อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 239 โดนหมากัดหรือ
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 239 โดนหมากัดหรือ
หยุนหว่านหนิงเก็บความฟุ้งซ่านในใจ ขมวดคิ้วมองผู้ชายต่อหน้า”เป็นไร โดนหมากัดหรือ?”
“สีหน้าแย่ขนาดนี้”
โม่เยว่”……หยุนหว่านหนิง เจ้ามีน้ำใจหน่อยได้ไหม?!”
“ข้าเป็นไรหรือ?”
นางเลิกคิ้ว”ข้าไม่ได้ปล่อยหมาไปกัดเจ้าสักหน่อย”
โม่เยว่เกือบจะหายใจไม่ออก
“เจ้าทำตัวน่ารักกว่านี้หน่อยได้ไหม?เป็นภรรยาที่อ่อนโยนได้ไหม?วันๆ เอาแค่เถียงกับข้า ข้าเป็นศัตรูสามชาติของเจ้าหรือไง?”
“ศัตรูสามชาติก็เกินไปหน่อย”
มือของหยุนหว่านหนิงประสานกันอยู่ข้างหลัง และเดินหน้าช้าๆ”ความแค้นของชาตินี้ก็เยอะแล้ว”
อยากให้นางทำตัวน่ารักและอ่อนโยน?
เขาก็ไม่ใช่สามีที่ดูแลอย่างทั่วถึงและมีความอ่อนโยนไม่ใช่หรือ?!
“เราสองคนพี่น้องกัน นิสัยพอๆเดียวกัน ไม่ต้องพูดเยอะหรอก”
หยุนหว่านหนิงเอ่ยเสียงเย็นชา
“ใครจะเป็นพี่น้องกับเจ้า?”
โม่เยว่โกรธจนขำออกมา ดึงนางกลับมาทีเดียว”เจ้ายังมีน้ำใจสักหน่อยไหม?ข้าเห็นว่าดึกแล้วเจ้ายังไม่กลับ หลังจากปลอบจนหยวนเป่านอนหลับแล้ว ก็มารับเจ้าโดยเฉพาะ”
“เจ้าแค้นข้าขนาดนี้เลยหรือ?”
เมื่อกี้เขาได้เห็นคนเสื้อดำกลุ่มหนึ่งที่ปิดตาวิ่งอยู่ที่ไม่ไกล……
พอจับมังกรตาเดียวที่นำหน้าลงมาถามแล้วถึงรู้ว่า พวกเขาลูกผู้ชายทั้งกลุ่มล้วนถูกหยุนหว่านหนิงต่อย!
โม่เยว่โมโหขึ้นมาทันทึ
เดิมทีนึกว่าจะฆ่าพวกเขาไปโดยตรง แต่มังกรตาเดียวพูดแบบกระดี๊กระด๊าว่า ต่อจากนี้ไปพวกเขาก็เป็นคนของพระชายาหมิงแล้ว……โม่เยว่ถึงจะเปลี่ยนแปลงความคิด
ในเมื่อพวกเขากลายเป็นคนของหยุนหว่านหนิงแล้ว ก็ปล่อยชีวิตพวกเขาไปก่อน
เขารู้สึกแปลกใจ หยุนหว่านหนิงรับนักเลงเหล่านี้เป็นลูกน้องทำไม
แต่หยุนหว่านหนิงไม่พูด เขาก็ไม่ไปบังคับหรอก
เขาให้นางมีพื้นที่ส่วนตัว และปกป้องความลับของนาง เพียงหวังว่านางจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเขาได้ผ่านชีวิตประจำวัน
ถึงแม้นิดๆหน่อยๆ ก็ยังดี
เขาโกรธง่าย หงุดหงิดง่าย ไม่เชื่อใครทั้งสิ้น
เขาเองยังอยู่แบบไม่ปลอดภัยเลย จะให้ความปลอดภัยกับใครๆไม่ได้ทั้งสิ้น แต่หยุนหว่านหนิงในตอนนี้ ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะปกป้องคนๆหนึ่งเป็นครั้งแรก
จริงๆ แล้ว
ตอนที่เพิ่งพบเห็นคนพวกมังกรตาเดียว โม่เยว่คิดจะฆ่าไปโดยตรงเลย
จากนั้นสอบถามหยุนหว่านหนิงว่า จะใช้คนเหล่านี้มาลงมือต่อเขาหรือเปล่า
แต่คิดไปอีกแง่หนึ่ง ถ้าทำแบบนี้จริงๆ มีแต่จะผลักหยุนหว่านหนิงออกไป……ความแค้นของพวกเขาในตอนนี้ยังจัดการไม่ได้เลย
เขาไม่อยากให้นางแค้นเขามากขึ้น
ดังนั้นจึงพยายามระงับความโกรธลง สีหน้าถึงดูแย่ขนาดนั้น
เห็นว่าเขาขมวดคิ้ว สายตาปรากฏความอาฆาต หยุนหว่านหนิงไม่ค่อยเชื่อ”เจ้าใจดีขนาดนี้เลยหรือ?”
“ข้าก็มาแล้วไง เจ้ายังสงสัยอะไรอีก?”
หากเขาไม่เป็นห่วงนาง เหตุใดถึงมารับนางทั้งๆที่เตรียมนอนหลับแล้ว
“อ้อ งั้นขอบคุณด้วยนะ”
หยุนหว่านหนิงเดินไปข้างหน้าต่อ
โม่เยว่ขมวดคิ้ว”ง่ายขนาดนี้เลยหรือ?”
“ไม่อย่างงั้นล่ะ?จะให้ข้าคุกเข่า ขอบคุณบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของเจ้าด้วยหรือ?”
โม่เยว่”……ไม่จำเป็นเลย”
“แล้วยังไม่กลับอีกหรือ?ถ้าไม่กลับอีกลูกชายคงจะตื่นแล้วนะ”
หยุนหว่านหนิงเร่งฝีเท้า
กลัวว่าอยู่ๆลูกชายก็ตื่นมากลางคืน พบว่านางไม่อยู่ข้างๆ จะรู้สึกไม่ปลอดภัย
……
คืนวันนี้ หยุนหว่านหนิงพลิกไปพลิกมานอนไม่หลับ
เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ
เก้าโมงสี่สิบห้านางปรากฏตัวที่ท้ายซอยของถนนเจิ้งตงตรงเวลา
มังกรตาเดียวรออยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว หยุนหว่านหนิงได้เห็นตาแรกเลย
เพราะเขาใส่เสื้อคลุมหลากสี……ครึ่งตัวบนเป็นสีเขียวกับสีน้ำเงิน ตรงกลางเป็นสีชมพูกับสีเหลือง ข้างล่างสุดเป็นสีน้ำเงินเข้มค่อยๆไล่เป็นสีดำ
บนหัวยังคาดด้วยที่คาดผมหลากสี แม้กระทั่งผ้าปิดตายังเปลี่ยนเป็นสีแดงสดๆ
ส่วนตาอีกข้างหนึ่ง เนื่องจากเมื่อคืนถูกพ่นด้วยสเปรย์พริกไทย ตอนนี้ยังแดงและบวมอยู่
พอมองจากที่ไกลแล้ว……
เหมือนเป็นนกยูงหลากสีตัวหนึ่งนั่งอยู่ใต้หลังคา ดึงดูดสายตาของคนมาก
อาจเป็นเพราะว่าเมื่อคืนหยุนหว่านหนิงบอกว่า ให้พวกเขาอย่าใส่ดำสนิทเหมือนกับกาดำ
ดังนั้นวันนี้มังกรตาเดียวจึงแต่งกาย……มีสีสันขนาดนี้
เห็นว่าหยุนหว่านหนิงเข้าใกล้ เขารีบลุกขึ้นมา ดึงชุดคลุมอย่างตื่นเต้น
เขาโบกมือใส่นาง”คุณหญิงขอรับ!”
ไม่ทราบว่าเป็นเพราะหยุนหว่านหนิงให้พวกเขาปรับบุคลิกหรือเปล่า มังกรตาเดียวที่เป็นชายร่างใหญ่คนหนึ่ง วันนี้กลับได้ใส่เสื้อคลุม
แต่เขามีร่างกายที่สูงใหญ่ เสื้อคลุมไม่ค่อยเหมาะกับเขา
ใส่แล้วมีรอยยับ สีก็สะดุดตามาก
รวมถึงที่คาดผมหลากสีบนหัวของเขา ทำให้เขาดู……หัวมงกุฎท้ายมังกร
หยุนหว่านหนิงเกือบจะตาบอดไปซะแล้ว
“การแต่งกายของเจ้า ประหลาดจริงๆ!ทำให้ข้าสังเกตเจ้าได้คนแรกเลย!”
นางครุ่นคิดแล้วชมอย่างตั้งใจ”ไม่ทราบว่าเจ้าทำได้อย่างไร สามารถผสมสีเยอะขนาดนี้ได้ โดยรวมก็คือ ไม่เหมาะกับบุคลิกของเจ้าเลย!”
“เจ้าเก่งมากเลยนะ!”
มังกรตาเดียวได้ยินเช่นนี้ ยังนึกว่าหยุนหว่านหนิงชมเขาจริงๆ
เขาหัวเราะคึกคัก”เมื่อวานคุณหญิงบอกว่า ให้พวกเรากลายเป็นประชาชนที่ดีอย่างแท้จริง”
“ข้าก็ต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้พี่น้อง!”
เขาดูเป็นประชาชนที่ดีเลยนะ!
วันนี้ไม่ได้ถือดาบออกจากบ้านด้วยซ้ำไป!
แต่ปกติเขาชินกับการพบดาบ อยู่ๆว่างเปล่าไม่มีอะไรให้จับ ก็รู้สึกไม่ค่อยคุ้นเคย รู้สึกแต่ว่าสายตาของคนรอบข้างที่มองเขาล้วนมีความประหลาด
“คุณหญิงขอรับ เหตุใดพวกเขาถึงมองข้าเช่นนี้?”
มังกรตาเดียวถามอย่างซื่อๆ
หยุนหว่านหนิง”……อาจจะ ถูกความหล่อของเจ้าดึงดูด!”
เขาก้มหน้าเร่งฝีเท้า หวังแต่ว่าจะพ้นจากที่นี่ได้ทันที
เดินอยู่ด้วยกันกับมังกรตาเดียว นางไม่มีความมั่นใจในตัวแล้วนะเนี่ย!
“ข้างหน้ามีโรงน้ำชาแห่งหนึ่ง เราไปคุยกันข้างใน”
นางทิ้งมังกรตาเดียวอยู่ที่ไกล
เมื่อกี้นี้ตาแรกที่เห็นมังกรตาเดียว นางรู้สึกแต่ว่าบุคลิกในวันนี้ของเขา……เหมือนสกินของฮีโร่ที่ชื่อว่าเฉิงเหย่าจินในเกมส์ๆหนึ่ง
นางจำไม่ได้ว่าไม่ได้เล่นเกมส์มานานแค่ไหนแล้ว
แต่สามารถจำได้อย่างลึกซึ้งว่า สกินนั้นชื่อว่า : ความรักและความยุติธรรม
เมื่อนึกถึงสกินนั้น นางก็จำได้ว่าเคยมีคนพูดว่า : เฉิงเหย่าจินใส่ชุดแสบ รอลาสอย่างเดียว!
การแต่งกายและบุคลิกของมังกรตาเดียวในวันนี้ ไม่แพ้สกินนี้ของเฉิงเหย่าจินเลย!
หยุนหว่านหนิงรู้สึกจนคำพูด
นางเข้าไปในโรงน้ำชาก่อน และได้จองห้องพิเศษห้องหนึ่ง
กลัวคนอื่นสังเกตเห็นความสัมพันธ์ของพวกเขา ดังนั้นมังกรตาเดียวเดินช้ามาก
หยุนหว่านหนิงนั่งลงริมหน้าต่าง แล้วถึงเห็นว่าเขากำลังเดินอยู่บนถนนอย่างช้าๆ และมักจะจ้องไปที่คนเดินที่มองเขาด้วยความสงสัย เด็กที่ขี้ขลาดหน่อยถูกเขาจ้องจนร้องไห้ออกมา
พรรคเหยเฟิงชินกับการเก็บค่าคุ้มครองของถนนเส้นนี้แล้ว
หลายๆคนล้วนรู้จักมังกรตาเดียวที่ดุร้าย
วันนี้เห็นว่าเขาแต่งกายแบบนี้ ล้วนรู้สึกสงสัย
รู้สึกแต่ว่าวันนี้เขากินยาผิดหรือเปล่า……
เสียดายที่มังกรตาเดียวไม่ได้พบดาบ ทำอะไรไม่ได้ เลยถูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมรอบเหมือนกับชมลิงอุรังอุตังในสวนสัตว์ ทำให้เขาเดินลำบาก
หยุนหว่านหนิงอดไม่ได้ที่จะคิด
นางให้อีโง่คนนี้ดูแลพรรคเหยเฟิง เป็นทางเลือกที่ถูกต้องจริงหรือ?
แม้กระทั่งหัวหน้าแก๊งยังไม่ปกติเลย สมาชิกในพรรคเหยเฟิงคนอื่นๆฉลาดพอไหมเนี่ย?
มีคำพูดหนึ่งที่ว่า”กาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์” คนในพรรคเหยเฟิงยังมีคนปกติหรือเปล่า?!
แต่คิดอีกแง่หนึ่ง นางเป็นคนในนั้นด้วยสิ?!
หยุนหว่านหนิงส่ายหน้าเพราะรู้สึกขำ
ในเวลานี้ มีคนได้เคาะประตูของห้องพิเศษ