อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 30 ท่านอ๋องมีคนรักอยู่ข้างนอก
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 30 ท่านอ๋องมีคนรักอยู่ข้างนอก
จวนอ๋องหยิง
ในเวลาพลบค่ำ โคมไฟของจวนอ๋องส่องสว่างขึ้นมาแล้ว
วันนี้ฉินซื่อเสวียบาดเจ็บไม่น้อย
นางถูกเลี้ยงอย่างประคบประหงมเอาใจมาตั้งแต่เด็ก ถูกฉินเฉินเซี่ยงประคองเอาไว้ในฝ่ามืออย่างทะนุทะถอมจนโต ในยี่สิบกว่าปีของนางมานี้ วันนี้เป็นครั้งแรกที่นางได้รับบาดเจ็บ ยิ่งเป็นครั้งแรกที่ได้รับความอัปยศอดสูครั้งใหญ่เช่นนี้!
นางได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
เกรงว่าจะเสียหน้า ไม่สามารถเชิญหมอหลวงหรือว่าหมอมารักษาได้
ดังนั้น เพียงแต่สั่งให้จื่อซูไปซื้อครีมยามาจากร้านขายเท่านั้น
เวลานี้ เพิ่งจะเปลี่ยนยาเสร็จ นางนอนอยู่บนตั่งนอนด้วยความเหนื่อยล้า
นางกับโม่หุยเฟิงมีลูกสาวสองคน ลูกสาวคนโตวันนี้ฮองเฮารับตัวเข้าไปในวัง ลูกสาวคนเล็กเพิ่งจะขวบกว่าๆ เวลานี้ยังอยู่กับแม่นม
ฉินซื่อเสวียประคองหน้าผาก คิ้วโค้งได้รูปขมวดกันแน่น
ครู่ต่อมา จื่อซูก็ยกยาต้มเอามา “พระชายา ได้เวลาดื่มยาแล้ว”
“เสี่ยวยิ่นจื่อไปนานขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่กลับมาอีก?”
เสี่ยวยิ่นจื่อ ก็คือข้ารับใช้ที่ทำงานให้นาง
“เสี่ยวยิ่นจื่อไปนานขนาดนี้แล้ว ก็ควรกลับมาแล้วจริงๆ”
จื่อซูส่งยาต้มมาให้ กล่าวถามอย่างระมัดระวัง “ถ้าอย่างไร ให้บ่าวส่งคนไปดูหน่อยไหม?”
กลัวแต่ว่าเสี่ยวยิ่นจื่อจะถูกโม่หุยเฟิงสังเกตเห็นเข้า จะถูกตีตายหรือเปล่า……คิดถึงตรงนี้ ฉินซื่อเสวียพยักหน้า “จัดหาคนที่เชื่อถือได้ออกไป อย่าให้ท่านอ๋องสังเกตเห็นเข้าเด็ดขาด”
ทันทีที่เสียงหยุดลง ก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังมา
จื่อซูก้าวเข้าไปเปิดประตู เห็นเพียงเสี่ยวยิ่นจื่อกำลังมองไปรอบๆด้วยความระมัดระวัง
“พี่จื่อซู พระชายาพักผ่อนหรือยัง?”
สีหน้าของเขาตื่นตระหนก ดูแล้วเหมือนกับเกิดเรื่องใหญ่แล้ว
“ยัง เมื่อครู่นี้พระชายาเพิ่งจะพูดถึงเจ้าอยู่แน่ะ! รีบเข้ามาตอบคำถามเร็ว”
จื่อซูแวบตัวออกไปให้เขาเข้าไป ขณะที่ปิดประตูก็ตำหนิเสียงเบาไปด้วย “ทำไมถึงไปนานขนาดนี้? ไม่รู้หรือว่าพระชายากังวลจะแย่อยู่แล้ว?”
เสี่ยวยิ่นจื่อเดินไปสองก้าว
ได้ยินจื่อซูพูดเช่นนี้ ก็รีบหันกลับมากล่าวกระซิบขึ้นมา “พี่จื่อซู เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
จื่อซูยังไม่ทันได้ถาม ก็ได้ยินเสียงของฉินซื่อเสวียดังมาจากข้างใน “เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น? !”
น้ำเสียงแหลมคมเล็กน้อย สามารถจินตนาการได้ว่าสีหน้าท่าทางของนางในตอนนี้จริงจังแค่ไหน
เสี่ยวยิ่นจื่อไม่มีเวลาสนใจจะคุยกับจื่อซู รีบร้อนก้มตัวเดินเข้าไปข้างใน
เดินไปถึงหน้าตั่งนอน เขาคุกเข่าลงไปทันที สีหน้าดูไม่ดีอย่างมาก “พระชายาคาดเดาถูกแล้ว ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเขา……มีคนรักอยู่ข้างนอกอยู่จริงๆ!”
“อะไรนะ? !”
สีหน้าท่าทางของฉินซื่อเสวียตกตะลึง วางมือลง
นางจ้องมองเสี่ยวยิ่นจื่ออย่างไม่ละสายตา “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พูดมาตามความจริง!”
เสี่ยวยิ่นจื่อย่อมไม่กล้าปิดบังอยู่แล้ว
ในจวนอ๋องหยิงฉินซื่อเสวียคือคนที่หนุนหลังเขา หากว่านางล้มลง เกรงว่าเขาก็คงจะไม่มีชีวิตดีๆแล้ว
ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายา อย่างไรเขาก็พึ่งพาคนใดคนหนึ่ง วันหน้าหากท่านอ๋องรู้เรื่องนี้เข้า ต้องไม่ปล่อยเขาไปแต่ ดังนี้ตำแหน่งพระชายามั่นคง เขาถึงจะมีชีวิตดีๆที่มั่นคงได้
ดังนั้น เสี่ยวยิ่นจื่อรีบอธิบายออกมาอย่างตรงไปตรงมา
“ข้าน้อยไปที่ภัตตาคารซินเยว่ ก็เห็นองครักษ์ของท่านอ๋องเฝ้าอยู่หน้าประตูจริงๆ”
เขาหดหัวเล็กน้อย นึกถึงสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินในภัตตาคารซินเยว่ กล่าวออกมาอย่างระมัดระวัง “จากนั้น จากนั้นข้าน้อยยังเห็น ท่านอ๋องกับ……”
เขาไม่กล้าพูดต่อไปแล้ว
สองมือของฉินซื่อเสวีย กำขอบตั่งนอนเอาไว้แน่น ตะโกนออกมาอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “พูด!”
“ท่านอ๋องกับใคร? !”
“คือ คือคุณหนูรองหยุนของจวนยิ่งกั๋วกง!”
ได้ยินคำพูด หน้าเล็กของฉินซื่อเสวียเปลี่ยนเป็นสีเขียวในชั่วพริบตา!
หลังจากความตกตะลึงในดวงตาแวบผ่านไป ก็คือความโศกเศร้าของคำว่า “เป็นเช่นนี้จริงๆด้วย”
ถึงแม้นางจะเดาออกนานแล้ว โม่หุยเฟิงจะต้องมีคนรักข้างนอกจริงๆ ดังนั้นถึงได้พูดอยู่ตลอดว่าจะรับสนม ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองสามีภรรยา ก็จืดจางไปจากก่อนหน้านี้อย่างมาก
แต่อย่างไรนางก็คิดไม่ถึงว่า คนคนนี้จะเป็นหยุนติงหลาน!
“เจ้าตัวดีหยุนติงหลาน! เบื้องหน้าแสร้งทำแสดงเป็นพี่น้องผูกพันลึกซึ้งกับข้า”
ใบหน้าของฉินซื่อเสวีย ค่อยๆบิดเบี้ยวไปแล้ว “ถึงกับกล้ามาแย่งผู้ชายกับข้า!”
หลายปีมานี้ เพราะหยุนหว่านหนิง หยุนติงหลานจงใจเข้าหานาง ทั้งสองคนร่วมมือกันจัดการหยุนหว่านหนิงด้วยกัน
นางคอยระวังหยุนหว่านหนิงนังแพศยานั่นมาหลายปีขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายคนที่แทงนางอย่างโหดเหี้ยมที่สุด กลับเป็นหยุนติงหลานนังแพศยาคนนี้!”
“ท่านอ๋องก็ไม่กลัวว่าจะทำให้นางน้อยใจ”
ฉินซื่อเสวียยิ้มเย้ยหยัน “จะให้คุณหนูรองของจวนยิ่งกั๋วกง เป็นสนมของเขา!”
“อย่างไร ก็ควรจะเป็นพระชายารองใช่ไหม?”
ได้ยินนางพูดเช่นนี้ จื่อซูกับเสี่ยวยิ่นจื่อมองหน้ากันครู่หนึ่ง กล่าวถามด้วยความสงสัย “พระชายา ท่านไม่โกรธหรือ?”
ไม่โกรธ?
นางโกรธจนใกล้จะระเบิดอยู่แล้วตกลงไหม? !
แต่ว่า ฉินซื่อเสวียอดทนเอาไว้ หัวเราะออกมาด้วยความโกรธ “มีอะไรให้โกรธกัน? ตอนนี้คุณหนูรองหยุนท่านนี้ คือคนโปรดของท่านอ๋องอย่างชัดเจน”
“แล้วข้าจะไม่ดูสถานการณ์ ไปเป็นศัตรูกับนางได้อย่างไรเล่า?”
“เช่นนั้นพระชายา ท่านคิดจะทำอย่างไร?”
จื่อซูกล่าวถามอย่างหยั่งเชิง
“ในเมื่อนางเป็นคนโปรดของจวนอ๋อง ข้าย่อมต้องปฏิบัติต่อนางอย่างดี ถ้าหากนางเข้ามาในจวนอ๋อง วันหน้าก็จะสามารถเห็นแก่น้ำใจที่ข้าเคยปฏิบัติดีต่อนางในวันนี้ ช่วยพูดเรื่องดีๆของข้าต่อหน้าท่านอ๋องสองสามคำ”
สีหน้าของฉินซื่อเสวียคาดเดาไม่ถูก มองไม่เห็นความสุขหรือความโกรธ
คำพูดเหล่านี้ ก็ฟังไม่ออกว่าหมายความว่าอย่างไรกันแน่
จื่อซูอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ “พระชายา ท่านจะปฏิบัติต่อนางอย่างดีจริงหรือ?”
ฉินซื่อเสวียลุกขึ้นช้าๆ “คำพูดของข้า ยังจะเป็นเท็จได้อีกหรือ?”
……
ในช่วงเวลานี้หยุนหว่านหนิงก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ
ประการแรก คือตามสืบที่อยู่ของโหยวเอ้อต่อไป
ประการที่สอง ยังต้องคอยจับตามองทางด้านฉินซื่อเสวียกับหยุนติงหลาน
ประการที่สาม ยังต้องช่วยเหลือค่ายเสิ่นจีของโม่เยว่ให้ทำงานได้ปกติ ได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้ ช่วยเขาออกอุบายและวางแผนการ แก้ไขอุบายที่โม่หุยเฟิงลอบกัดในที่ลับ
ขณะเดียวกัน ก็ยังต้องรับมือกับเต๋อเฟยเหนียงเหนียงที่มากลั่นแกล้งถึงที่เป็นระยะ……
ในคืนที่ฉินซื่อเสวียรู้ความสัมพันธ์ของโม่หุยเฟิงกับหยุนติงหลาน หยุนหว่านหนิงได้ส่งคนไปส่งข่าวให้กับหยุนติงหลาน
บอกให้นางรู้ว่า ฉินซื่อเสวียสงสัยความสัมพันธ์ของนางกับโม่หุยเฟิงแล้ว
ดังนั้นหลายวันมานี้ เกรงว่านางคงใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวน เป็นกังวลตลอดว่าฉินซื่อเสวียจะมาหาถึงที่หรือไม่
แต่ว่าผ่านไปหลายวัน ก็ไม่เห็นพวกนางสองคนมีความเคลื่อนไหวใดๆ……หยุนหว่านหนิงอดที่จะเท้าคางครุ่นคิดไม่ได้: หรือว่า ยังต้องเติมฟืนเข้าไปอีก ให้กองไฟนี้ลุกโชนมากยิ่งขึ้น?
ว่าแล้วก็ลงมือเลย
นางอาศัยตอนที่โม่เยว่ออกไป เตรียมของขวัญเล็กๆน้อยๆ กลับไปที่จวนยิ่งกั๋วกงรอบหนึ่ง
แต่เสียดายวันนี้มาไม่ถูกวัน เฉินซื่อมีธุระออกไปข้างนอกแล้ว หยุนเจิ้นซงยังอยู่ในวังไม่กลับมา มีเพียงหยุนติงหลานคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในจวน
พอรู้ว่าหยุนหว่านหนิงมา นางก็ขมวดคิ้วแน่น
ลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ปะทุขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจ
“นางมาทำอะไร?”
สมองของหยุนติงหลานคิดไปมาอย่างรวดเร็ว กำลังคิดอยู่ว่าจะแกล้งทำเป็นนอนป่วยดีไหม
ก็ได้ยินเสียงของหยุนหว่านหนิงดังมาจากนอกประตูแล้ว “น้องรอง”
ทำอะไรไม่ได้ นางได้แต่ออกมาต้อนรับ
หยุนหว่านหนิงยิ้มอย่างอบอุ่น ยังนำของขวัญมาด้วย “พูดคุยถูกคอ” กับหยุนติงหลาน
ในคืนวันนั้น นางเพิ่งจะมาถึงจวนอ๋องหมิง ก็มีข่าวลือว่าคุณหนูรองตระกูลหยุนถูกวางยาพิษหมดสติไป
ได้ยินมาว่า แม้แต่หมอหลวงในวังก็ถูกส่งไปแล้ว……
ได้รู้เรื่องนี้ โม่เยว่วางตะเกียบลง มองไปทางหยุนหว่านหนิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยความสงสัย “ได้ยินมาว่าวันนี้เจ้ากลับไปที่จวนยิ่งกั๋วกงรอบหนึ่ง เจ้าเป็นคนลงมือกับหยุนติงหลานหรือเปล่า?”