อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 394 ทั้งสองคนต่างล้มแล้ว
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 394 ทั้งสองคนต่างล้มแล้ว
หนานกงเยว่แท้งลูกแล้ว!
“อะไรนะ?!”
หยุนหว่านหนิงตกใจ “เร็วขนาดนี้เลยเชียวรึ?!”
เมื่อวานนี้นางยังเต้นแร้งเต้นกาอยู่ในตำหนักไท่เหอ พยายามหาเรื่องใส่ร้ายตนอยู่เลย เนื่องจากเต๋อเฟยเป็นฝ่ายชิงลงมือให้ก่อนแล้ว หยุนหว่านหนิงคิดว่าเด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงยังไม่ไปคิดบัญชีเอากับนางเป็นการชั่วคราว ใครจะรู้ล่ะว่ามาตอนนี้หนานกงเยว่จะแท้งลูกเสียแล้ว? !
“ข้าจะไปจวนอ๋องฉู่สักหน่อย”
หยุนหว่านหนิงสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังมาก
ที่นางไปจวนอ๋องสามวันนี้ ก็เพื่อจะให้แน่ใจว่าฉินซื่อเสวียเสียสติจนกู่ไม่กลับแล้วจริง ๆ
ตอนนี้นางยังต้องไปที่จวนอ๋องฉู่ เพื่อยืนยันว่าหนานกงเยว่แท้งลูกจริงหรือไม่
ผู้หญิงคนนี้ถนัดเล่นละครตบตาคน ไม่แน่ว่าถ้านี่เป็นหนึ่งในแผนทรมานร่างกายตัวเอง เพื่อเรียกร้องความเห็นใจของนางล่ะก็……
นางควรไปดูเองให้เห็นกับตาดีกว่า ถึงจะวางใจได้
ในตอนที่หยุนหว่านหนิงมาถึง จวนอ๋องฉู่ก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายไปหมดแล้ว หลังจากเคาะประตูอยู่นานก็ไม่มีใครมาเปิด นางจึงเตะเปิดประตูเองด้วยความจนใจไปโครมหนึ่ง
ตอนนี้เองพวกคนข้างในถึงตกใจ จนต้องเดินเข้ามาตรวจสอบ
เมื่อเห็นว่าคนที่มาถึงกับเป็นพระชายาหมิง….. ทุกคนต่างก็มีสีหน้าผิดแปลกแตกต่างกันไป
เห็นได้ชัดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในวังระหว่างหยุนหว่านหนิงกับหนานกงเยว่เมื่อวานนี้ พวกคนรับใช้ในจวนต่างก็รู้กันหมดแล้ว
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
นางถามอย่างเย็นชา
ผู้ดูแลเหยาแห่งจวนอ๋องฉู่รีบเข้ามาเชิญนางไปที่เรือนหลัง “พระชายาหมิง ท่านหมอหยางอยู่ข้างใน! เขาบอกว่า บอกว่าไม่สามารถรักษาเด็กในท้องไว้ได้แล้วขอรับ”
นี่คือการแท้งลูกจริง ๆ
เมื่อเข้าไปในเรือนหลัง ในนั้นวุ่นวายโกลาหล เพียงคนเดียวที่ไม่เห็นหน้าก็คือโม่หุยเหยียน
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว “ท่านอ๋องของพวกเจ้าล่ะ?”
พ่อบ้านเหยาอึกอักไม่กล้าพูด
“พูดมา!”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้ว พลางจ้องมองเขาเขม็ง
เด็กในท้องของหนานกงเยว่คนนี้ ทั้งโม่หุยเหยียนและฮองเฮาจ้าวต่างก็ให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ต่อให้นางแท้งจริง ๆ โม่หุยเหยียนก็สมควรมาเฝ้าอยู่เคียงข้างนางถึงจะถูก
นางฉุกคิดถึงบรรดาสาวงามที่เต๋อเฟยส่งมาให้ รวมถึงท่าทางอึกอักลังเลไม่กล้าพูดของผู้ดูแลบ้านบ้านเหยา…..
หยุนหว่านหนิงแอบคาดเดาว่า คงไม่ใช่ว่าโม่หุยเหยียนยังอยู่ในห้องกับเหล่าสาวงามจนออกมาไม่ได้หรอกนะ?
“ท่านอ๋องของข้าก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันขอรับ!”
พ่อบ้านเหยาตอบอย่างจนใจ “เวลานี้ท่านอ๋องก็หมดสติไปยังไม่ฟื้นเช่นกัน ยังนอนอยู่ที่ห้องข้าง ๆ นี้เองขอรับ!”
โม่หุยเหยียนก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเหมือนกัน? !
วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับจวนอ๋องฉู่ล่ะเนี่ย?
หรือเง๊กเซียนฮ่องเต้ทนดูไม่ไหว จึงยื่นมือลงมาตบสองคนผัวเมียนี่แรง ๆ ไปคนละฉาดสองฉาด?!
ในใจของหยุนหว่านหนิงได้แต่ตกตะลึง
“ท่านอ๋องกับพระชายาของพวกเจ้าช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริง ๆ! ตอนไม่เกิดเรื่องก็ไม่เกิดเรื่องทั้งคู่ แต่พอเกิดเรื่องก็เกิดเรื่องขึ้นพร้อมกันทั้งคู่ แบบนี้ต้องเรียกว่าอะไรนะ? เรียกว่าคู่รักที่เกิดมาเป็นคู่ตุนาหงันกันงั้นสินะ!”
พ่อบ้านเหยาเหงื่อแตกเต็มหน้า ยิ้มอย่างเจื่อน ๆ: “…..พระชายาหมิงล้อข้าเล่นแล้ว”
นี่มันเวลาอะไรแล้ว นางยังจะพูดจาเหน็บแนมถากถางกันอีก
“ข้าไม่ได้พูดล้อเล่นกับเจ้านะ”
หยุนหว่านหนิงหันไปมองเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “ท่านอ๋องของพวกเจ้าได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?”
พ่อบ้านเหยาดูมีอาการน้ำท่วมปากขึ้นมานิดหน่อย
แต่เมื่อเห็นหรูอวี้ที่อยู่ข้างหลังนาง กำลังเช็ดกระบี่ด้วยท่าทางที่ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น…. ตัวกระบี่ถูกชักออกจากฝักแล้ว เมื่ออยู่ภายใต้แสงตะเกียงที่ส่องจากใต้ระเบียงทางเดิน ก็เปล่งแสงสะท้อนอันเย็นเยียบออกมา
พ่อบ้านเหยาได้แต่รู้สึกเย็นวาบที่หลังคอขึ้นมาไม่หยุด
เขารีบยกมือขึ้นมาปิดคอตัวเอง “ในตอนที่ท่านอ๋องของข้ารู้ว่าพระชายาแท้ง ยังอยู่ ยังอยู่ในห้องของวังอี๋เหนียงขอรับ!”
“วังอี๋เหนียง?”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วขึ้น
“เป็นหนึ่งในหญิงสาวที่เต๋อเฟยเหนียงเหนียงส่งมาให้ขอรับ”
พ่อบ้านเหยาหดคอ มองไปที่หยุนหว่านหนิงอย่างระมัดระวัง กล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูดออกมา
หยุนหว่านหนิงนึกขำในใจ “ดูเหมือนว่า อ๋องฉู่จะพอใจบรรดาหญิงสาวที่เสด็จแม่ส่งมาให้มากเลยนะ ถึงกับให้สถานะอี๋เหนียงเร็วขนาดนี้เชียว?”
นางคล้ายจะเข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
จะต้องเป็นเพราะหลังจากที่หนานกงเยว่ตั้งครรภ์ โม่หุยเหยียนจึงไม่กล้าแตะต้องนาง เขาเป็นผู้ชายวัยกลัดมัน แม้ว่าจะมีความรักอย่างลึกซึ้งต่อหนานกงเยว่แค่ไหน แต่ขึ้นชื่อว่าผู้ชายแล้ว มีหรือจะไม่อยากลักกินขโมยกิน! ของสด ๆ คาว ๆ มาส่งถึงที่ทั้งที!
โดยเฉพาะผู้หญิงเหล่านั้น ลูกล่างหน้าตาต่างก็เหทือนหนานกงเยว่อยู่ไม่มากก็น้อย
หากพวกนางจงใจยั่วเย้า! หยอกล้อเล่นหูเล่นตา.……
โม่หุยเหยียนที่ต้องเป็น “พระ” มานานขนาดนี้ มีหรือจะทนได้ไหว? !
ส่วนหนานกงเยว่ เมื่อคืนนี้ก็เพิ่งจะโกรธไปไม่ใช่น้อย พอมาวันนี้ก็มีปัญหากับเหล่าอี๋เหนียงทั้งหลายที่ส่งมาให้ถึงจวนอีก…..
นางย่อมทนรับไม่ไหวแล้วแน่ ๆ ถึงได้โกรธจัดจนแท้งลูกแบบนี้!
พ่อบ้านเหยาค้อมตัวลง พูดด้วยสีหน้าเศร้าตรมขมขื่นว่า “ท่านอ๋องของข้ารีบร้อนมาหาพระชายา แต่เพราะหิมะตกถนนลื่น….. มีน้ำแข็งเกาะอยู่บนขั้นบันได ท่านอ๋องไม่ทันระวังพื้นลื่น จึงหกล้มจนขาได้รับบาดเจ็บ ”
“แล้วหน้าผากยังไปกระแทกเข้ากับขั้นบันไดหิน ดังนั้นจึงสลบไปยังไม่ฟื้น”
“ท่านอ๋องของเจ้า ช่างรักใคร่ลึกซึ้งต่อพระชายาของเจ้าเสียจริง ๆ”
หยุนหว่านหนิงมองเขาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม “ขอแสดงความยินดีด้วย!”
พ่อบ้านเหยา: “…..”
จวนอ๋องฉู่ของพวกเขายามนี้ เรียกว่าท้องฟ้าแทบจะพังทลายลงมาทับอยู่แล้ว ไม่รู้รึ? !
พระชายาแท้งลูก ท่านอ๋องก็หกล้มจนขาหัก นี่เรียกว่าเป็นเรื่องน่ายินดีตรงไหน? !
ครั้งนี้ จะปล่อยให้พระชายาหมิงเข้าไปเยี่ยมพระชายาของเขาไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้วอาจไปทำให้พระชายาโกรธแทบปางตายก็เป็นได้….. พ่อบ้านเหยารีบเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว “พระชายาหมิง ทั้งท่านอ๋องและพระชายาของข้าล้วนหมดสติไปยังไม่ฟื้นเลย”
“หรือไม่ พระชายาหมิงเปลี่ยนเป็นมาเยี่ยมเยียนวันอื่นแทนจะดีกว่า?”
“รอให้พระชายาฟื้นแล้ว ข้าน้อยจะรีบแจ้งพวกท่านให้ว่าพระชายาหมิงมาเยี่ยมเยียนอย่างแน่นอน”
“หมดสติไปยังไม่ฟื้น? ไม่เป็นไร! ข้าไม่ต้องให้พวกเขามาต้อนรับขับสู้หรอก ข้าจะเข้าไปดูอาการของพระชายาบ้านเจ้าสักหน่อย”
หยุนหว่านหนิงสองมือไพล่หลัง เดินเข้าไปโดยไม่หันหลังมามองสักแวบ “เผื่อถ้าพระชายาของบ้านเจ้าฟื้นขึ้นมาแล้ว เกิดเศร้าโศกเสียใจจนคิดสั้นอยากฆ่าตัวตายหรืออะไรแบบนั้น ข้าก็ยังพอจะชี้ทางสว่างให้นางได้!”
ขณะที่พูด นางก็เดินเข้าไปในห้องนอนของหนานกงเยว่แล้ว
ในห้องมีกลิ่นคาวเลือดรุนแรงมาก
หมอหลวงหยางกำลังยุ่งอยู่ข้างเตียง ปี้อวี้สาวใช้ส่วนตัวของหนานกงเยว่ กำลังยืนอยู่หน้าเตียงในสภาพน้ำตาคลอเบ้า
เมื่อเห็นหยุนหว่านหนิง นางพลันรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าสะพรึงกลัว!
ปี้อวี้รีบก้าวขึ้นไปข้างหน้า “พระชายาหมิง พระชายาของข้าหมดสติไปยังไม่ฟื้น เกรงว่าจะไม่สามารถให้การต้อนรับท่านได้!”
นี่เป็นคำพูดไล่แขกที่ฟังดูสละสลวยมาก
หยุนหว่านหนิงชักสีหน้าทันที “นี่เจ้าไล่ข้ากลับอย่างนั้นรึ?”
ใบหน้าของสาวใช้ซีดเผือด “ข้าน้อย ข้าน้อยไม่กล้า…..”
“ถ้าอย่างนั้นก็ถอยไป!”
หยุนหว่านหนิงเดินเฉียดผ่านตัวนาง มาหยุดอยู่ข้างเตียง
ยอดเยี่ยมแท้!
ผ้าปูที่นอนเลอะเลือดจนเป็นสีแดงเถือก เลือดสด ๆ ไหลนองลงไปถึงพื้น ยังไม่มีเวลาทำความสะอาด สองมือของหมอหลวงหยางเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าแก่ ๆ ของเขาก็ดูไม่ค่อยจะดีนัก
เมื่อเห็นหยุนหว่านหนิงมาแล้ว เขาก็รีบยืนขึ้น “สวรรค์ทรงโปรด พระชายาหมิงท่านมาได้เสียที!”
“กระหม่อมอายุมากแล้ว ทำเรื่องแบบนี้ไม่ไหว! กระหม่อมแทบจะเป็นลมให้ได้แล้ว ถ้าอย่างไรพระชายาหมิงท่านช่วยมาทำแทนจะดีกว่า!”
“ข้าทำไม่เป็น”
หยุนหว่านหนิงสองมือกอดอก ปฏิเสธอย่างเฉียบขาดว่า “ข้าไม่เคยทำคลอดให้ใคร ทั้งไม่เคยรับมือกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน”
นางทำเป็น
แต่ว่า นางแค่ไม่อยากทำ
คนที่นอนอยู่บนเตียงนั่น ต่อให้เป็นฉินซื่อเสวีย นางก็อาจมีเมตตาพอที่จะช่วยจัดการเรื่องนี้ให้นาง แต่คนคนนี้คือหนานกงเยว่ นางไม่มีทางช่วยอย่างแน่นอน!
แต่ไหนแต่ไรมา คนที่ฉินซื่อเสวียตั้งตัวเป็นอริด้วย ก็มีเพียงนางคนเดียวมาโดยตลอด
ส่วนหนานกงเยว่ นางพยายามหาทางโค่นล้มตนเองหลายครั้งหลายหน ทั้งยังหาทางหยั่งเชิง รวมถึงพยายามลงมือกับหยวนเป่าหลายครั้ง!
ซึ่งจุดนี้ เป็นสิ่งที่หยุนหว่านหนิงไม่อาจทนรับได้อย่างถึงที่สุด!
ลูกชายคือทุกอย่างของนาง เป็นเส้นขีดจำกัดขั้นต่ำสุดของนาง เป็นต่อมโมโหที่พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อของนาง!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมิตรภาพจอมปลอมของหนานกงเยว่กับนางเมื่อสมัยก่อน แต่ก่อนหยุนหว่านหนิงเคยคิดว่านางเป็นคนดีจริง ๆ…..
มาตอนนี้ ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนางอย่างชัดเจน นางถึงกับคลื่นไส้จนกินข้าวไม่ลงไปสองสามวันเลยทีเดียว!
นางไม่เพียงแต่คลื่นไส้หนานกงเยว่เท่านั้น แต่ยังชิงชังรังเกียจด้วย!
หมอหลวงหยางจนใจ จึงทำได้แค่จัดการกับอาการของหนานกงเยว่ต่อไป
หยุนหว่านหนิงทิ้งตาลงมองหนานกงเยว่ นางตกอยู่ในอาการสลบไสลไม่ได้สติอย่างแท้จริง แม้จะหมดสติอยู่ คิ้วคู่นั้นก็ยังขมวดเข้าหากันจนแน่น
ใบหน้าของนางซีดเผือด ร่างกายก็ดูอ่อนแอ ร่อแร่อย่างมาก!
สาวใช้ทำท่าเหมือนคอยจับตาดูขโมยก็ไม่ปาน คอยระแวดระวังหยุนหว่านหนิงตลอด
แต่เมื่อเห็นว่านางไม่ขยับเลย นางก็อดสงสัยไม่ได้ว่า :หรือแท้จริงแล้วพระชายาหมิงจะมาเยี่ยมพระชายาของนางด้วยเจตนาดีจริงๆ ?
แต่ว่า—–
เจตนาดี? !
ไม่มีอยู่หรอก!
เจตนาดีของหยุนหว่านหนิง สามารถมอบให้ใครอื่นได้หมด เพียงคนเดียวที่นางไม่มีวันมอบให้ นั่นก็คือหนานกงเยว่!