อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 381 รูปร่างหน้าตาคล้ายกับท่านอ๋อง
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 381 รูปร่างหน้าตาคล้ายกับท่านอ๋อง
แย่แล้ว!
เมื่อครู่นี้เขาคิดเพียงแต่จะช่วยโจวอ้วนน้อยหยิบผลไม้เคลือบน้ำตาล คาดไม่ถึงจะไม่ระมัดระวังจนเผยโฉมหน้าออกมา!
เต๋อเฟยพูดคำว่า”เจ้า”หลายครั้ง แต่ก็ไม่ยอมพูดเป็นประโยคออกมา เพียงแต่บีบแขนขวาของหลี่หมัวมัวเอาไว้แน่น
หลี่หมัวมัวกัดฟันด้วยความเจ็บปวด “เหนียงเหนียง เหนียงเหนียง……..”
นางดึงความรู้สึกนึกคิดของเต๋อเฟยกลับมา
เต๋อเฟยจึงปล่อยมือ แล้วออกแรงตีไปที่แขนของหลี่หมัวมัวอีกครั้ง “เหล่าหลี่ เจ้าดูสิ!”
“เด็กผู้นี้ เด็กผู้นี้รูปร่างหน้าตา……..”
“คล้ายท่านอ๋อง!”
หลี่หมัวมัวลูบแขน แล้วกล่าวอย่างขมขื่นว่า “เหนียงเหนียง ข้าน้อยเห็นแล้วเพคะ!”
รู้ว่าเหนียงเหนียงของตัวเองตื่นเต้น ภายในใจของหลี่หมัวมัวก็ตื่นเต้น แต่นางไม่กล้าหยิกเต๋อเฟยนี่นา!
ในดวงตาของหยวนเป่าปรากฏความตื่นตระหนกเล็กน้อย
แต่ก็สงบลงมาอย่างรวดเร็ว
ในเมื่อถูกเต๋อเฟยเห็นใบหน้าของเขาแล้ว ถ้าหากเวลานี้ปิดบังอีกก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการทำให้เต๋อเฟยเกิดความสงสัย ถึงแม้เสด็จย่าของตนเองจะเป็นคนซื่อๆ ก็ตาม
เขามองเต๋อเฟยอย่างสงบนิ่ง และถือโอกาสสบตากับนาง
เต๋อเฟยก้มหน้าลงอย่างเหนื่อยล้า และรีบนั่งยองๆ ลงตรงหน้าของหยวนเป่า แล้วพิจารณามองเขาอย่างตั้งใจ
ยิ่งมองเด็กคนนี้ก็ยิ่งคล้ายโม่เยว่ กระทั่งยังคล้ายกับหยุนหว่านหนิงเล็กน้อย……
บ้าไปแล้ว นางบ้าไปแล้วแน่ๆ!
เต๋อเฟยขยี้ตาเล็กน้อย ยังคิดว่าตัวเองตาฝาดไป
ทันใดหยวนเป่าก็ทำหน้าทะเล้น แล้วกล่าวกับเต๋อเฟยว่า “ขอบคุณคุณยายผู้นี้ที่ซื้อผลไม้เคลือบน้ำตาลให้พวกข้า ข้ากับน้องหญิงชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง!”
คุณยาย? !
ถ้าหากเป็นเด็กเกเรคนอื่นๆ เต๋อเฟยก็คงจะสั่งให้คนเอาเด็กดื้อโยนออกไปนานแล้ว
แต่เพราะเห็นว่าหน้าเด็กน้อยผู้นี้คล้ายกับบุตรชายของตัวเอง……….
เต๋อเฟยจึงไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเขา!
กระทั่งชื่นชอบชื่อนี้เป็นพิเศษ!
นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเครือว่า “เด็กน้อย เจ้าไม่มีพ่อแม่จริงๆ หรือ?”
“มีแม่ แต่ไม่มีพ่อ”
หยวนเป่าตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา “แต่ตอนนี้ต้องพึ่งพาอาศัยกับนางในการดำรงชีวิต”
เขาชี้ไปยังโจวเถียนเถียน
เมื่อพูดเช่นนี้ เด็กทั้งสองก็ดูมีเหตุผลจริงๆ ……เต๋อเฟยน้ำตาคลอ กล่าวถามอย่างสะอื้นว่า “เช่นนั้นเจ้าเต็มใจจะเข้าวังไปกับข้าหรือไม่ ข้าจะดูแลพวกเจ้าเอง?”
“ไม่เต็มใจ!”
หยวนเป่าส่ายหน้า
เมื่อเห็นหรูอวี้ที่หลบอยู่มุมถนนโบกมืออย่างแรงให้เขา หยวนเป่าก็ดึงสายตากลับ “คุณยาย”
“ข้ากับเจ้าอ้วนน้อยจะต้องไปแล้ว”
เต๋อเฟยซื้ดจมูกแล้วคว้ามือของเขาเอาไว้ไม่ปล่อย “พวกเจ้าไม่มีพ่อแม่ แล้วพักอยู่ที่ไหนหรือ?”
“วัดร้างนอกเมือง!”
หยวนเป่าปั้นเรื่องไปเรื่อยเปื่อย
“เช่นนั้นปกติพวกเจ้าทั้งสองกินอะไรหรือ?”
“มีอะไรก็กินอย่างนั้น!”
ไม่เลือกรับประทานอาหาร!
ดวงตาของเต๋อเฟยแดงก่ำ รีบกำชับสั่งหลี่หมัวมัว ให้นำเงินตำลึงที่มีติดตัวทั้งหมดออกมา กระทั่งเหรียญสองสามเหรียญของคนขับรถม้า ก็ถูกเต๋อเฟยรีดไถเอามา
นางดึงปิ่นมุกบนศีรษะออกมา แล้วถอดกำไลข้อมือหยกยัดให้หยวนเป่า
“ไปเถิด ไปเถิด!”
หยวนเป่า: “……”
นี่คิดว่าพวกเขาทั้งสองเป็นลูกกำพร้าพ่อจริงๆ หรือ?
ท่านแม่เคยบอกไว้ว่า มีของฟรีไม่รีบฉกฉวยเอาไว้ก็โง่มาก!
สิ่งเหล่านี้ก็เหมือนกับเป็นของขวัญที่เสด็จย่ามอบให้เขาเมื่อได้พบหน้ากันครั้งแรก…….อย่างมากก็พอถึงวันเกิดเสด็จย่า เขาก็เตรียมของขวัญที่มีค่าให้ก็แล้วกัน!
หยวนเป่าไม่ได้ปฏิเสธ ใช้เสื้อห่อเงินและของมีค่าอื่นๆ แล้วจูงโจวเถียนเถียนเดินจากไปด้วยความดีใจ
มองภาพเด็กทั้งสองหายไปในฝูงชน เต๋อเฟยก็อดกลั้นไม่ไหว และส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น
“เหนียงเหนียง……..”
หลี่หมัวมัวแสดงสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เหนียงเหนียง ข้าน้อยรู้ว่าภายในใจของท่านเป็นทุกข์! แต่เด็กผู้นี้ก็ไม่อาจเป็นบุตรชายของท่านอ๋องและพระชายาหรอกเพคะ”
โม่เยว่กับหยุนหว่านหนิงอภิเษกสมรสกันมาห้าปีแล้ว มีหรือไม่มีบุตรพวกเขายังไม่รู้ชัดเจนอีกหรือ?
“เหนียงเหนียง อย่าเศร้าเสียใจไปเลยเพคะ!”
“ข้าเพียงแค่นึกถึงว่า เด็กน้อยที่ได้รับความยากลำบากทนหิวทนหนาวเช่นนี้ ภายในใจของข้าจึงรู้สึกไม่สบายใจ!”
เต๋อเฟยนำใบหน้าอิงบนไหล่ของหลี่หมัวมัว “เพียงแต่พวกเขาทั้งสองไม่เต็มใจจะเข้าวังกับข้า! เด็กตัวน้อยสองคนเช่นนี้ ข้าจึงรู้สึกนิ่งดูดายไม่ได้!”
“เหนียงเหนียงก็อย่าเป็นทุกข์ใจไปเลยเพคะ เด็กๆ พวกนั้นได้บอกแล้วไม่ใช่หรือ? ว่าพวกเขาอยู่ในวัดร้างนอกเมือง”
หลี่หมัวมัวเสนอความคิดเห็นว่า “วันอื่นเหนียงเหนียงค่อยไปเยี่ยมเยือนพวกเขาก็ได้เพคะ!”
“หรือว่าสั่งให้คน ไปดูแลพวกเขาทั้งสองก็ได้”
“เป็นความคิดที่ดี!”
เต๋อเฟยจึงเช็ดน้ำตา แสดงสีหน้าปลงอนิจจัง “เจ้าว่าไหม ทำไมบนโลกใบนี้ ถึงได้มีเรื่องราวบังเอิญเช่นนี้?”
“เด็กคนนี้รูปร่างหน้าตาท่าทางคล้ายคล้ายกับเยว่เอ๋อร์ตอนเป็นเด็กจริงๆ! เหมือนว่าแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันเลย! แล้วทำไมเขาถึงไม่ใช่บุตรชายของเยว่เอ๋อร์ ไม่ใช่หลานชายของข้าล่ะ?”
เต๋อเฟยไม่สบายใจ
ถึงแม้ว่านางจะไม่ชอบโม่จือหยุนและหลานสาวสองสามคนนั้น
แต่ถึงอย่างไร พวกนางก็เป็นหลานสาวแท้ๆ ของฮองเฮาจ้าว สำหรับนางที่เป็นเสด็จย่าเต๋อเฟยนี้ก็ไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ
แต่นางยังอยากอุ้มหลานผู้ชายของตนเองอย่างมาก!
ได้ยินมาว่าล่ายซื่อให้กำเนิดลูกนอกสมรสให้โม่เยว่
ถึงแม้ว่าเต๋อเฟยจะรังเกียจคนอย่างล่ายซื่อ แต่ลูกนอกสมรสก็ไม่ได้มีความผิดอะไร………ถ้าหากหยุนหว่านหนิงไม่ชอบเด็กคนนั้น นางก็สามารถพามาเลี้ยงดูไว้ข้างกายได้
เงื่อนไขข้อแรก หยุนหว่านหนิงจะไม่คัดค้าน
ที่ออกจากวังในวันนี้ ประการแรกก็เพื่อไปปลอบโยนหยุนหว่านหนิง ไม่ให้นางโกรธเพราะนังคางคกผู้นั้น
ประการที่สองก็อยากจะมาเห็นลูกนอกสมรส ว่าสรุปแล้วรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
ประการที่สาม ก็เพื่อมารับหยุนหว่านหนิงออกจากจวน และพาลูกสะใภ้ไปเดินซื้อข้าวของด้วยกัน
ใครจะรู้ว่าเกิดเหตุไม่คาดคิดระหว่างทาง และได้พบกับหยวนเป่า
“ถ้าหากข้ามีหลานชายตัวน้อยที่ฉลาดและเก่งกาจเช่นนี้ กลางคืนข้าฝันก็คงจะตื่นขึ้นมายิ้ม!”
หยวนเป่าและโจวเถียนเถียนเดินไปไกลมากแล้ว เต๋อเฟยก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองทิศทางที่พวกเขาหายจากไป เป็นเวลานานไม่ยอมไปไหน “ภายในใจของข้าไม่สบายใจเลย!”
“ข้าน้อยเข้าใจความคิดของเหนียงเหนียงเพคะ แต่ว่า……..”
หลี่หมัวมัวขมวดคิ้ว ลูบคลำกระเป๋าสตางค์ที่ว่างเปล่า “เหนียงเหนียง พวกเรากลับวังกันดีไหมเพคะ?”
“กลับวังทำไมกัน? ข้ายังจะต้องไปจวนอ๋องหมิงอีก!”
“แต่ว่าเหนียงเหนียงเพคะ พวกเราไม่มีเงินเหลือแล้ว! ให้เด็กเหล่านั้นไปหมดแล้วนะเพคะ!”
หลี่หมัวมัวแสดงสีหน้าร้องไห้ “กระทั่งยต่างหูของข้าน้อย ก็ถูกเหนียงเหนียงคว้าเอาไปให้พวกเขาแล้ว……….”
เต๋อเฟย: “……”
นางมองใบหูทั้งสองข้างของหลี่หมัวมัวที่เปลือยเปล่า แล้วก็ทอดถอนใจเบาๆ “เห็นว่าเจ้าค่อนข้างมีความคืบหน้าเล็กน้อย! เมื่อข้ากลับถึงวังจะคืนต่างหูสองคู่ให้แก่เจ้า!”
หลี่หมัวมัวไม่อยากจะเชื่อ
นั่นคือเรื่องของต่างหูหรือ?
เมื่อครู่นี้เหนียงเหนียวตื่นเต้นเกินไป ตอนที่จะให้นางถอดต่างหู ก็แทบจะเป็นคนถอดติ่งหูให้นางแล้วไม่ใช่หรือ? !
เต๋อเฟยมองคนขับรถม้าที่กลัดกลุ้มใจเหมือนกัน “ไปจวนอ๋องหมิง!”
บัดนี้นางไม่มีเงินแล้ว แต่นางยังมีลูกสะใภ้ผู้มั่งมีอีกคน!
“ได้ยินมาหนิงเอ๋อร์ว่ายอมรับล่ายซื่อผู้นั้นแล้ว ข้าก็อยากจะไปดูซิว่า สรุปแล้วล่ายซื่อผู้นั้นหน้าด้านไร้ยางอายขนาดไหนกัน!”
เต๋อเฟยร้องเชอะคำหนึ่ง “วันนี้ภายในใจของข้ารู้สึกกลัดกลุ้ม ต้องการคนระบายอารมณ์อยู่พอดี”
เมื่อรถม้าเข้าจวนอ๋องหมิง หรู้อวี้ก็กำลังพาหยวนเป่าเดินมาใกล้ละแวกนั้น
เมื่อเขาได้พาโจวเถียนเถียนไปส่งกลับตระกูลโจวแล้ว ก็เห็นรถม้าเข้าไปในจวนอ๋อง จึงรีบจูงหยวนเป่าเดินไปทางประตูหลัง ถ้าหากตอนนี้ถูกเต๋อเฟยพบเข้าอีกละก็ เช่นนั้นก็คงจะอธิบายไม่ได้แล้ว…….
เมื่อรถม้าหยุดลง หยุนหว่านหนิงก็ได้ทราบข่าวและมารออยู่ด้านข้างแล้ว
เมื่อเห็นเท้าถูกวางลง นางก็เข้าไปประคองเต๋อเฟยด้วยตัวเอง
หลี่หมัวมัวชำเลืองมองนาง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “พระชายา นี่คือท่าน…….”
หยุนหว่านหนิงไม่ได้พูดจา กัดริมฝีปากแล้วส่ายหน้าเบาๆ
เต๋อเฟยลงจากรถม้าแล้ว ก็ไม่รอให้หยุนหว่านหนิงเอ่ยปาก เห็นท่าทีของนางในเวลานี้แล้วก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาในชั่วพริบตา “ให้คนเข้ามา! ไปลากล่ายซื่อผู้นั้นมาให้ข้า!”
นางจะต้องแก้แค้นเพื่อลูกสะใภ้!