อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 29 ให้พวกนางกัดกันเอง
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 29 ให้พวกนางกัดกันเอง
“ข้าน้อยเห็นอย่างจริงแท้แน่นอน! นั่นคือรถม้าของจวนยิ่งกั๋วกงจริงๆ!”
ข้ารับใช้ลดเสียงลงมา “ท่านอ๋องออกไป ก็ขึ้นรถม้าไปโดยตรง รถม้าจากไปอย่างรวดเร็ว ข้าน้อยไม่กล้าเข้าใกล้มากเกินไป ท่านอ๋องจะได้ไม่สังเกตเห็น”
“พวกเขาไปที่ไหน? !”
ฉินซื่อเสวียกัดฟันถามขึ้นมา
“ข้าน้อยก็ไม่รู้ แต่ดูเหมือนว่าจะไปทางประตูเมืองแล้ว”
ข้ารับใช้ตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ตกลง ข้ารู้แล้ว”
ฉินซื่อเสวียสูดลมหายเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ระงับความโกรธในดวงตาเอาไว้ “เจ้าออกไปก่อนเถอะ! ขอเพียงแค่ช่วยข้าจับตาดูท่านอ๋องเอาไว้ วันหน้าข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดีแน่”
“ขอรับ พระชายา”
ข้ารับใช้ถอยออกไปอย่างเคารพนบนอบ
สีหน้าของฉินซื่อเสวีย ไม่น่าดูขึ้นมาในทันที
นางกำมือแน่นด้วยความดุดัน กล่าวขึ้นมาอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ข้ารู้อยู่แล้ว โม่หุยเฟิงต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน!”
“ช่วงนี้ เขาไม่อยากแตะต้องข้าด้วยซ้ำ มักจะหาข้ออ้างไร้สาระต่างๆนานา มาทะเลาะกับข้า ยังกล่าวคำพูดที่ว่าจะรับสนมออกมาอีก……”
นางตบไปบนโต๊ะอย่างแรง
ฝ่ามือที่ถูกเศษเครื่องเครือบบาดเป็นแผลเมื่อครู่นี้ เลือดถูกย้อมไปบนโต๊ะ
แต่นางเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด หน้าเล็กบิดเบี้ยวน่ากลัว “ตาแก่อิงกั๋วกงนั่น ถึงแม้จะตั้งใจประจบประแจงท่านอ๋อง”
“แต่เขาไม่มีทางมารออยู่หน้าประตูจวนอ๋องหยิงให้เป็นที่สนใจอย่างเด็ดขาด!”
จวนยิ่งกั๋วกง ก็ไม่มีคุณชายที่อายุใกล้เคียงกับโม่หุยเฟิง
เช่นนั้นคนที่นั่งอยู่ในรถม้า นอกจากหยุนติงหลานแล้ว ยังจะเป็นใครได้อีก? !
“ก่อนหน้านี้ ข้าก็เคยได้ยินข่าวลือมาบ้าง แต่ไม่เคยเก็บมาใส่ใจ ในใจคิดว่าท่านอ๋องเกลียดชังหยุนหว่านหนิง ต้องไม่ชอบหญิงสาวจากตระกูลหยุนอย่างแน่นอน”
แต่ครั้งนี้ ฉินซื่อเสวียกลับไม่กล้าแน่ใจเช่นนี้แล้ว!
“พระชายา ตอนนี้เรื่องราวยังไม่แน่นอน ท่านก็ไม่ต้องโกรธไป จะได้ไม่เสียสุขภาพตัวเอง”
จื่อซูเกลี้ยกล่อมอย่างระมัดระวัง
“ท่านอ๋องปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้ ข้ายังต้องการร่างกายนี้ไปทำไม?”
ฉินซื่อเสวียยิ้มเย้ยหยัน
เวลานี้ ข้ารับใช้ที่ออกไปเมื่อครู่นี้ ก็ย้อนกลับมาใหม่
เขายื่นกระดาษข้อความแผ่นหนึ่งขึ้นมา สีหน้าแปลกประหลาดเล็กน้อย “พระชายา เมื่อครู่ข้าน้อยเพิ่งจะออกไป ก็มีคนโยนกระกาษก้อนนี้มาที่เท้าของข้าน้อย ข้าน้อยก็ไม่เห็นว่าเป็นใคร เมื่อเก็บขึ้นมาดู……”
“พระชายาดูเนื้อหาข้างในเองดีกว่า”
หยุดไปครู่หนึ่ง บ่าวรับใช้ชายกล่าวว่า
“ข้างในนี้เขียนว่าอะไร?”
ฉินซื่อเสวียรับกระดาษข้อความมา คลี่ออกมาดู ในดวงตามีแสงแห่งความประหลาดใจพุ่งออกมาในทันใด
จื่อซูรีบถาม “พระชายา ข้างในนี้เขียนว่าอะไร?”
“รีบไปที่ภัตตาคารซินเยว่ทันที!”
ฉินซื่อเสวียไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแค่หันไปมองบ่าวรับใช้คนนั้น สายตาที่มืดมนและเย็นชาทำให้เขาตกใจจนตัวสั่น รีบตอบรับและหันหลังออกไปเลย
……
จวนอ๋องหมิง
ตอนที่หยวนเป่าตื่นมา หยุนหว่านหนิงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างเตียง
“ท่านแม่”
ได้ยินเสียงเด็กน้อยไร้เดียงสาของเขา หยุนหว่านหนิงรู้สึกแต่เพียงว่าใจก็แทบจะละลายแล้ว รีบวางหนังสือลง “ลูกรักของแม่ตื่นแล้วหรือ? นอนอิ่มแล้วหรือ?”
นางอุ้มหยวนเป่าเอาไว้ในอ้อมแขน หอมแก้มน้อยแสนหวานนุ่มละมุนของเขา
อย่างไรก็เป็นลูกที่ตัวเองให้กำเนิด ไม่ว่าจะหอมอย่างไรก็เหมือนกับไม่เพียงพอ
“นอนอิ่มแล้ว”
หยวนเป่าขยี้ดวงตา “น้าหญิงไปแล้วใช่ไหม?”
“อืม ไปแล้ว”
จู่ๆก็ได้ยินเขาพูดถึงหยุนติงหลาน หยุนหว่านหนิงอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้ “หยวนเป่าชอบนางไหม?”
น้อยมากที่หยวนเป่าจะริเริ่มเอ่ยถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา
วันนี้กลับริเริ่มเอ่ยถึง หยุนติงหลานที่เจอกันเพียงครั้งเดียว……โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นศัตรูคู่อาฆาตของนาง ในใจของหยุนหว่านหนิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
“ไม่ชอบ”
หยวนเป่าเบะปากเล็กแล้วกล่าวพึมพำขึ้นมา “ตอนที่นางยิ้มทำให้คนรู้สึกกลัวเล็กน้อย ข้าไม่ชอบ”
ทำให้คนรู้สึกกลัว?
คำบรรยายนี้ ค่อนข้างเหมาะสมทีเดียว
ได้ยินหยวนเป่าบอกว่าไม่ชอบหยุนติงหลาน ในใจของหยุนหว่านหนิงรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว
นางตบไปที่หน้าเล็กของหยวนเป่าเบาๆ “เอาล่ะ! ตาทวดของเจ้าคงจะรอนานมากแล้ว! เจ้ารีบไปเถอะ อย่าให้ตาทวดรอนาน”
หยวนเป่าแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย กระโดดลงมาจากเตียงก้าวเท้าออกแล้วก็วิ่งออกไปเลย
วิ่งออกไปได้สองสามก้าวก็ย้อนกลับมา จูบไปที่ใบหน้าของนางอย่างแรง “ท่านแม่ ข้าไปแล้วนะ”
“ไปเถอะ”
หยุนหว่านหนิงนวดผมของเขาเบาๆ มองดูเขาวิ่งไกลออกไปอย่างมีความสุข
หรูเยียนเดินเข้ามาช้าๆ “พระชายา เรื่องที่ท่านสั่งการ หรูยี่จัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขากำลังรออยู่ข้างนอก ถามพระชายาว่ายังมีอะไรจะสั่งการอีกไหม”
ท่าทีที่นางมีต่อในตอนนี้หยุนหว่านหนิงลังเลอย่างมาก
ตอนแรก โม่เยว่สั่งให้นางมาปรนนิบัติหยุนหว่านหนิง ก็เพื่อสอดแนมดูนางเป็นหลัก
ในจวนอ๋องหมิง บ่าวรับใช้ที่พอจะมีสถานะเล็กน้อย ก็จะถูกต้องชื่อด้วยคำว่าหรู
แต่แทบจะเป็นองครักษ์ลับทั้งหมด มีเพียงหรูเยียนเท่านั้นที่เป็นผู้หญิงคนเดียว
เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า สถานะในจวนอ๋องหมิงของหรูเยียน เหมือนกับหรูโม่หรูยี่
แต่หลายวันก่อนหรูเยียนได้รับบาดเจ็บ หยุนหว่านหนิงกลับรักษาให้นางด้วยตัวเอง ยังให้นางใช้ยาที่นางไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินมาก่อนไปไม่น้อย
เดิมทีหรูเยียนยังสงสัยว่า ยานั่นมีพิษหรือไม่
แต่ว่า มียานั่นแล้ว บาดแผลของนางก็หายเร็วยิ่งขึ้น
หรูเยียนรู้สึกขอบคุณนางเล็กน้อย
“ให้เขาตามสืบที่อยู่ของโหยวเอ้อต่อไป”
หยุนหว่านหนิงครุ่นคิดเล็กน้อย “นอกจากนี้ ช่วงนี้จับตาดูจวนอ๋องเอาไว้ ทันทีที่มีความเคลื่อนไหวเล็กน้อยใดๆ ให้รีบมารายงานข้าทันที”
“เจ้าค่ะ”
หรูเยียนหันหลังออกไปโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ
หรูยี่ย่อมยินดีจะทำงานให้หยุนหว่านหนิงอยู่แล้ว
ทุกครั้งที่ทำงานครั้งหนึ่ง ก็จะได้รับค่าตอบแทนมากมาย งานเช่นนี้ใครจะไม่อยากทำ?
นึกขึ้นมาได้ว่าหยุนหว่านหนิงสั่งให้พวกเขาจับตาดูทางด้านจวนอ๋องหยิงเอาไว้……
หรูเยียนรู้สึกไม่สบายใจ
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่หลายต่อหลายครั้ง สุดท้ายก็แจ้งเรื่องนี้ให้กับโม่เยว่
“อ๋อ? หยุนหว่านหนิงให้พวกเจ้าจับตาดูจวนอ๋องหยิงทำไม?”
สีหน้าท่าทางโม่เยว่สงสัย
“บ่าวไม่ทราบ”
หรูเยียนส่ายหน้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตอนนี้พระชายายังสั่งให้หรูยี่ไปทำเรื่องหนึ่ง แจ้งความเคลื่อนไหวของท่านอ๋องหยิง ให้พระชายาหยิงทราบ”
คราวนี้ โม่เยว่ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นแล้ว
หยุนหว่านหนิงผู้หญิงคนนี้ ต้องการจะทำอะไรกันแน่?
“ความเคลื่อนไหวของท่านอ๋องหยิง?”
เขาเลิกคิ้ว “ทำไมต้องบอกพระชายาหยิง?”
“เพราะว่า……”
หรูเยียนมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง ลดเสียงลงมา “เพราะท่านอ๋องหยิงกับคุณหนูรองหยุนของจวนยิ่งกั๋วกง คบคิดกันนานแล้ว เรื่องนี้ พระชายาหยิงไม่รู้เรื่อง”
ได้ยินคำพูดนี้ ในใจของโม่เยว่พอจะเดาออกแล้วว่า หยุนหว่านหนิงจะทำอะไรแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ ยังไม่ยอมปล่อยฉินซื่อเสวียไปจริงๆหรือ?
“เฮอะ ตอนนี้นางมีสมองแล้ว มีความสามารถแล้ว!”
โม่เยว่เย้ยหยันอย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย “นางไม่ถูกกับหยุนติงหลาน กับฉินซื่อเสวียก็ยิ่งเหมือนน้ำกับไฟไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ที่ยุแยงตะแคงรั่วในวันนี้ ก็เพื่อให้หยุนติงหลานไปจัดการฉินซื่อเสวีย……”
“นกกระยางสู้กับหอยกาบ สุดท้ายชาวประมงได้ผลประโยชน์”
หยุนหว่านหนิงต้องการจะมองดูพวกนางสองคน กัดกันเอง……
เขากล่าวขึ้นมาอย่างมีความหมายลึกซึ้ง
“แต่ว่าท่านอ๋อง วิธีการของพระชายาในตอนนี้เปลี่ยนไปจากในอดีตมากเกินไป”
ในดวงตาของหรูเยียนมีความกังวลแวบผ่านไปเล็กน้อย “วันนี้ท่านกับท่านอ๋องหยิงก็เกิดความขัดแย้งกันขึ้นมา ถ้าหากการกระทำของพระชายาทำให้ท่านอ๋องหยิงโกรธขึ้นมา ถึงเวลานั้นจะทำให้ท่านอ๋องติดร่างแหไปด้วยหรือไม่?”
โม่เยว่กล่าวพึมพำ “ปล่อยให้นางทำไปเถอะ”
“มีเรื่องอะไร รีบมาบอกข้าทันทีก็พอ”
เขาจัดการโม่หุยเฟิง หยุนหว่านหนิงจัดการฉินซื่อเสวีย
สองผัวเมียสู้กับสองผัวเมีย ก็น่าสนใจดี
โม่เยว่ยิ้มเย้ยหยัน “ข้าก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนกันว่า หยุนหว่านหนิงยังสามารถทำอะไรได้อีก! ข้า จะตั้งหน้าตั้งตารอ!”
ใครจะรู้ว่าไม่ช้า หยุนหว่านหนิงก็ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่แล้ว……