อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 352 โม่เยว่ เลิกวุ่นวายได้แล้ว
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 352 โม่เยว่ เลิกวุ่นวายได้แล้ว
เดิมทีนึกว่ามือของเขาจะสำรวจไปที่อื่น
ใครจะรู้ว่าเขากลั้นหายใจเอาไว้ กลับวางไปบนดวงตาทั้งสองข้างของหยุนหว่านหนิงอย่างระมัดระวัง!
ดวงตาทั้งสองข้างของนางหลับสนิท ขนตาก็ไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
ดูท่าจะหลับสนิทจริงๆ
โม่เยว่กินปูนร้อนท้อง ถอนหายใจเบาๆเฮือกหนึ่ง ถึงได้ยื่นมือไปโอบนางเข้าไปในอ้อมแขน ทั้งสองคนล้วนสวมชุดนอน เขากลับไม่พอใจสถานการณ์ในตอนนี้
เขาจูบนางเบาๆ
ตั้งแต่หน้าผาก ปลายจมูก จนถึงริมฝีปากของนาง ลงมาตลอดทาง
หยุนหว่านหนิงนอนหลับสนิทมาก
แต่ถูกเขาก่อกวนเช่นนี้ ก็ทำให้สะลึมสะลือขึ้นมาทันที
“โม่เยว่ ท่านทำอะไร”
นางผลักเขาออกไปอย่างอ่อนแรง กล่าวพึมพำ “เลิกวุ่นวายได้แล้ว! มันดึกมากแล้ว”
เมื่อวาน “รักษา” เสียงให้ฮองเฮาจ้าวในตำหนักคุนหนิง แล้วก็ทำให้นางโมโหปางตาย วุ่นวายอยู่ทั้งวัน นางเหนื่อยล้าหมดเรี่ยวแรง แค่อยากพักผ่อนดีๆเท่านั้น
ทำให้คนโมโหก็เหนื่อยมากตกลงไหม!
“เจ้านอนเถอะ ข้าไม่กวนเจ้าแล้ว”
ได้ยินความเหนื่อยล้าในน้ำเสียงของหยุนหว่านหนิง โม่เยว่กล่าวอย่างอ่อนโยน ด้วยเสียงที่แหบแห้ง
เขาพลิกตัวไปนอนอยู่ด้านข้าง ไม่ว่าอย่างไรลมหายใจก็ไม่สามารถสงบลงมาได้
เห็นหยุนหว่านหนิงผล็อยหลับไปอีกครั้ง แขนยาวของเขายื่นออกไป เกี่ยวนางเข้าไปในอ้อมแขน
ผู้หญิงตัวเล็กในอ้อมแขนหอมหวาน ท้ายที่สุดเขาก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่ จู่โจมเข้าไปใกล้ๆในทันที……
หยุนหว่านหนิงพึมพำสองสามคำ เขาไม่ฟังมันเลย เพียงแค่จูบนางเบาๆไม่ทำให้นางตื่น สุดท้ายสถานการณ์ก็แย่ลงเรื่อยๆ โม่เยว่พลิกตัวลงไปบนพื้นอย่างยากลำบาก
ไม่ช้า ก็มีเสียงน้ำ “ซู่ๆ” ดังมาจากห้องอาบน้ำ
ในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ เขากำลังใช้น้ำเย็นอาบน้ำ!
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หยุนหว่านหนิงตื่นขึ้นมาโม่เยว่ก็เข้าวังไปประชุมเช้าแล้ว
สายตาที่หรูเยียนมองดูนาง เพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย
“เจ้ามองดูข้าเช่นนี้ทำไมกัน?”
หยุนหว่านหนิงรู้สึกเพียงว่าสายตาของนางดูแปลกๆ
หรูเยียนรีบก้มหน้าหัวเราะในลำคอ “ไม่มีอะไร! บ่าวแค่รู้สึกว่า……หลังจากที่ตื่นเช้าวันนี้ พระชายาท่านงดงามมากเป็นพิเศษ! งดงามกว่าวันไหนๆเลย!”
หยุนหว่านหนิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ยังยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าอย่างหลงตัวเอง “ข้าก็งดงามเช่นนี้ตลอดเลยไม่ใช่หรือ”
ทันทีที่พูดจบ ก็เห็นตัวเองในกระจกทองเหลือง
ยอดเยี่ยมจริงๆ!
ในที่สุดนางก็รู้ว่าคำพูดของหรูเยียนหมายความว่าอย่างไรแล้ว……
เห็นเพียงบนคอขาวระหงของนาง มีรอยแดงหลายจุด
ในดวงตาที่แวววาวสดใสคู่หนึ่ง เต็มไปด้วยอารมณ์รักของหนุ่มสาว
คนทั้งคนดูแล้ว นุ่มนวลและงดงามกว่าปกติเล็กน้อย เหมือนกับผู้หญิงที่ถูกความรักหล่อเลี้ยง ด้วยเหตุนี้จึงงดงามมีเสน่ห์ มากกว่าความเย็นชาในปกติ
หยุนหว่านหนิงหน้าแดงขึ้นมา
นางรีบร้อนยื่นมือไปปิดคอเอาไว้ เค้นออกมาสองคำอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “โม่! เยว่!”
หรูเยียนอดกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ “พระชายา ก่อนไปนายท่านบอกเอาไว้ว่า”
“กลับมาที่จวนในคืนนี้จะนำของขวัญมาให้พระชายา ให้พระชายารอนายท่านกลับมาก่อนค่อยเข้านอน”
ความหมายนี้คือ วันนี้ยังจะค้างคืนที่เรือนชิงหยิ่งอีกหรือ? !
“ฝันไปเถอะ!”
วันนี้หยุนหว่านหนิงก็ไม่คิดจะออกไปข้างนอกแล้ว สั่งการหรูเยียนในทันที “ปิดประตู! ให้แม่นมจางไปเฝ้าหน้าประตู!”
นางไม่รู้เลยว่า เมื่อคืนโม่เยว่กวนนางทั้งคืน ตัวเองกลับทนไม่ไหวจนต้องอาบน้ำเย็นดับไฟสวาท เข้าวังไปประชุมเช้าตั้งแต่เช้าตรู่ ก็เพราะว่ากลัวจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ ดังนั้นก็เลยจากไปอย่างทุลักทุเล
“พระชายา ดวงตาทั้งคู่ของนายท่านหมองคล้ำ เหมือนกับนอนหลับไม่สนิท”
หรูเยียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เกรงว่าจะทำให้เสียสุขภาพได้”
คำพูดนี้ของนาง ค่อนข้างมีความหมายลึกซึ้ง
หยุนหว่านหนิงฟังเข้าใจแล้ว แต่กลับแสร้งทำเป็นไม่รู้ “เจ้ายังพูดจาไร้สาระอะไรอยู่อีก? ไปปิดประตู!”
หลายปีก่อน คือถูกโม่เยว่กักบริเวณไว้ในเรือนชิงหยิ่ง;
วันนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ชายปากหมาคนนั้นค้างคืน นางริเริ่มขังตัวเองเอาไว้เอง!”
น่ากลัว!
เมื่อผู้ชายเกิดความรักขึ้นมา น่ากลัวมากจริงๆ!
หยุนหว่านหนิงมองดูรอยแดงที่ถูกดูดบนคอ รีบร้อนยื่นมือไปปิดเอาไว้อย่างแน่นหนา
ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะปิดประตูลง ก็มีคนมาหาถึงที่แล้ว
ฉินซื่อเสวียใช้กำลังบุกเข้ามา จ้องมองนางด้วยความโกรธเคือง “หยุนหว่านหนิง วันนี้ท่านอ๋องของข้าถูกเสด็จพ่อตำหนิอีกแล้ว! แถมยังถูกเสด็จพ่อส่งไปเฝ้าเขาซีเซียงอีก เป็นเพราะเจ้าเล่นเล่ห์เหลี่ยมอีกแล้วใช่ไหม? !”
คำพูดของนาง ทำให้หยุนหว่านหนิงรู้สึกงุนงง
“เจ้าพูดอะไร?”
นางขมวดคิ้ว “ฉินซื่อเสวีย มาเห่าหอนในห้องข้าแต่เช้า ตื่นเช้ามากินขี้หมาเยอะเกินไปหรือ?”
“เจ้า……”
ฉินซื่อเสวียคิดไม่ถึงว่านางจะปากร้ายเช่นนี้ ถูกทำให้โมโหจนควันขึ้นเต็มหัว!
นางก็อยากด่ากลับไปเช่นกัน ทำอย่างไรได้ไม่มีปากที่พูดเก่งเหมือนหยุนหว่านหนิง และไม่สามารถพูดจาหยาบคายเช่นนี้ได้……
นานพักใหญ่ ถึงได้เค้นคำออกมาจากไรฟันสองสามคำ “หยาบคาย! น่าขยะแขยง!”
“ข้าน่าขยะแขยงกว่าเจ้าหรือ? กินขี้หมาแต่เช้าตรู่ ดังนั้นถึงพูดจาแย่ๆเช่นนี้? พระชายาสาม ข้าแนะนำท่านให้กลับไปบ้วนปากก่อนค่อยมา จะได้ไม่เอ่ยปากก็ส่งกลิ่นเหม็นโฉ่ไปทั่ว”
หยุนหว่านหนิงโต้แย้งกลับไปเบาๆ
ฉินซื่อเสวียระเบิดอารมณ์ออกมา!
นางปิดปากเอาไว้โดยสัญชาตญาณ แล้วก็รู้สึกน่าขายหน้าอย่างยิ่ง
นางวางมือลงมา “ข้าไม่ได้มาทะเลาะกับเจ้า!”
“เช่นนั้นเจ้ามาคุยกับข้าหรือ? นี่คือท่าทีการมาคุยของท่านหรือ?”
หยุนหว่านหนิงลุกขึ้นมา
นางเข้าไปใกล้ฉินซื่อเสวีย “มีอะไรก็รีบพูดมา! ตั้งแต่ข้าตื่นนอนจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เข้าวังเลย เสด็จพ่อจะจัดการกับท่านอ๋องของท่านอย่างไร มันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย? !”
“เจ้าไม่ได้เป็นคนทำหรือ?”
สีหน้าท่าทางของฉินซื่อเสวียดูสงสัย
ก็ไม่แปลกที่นางจะบุกเข้ามาในจวนอ๋องหมิงด้วยท่าทางดุร้าย
มันเป็นเพราะว่า ราชโองการของโม่จงหรานมาอย่างกะทันหันเกินไปจริงๆ
ช่วงที่ผ่านมานี้ โม่หุยเฟิงถูกกักบริเวณอยู่ในจวนอ๋องตลอด มีเพียงฉินซื่อเสวียกับหยุนธิงหลานเท่านั้น ที่สามารถเข้าออกจวนอ๋องสามได้อย่างอิสระ เพราะต้องเข้าวังไปดูแลฮองเฮาจ้าว
โม่หุยเฟิงไม่ได้พบแม้แต่หน้าของโม่จงหราน ไหนเลยจะสามารถไปยั่วยุให้เขาโกรธได้? !
ดังนั้นพระบัญชาเมื่อเช้านี้ ฉินซื่อเสวียคิดว่าเป็นฝีมือของหยุนหว่านหนิงโดยสัญชาตญาณ
“หากข้าเป็นคนทำ ยังไม่กล้ายอมรับอีกหรือ?”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วมองดูนาง
นางเป็นคนกล้าทำกล้ารับเสมอ
หากทำแล้ว จะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด
เรื่องที่ไม่ได้ทำ ต่อให้กดหัวของนางเอาไว้ก็จะไม่ยอมรับเช่นกัน!
“ไม่ใช่เจ้าแล้วเป็นใคร?”
ฉินซื่อเสวียขมวดคิ้วแน่น “ทั่วทั้งเมืองหลวงแห่งนี้ ก็มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่มีความโกรธแค้นกับจวนอ๋องสามของเรามากที่สุด! ท่านอ๋องตกอับจนถึงจุดที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ล้วนเป็นเพราะเจ้าทั้งนั้น!”
“ฉินซื่อเสวีย หากท่านยังใส่ร้ายป้ายสีต่อไปอีก ข้าจะลงมือแล้วนะ”
หยุนหว่านหนิงสะบัดมือ
สีหน้าท่าทางของนางดุร้าย ฉินซื่อเสวียตกใจจนถอยหลังออกไปก้าวหนึ่ง “ข้าจะเชื่อได้อย่างไรว่าเจ้าไม่ได้เป็นคนทำ?”
“แล้วเหตุใดเจ้าถึงบอกว่าข้าเป็นคนทำ?”
หยุนหว่านหนิงถามกลับ
“ถึงแม้เจ้าจะไม่ได้เข้าวัง ก็มีความเป็นไปได้อย่างมาก ว่าเจ้าเป็นคนยุยงท่านพี่เยว่……”
ยังไม่ได้จะพูดจบ ก็เห็นสายตาของหยุนหว่านหนิงหรี่ลงด้วยความไม่พอใจ ฉินซื่อเสวียเปลี่ยนคำพูดในทันที “เจ้าเป็นคนยุยงอ๋องหมิง จงใจกราบทูลเสด็จพ่อ เล่นงานท่านอ๋องของข้า?”
ใช่แล้ว!
นางไม่ได้ทำ แต่มีความเป็นไปได้อย่างมากที่โม่เยว่เป็นคนทำ!
ถึงแม้โม่หุยเฟิงจะสร้างศัตรูเอาไว้มากมาย แต่ว่าคนที่สามารถทำให้โม่จงหรานออกคำสั่งให้ลงโทษโม่หุยเฟิงได้……
ก็มีเพียงโม่เยว่คนเดียวเท่านั้น!
และเมื่อคืนนี้ นางเอ่ยถึงเรื่องความโกรธแค้นระหว่างนางกับฉินซื่อเสวีย
บางทีโม่เยว่อาจจะกำลังระบายความแค้นแทนนางอยู่?
เขาเป็นถึงลูกผู้ชายอกสามศอก ไม่ควรค่าแก่การลงมือกับผู้หญิงอย่างฉินซื่อเสวีย ถึงได้หันไประบายความโกรธแค้น ใส่โม่หุยเฟิงแทน? !
ไม่ทำอะไรฉินซื่อเสวีย จัดการกับโม่หุยเฟิงโดยตรง……
ต้องบอกว่า กลวิธีนี้ของโม่เยว่เฉียบขาดเหนือชั้นมาก!
สำหรับฉินซื่อเสวียแล้ว ตอนนี้คนที่สามารถพึ่งพาได้ก็มีเพียงโม่หุยเฟิงเท่านั้น
ทันทีที่โม่หุยเฟิงล้มลงอย่างสิ้นเชิง นางฉินซื่อเสวียก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้นแล้ว!
กลวิธีนี้ ถึงแม้จะไม่ได้ลงมือต่อฉินซื่อเสวีย แต่กลับสามารถทำให้นาง “ตาย” ได้โดยตรง!
หยุนหว่านหนิงเข้าใจในทันที
แต่ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่า เรื่องนี้โม่เยว่เป็นคนทำหรือไม่กันแน่……