อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 319 ถูกลอกหนังไปหนึ่งชั้น
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 319 ถูกลอกหนังไปหนึ่งชั้น
หยุนหว่านหนิงหันหน้ามองไป เห็นเพียงคนที่มาคือ——
ฮองเฮาจ้าวที่เต็มไปด้วยความโกรธ!
นางถูกโม่จงหรานกักบริเวณไว้ในตำหนักคุนหนิงไม่ใช่หรือ? !
ทำไมวันนี้ถึงออกจากวังมาได้? !
ความสงสัยในใจของนางยังไม่ทันได้คลี่คลาย ฮองเฮาจ้าวก็เดินเข้ามาใกล้ด้วยความโกรธแล้ว “หยุนหว่านหนิง เจ้าช่างมีมาดอันน่าเกรงขามเสียจริง!”
“มีคำกล่าวหนึ่งเจ้าเคยได้ยินหรือไม่? เรียกว่า ‘แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง’ !”
บรรดาแขกเหรื่อก็คุกเข่าลงไป น้อมทักทายฮองเฮาจ้าวอีกครั้ง
รวมถึงฉินซื่อเสวียก็คุกเข่าลงเช่นกัน
แต่ฮองเฮาจ้าวไม่มีใจจะสนใจใครทั้งนั้น
ทันทีที่นางเข้าประตูมา ก็เล็งไปที่หยุนหว่านหนิงแล้วก็ “ยิง” “เจ้าคงไม่ได้คิดว่าจวนอ๋องสาม เป็นจวนอ๋องหมิงของเจ้าด้วยใช่ไหม? !”
“ฮ่องเต้ยอมให้เจ้าอวดดีได้เช่นนี้ ข้าไม่อนุญาต!”
ฮองเฮาจ้าวโกรธสุดขีดอย่างเห็นได้ชัด โกรธจนแก้มเปลี่ยนรูป
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว
นางกำลังจะน้อมทักทายฮองเฮาจ้าว แต่กลับถูกโม่เยว่จับแขนเอาไว้กะทันหัน ส่งสัญญาณให้นางไม่ต้องคุกเข่า
หยุนหว่านหนิงเลยโค้งคำนับฮองเฮาจ้าวเล็กน้อย “เสด็จแม่”
เห็นการกระทำนี้ ก็ยิ่งทำให้ฮองเฮาจ้าวโกรธมากขึ้น!
“หยุนหว่านหนิง เจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก! เห็นข้าแล้วยังไม่คุกเข่า? ! เจ้ายังเห็นเสด็จแม่คนนี้อยู่ในสายตาอยู่ไหม?”
“เห็น”
หยุนหว่านหนิงยื่นมือ ชี้ไปที่ดวงตาของนาง “ลูกสะใภ้สามารถมองเห็นเสด็จแม่อย่างชัดเจนเลย”
แม้แต่ขนอ่อนเล็กๆบนใบหน้าฮองเฮาจ้าว นางก็ยังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน!
จะไม่เห็นนางในสายตาได้อย่างไร?
“คุกเข่า!”
ฮองเฮาจ้าวคำรามด้วยความโกรธ
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว
โม่เยว่ก้าวเข้ามาข้างหน้า ปกป้องนางเอาไว้ด้านหลัง กล่าวต่อฮองเฮาจ้าวด้วยใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึก “เสด็จแม่บันดาลโทสะขนาดนี้! วันที่อากาศร้อนเช่นนี้ จะเดือดดาลจนเสียสุขภาพจริงๆ”
วันที่อากาศร้อน?
นี่มันเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงใกล้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ใครบอกว่าเป็นวันที่อากาศร้อนอีก? !
แต่ว่า ฮองเฮาจ้าวก็เหงื่อแตกพลั่กจริงๆ
นางถูกหยุนหว่านหนิงทำให้โกรธเคือง!
“พวกเจ้าสองคนผัวเมีย ตอนนี้คือจะต่อต้านข้าใช่ไหม?”
ฮองเฮาจ้าวกัดฟันกล่าวถาม
“เสด็จแม่ ลูกสะใภ้ไม่กล้า”
หยุนหว่านหนิงพยักหน้าเล็กน้อย “พระชายาสามปรักปรำน้องรองของลูก ยังลากลูกเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย! ลูกก็แค่จะเอาหลักฐานออกมา ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองเท่านั้น”
“เจ้าบริสุทธิ์?”
ฮองเฮาจ้าวรู้สึกแค่ว่ามันน่าขำ
ในอดีตนางไม่รู้ว่า นังแพยศาหยุนหว่านหนิงคนนี้ทำให้คนรู้สึกโมโหได้มากแค่ไหน
แต่หลังจากถูกนางทำให้โกรธจนล้มลงครั้งแล้วครั้งเล่า เสียเปรียบในมือของนางนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว……
นางรู้ว่านังเด็กแพศยาคนนี้ทำให้คนรังเกียจได้มากแค่ไหน!
“หากเจ้าบริสุทธิ์ คนทั่วทั้งใต้หล้าแห่งนี้ล้วนบริสุทธิ์กันหมดแล้ว!”
นางฮึเย็นชาออกมาคำหนึ่ง “เหตุการณ์ในวันนี้ข้าเข้าใจชัดเจนแล้ว! ถึงแม้ชุดที่หยุนธิงหลานใส่อยู่จะไม่ใช่ชุดแต่งงานของซื่อเสวีย แต่ชุดแต่งงานของซื่อเสวียตกอยู่ในมือนาง ก็ควรจะส่งคืนถึงจะถูก!”
หยุนธิงหลานมองไปทางหยุนหว่านหนิงอย่างอกสั่นขวัญแขวน
ชุดแต่งงานนั่น นางไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ!
นางคิดมาตลอดว่า ชุดที่หยุนหว่านหนิงเปลี่ยนให้นาง ก็คือชุดแต่งงานของฉินซื่อเสวีย
ในเมื่อไม่ใช่……
เช่นนั้นชุดแต่งงานชุดนั้นอยู่ที่ไหน? !
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้ว “ย่อมสมควรต้องคืนกลับไปอยู่แล้ว อย่างไรเสียมันก็ไม่ใช่ของของนาง”
“เสด็จแม่สามารถส่งคนไปเอาที่จวนกั๋วกงได้เลย มันอยู่ในห้องส่วนตัวของน้องรอง”
หยุนธิงหลานขมวดคิ้วแน่นมากยิ่งขึ้น
นางไม่เคยเห็นมาก่อนว่า หยุนหว่านหนิงวางชุดแต่งงานในห้องส่วนตัวของนาง……
ฮองเฮาจ้าวค้อนนางอย่างดุดันครู่หนึ่ง “หากชุดแต่งงานไม่อยู่ ข้าก็จะตัดมือทั้งสองข้างของหยุนธิงหลานทิ้งซะ! ใครใช้ให้นางหยิบสิ่งที่ไม่ควรหยิบ!”
นี่ฮองเฮาจ้าวนึกว่า นางจะสนใจหยุนธิงหลานหรือ? !
หยุนหว่านหนิงมีความสุขขึ้นมา “เสด็จแม่ เชิญท่านตามสบายเลย”
อย่าว่าแต่ตัดมือทั้งสองข้างของหยุนธิงหลานเลย ถึงแม้จะตัดแขนตัดขาของนางทิ้ง ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนางทั้งนั้น!
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังจะยกมือเห็นด้วยอย่างยิ่งด้วยซ้ำ!
กลับเป็นหยุนธิงหลาน ใบหน้าเล็กเปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันใด!
น้ำเสียงของนางปนเสียงร้องไห้ “พี่ใหญ่……”
หยุนหว่านหนิงไม่ได้สนใจนาง ทุกคนกำลังรอคอยการพลิกผันของเรื่องราว……พวกเขาอยากรู้มากจริงๆ ว่าเหตุใดสองพี่น้องหยุนหว่านหนิงกับหยุนธิงหลาน ถึงได้มีสีหน้าท่าทางที่แตกต่างกัน
เหตุการณ์ในวันนี้ ดูไม่เหมือนสองพี่น้องคู่นี้หารือกันไว้ก่อน
อ๋องหมิงปกป้องภรรยา ฮองเฮาจ้าวปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน ฉินซื่อเสวียถูกตบหน้า พระชายาฮั่นจากไปด้วยความโกรธ……
วันนี้ช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ!
ฮองเฮาจ้าวส่งคนไปเอาชุดแต่งงาน โม่เยว่ส่งสัญญาณให้หรูอวี้ตามไป
ภายใต้ความอกสั่นขวัญแขวนของหยุนธิงหลาน ไม่ช้าบ่าวรับใช้ก็นำชุดแต่งงานมา
เพราะมีหรูอวี้ไปด้วย บ่าวรับใช้ก็ไม่กล้าแอบทำอะไร
หลังจากเปิดกล่องผ้าออก ชุดแต่งงานของฉินซื่อเสวียก็อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่มีอะไรเสียหายข้างในนั้นจริงๆ
ฉินซื่อเสวียถอนหายใจด้วยความโล่งอก หยุนธิงหลานสีหน้างุนงง
พี่ใหญ่แสดงกลได้หรืออย่างไร? !
“เป็นอย่างไร? เสด็จแม่ยังมีอะไรจะพูดอีก?”
มองดูท่าทางที่ฮองเฮาจ้าวขมวดคิ้วแน่น หยุนหว่านหนิงยิ้มอย่างสุภาพ “วันนี้ ความไม่เป็นธรรมที่ข้าได้รับในจวนอ๋องสาม ดูท่าคงได้แต่ให้เสด็จพ่อออกหน้าแทนแล้ว”
“เจ้าจะร้องเรียนกับฝ่าบาท?”
ฮองเฮาจ้าวชะงักงัน
โม่หุยเฟิงเริ่มร้อนใจแล้ว “เสด็จแม่!”
ฮองเฮาจ้าวยื่นมือออกไปหยุดเขา จ้องมองหยุนหว่านหนิงอย่างไม่ละสายตา
นางรู้ว่า โม่จงหรานจะต้องเข้าข้างหยุนหว่านหนิงแน่นอน
ในเมื่อนังเด็กแพศยาคนนี้จะไปร้องเรียน ก็จะไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวแน่นอน……
วันนี้ไม่ทำให้นางปิดปากเน่าๆนั่น เกรงว่านางคงต้องถูกกักบริเวณอีกแน่ ยิ่งกว่านั้นยังจะทำให้เฟิงเอ๋อร์และคนอื่นๆติดร่างแหไปด้วย ถึงเวลานั้นจะยิ่งได้ไม่คุ้มเสีย
ฮองเฮาจ้าวสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ระงับความโหดเหี้ยมในใจเอาไว้
“ภรรยาเจ้าเจ็ด วันนี้ข้าเข้าใจเจ้าผิดไปแล้ว”
นางกระตุกมุมปากเล็กน้อย เผยรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ออกมาเล็กน้อย “เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ ทำไมจะต้องไปรบกวนฝ่าบาทด้วยเล่า?”
“ข้าให้ซื่อเสวียขอโทษเจ้า”
ฉินซื่อเสวียที่อยู่ด้านข้าง: “? ? ?”
เหตุผลที่หยุนหว่านหนิงจะไปร้องเรียนโม่จงหราน เพราะจู่ๆฮองเฮาจ้าวก็ปรากฏตัว ด่านางอย่างดุเดือดเลือดพล่านไม่ใช่หรือ?
ทำไมถึงให้นางขอโทษล่ะ? !
“ซื่อเสวีย ยังไม่ขอโทษภรรยาเจ้าเจ็ดอีก?”
หางตาของฮองเฮาจ้าวมองมา
ฉินซื่อเสวียได้แต่เดินเข้ามาอย่างไม่เต็มใจ “พระชายาหมิง ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ หวังว่าเจ้าจะไม่ถือสาหาความ อย่าโกรธไปเลยนะ”
“ข้าโกรธมาก”
หยุนหว่านหนิงไม่ยอมรับการกระทำของนางหรอก
นางรู้ว่าฮองเฮาจ้าวเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย โหดเหี้ยมอำมหิต
ดังนั้นสำหรับการ “ขอโทษ” นาง นางไม่ยอมรับหรอก!
“เช่นนั้นเจ้าต้องการจะทำอย่างไร?”
ฮองเฮาจ้าวขมวดคิ้ว กล่าวขึ้นมาอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “หยุนหว่านหนิง เจ้าอย่าไม่ดื่มเหล้าคารวะจะดื่มเหล้าปรับโทษแทน!”
“ข้าไม่ดื่มเหล้า ข้าแพ้แอลกอฮอล์”
หยุนหว่านหนิงยิ้มอย่างสดใส
โม่เยว่หัวเราะเบาๆ
แพ้แอลกอฮอล์?
ผู้หญิงคนนี้ดื่มเก่งกว่าเขาชัดๆ ยังบอกว่าแพ้……
แต่เมื่อมองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของหยุนหว่านหนิง โม่เยว่รู้ว่า สาวน้อยคนนี้จะต้องวางแผนอย่างอื่นอีกแน่ เกรงว่าวันนี้ฮองเฮาจ้าว คงต้องถูกลอกหนังอีกชั้นหนึ่งแล้ว!
ฮองเฮาจ้าวกัดฟันกรามเอาไว้แน่น “เช่นนั้นเจ้าต้องการจะทำอะไร? !”
หยุนหว่านหนิงยื่นมือไปพาดไหล่ของโม่เยว่
นางเตี้ยกว่าเขา ดังนั้นคนทั้งคนจึงแนบติดอยู่บนแผ่นหลังของเขา
ท่าทางที่สนิทสนมแนบชิดเช่นนี้ ทำให้จิตใจของโม่เยว่อดเตลิดเปิดเปิงไม่ได้……
“ข้าคิดดูก่อน”
หยุนหว่านหนิงสีหน้าท่าทางเกียจคร้าน นอนคว่ำหน้าอยู่บนไหล่ของโม่เยว่ สายตาที่มองไปทางฮองเฮาจ้าวหมุนไม่หยุด
เพียงแค่สบตากับสายตาที่ไม่หวังดีของนาง ฮองเฮาจ้าวก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในใจ
เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังจากผ่านไปนานพักใหญ่ก็ได้ยินหยุนหว่านหนิงกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ข้าคิดออกแล้ว!”
“เสด็จแม่อยากให้ข้าปิดปาก ไม่ไปร้องเรียนกับเสด็จพ่อ ก็ใช่ว่าจะไม่ได้! แต่ว่าข้าคนนี้ เก็บความลับไม่อยู่มาแต่กำเนิด ชอบการร้องเรียนที่สุด!”
หยุนหว่านหนิงทำหน้าหดหู่ “อยากให้ข้าปิดปาก……”
ฮองเฮาจ้าวไม่อยากฟังนางพูดเพ้อเจ้อ
นางกล่าวถามอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าก็แค่พูดมา เจ้าต้องการจะทำอย่างไร!”