CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 342 ที่แท้ก็เป็นพวกเสือหน้ายิ้ม

  1. Home
  2. อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
  3. บทที่ 342 ที่แท้ก็เป็นพวกเสือหน้ายิ้ม
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 342 ที่แท้ก็เป็นพวกเสือหน้ายิ้ม

โม่หุยเหยียนกับหนานกงเยว่ เกิดความสงสัยในตัวตนของหยวนเป่าแล้วจริงๆ!

นางรู้สึกหงุดหงิดใจมาก

เสียแรงที่นางคิดว่าหนานกงเยว่ ปกติแล้วจะดูอ่อนโยนเป็นมิตร ทั้งยังเป็นถึงองค์หญิงตงจวิ้น มีการศึกษา มากความรู้ มีจริยามารยาทครบถ้วน

ที่แท้ก็เป็นพวกเสือหน้ายิ้มนี่เอง!

ที่แล้วมานิสัยของหยุนหว่านหนิง ทำอะไรล้วนตรงไปตรงมาเสมอ

หลังจากที่เดาจุดประสงค์ของหนานกงเยว่ออกแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็จางหายไปถึงสองส่วน น้ำเสียงก็ฟังดูห่างเหินขึ้นมาไม่น้อย “โอ้ เจ้าหมายถึงเด็กคนนั้นน่ะรึ?”

“เมื่อคืน แม่ของเขามารับกลับบ้านไปแล้วล่ะ”

เมื่อรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของหยุนหว่านหนิง สีหน้าของหนานกงเยว่ก็เริ่มอึดอัดคับข้องขึ้นมาเล็กน้อย

แต่เป้าหมายที่มาวันนี้ยังไม่สำเร็จ นางจะยอมจากไปง่าย ๆ ได้อย่างไรกัน?

นางฝืนเค้นรอยยิ้มออกมา “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง พอดีว่าหยุนเอ๋อร์ของข้าไม่มีเพื่อนเล่นในวัยที่เหมาะสมเลย เมื่อคืนได้ยินว่าที่จวนอ๋องหมิงมีน้องชายคนหนึ่งซึ่งอายุไล่เลี่ยกับนาง”

“เลยเอาแต่งอแง รบเร้าขอให้ข้าพานางมาเล่นที่จวนอ๋องหมิงวันนี้!”

นางมองโม่จือหยุนด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักแวบหนึ่ง “แต่คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายแล้วจะมาได้เวลาไม่เหมาะเอาเสียเลย”

“นั่นสิ ถ้าพี่สะใภ้ใหญ่พาหยุนเอ๋อร์มาเมื่อวาน ก็ยังจะได้เจอกันอยู่”

หยุนหว่านหนิงยกถ้วยชาขึ้นมา จิบเข้าไปน้อย ๆ “แต่ก็ช้าไปก้าวหนึ่งเสียได้”

โม่จงหรานพูดไว้ไม่ผิดเลยจริง ๆ

ในหมู่มวลหลานสาวทั้งหลายของเขา ไม่มีคนไหนที่มีสง่าราศีคู่ควรกับบรรดาศักดิ์นี้เลย…. เดิมคิดว่าพวกนางเป็นถึงจวิ้นจู่น้อยของราชวงศ์ แต่ละคนคงจะมีนิสัยใจคอกว้างขวางเปิดเผย กริยามารยาทเหมาะสม สามารถเป็นตัวแทนแห่งเกียรติยศ และความสูงศักดิ์ของราชวงศ์ได้

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลานสาวเหล่านี้ แต่ละคน ๆ จะขี้ขลาดตาขาวไม่แพ้กันเลยสักคน!

โม่จือหยุนเป็นคนที่อายุมากที่สุด แต่ก็เป็นคนที่อ่อนแอขี้ขลาดที่สุดเช่นกัน

ในบรรดาลูกสาวสองคนของโม่หุยเฟิง ลูกสาวคนโตโม่จือฉิงอายุเพิ่งจะสามขวบ

ได้ยินว่า นางได้รับฉายาว่าเป็นจอมอันธพาลน้อยแห่งจวนอ๋องสาม

แต่เมื่อเข้าวัง ได้เจอหน้าโม่จงหราน กลับมีสภาพเหมือนหนูเจอแมวเสียอย่างนั้น ทำท่าราวกับว่าแทบจะอดใจไม่ไหว อยากจะเอาหัวเล็ก ๆ นั่นวางลงไปบนขาตัวเอง เอาแต่ก้มหน้าจนต่ำเตี้ยติดพื้น ไม่กล้าสบตากับโม่จงหรานแม้แต่แวบเดียว

โม่จืออวี่ ลูกสาวคนสุดท้องของโม่หุยเฟิงเพิ่งจะเกิดเมื่อปีที่แล้ว อายุยังไม่ถึงขวบ

เมื่อมองจากมุมนี้ ก็มีแค่หยวนเป่าคนเดียวที่กล้าทำหน้าระรื่นเล่นซนกับเขาได้

“แต่ข้าดู ๆ แล้ว หยุนเอ๋อร์ดูไม่เหมือนว่าอยากจะมาเล่นกับลูกบุญธรรมของข้าเลยนะ”

หยุนหว่านหนิงพูดออกมาตรง ๆ ไม่มีอ้อมค้อม

ชั่วขณะนั้น หนานกงเยว่พลันเกิดความรู้สึกว่า ไม่รู้จะเอาหน้าของตัวเองไปวางไว้ตรงไหนดี

นางยิ้มเจื่อน ๆ “ขอพูดตามตรงเลยแล้วกัน! หยุนเอ๋อร์ของข้าเป็นเด็กที่ชอบเก็บตัว ทั้งยังขี้อายมาตั้งแต่เด็ก ข้าอยากจะปรับแก้นิสัยนี้ของนาง ดังนั้นจึงตั้งใจพานางมาเล่นกับเด็กคนนั้น”

“เด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิง จะเล่นด้วยกันได้ซะที่ไหนล่ะ?”

หยุนหว่านหนิงยิ้มน้อย ๆ “พี่สะใภ้ใหญ่ควรพาหยุนเอ๋อร์ไปเล่นกับฉิงเอ๋อร์ที่จวนอ๋องสามให้มาก ๆ ถึงจะถูกต้อง”

“ถึงอย่างไรอ๋องฉู่กับอ๋องสามก็เป็นพี่น้องร่วมท้องมารดาเดียวกัน ส่วนหยุนเอ๋อร์กับฉิงเอ๋อร์ต่างก็เป็นเด็กผู้หญิงทั้งคู่”

สีหน้าของหนานกงเยว่ถึงกับแข็งค้าง

นางกับโม่หุยเหยียนแทบอดใจไม่ไหว คิดอยากจะวาดเส้นแบ่งความสัมพันธ์กับโม่หุยเฟิงจะแย่!

หยุนหว่านหนิงพูดแบบนี้ ไม่เท่ากับกำลังตบหน้านางหรอกหรือ?

ก็ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ นางถึงเอาแต่พูดในทำนองวาจาซ่อนหนามแบบนี้ แต่หนานกงเยว่กลัวว่าถ้านางเกิดไปยั่วยุให้อีกฝ่ายโกรธ หยุนหว่านหนิงก็อาจพร้อมแตกหักกันไปข้าง ดังนั้นนางจึงรีบพาโม่จือหยุนหนีกลับบ้าน ในสภาพที่ราวกับหนีภัยพิบัติก็ไม่ปาน

หลังจากที่สองคนแม่ลูกจากไป โม่โยวโยวก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เฮือกหนึ่ง

“พี่หญิงห้า เป็นอะไรไปรึ?”

หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วขึ้นมองนาง

“หนิงเอ๋อร์ เจ้าก็ได้เห็นแล้วนี่ ว่าสถานะในวังของข้ามันต้อยต่ำขนาดไหน”

นางยิ้มอย่างนึกสมเพชตัวเอง

หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้วมุ่น

ทำไมไอ้คำพูดประโยคนี้ ฟังแล้วไม่เข้าหูขนาดนี้นะ?

“พี่หญิงห้า เจ้าเป็นองค์หญิง เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเสด็จพ่อนะ! ไม่ว่าเวลาไหน ไม่ว่าอยู่ต่อหน้าใคร เจ้าก็คือองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ไม่เป็นสองรองใคร”

สีหน้าของนางดูเคร่งเครียดจริงจัง “เจ้าไม่จำเป็นต้องดูถูกตัวเองเพื่อเอาใจใครทั้งนั้น เข้าใจแล้วหรือไม่?”

“ข้า……”

โม่โยวโยวลังเลไปครู่หนึ่ง

“พี่หญิงห้าก็คงจะรู้แล้ว ว่าตลอดหลายปีมานี้ข้าใช้ชีวิตอย่างไร เมื่อหลายปีก่อน ข้าคือคนที่ถูกใครต่อใครตะโกนชี้หน้าด่าทอ ไล่ทุบไล่ตีมาโดยตลอดนะ”

หยุนหว่านหนิงมองนาง ด้วยสายตาที่เปี่ยมล้นด้วยความมั่นใจว่าตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมแล้ว “แต่ก็ไม่ใช่ว่า ข้าสามารถอดทนจนผ่านพ้นมันมาได้หรอกหรือ?”

“เมื่อเจ้าอดทนจนผ่านพ้นความยากลำบากตรงหน้าไปได้ ก็จะมีวันเวลาที่ดีรอคอยเจ้าอยู่ พี่หญิงห้าเป็นคนที่จิตใจใฝ่ดีมาโดยตลอด ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องวางแผนในอนาคตของตัวเองได้ดีมากแน่ ๆ”

คำพูดที่เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรนักของนาง ทะลุเข้าไปในหูของโม่โยวโยว——

แต่กลับเป็นเหมือนก้อนหินสักก้อนที่ตกลงในทะเลสาบ จนทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่!

ดวงตาสีหม่นของนางค่อย ๆ เป็นประกายสว่างจ้าขึ้นมาทีละน้อย

คำพูดของหยุนหว่านหนิง เปรียบเสมือนการให้ชีวิตใหม่แก่นาง

หลายปีต่อมา หยุนหว่านหนิงเองเพราะมีวันนี้ จึงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากโม่จงหราน ถึงขั้นที่ว่าเพื่อนางแล้ว แทบจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตกันเลยทีเดียว!

…………

ในช่วงหลายวันมานี้ ฮองเฮาจ้าวถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ

เว่ยกั๋วกงเป็นพวกตามตื๊อตามตอแยไม่เลิกรา เพื่อเรื่องของเว่ยผินแล้ว เขาจึงเข้าวังมาสร้างความเดือดร้อนให้นางทุกวัน

นางเองก็จนใจเหลือเกินแล้ว!

เรื่องที่จัดการเว่ยผิน ล้วนเป็นโม่จงหรานที่ออกคำสั่งทั้งหมด ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับนางสักนิด….. แต่เว่ยกั๋วกงคนนี้กลับทำตัวเหมือนหมาบ้าตัวหนึ่ง เฝ้าหลับหูหลับตากัดนางไม่ยอมปล่อย

แล้วจวนเว่ยกั๋วกง ก็ไม่ใช่แค่พวกตระกูลเล็ก ๆ เสียด้วย

อีกทั้งบ้านเดิมของฮองเฮาจ้าว ก็ไม่ได้มีอำนาจบารมีมากมายเท่าจวนเว่ยกั๋วกง ดังนั้นในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับเว่ยกั๋วกง นางจึงทำได้แค่ปั้นหน้ายิ้มแย้มใส่

ในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วัน นางก็ถูกทรมานจนซูบผอมลงไปเป็นเท่าตัว

ในเวลานี้ นางกำลังใช้มือค้ำหน้าผาก งีบหลับอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟย

ในกระถางถ่านที่อยู่ข้าง ๆ ถ่านเกล็ดเงินกำลังลุกโชนเผาไหม้จนโชติช่วง

หน้าต่างปิดแน่น อากาศในห้องร้อนระอุ ทั้งตำหนักตกอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างอึมครึม

“ฮองเฮา อ๋องฉู่มาแล้วเพคะ”

จางหมัวมัวปลุกนางอย่างระมัดระวัง

เดิมฮองเฮาจ้าวก็ไม่ค่อยได้นอนหลับดีนัก จู่ ๆ ก็ถูกคนปลุกจนสะดุ้งตื่น รู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิด นางกุมหน้าผาก สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ใครจะมาก็มาสิ จะส่งเสียงเอะอะร้องแร่แห่กระเชอไปทำไม?”

จางหมัวมัวกล้าโกรธแต่ไม่กล้าเถียง ได้แต่ก้มหน้าจนต่ำ

เมื่อครู่นี้ เห็น ๆ อยู่ว่านางปลุกฮองเฮาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากแท้ ๆ มีหรือจะกล้าทำเสียงเอะอะร้องแร่แห่กระเชอ?

“เขามาทำอะไรตอนนี้? นี่มันยามอะไรแล้ว?”

ฮองเฮาจ้าวถามด้วยความกรุ่นโกรธ แต่ก็จนใจที่ไร้เรี่ยวแรง

“ยามอู่หกเค่อแล้วเพคะ”

จางหมัวมัวระมัดระวังทุกฝีก้าว ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ๆ

ฮองเฮาจ้าวลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก โบกมือเป็นสัญญาณให้จางหมัวมัวเชิญโม่หุยเหยียนเข้ามา

ทันทีที่เข้าตำหนักมา โม่หุยเหยียนก็ขมวดคิ้วมุ่น “เสด็จแม่ ถ่านไฟกำลังลุกอยู่นะ ท่านควรเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทถึงจะถูก แม้ว่าถ่านเกล็ดเงินนี้จะดี แต่ได้ยินมาว่าถ่านชนิดนี้มีพิษ”

“เจ้าไปได้ยินมาจากใคร?”

ฮองเฮาจ้าวก็ขมวดคิ้วเช่นกัน

โม่หุยเหยียนเปิดหน้าต่างไปพลาง ปากก็ตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “หยุนหว่านหนิง”

“เมื่อสองวันก่อนในห้องทรงพระอักษร หยุนหว่านหนิงเป็นคนพูดกับเสด็จพ่อแบบนี้พ่ะย่ะค่ะ”

“ข้ายังคิดอยู่พอดีว่าเป็นใคร!”

ฮองเฮาจ้าวแค่นยิ้มเย้ยหยัน “คำพูดของนังผู้หญิงชั้นต่ำนั่น พูดออกมาสามคำ เป็นต้องโกหกทั้งสามคำ เชื่อได้ด้วยรึ?”

ถึงกระนั้น นางกลับไม่ได้ห้ามโม่หุยเหยียนไม่ให้เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ แค่พูดขึ้นว่า “หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่ใช่ว่าข้าก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอดหรือ? ก็ไม่เห็นว่าข้าจะถูกพิษตายเลยนี่!”

โม่หุยเฟิงเงียบไปไม่พูดอะไรต่อ

หลังจากเปิดหน้าต่างเสร็จ ลมเย็น ๆ สายหนึ่งก็พัดเข้ามา ทำให้ฮองเฮาจ้าวตัวสั่นระริก

ดูเหมือนว่าข้างนอกหิมะกำลังจะตกแล้ว

อากาศมืดครึ้มขมุกขมัว มีบรรยากาศของความหนาวเย็นมืดทะมึน

“แล้วเจ้ามาหาข้าทำไม?”

ไม่รอให้โม่หุยเหยียนตอบ ฮองเฮาจ้าวก็เริ่มตำหนิว่า “ทำไมเจ้าไม่คิดหาวิธีการดี ๆ ไปพูดแทนน้องสามต่อหน้าเสด็จพ่อของเจ้าบ้าง? จะได้ช่วยให้เขากลับคืนตำแหน่งเดิมโดยเร็ว ”

“ไม่ใช่ว่าพอมีเวลาก็ไปเดินเลือกซื้อของ ตระเตรียมของขวัญวันเกิดให้เต๋อเฟย!”

“เจ้าอย่าลืมนะว่า เจ้าเกิดมาจากท้องของข้า ไม่ใช่เต๋อเฟยนังผู้หญิงชั้นต่ำนั่น!”

โม่หุยเหยียนคุ้นเคยต่อการยอมรับความลำบากใจ อย่างที่ไม่อาจขัดขืนได้แบบนี้มานานแล้ว

ถูกนางดุด่าคำรบหนึ่ง เขาก็ได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบไม่พูดอะไร

รอจนฮองเฮาจ้าวดุด่าเสร็จจนพอใจแล้ว เขาค่อยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักอึ้งว่า “ที่ลูกเข้าวังมาวันนี้ เพราะมีเรื่องหนึ่ง ที่อยากขอคำแนะนำจากเสด็จแม่”

“พูดมา”

ฮองเฮาจ้าวดูมีท่าทีไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่นัก

โม่หุยเหยียนชำเลืองมองไปที่จางหมัวมัวแวบหนึ่ง นางจึงรีบถอยออกไปอย่างรู้หน้าที่

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปใกล้ โน้มตัวลงกระซิบคำพูดสองสามประโยคที่ข้างหูของฮองเฮาจ้าว

เดิมทีฮองเฮาจ้าวยังคงกรุ่น ๆ ด้วยโทสะ แต่ร่างกายกลับไร้เรี่ยวแรงจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแล้ว แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?!”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 342 ที่แท้ก็เป็นพวกเสือหน้ายิ้ม"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์