อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 378 โม่เยว่คือภรรยาคุมเข้ม
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 378 โม่เยว่คือภรรยาคุมเข้ม
หรูอวี้กล่าวอย่างลำบากใจ “นายท่านกลัวว่าพระชายาจะโกรธ เลยให้ข้าน้อยกลับมาหยั่งเชิงโดยเฉพาะ”
“เป็นเพราะล่ายซื่อ?”
หยุนหว่านหนิงยิ้มเย้ยหยัน “ข้าจะโกรธอะไร?”
นางยังไม่รู้จักโม่เยว่อีกหรือ?
นางถูกกักบริเวณอยู่ที่เรือนชิงหยิ่งสี่ปี ยังไม่เคยได้ยินว่าในห้องของโม่เยว่มีคนเลย ในจวนอ๋องหมิงที่กว้างใหญ่แห่งนี้ นอกจากสาวใช้แล้ว ไม่มีแม้แต่ผู้หญิงสักคนเดียว
นางเคยนึกว่า ในแง่นั้นของโม่เยว่ใช้การไม่ได้ใช่ไหม
หรือว่า……เขาไม่ชอบผู้หญิง?
ดังนั้นในวัยที่กำลังวังชาฮึกเหิม ถึงกับยังสามารถอดทนไม่แตะต้องผู้หญิงได้ถึงสี่ปี
ไม่ได้แตะต้องผู้หญิง เช่นนั้นก็แตะต้องผู้ชายแน่นอนใช่ไหม? !
ดังนั้นนางวางใจในตัวโม่เยว่อย่างมาก!
“พระชายาไม่โกรธก็ดีแล้ว เช่นนั้นข้าน้อยก็สามารถไปรายงานต่อนายท่าน ให้นายท่านกลับมาได้อย่างสบายใจ”
หรูอวี้โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ช้า โม่เยว่ก็กลับมา
เห็นหยุนหว่านหนิงไม่ได้โกรธจริงๆ ยังริเริ่มหารือกับเขาว่าควรจะลงโทษล่ายซื่ออย่างไรด้วยตัวเอง ใจที่เป็นกังวลของโม่เยว่ ถึงได้หมดห่วง]’
“เจ้าจะจัดการอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น! ข้าเชื่อฟังเจ้า”
เดิมทีโม่เยว่ก็เหตุผลเป็นรองอยู่แล้ว เวลานี้ก็ยิ่งเชื่อฟังอย่างมาก ไม่กล้าพูดคำว่า “ไม่” แม้แต่ครึ่งคำ
หากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เขากับฉินซื่อเสวียเคยหมั้นหมายกันมาก่อน ก็เลยถูกคนอื่นจับจุดอ่อนเอาไว้ แล้วจะมีล่ายซื่อปรากฏตัวในวันนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้นเขารู้ตัวว่าเหตุผลเป็นรอง
ถึงแม้การหมั้นหมายกับฉินซื่อเสวีย จะเป็นการตัดสินใจของโม่จงหรานกับเต๋อเฟยในตอนนั้น
แต่ตอนนี้เขาก็คือ “ภรรยาคุมเข้ม” ที่แท้จริง เมียว่าอะไรก็ว่าตามนั้น ขอเพียงยอมรับความผิดทั้งหมดมาไว้ที่ตัวเองก็พอแล้ว
จากนั้นเขาก็พูดเรื่องที่เต๋อเฟยระบายความโกรธแทนหยุนหว่านหนิง
“เสด็จแม่เต๋อเฟยทำได้ดีมาก”
หยุนหว่านหนิงก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมาเช่นกัน กล่าวชมเชยด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า
หยวนเป่าก็ยกนิ้วโป้งตามเช่นกัน “เสด็จย่าเต๋อเฟยทำได้ดีมาก!”
“ข้ารู้สึกชอบเสด็จย่าเต๋อเฟยขึ้นมานิดๆแล้ว”
เขาคือลูกชายที่กล้าหาญคอยปกป้องครอบครัวของท่านแม่ คือแก้วตาดวงใจน้อยๆของท่านแม่!
คนที่ท่านแม่ชอบ เขาก็ชอบ;
คนที่ท่านแม่เกลียด เขาก็เกลียดเช่นกัน!
ถึงแม้คนคนนี้จะเป็นย่าของเขา……ในอดียเต๋อเฟยเกลียดชังหยุนหว่านหนิง หยวนเป่าก็ไม่สามารถชอบเสด็จย่าเต๋อเฟย ที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนได้เลย
ตอนนี้ก็เปลี่ยนมุมมองเดิมไปเล็กน้อย
“พ่อเก๊ ท่านแม่ พวกท่านว่าตอนวันเกิดเสด็จย่าเต๋อเฟย ข้ามอบของขวัญวันเกิดอะไรกับนางดี?”
“เด็กน้อยอย่างเจ้า มอบของขวัญอะไรล่ะ?”
หยุนหว่านหนิงมองดูเขาอย่างขบขัน “ถึงเวลา แม่จับเจ้าห่อ แล้วก็มอบให้เสด็จย่าเต๋อเฟยของเจ้าไปโดยตรง ก็คือของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดของนางแล้ว!”
“แต่นั่นคือของขวัญของพวกท่าน ข้าต้องมอบของขวัญให้เสด็จย่าเต๋อเฟยใช่ไหม?”
หยวนเป่าแกว่งไกว่ขาอ้วนๆสองข้างของเขา
เขาประคองแก้มเอาไว้ ครุ่นคิดอย่างละเอียด “ข้ารู้แล้ว!”
“พวกหญิงสาว ก็ต้องเอาใจทั้งนั้น! เสด็จย่าเต๋อเฟยก็แค่สาวแก่ที่อายุห้าสิบเท่านั้น สาวแก่ก็มีสิ่งที่ชอบเหมือนกัน!”
เห็นได้ชัดว่าหยวนเป่าคิดได้แล้ว
อาหารเขาก็ไม่กินแล้ว กระโดดลงจากเก้าอี้วิ่งเข้าไปในห้อง เริ่มลงมือทำอะไรบางอย่าง
“เจ้าหมอนี่……”
โม่เยว่ส่ายหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ
แต่ก็อดคาดเดาในใจไม่ได้ว่า หยวนเป่าจะมอบของขวัญวันเกิดอะไรให้กับเต๋อเฟย
……
หลายวันมานี้ในเมืองหลวงเกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ ตามหลักแล้วโม่จงหรานน่าจะไม่นิ่งดูดาย
ฮองเฮาจ้าวกับโม่หุยเหยียน แม้กระทั่งฉินตงหลินก็ร้องเรียนไปถึงห้องทรงพระอักษรหลายครั้งแล้ว……แต่โม่จงหรานยังคงนิ่งเฉย ทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้
ในตอนพลบค่ำ เขาเข้าไปที่ตำหนักหย่งโซ่ว
เข้าไปอย่างอกผายไหล่ผึ่ง ถูกไล่ออกมาอย่างเศร้าหมองหดหู่
“ข้าไม่ได้มาตำหนิเจ้าเสียหน่อย เจ้าอารมณ์เสียอะไร?”
โม่จงหรานยื่นมือไปปิดบังใบหน้า
ซูปิ่งซ่านทำหน้าทอดถอนใจ: ฮ่องเต้ทำจนถึงขั้นนี้ นับแต่โบราณจนถึงปัจจุบันก็คงมีเพียงฮ่องเต้ของตัวเองคนเดียวเท่านั้นล่ะมั้ง?
เต๋อเฟยมือเท้าเอว ในมือยังจับไม้ขนไก่เอาไว้ “ตำหนิ? ฝ่าบาทถือสิทธิอะไรมาตำหนิหม่อมฉัน? เป็นเพราะว่าหม่อมฉันระบายความโกรธแทนลูกชายลูกสะใภ้หรือ?”
โม่จงหรานตอบไม่ได้ “แล้วเหตุใดเจ้าต้องไล่ข้าออกมาด้วย?”
“เพราะฝ่าบาทหูหนวกแล้ว!”
เต๋อเฟยจ้องมองเขา “เรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าฝ่าบาทไม่เคยได้ยิน”
“เยว่เอ๋อร์หนิงเอ๋อร์ถูกคนข่มเหงรังแก ฝ่าบาทก็ทำนิ่งเฉย ตกลงคือหูหนวกแล้ว หรือว่าเป็นใบ้เหมือนกับฮองเฮา?”
นางรู้สึกโกรธมาก!
ลูกชายลูกสะใภ้ถูกคนรังแกคิดคำนวณ คนเป็นเสด็จพ่ออย่างโม่จงหรานกลับไม่ทำอะไรเลยแม้แต่น้อย? !
“ก็ข้าเห็นว่าเจ้าระบายความโกรธแทนพวกเขาแล้ว ข้าถึงได้ไม่ลงมือไม่ใช่หรือ?”
เขารีบร้อนอธิบาย
ต่อหน้าสนมรักที่ไม่มีเหตุผล ตามใจนางเอาไว้จะดีกว่า
แต่ว่าโม่จงหรานก็ไม่คิดจะลงมือจริงๆนั่นแหละ
อีนังหนูหยุนหว่านหนิงคนนี้ซุกซนก่อกวนไปทั่ว ก็ควรจะให้นางประสบกับอุปสรรคบ้างเช่นกัน ไหนเลยจะรู้ว่าแผนการของเขายังไม่ทันได้เริ่มต้น เต๋อเฟยก็ออกหน้าปกป้องลูกสะใภ้แล้ว?
โม่จงหรานตะโกนร้องทุกข์ “ข้าให้โอกาสเจ้าได้ลงมือไง!”
“หม่อมฉันไม่ต้องการ”
เต๋อเฟยฮึออกมาจากเย็นชา ปิดประตูตำหนักด้วยตัวเอง
โม่จงหรานเต็มไปด้วยความตกตะลึง
เขาเป็นถึงฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ กลับถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประตู? !
“สนมรัก เปิดประตูหน่อย”
เขาตบไปที่ประตู ตะโกนออกมาอย่างไม่ยอมแพ้ “ที่ข้ามาวันนี้ คือคิดจะถามเจ้าว่าเจ้าอยากได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิด! ข้าจะได้ออกจากวังไปเลือกให้เจ้าด้วยตัวเอง!”
แก้วแหวนเงินทองที่อยู่ในคลังพวกนั้น เกรงว่าเต๋อเฟยคงจะไม่ชอบ
ตำหนักหย่งโซ่วของนาง ไม่ขาดแคลนของพวกนี้
“ไสหัวไป!”
เต๋อเฟยโกรธจนยับยั้งอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ คำรามออกมาอย่างเต็มไปด้วยพลัง
โม่จงหรานหมอบอยู่ที่รอยแยกของประตูแล้วมองเข้าไปข้างใน
ซูปิ่งซ่านเข้ามาใกล้อย่างระมัดระวัง “ฝ่าบาท เต๋อเฟยเหนียงเหนียงให้พระองค์ไสหัวออกไปแน่ะ!”
“ข้ารู้”
โม่จงหรานแตะไปที่ใบหน้า แล้วก็จัดการกับแขนเสื้อครู่หนึ่ง เขาเปลี่ยนชุดคลุมมังกรไปแล้ว เวลานี้สวมชุดสุภาพทั้งชุด ลักษณะท่าทางน่าเกรงขามของจักรพรรดิดูลดลงไปเล็กน้อย
“เอาล่ะ ข้าสามารถออกจากวังได้อย่างสบายใจแล้ว”
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ยืนยันอีกครั้งว่าเต๋อเฟยเข้าไปในตำหนักแล้ว ถึงได้กล่าวต่อซูปิ่งซ่านว่า “ไปๆๆ รีบไปกันเถอะ!”
“อีกสักครู่เต๋อเฟยจะได้ไม่ออกมาอีกครั้ง!”
เขาดูเหมือนเป็นโจร คว้าข้อมือของซูปิ่งซ่านเอาไว้ก็ก้าวเท้าอย่างแผ่วเบาจากไปอย่างรวดเร็ว
เขารีบออกจากวังไปพบหลานชายสุดที่รักของเขา!
ไหนเลยจะรู้ว่าไปที่จวนอ๋องหมิงในนาทีแรก แต่กลับพบกับความว่างเปล่า
คาดไม่ถึงว่าวันนี้หยวนเป่าจะไม่อยู่ในจวน!
หยุนหว่านหนิงอธิบายว่า โจวเถียนเถียนมาเล่นกับหยวนเป่า นางก็เลยให้หรูอวี้พาเด็กน้อยทั้งสองออกไปเดินเล่นที่ตลาด เวลานี้ยังไม่กลับมา
โม่จงหรานก็ไล่ตามออกไปจากจวนอ๋องอย่างเร่งรีบ ไปตามหาหยวนเป่าที่ตลาด
เมืองหลวงใหญ่โตขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าหยวนเป่าอยู่บนถนนสายไหนของถนนฉางอัน
โม่จงหรานก็ไม่มีใจเลือกหาของขวัญให้เต๋อเฟย เพียงแค่มุ่งความสนใจไปที่การมองหาหลานชายสุดที่รักของเขาในกลุ่มฝูงชนเท่านั้น
หลังจากเขาจากไปแล้ว เต๋อเฟยโกรธอยู่นานมากกว่าจะสงบสติอารมณ์ลงมาได้
นึกถึงสิ่งที่หยุนหว่านหนิงเคยกล่าวไว้——“เวลาโกรธก็ควรจะไปตลาดแล้วซื้อๆๆ หลังจากช้อปปิ้งสุรุ่ยสุร่ายแล้วอารมณ์ก็ดีขึ้นเอง!”
เต๋อเฟยสั่งการให้หลี่หมัวมัวไปเอาเงินทันที ปลอมตัวเสร็จสรรพแล้วก็ออกจากวังไป
นางวางแผนจะไปรับหยุนหว่านหนิงที่จวนอ๋องหมิง แม่สามีลูกสะใภ้สองคนออกไปจับจ่ายซื้อของกินดื่มด้วยกัน
ยังไม่ถึงจวนอ๋องหมิง เจ้าของร้านข้างทางคนหนึ่งใช้แรงตีฆ้องขึ้นมากะทันหัน ตะโกนเรียกลูกค้าเสียงดัง……
ม้าได้รับความตกใจ ลากรถม้าวิ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว……บนถนนที่จอแจพลุกพล่าน ม้าที่วิ่งทะยานอย่างบ้าคลั่ง สร้างความหวาดผวาให้กับผู้ที่สัญจรไปมา
เสียงกรีดร้อง เสียงด่าว่าดังระงม!
รถม้าชนแผงลอยเล็กๆล้มไปไม่น้อย ยังมีคนไล่ตามมาด่ารถม้า
“อ๊าๆๆ……”
เต๋อเฟยกับหลี่หมัวมัวที่อยู่ภายในรถม้า ก็กรีดร้องไม่หยุด เพราะรถม้าสั่นโคลงเคลงทำให้พลิกคว่ำไปมาอยู่ข้างใน!
คนขับรถม้าควบคุมม้าเอาไว้ไม่อยู่ ก็ตกใจกลัวจนหน้าซีดเซียวเช่นกัน
เห็นว่ากำลังจะชนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าแล้ว!
เด็กผู้หญิงคนนั้นยืนนิ่งอยู่ตรงกลางถนน เห็นได้ชัดว่าตกใจจนมึนงงแล้ว
และในเวลานี้ จู่ๆเงาร่างเล็กอีกเงาก็พุ่งออกมา ผลักเด็กผู้หญิงออกไป จากนั้นร่างเล็กก็กระโดดตัวขึ้นมา ขี่บนหลังม้าโดยตรง!