อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 241 หน้าแตก
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 241 หน้าแตก
นึกถึงการเตือนของหยุนหว่านหนิง สีหน้าของลุงเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย”ท่านอ๋องขอรับ เรื่องนี้บ่าวรับปากกับพระชายาหมิงไว้ ยังไม่สามารถบอกได้ขอรับ”
“เจ้า……”
โม่เหว่ยมองเขาทีหนึ่ง เหมือนมีอะไรจะพูดกับเขาแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด
ลุงเฉินเป็นคนของเฉินกุ้ยเฟยในอดีต และเป็นทาสของตระกูลเฉินมาตั้งแต่เกิด
หลายปีนี้เป็นคนดูแลเขาอยู่ตลอด
โม่เหว่ยรู้แน่นอนว่า ลุงเฉินไม่มีวันหักหลังเขาแน่นอน
ถึงแม้ตอนนี้ลุงเฉินมีเรื่องปิดบังเขาอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้โมโห เพียงพูดว่า”เจ้ามีแผนของตัวเองอยู่แล้วก็ดี แต่อย่าทำเรื่องที่ไม่ดีต่อตัวเองออกมาก็พอ”
“ท่านอ๋องไม่ต้องห่วงขอรับ!ท่านอ๋องยังไม่เข้าใจบ่าวหรือขอรับ?”
ลุงเฉินส่ายหน้าเบาๆ”ขอให้ท่านอ๋องฟังคำพูดของบ่าวสักหน่อย”
“พระชายาหมิงรักษาให้ท่าน ท่านต้องให้ความร่วมมือด้วยขอรับ!นอกจากนี้แล้วบ่าวแนะนำท่านอ๋อง……ถึงแม้จะต้องเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เลือกอ๋องหมิงเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด”
ถึงแม้ว่าหลังจากที่หยุนหว่านหนิงรักษาโรคของโม่เหว่ยได้ แล้วเขาไม่เลือกที่จะอยู่ฝ่ายของใครทั้งสิ้น หยุนหว่านหนิงก็ไม่ฆ่าเขาหรอก
แต่ตอนนี้ลุงเฉินรู้ว่า ในมือของหยุนหว่านหนิงและโม่เยว่ ยังมีไม้ตายที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้!
ดังนั้นในบรรดาอ๋องหลายท่านนี้ การเลือกอ๋องหมิงเป็นสิ่งที่ฉลาดที่สุด!
โม่เหว่ยมองเขาด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง สายตาเต็มไปด้วยความมืดมน
“ลุงเฉิน เรื่องนี้ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ร่างกายของข้าตอนนี้ก็ถึงขั้นที่รอตายอย่างเดียว อย่าพูดถึงว่าหยุนหว่านหนิงจะรักษาหายหรือเปล่า……”
คุณตาเชิญหมอเทวดามามากมายขนาดนั้น แถมยังมีหมอหลวงอีกด้วย ล้วนรักษาเขาไม่ได้
หยุนหว่านหนิงเป็นแค่ผู้หญิงที่อายุน้อยเท่านั้น จะรักษาเขาได้อย่างไรล่ะ?!
เขาไม่ค่อยเชื่อถือในฝีมือทางการแพทย์ของหยุนหว่านหนิง
ถึงแม้ตอนนี้ดีขึ้นมาหน่อย เขาก็นึกว่าเป็นความบังเอิญเท่านั้น
“ถึงแม้หยุนหว่านหนิงรักษาข้าได้ ข้าก็จะทำตัวเหมือนหลายปีนี้ ไม่สนอะไรทั้งสิ้น ไม่เข้าร่วมความขัดแย้งใดๆ และไม่เลือกเข้าข้างใครๆด้วย”
เขาพูดด้วยเสียงเบา
ได้ยินเช่นนี้ ลุงเฉินก็ไม่ได้พูดมาก มีแต่ต้องพยักหน้า”ขอรับ ท่านอ๋อง”
ตอนนี้โม่เหว่ยพูดอย่างมั่นใจ
แต่เขาคิดไม่ถึงว่า ในอีกไม่นานเขาก็หน้าแตกไปซะแล้ว!
……
ณ ตำหนักคุนหนิง
เมื่อวานฮองเฮาจ้าวสลบไปในจวนอ๋องหยิง และไม่ได้ตื่นมาตลอด
จนกว่าตอนกลางคืนถูกส่งกลับไปในตำหนักคุนหนิง แล้วให้หมอหลวงหยางไปฝังเข็ม นางถึงค่อยๆตื่นมา……คราวนี้กำลังนอนร้องอยู่บนเตียง
นางปวดหัวมาก!
ฮองเฮาจ้าวได้ใส่ที่คาดหน้าผาก มือข้างหนึ่งประคองหัวเอาไว้ รู้สึกไม่สบายจนพูดไม่ออก
จางหมัวมัวยืนอยู่ข้างเตียง นวดขมับให้นางอย่างระมัดระวัง
“เหนียงเหนียงเพคะ ถ้าไม่สบายจริงๆ ให้หมอหลวงหยางมาดูดีกว่าไหมเพคะ?”
“ดูอะไร?!”
ฮองเฮาจ้าวพูดอย่างอ่อนแรง”ตอนนี้ข้ากลายเป็นเช่นนี้ เจ้ารู้ไหมว่าในวังมีตากี่คู่เคยจับจ้องอยู่?มีกี่คนที่ขำข้าอยู่ลับหลัง?!”
“ไอ้เต๋อเฟย สองวันก่อนยังป่วยจนออกจากตำหนักไม่ได้เลย”
“ได้ข่าวว่าวันนี้ก็ไปนู้นไปนี่ ไปส่งข่าวเกือบทุกตำหนักของวังหลัง!”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฮองเฮาจ้าวก็โมโหจนทุบเตียง”คนที่ชอบเสือกอย่างนาง ต้องขำข้าอยู่ลับหลังแน่เลย!ข้ายังจะเชิญหมอหลวงมาได้อย่างไร?”
จางหมัวมัวรู้ว่า สิ่งที่ฮองเฮาจ้าวพูดเป็นความจริง
ผู้หญิงในวังหลัง ล้วนมีอาการอย่างหนึ่ง : ถ้าวันไหนหน้าแตก ก็อ้างว่าป่วย และอยู่แต่ในตำหนักไม่ออกไปไหนทั้งสิ้น
เต๋อเฟยซ่อนตัวมาหลายวัน ตอนนี้ฮองเฮาจ้าวเป็นคนต้องซ่อนแล้ว
เมื่อวานยังได้ข่าวว่าเต๋อเฟยป่วยหนักอยู่เลย วันนี้ตอนเช้าจางหมัวมัวก็เจอเต๋อเฟยเหนียงเหนียงที่พาพระสนมคนอื่นๆเดินเล่นกันในอุทยานหลวง
พระสนมในวังหลังแบ่งเป็นสองพรรค
ฮองเฮาจ้าวพรรคหนึ่ง เต๋อเฟยอีกพรรคหนึ่ง
แน่นอนว่า นิสัยอย่างเต๋อเฟยก็ไม่สามารถดำรง”มิตรภาพ”นี้ต่อไปได้
นางเป็นคนหยิ่งผยอง แถมยังปากร้ายและขี้งกอีก……
ผู้หญิงในวัง แม้กระทั่งเป็นคนที่อยู่ฝ่ายของเจ๋อเฟย ก็ล้วนเสียเปรียบจากนางทั้งสิ้น
ครั้งนี้เต๋อเฟย”สิ้นอำนาจ” ทุกคนต่างไปพึ่งพาฮองเฮาจ้าว
แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่ายังไม่ถึงเดือน พวกนางกลับพบว่าอยู่ผิดทีม!
หลังจากฮองเฮาจ้าว”ป่วยหนัก” พระสนมเหล่านี้ก็กลับไปข้างๆเต๋อเฟยพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง เช้าวันนี้ก็เริ่มซุบซิบกันในอุทยานหลวง
จางหมัวมัวเห็นกับตาและฟังมาเอง
เดิมทีนางไม่อยากพูดสิ่งเหล่านี้ออกมา ทำให้เจ้านายตัวเองเครียด
แต่ใครจะไปรู้ว่ามีนางกำนัลคนหนึ่งในตำหนักคุนหนิง ได้พูดถึงเนื้อหาการสนทนาของเหล่าเต๋อเฟยกับนางกำนัลอีกคนหนึ่ง
ทำให้ฮวงเฮาเหนียงเหนียงของตัวเองโกรธจนป่วยขึ้นมา!
“เหนียงเหนียงเพคะ เหนียงเหนียงไม่ต้องไปสนข่าวลือเหล่านั้นหรอกเพคะ”
จางหมัวมัวลังเลสักครู่หนึ่ง แล้วถึงพูดโน้มน้าวใจ
“ข่าวลือหรือ?แล้วข้าจะเอาหน้าไปไว้ไหนล่ะ?”
ฮองเฮาจ้าวหัวเราะเยาะ แต่ไม่มีพลังอะไร กวาดมองจางหมัวมัวทีหนึ่งอย่างอ่อนเพลีย”เจ้าดูว่า เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้!ฝ่าบาทไม่เข้าตำหนักคุนหนิงแม้แต่ก้าวเดียวเลย!”
“จะต้องมีซักวันหนึ่ง ข้าจะเอาให้ไอ้หยุนธิงหลานตายแน่นอน!”
นางโมโหจนกำมืออย่างแน่น
ตอนนั้นนางฝากความหวังไว้ที่หยุนธิงหลานมากขนาดไหน ดูแลนางอย่างเต็มที่ขนาดไหน
ความอยากฆ่าหยุนธิงหลานก็รุนแรงมากขนาดนั้น!
เป็นเพราะอีหญิงคนนี้ ทำให้ทุกสิ่งที่นางทำไว้เสียเปล่าหมด แถมยังกลายเป็นตัวตลกทั้งในวังและนอกวัง!
ฮองเฮาจ้าวโมโหจนตัวสั่น
เดิมทีจางหมัวมัวคิดจะปลอบใจ แต่เห็นว่าสีหน้าของนางบิดเบี้ยว เลยรู้ว่าครั้งนี้ฮองเฮาจ้าวโมโหมากๆ จะปลอบใจก็ไม่ดี มีแต่ต้องยืนอยู่ข้างๆอย่างเครียด
เป็นฮองเฮามาหลายปี ฮองเฮาจ้าวมีอาการปวดหัวอยู่ตลอด
พอโกรธขึ้นมา หัวของนางก็เหมือนจะระเบิด ปวดมากๆ
“อุ้ย ปวด”
ฮองเฮาจ้าวทนไม่ไหวอีก กอดหัวและนอนลงอีกครั้ง
เห็นเช่นนี้ จางหมัวมัวรีบสั่งให้นางกำนัลไปเชิญหมอหลวง
เห็นว่าฮองเฮาจ้าวหันกลับมาอีกครั้ง จับมือของนางทีเดียว”เชิญฝ่าบาทมา รับไปเชิญฝ่าบาทมาสิ!”
จางหมัวมัวลังเลเลย
การเชิญฝ่าบาทมา จะรักษาอาการปวดหัวของฮองเฮาได้หรือ?!
ถึงแม้ลำบากใจ แต่จางหมัวมัวก็มีแต่ต้องไป
โม่จงหรานยังจัดการราชกิจอยู่ที่ห้องทรงพระอักษร โม่หุยเหยียนและโม่ฮั่นอี่ว์กำลังรายงานเกี่ยวกับเรื่องเกิดเหตุของค่ายห้ากองพล เห็นว่าจางหมัวมัวมา ก็ให้นางกลับไปก่อน
จางหมัวมัวกลับไปแบบเสียเที่ยว
ฮองเฮาจ้าวเห็นว่าโม่จงหรานไม่ได้มา ก็ปวดหัวยิ่งกว่าเดิม!
นอกจากโมโหแล้ว นางยังรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย
หมอหลวงหยางฝังเข็มไปด้วย โน้มน้าวใจไปด้วย”เหนียงเหนียงพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ฝ่าบาทกำลังยุ่งอยู่เลย!คิดว่ายุ่งเสร็จก็จะมาเยี่ยมเหนียงเหนียงพ่ะย่ะค่ะ”
“แต่ตอนนี้สุขภาพเหนียงเหนียงแย่มาก ควรจะพักผ่อนให้ดีพ่ะย่ะค่ะ”
“เรื่องที่ไม่สบายดีอย่าไปคิด คนที่ไม่อยากเจอก็อย่าไปเจอ!อาการปวดหัวของท่านเป็นอาการที่ติดตัวมานาน พอไปๆมาๆก็กลายเป็นต้นเหตุของโรคพ่ะย่ะค่ะ”
เขาพูดปากเปียกปากแฉะ”หากเหนียงเหนียงไม่ฟังอีก อนาคตอายุมากขึ้นคงต้องลำบากมากกว่านี้พ่ะย่ะค่ะ!”
เขาเป็นคนแก่แล้ว ไม่กลัวหรอกว่าการพูดความจริงจะโดนฮองเฮาจ้าวตี!
เมื่อนึกถึงหมอหลวงเหล่านั้นในสำนักหมอหลวง ทุกครั้งที่เจอฮองเฮาจ้าว ล้วนประจบสอพลอกันอย่างเต็มที่
พูดแต่”หน้าตาไม่แก่ ความงามไม่เปลี่ยน สวยงามตลอดไป”อะไรประมาณนี้
ไม่รู้ว่าพวกเขาเผชิญกับฮองเฮาจ้าวที่อายุห้าสิบปีแล้ว ใบหน้าก็ดูแก่แล้ว จะยังสามารถพูดคพโกหกออกได้อย่างไร……
เดิมทีฮองเฮาจ้าวก็ปวดหัวมาก
พอได้ยินคำพูดที่เป็นความจริงของหมอหลวงหยาง ก็ยิ่งปวดเข้าไปใหญ่
บังเอิญในเวลานี้ คนที่ทำให้นางปวดหัวหนักขึ้นก็มาถึง……