกคนตากฝนจนเปียกปอนแล้ว
ดังนั้นก็เลยอยู่เฉย ตากฝนอยู่นอกตำหนักเสียเลย
โม่จงหรานรับผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมมาเช็ดน้ำฝนบนใบหน้าจากซูปิ่งซ่าน ตื่นเต้นจนเนื้อที่แก้มกระตุกนิดๆ เปล่งเสียงสั่งการ “ไป!”
“ไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ พืชผลมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง!”
บทที่ 188 ซ่งจื่ออวี๋ออกโรง