อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 326 ทวงหนี้กับฮองเฮา
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 326 ทวงหนี้กับฮองเฮา
หยุนหว่านหนิงหันไปมอง เห็นหรูอวี้กำลังยืดคอยาวอยู่หน้าประตู
ที่นี่คือห้องทรงพระอักษร เขาไม่กล้าผลีผลาม
ไม่ได้รับอนุญาตจากโม่จงหราน เขาไม่กล้าเข้ามาโดยพลการ
ตอนนี้เขายืดคอยาวราวกับห่านตัวผู้ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง “ท่านอ๋องให้ข้าน้อยมาดูว่า พระชายาหิวแล้วหรือไม่? จะขึ้นพระกระยาหารเลยหรือไม่?”
หยุนหว่านหนิง “หือ?”
ขึ้นพระกระยาหาร?
ก่อนหน้านี้เธอมักจะเข้าวังมาร่วมราชการเช้ากับโม่เย่ทุกวันเวลานี้
บางครั้งจะเข้ามาก่อนเพื่อทานอาหารเช้า บางครั้งเธอก็ไปรออยู่ที่ห้องทรงพระอักษร คนทางห้องทรงพระอักษรจะส่งอาหารเช้ามา
โม่เยว่เคยเป็นห่วงเป็นใยเมื่อไหร่กัน?
วันนี้พระอาทิตย์ดูจะขึ้นทางทิศตะวันตกล่ะมั้ง!
ขึ้นพระกระยาหารน่ะปลอม เรื่องจริงคือจับตาดูเธอล่ะมั้ง?
หยุนหว่านหนิงหน่ายใจ “หรูอวี้ ถ้าเจ้าพูดความจริงกับข้า ข้าจะให้…”
คำว่า “รางวัล”ยังไม่ทันออกจากปาก หรูอวี้ก็รีบเปลี่ยนคำว่า “พระชายา ท่านอ๋องให้ข้าน้อยมาดูว่า คุณชายซ่งได้เว้นระยะห่างกับท่านหรือไม่?!”
หยุนหว่านหนิง: “….”
ซ่งจื่ออวี๋:”….”
เจ้าบ้าโม่เยว่นี่ ไม่โดนชกนานไปหน่อยใช่ไหม?
พอเห็นหยุนหว่านหนิงโกรธจัด ซ่งจื่ออวี๋ยิ้มขันน้อยๆ
“งั้นเจ้าดูสิว่า ข้ากับซ่งจื่ออวี๋ยืนห่างกันในระยะปลอดภัยหรือไม่?”
หยุนหว่านหนิงกัดฟันถาม
หรูอวี้มองดู พวกเขาคนหนึ่งนั่งทางซ้าย อีกคนนั่งทางขวา…ระหว่างพวกเขาสองคนดูจะห่างไกลกันราวกับขวางกั้นด้วยภูเขาและทะเล ดูแล้ว”ปลอดภัย”จริงๆ!
“ปลอดภัยแล้วจริงๆ!”
หรูอวี้ยกนิ้วโป้งให้ “ข้าน้อยจะไปรายงานท่านอ๋อง”
เขาวิ่งหายไปอย่างรวดเร็ว
ดูท่าทางหยุนหว่านหนิงไม่พอใจขั้นสุดแล้ว ซ่งจื่ออวี๋พูดเสียงเบาว่า “อ๋องหมิงดูทะนุถนอมเจ้ายิ่งนัก”
“แล้วยังไงล่ะ?”
หยุนหว่านหนิงพูดอย่างดื้นรั้น “ระหว่างข้ากับเขา หากจะให้คืนดีดุจเดิม ก็ไม่ง่ายดายเยี่ยงนั้นดอก!”
“แต่เพื่อหยวนเป่า ไม่ช้าก็เร็วพวกเจ้าก็จะคืนดีกันมิใช่รึ?”
ซ่งจื่ออวี๋ถาม
เสียงเขาแผ่วเบามาก
เบาดุจขนนก จนหยุนหว่านหนิงแทบไม่ได้ยิน
คำถามนี้เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลย
แต่ตอนนี้ซ่งจื่ออวี๋ถามออกมาแล้ว—
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วถาม “ซ่งจื่ออวี๋ เจ้าจงใจเปลี่ยนเรื่องกับข้าใช่ไหม? เมื่อครู่ข้าถามอะไรเจ้านะ เจ้ายังไม่ได้ตอบข้าใช่ไหม?”
ซ่งจื่ออวี๋หัวเราะเสียงต่ำออกมา
“หว่านหนิง วางใจเถอะ”
เขาถึงตอบว่า “อาการบาดเจ็บของข้าไม่สาหัสดอก”
“เป็นถึงขนาดนี้แล้วยังไม่สาหัสอีก?!”
หยุนหว่านหนิงยืนขึ้นถาม “เจ้าคิดว่าข้าอายุสามขวบรึ?”
“ผ่านไปอีกระยะหนึ่ง ก็จะดีขึ้นเองล่ะ”
ซ่งจื่ออวี๋ลุกขึ้นตาม “วันนี้ฝ่าบาทไม่น่าจะมีเวลาพูดคุยกับข้า ข้ากลับไปก่อนแล้วกัน หว่านหนิง ไว้ค่อยพบกันนะ”
เขาไม่ได้บอกนางว่า อาการบาดเจ็บของเขา…ใช้อะไรแลกมา
หนึ่งบาดแผล ไม่เพียงเอาพลังยุทธ์สิบปีของเขาไป ยังมีอายุขัยสามปีอีก….
เขาทำเพียงผงกหัวให้นางเล็กน้อย อย่างราบเรียบและเฉยเมย
ท่าทางเขาดูเย็นชาโดดเดี่ยวเหมือนครั้งแรกตอนเธอพึ่งเจอเขาที่ภูเขาหยุนอู้
ความรู้สึกนี้มันทำให้หยุนหว่านหนิงไม่สบายใจเอาเสียเลย
พอเห็นซ่งจื่ออวี๋หมุนตัวเดินจากไป เธอก็ไม่ได้ห้ามเขาไว้
ในตอนนี้เองหรูอวี้ยืดคอยาวชะเง้ออยู่หน้าประตูอีกครั้ง “พระชายา…”
“ไสหัวไป!”
หยุนหว่านหนิงระเบิดใส่ทันที
ผู้หญิงนี่เปลี่ยนหน้าเร็วกว่าท้องฟ้าเปลี่ยนสีเสียอีก!
หรูอวี้รับคำอย่างน้อยใจ “ขอรับ!”
เขารีบออกไปอย่างรวดเร็ว
หยุนหว่านหนิงเดินวนเวียนไปมาในตำหนัก คิดยังไงก็ไม่เข้าใจคำพูดนั้นของซ่งจื่ออวี๋ เห็นได้ชัดว่าเขามีความลับซ่อนอยู่
แต่ฟังเขาพูด เหมือนเธอคงคืนดีกับโม่เยว่ในไม่ช้า….
เขาเลยเก็บความอ่อนโยนทั้งหมด และเผยใบหน้าเดิมที่เย็นชาออกมา
นี่เขาคิดจะ แยกทางกับเธอหรือไง?
ยังไม่ทันรู้เรื่องความสัมพันธ์กับอดีตระหว่างเธอกับซ่งจื่ออวี๋ชัดเจน เขาก็จะมาขีดเส้นแบ่งแยกดินแดนกับเธอแบบนี้ มันทำให้หยุนหว่านหนิงรู้สึกไม่สบอารณ์อยู่เหมือนกัน
พอเธอไม่สบอารมณ์ ก็ต้องมีคนเดือดร้อนละ
“หรูอวี้!”
หยุนหว่านหนิงแหกปากตะโกนเรียก
คนที่กล้ามาแหกปากในห้องทรงพระอักษร นอกจากโม่จงหรานแล้ว ก็มีแค่หยุนหว่านหนิงนี่แหละ
“พระชายาต้องการสิ่งใดรึ?”
หรูอวี้ที่ยังไสหัวไปไม่ไกล รีบไสหัวกลับมาทันที
“รีบไปตำหนักคุนหนิงซะ”
เธอเดินมาสั่งการหรูอวี้ที่หน้าประตูด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เตือนเสด็จแม่ด้วยว่า เมื่อวานนางยังติดค้างเงินข้าอยู่หนึ่งแสนตำลึงเลยนะ!”
“ช้าไปหนึ่งวัน ข้าคิดดอกเบี้ยทุกวันนะ!”
หรูอวี้ตกใจ “พระชายา นี่ท่านจะให้ข้าน้อยไปทวงหนี้กับฮองเฮารึ?”
“ทำไม? เจ้าไม่กล้ารึ?”
หยุนหว่านหนิงแกล้งจี้เขา
“เหตุใดจะมิกล้าเล่า?”
หรูอวี้ยืดอกแค่นเสียงหึ “ข้าน้อยเกิดมาเป็นคนของท่านอ๋องกับพระชายา ตายก็เป็นผีของท่านอ๋องกับพระชายา!”
“แค่ทวงหนี้เล็กน้อยไม่ยากเกินความสามารถข้าน้อยดอก ข้าน้อยจะไปตำหนักคุนหนิง! ต่อให้ข้าน้อยต้องตาย ก็จะทวงเงินจำนวนนี้มาเพื่อความยุติธรรมของ…”
“รีบไปเถอะ เจ้าเองก็ได้กำไรด้วย”
หยุนหว่านหนิงตัดบทเขาอย่างรำคาญ
จะมาแสดงความจงรักภักดีอะไรตอนนี้?
เห็นได้ชัดว่าอยากได้เงินของเธอ…
หรูอวี้หายวับไปต่อหน้าเธออย่างอารมณ์ดี
ไม่นานหรูอวี้ก็กลับมา
“พระชายา เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว!”
สีหน้าเขาดูตื่นเต้น “เมื่อครู่ข้าน้อยได้ยินมาว่า เมื่อคืนฮองเฮามาห้องทรงพระอักษรฟ้องต่อหน้าฮ่องเต้! ให้ลงโทษท่านน่ะ!”
“จากนั้นล่ะ?”
หยุนหว่านหนิงไม่สนใจเลยสักนิด
เธอออกตัวล่วงหน้าแล้ว บอกเรื่องนี้กับโม่จงหรานตอนบ่ายเมื่อวานแล้ว
เมื่อคืน ต่อให้ฮองเฮาจ้าวอยากฟ้องหรือยุแยงตะแคงรั่ว
ถ้าโม่จงหรานจะลงโทษตน เมื่อครู่ก็คงลงโทษไปแล้ว
มีหรือจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกัน?
“จากนั้นฮองเฮาก็โดนขวางไว้ด้านนอก!”
หรูอวี้ยิ้มแหะๆ “ได้ยินว่า เมื่อคืนแม้แต่ประตูของห้องทรงพระอักษรฮองเฮาก็ไม่ได้เข้าไป อดเข้าไปประจบประแจงฮ่องเต้ สุดท้ายได้แต่กลับไปอย่างเหงาหงอย”
สมเป็นเสด็จพ่อ!
หยุนหว่านหนิงพยักหน้าอย่างพอใจ
ดูท่าการเยินยอของเธอที่มีต่อโม่จงหรานเป็นประจำนั้นไม่เสียแรงเลย!
“แล้วจะเกิดเรื่องใหญ่อะไรล่ะ?”
เธอเลิกคิ้วมองหรูอวี้
“เมื่อครู่ตอนข้าน้อยไปถึงตำหนักคุนหนิง เห็นท่าทางดุดันของฮองเฮากำลังพาคนกลุ่มใหญ่ไปที่ตำหนักหย่งโซ่วอย่างเอิกเกริกเลย!”
หรูอวี้รีบบอก
ฮองเฮาจ้าวไปหาเต๋อเฟย?!
และดูท่าทางจะไปหาเรื่อง?!
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วถาม “ไปหาเสด็จแม่เต๋อเฟยทำอะไร?”
หรือว่าจะไปเอาอำนาจในการดูแลวังหลังกลับคืน?!
เต๋อเฟยมีโม่จงหรานให้ท้าย
บัดนี้ฮองเฮาจ้าวไม่รู้ว่าโดนยกเลิกกักบริเวณแล้วหรือยัง ต่อให้จะไปเอาอำนาจการดูแลวังหลังคืน ก็น่าจะลงมือกับซูเฟยก่อนสิถึงจะถูก….
เพราะซูเฟยดูรังแกได้ง่ายกว่าหน่อย
ทำไมนางไปหาเต๋อเฟยล่ะ?!
หรูอวี้ปรบมือผ่างบอก “เพราะท่านอย่างไรเล่า!”
“เพราะข้า?”
หยุนหว่านหนิงไม่เข้าใจ “ข้าไม่ได้หาเรื่องนางเสียหน่อย ทำไมเพราะข้าล่ะ?”
“ต่อให้เป็นเพราะข้า นางก็น่าจะพุ่งไปที่จวนอ๋องหมิงสิ ไปหาเสด็จแม่เต๋อเฟยทำไม?”
พึ่งพูดจบ สีหน้าหยุนหว่านหนิงก็เปลี่ยนทันที
เธอคิดขึ้นมาได้ เรื่องหนึ่งแสนตำลึงเมื่อวานนั่น!
ตอนนี้เป้าหมายที่ฮองเฮาจ้าวพุ่งไปตำหนักหย่งโซ่วหาเต๋อเฟย ก็เข้าใจได้ทันที…ถ้าไม่ใช่ไปคิดบัญชีกับเต๋อเฟย ก็ไปยุแยงตะแคงรั่วล่ะ!
เพราะใครๆก็รู้ดีว่า แม่ผัวลูกสะใภ้อย่างเต๋อเฟยกับหยุนหว่านหนิงไม่ถูกกัน!
สายตาหยุนหว่านหนิงวาบผ่าน “ไป ไปตำหนักหย่งโซ่ว!”