อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 258 เจ้าเจ็ด ปล่อยข้าไปเถอะ
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 258 เจ้าเจ็ด ปล่อยข้าไปเถอะ
“เจ้าเจ็ด นี่ นี่อาหารมีพิษ! ”
ใบหน้าอ้วนท้วนของโม่ฮั่นอี่ว์แดงก่ำ และกุมท้องด้วยความเจ็บปวด “ข้าเชื่อใจเจ้าเช่นนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะวางยาข้า?! ”
เขาเชื่อใจโม่เยว่จริงๆ!
ถึงอย่างไรเขาก็เคยทานอาหารในจวนอ๋องหมิงมาหลายครั้งแล้ว เมื่ออยู่ต่อหน้าโม่เยว่ เขาจึงทานอาหารพวกนี้ได้อย่างสบายใจ!
มิน่าเล่าไอ้เจ้านี่ถึงไม่กิน ที่แท้อาหารนี่ก็มีบางอย่างผิดปกติ!
“พี่รองไม่ต้องกังวล ไม่มีพิษ”
โม่เยว่ลุกขึ้นยืน “เพียงแค่เป็นยาที่ทำให้ท่านเป็นอัมพาตชั่วคราวเท่านั้น”
อัมพาต? !
เขาอยากจะด่าเขาว่า‘อัมพาต’(ในภาษาจีนคำนี้พ้องเสียงกับคำสบถ ซึ่งมีความหมายหยาบคา)!
หัวคิ้วของโม่ฮั่นอี่ว์ขมวดเป็นปม เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาจากหน้าผาก และหยดลงบนจานที่อยู่ตรงหน้า บนจานเป็นน่องไก่ที่เขากินไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว เหงื่อหยดลง ช่างน่าเสียดาย……
โม่ฮั่นอี่ว์คิดในใจ
เขากัดฟันและจ้องมองไปที่โม่เยว่ “ในเมื่อทำให้ข้าเป็นอัมพาตทั้งตัว แล้วเหตุใดข้าถึงปวดท้องไม่หาย?”
“ข้าเอายานี้มาจากในห้องของหนิงเอ๋อร์เมื่อหลายวันก่อน”
โม่เยว่พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท่านก็รู้ว่าหนิงเอ๋อร์ชอบปรุงยาด้วยตนเอง! คาดว่ายานี้มีนอกจากทำให้ท่านเป็นอัมพาตแล้ว ยังมีผลข้างเคียงบางอย่าง! ”
ได้ยินจนชินแล้ว “คำพูดของหยุนหว่านหนิง” โม่เยว่พูดเหมือนหยุนหว่านหนิง
โม่ฮั่นอี่ว์แสยะยิ้มด้วยความเจ็บปวด “ให้ตายเถอะ! ”
“ดูเหมือนข้าจะท้องเสีย ข้าต้องการไปห้องน้ำ! ”
“ไปสิ”
โม่เยว่ปล่อยให้เขาตามสบาย
“ข้าเป็นอัมพาตทั้งตัว จะไปได้อย่างไร!”
โม่ฮั่นอี่ว์คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
ลำบากหรูโม่แล้ว เขาทำได้เพียงพยุงโม่ฮั่นอี่ว์ขึ้นมาในทันที และพาเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นเสียงและกลิ่นที่ยากจะบรรยายก็ลอยออกมาในห้องน้ำ……
โม่เยว่ถอยหลังไปหลายก้าว และกลั้นหายใจ
ไม่นานโม่ฮั่นอี่ว์ก็ถูกหรูโม่พยุงออกมา
ร่างกายของเขาไร้เรี่ยวแรง ทั้งตัวแข็งทื่อและเป็นอัมพาต
การรวมกันของสถานการณ์ดังกล่าวที่ขัดแย้งกัน ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“พี่รอง ขอเพียงท่านมอบหลักฐานของพี่สามที่อยู่ในมือของท่านให้ข้า ข้าจะให้ยาถอนพิษกับท่าน”
โม่เยว่เอามือกอดอกและพิงเสา
“ที่แท้เหตุผลที่เจ้าลงมือกับข้าเช่นนี้ก็เพราะต้องการหลักฐานของเจ้าสาม?! เจ้าเจ็ดเอ๊ยเจ้าเจ็ด เหตุใดเจ้าถึงได้โหดเหี้ยมเช่นนี้! ข้าเป็นพี่รองของเจ้านะ! ”
โม่ฮั่นอี่ว์โกรธจัด
“ข้ายังไม่ทันได้ลงมือแย่งชิงเลย”
โม่เยว่ยิ้มอย่างเอื่อยเฉื่อย
โม่ฮั่นอี่ว์ “นี่ไม่ถือว่าเป็นการแย่งชิงหรือ?! ”
“พี่รองน่าจะรู้วิธีการของข้า หากข้าต้องการแย่งชิงจริงๆ……”
เขายังพูดไม่ทันจบ โม่ฮั่นอี่ว์ก็สีหน้าเปลี่ยนอีกครั้ง และตะโกนต่อว่า “หรูโม่ เร็วเข้าๆ รีบพยุงข้าเข้าไป! ”
หลังจากเข้าไปหลายครั้งหลายครา เขาก็นั่งบนถังอุจจาระและไม่ยอมลุกขึ้น
“เจ้าเจ็ดมีอะไรเจ้าก็พูดมาตรงนี้เลย! ขอแค่เจ้าไม่รังเกียจกลิ่นเหม็น”
หรูโม่ยืนทำหน้าเหมือนท้องผูกอยู่ที่หน้าประตู และคิดว่าครั้งนี้กลิ่นบางเบา……
โม่เยว่กลั้นหายใจตั้งนานแล้ว แน่นอนว่าไม่ได้กลิ่นใดๆ
“เอาหลักฐานออกมา”
“ได้”
โม่ฮั่นอี่ว์ตกลงอย่างง่ายดาย
สิ่งที่โม่เยว่พูดเมื่อครู่นั้นถูกต้อง วิธีการของเขา……เขาเคยเห็นมาก่อน
หากมิฉะนั้น แม้ว่าโม่เยว่จะไม่ได้ลงมือ แต่หยุนหว่านหนิงอาจจะ “ลงมือแทนสามี” ถึงเวลานั้นเกรงว่าจะเลวร้ายยิ่งกว่าครั้งนี้!
เจ้าเด็กโสโครกนั่นสามารถทรมานผู้คนได้ โม่ฮั่นอี่ว์จึงยิ่งละอายที่ไม่อาจเทียบได้
โม่ฮั่นอี่ว์พูดอย่างอ่อนแรง “เจ้าให้หรูโม่ไปที่ห้องตำราของข้า”
“ในช่องลับของลิ้นชักที่สอง มีจดหมายอยู่ฉบับหนึ่ง เป็นเจ้าสามที่เขียนไว้ ข้าตัดออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว”
“นอกเหนือจากนั้น ทำได้เพียงให้ต้าจ้วงมาออกหน้าเป็นพยาน”
ต้าจ้วงก็คือชื่อพลทหารของค่ายห้ากองพลผู้นั้น
ทรยศโม่หุยเฟิง และเป็นพลทหารที่แอบทำงานให้โม่ฮั่นอี่ว์
“ไม่มีแล้ว? ”
โม่เยว่เลิกคิ้วขึ้น
“ไม่มีแล้ว”
สีหน้าของโม่ฮั่นอี่ว์ซีดลง เสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ “เจ้าละเว้นข้าเถิด! ข้าไม่ไหวแล้วจริงๆ หากยังท้องเสียต่อไป ข้าคงเป็นลมหมดสติ! ”
“รอให้หรูโม่เอาจดหมายกลับมาแล้วค่อยว่ากัน”
โม่เยว่รออย่างเอ้อระเหย
ไม่นานหรูโม่ก็จากไปและกลับมา
เขาไม่เพียงแต่เอาจดหมายมา แต่ยังมีอย่างอื่นมาด้วย……
“นายท่าน ท่านดูสิ”
หรูโม่ส่งกระดาษใบหนึ่งให้โม่เยว่
เมื่อเห็นกระดาษใบนั้น……สีหน้าของโม่ฮั่นอี่ว์ก็เปลี่ยนเป็นไม่น่ามองมากนัก และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “นึกไม่ถึงเลยว่าข้าจะลืมทำลายกระดาษใบนี้! ”
เมื่อเห็นเขาตอบสนองมากเช่นนี้ โม่เยว่ก็อยากรู้เนื้อหาในกระดาษ
เขาคลี่กระดาษออกในทันที และอ่านดูคร่าวๆ หนึ่งรอบ
บนกระดาษมีเพียงไม่มีประโยค
แต่พอจะบอกได้ว่า……
เรื่องของค่ายห้ากองพลในครั้งนี้ เป็นเขาที่คอยผสมโรงอย่างลับๆ เดิมทีไม่ใช่ความผิดของโม่หุยเฟิง!
ที่แท้โม่ฮั่นอี่ว์ต้องการโยนความผิดเรื่องนี้ให้โม่หุยเฟิง แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะลืมทำลายหลักฐานที่แสดงว่าได้กระทำความผิด และกลับตกอยู่ในมือของโม่เยว่!
โม่ฮั่นอี่ว์แทบอยากจะตาย
โม่เยว่กลั้นหัวเราะ
ไม่ต้องเปลืองแรงก็ได้หลักฐานที่แสดงว่าได้กระทำความผิดเหล่านี้!
โม่ฮั่นอี่ว์เอามือทั้งสองข้างกุมใบหน้า “เจ้าเจ็ด เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ! ”
“ขอเพียงท่านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ข้าจะไม่ทำอะไรท่านอย่างแน่นอน”
ต้องบอกว่า……รอยยิ้มบนใบหน้าของโม่เยว่ ทำให้โม่ฮั่นอี่ว์ไม่แน่ใจมากยิ่งขึ้น
หลังจากกินยาถอนพิษ โม่ฮั่นอี่ว์ก็ดูเหมือนจะสูญเสียชีวิตไปครึ่งหนึ่ง นอนอยู่บนเก้าอี้และใกล้จะหมดลมหายใจ “เจ้าเจ็ด เจ้าบอกข้ามาว่าเจ้าวางยาข้าตั้งแต่เมื่อใด? ”
“เจ้าคงไม่ได้สั่งให้พ่อครัวหลวงทำเรื่องเช่นนี้ใช่หรือไม่?”
ก่อนหน้านี้ซุนตายิ่งไปล่อใจพ่อครัวหลวงหวง ทำให้พ่อครัวหลวงหวงกลายเป็นหวงกงกง
เรื่องนี้ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในวัง
โม่เยว่คงจะไม่ใช้กลอุบายเช่นนี้อีกใช่หรือไม่?
“พิษไม่ได้อยู่ในอาหาร”
โม่เยว่หัวเราะเบาๆ “แต่อยู่ในปากของข้า”
โม่ฮั่นอี่ว์ “??? ในปากของเจ้า?! ล้อเล่นอะไร! ตั้งแต่ข้าเข้ามาในห้องทรงพระอักษรจนถึงตอนนี้ ข้าก็แทะแค่น่องไก่ ไม่ได้แทะปากของเจ้า! ”
“พี่รองเข้าใจผิดแล้ว”
โม่เยว่ยิ้มเล็กน้อย “ข้ากินยานั้นไปตั้งนานแล้ว เพียงแค่คุยกับเจ้า เจ้าก็จะถูกหลอก”
“อะไรนะ?! ”
โม่ฮั่นอี่ว์จ้องมองเขาอย่างตกตะลึง “ไม่มีทาง? แล้วทำไมเจ้าถึงไม่ได้รับพิษ?!”
“หนิงเอ๋อร์ให้ข้าทดสอบยา ในตอนนี้ร่างกายของข้า……พิษร้ายมิอาจกล้ำกราย”
เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงของโม่เยว่โป้ปด!
โม่ฮั่นอี่ว์ร้องไห้ “ฮือๆๆ ทำไมข้าถึงไม่มีภรรยาที่มีความสามารถเช่นนี้!”
ดูอย่างภรรยาของเจ้าเจ็ด นางไม่เพียงแต่ดื่มสุราได้ แต่ยังกลั่นสุราได้ด้วย แถมยังทำอาหารเก่งอีก
นักเล่นลูกเต๋าที่เก่งที่สุดในใต้หล้า และได้รับความโปรดปรานจากเสด็จพ่อ อยู่ในวังจะทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้
แม้กระทั่งปฏิบัติต่อโม่เยว่……ก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่
จะวางยาใครในวังก็เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ และไม่ง่ายที่จะสังเกตเห็น นึกไม่ถึงเลยว่าพิษร้ายมิอาจกล้ำกรายโม่เยว่ ต่อไปก็จะจัดการกับเขาได้ยากขึ้น……
โม่ฮั่นอี่ว์น้ำตานองหน้าด้วยความอิจฉา “เจ้าเจ็ด เจ้าไปหาภรรยาเช่นนี้มาจากที่ใด?”
“แนะนำให้ข้าสักคนเถิด! ข้ายินดีจะหย่ากับแม่เสือแก่ที่บ้านในทันที……”
หรูโม่กลั้นหัวเราะ
แม่เสือแก่?
นายหญิงแห่งจวนอ๋องหมิงของพวกเขาไม่ใช่แม่เสือแก่หรือ? !
อ๋องฮั่นมองเห็นนายท่านของตนเองเพียงแค่ผิวเผิน แล้วจะรู้ความเศร้าเบื้องหลังเจ้านายได้อย่างไร……
หรูโม่อยากจะพูดจริงๆ ว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อ๋องฮั่นและพระชายาฮั่นก็เป็นคู่รักที่มีใจให้กันมาตั้งแต่วัยเยาว์ รักกันไม่แยกจาก
แต่นายท่านกับพระชายาของตนเอง……
นายท่านแตะต้องไม่ได้แม้แต่มือของพระชายา!
ใครกันแน่ที่แย่กว่ากัน? !