อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 412 ไปดูละครที่จวนอ๋องฉู่
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 412 ไปดูละครที่จวนอ๋องฉู่
เรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่จวนอ๋องฉู่อีกแล้ว
ได้ยินว่าล่ายอี๋เหนียงของจวนอ๋องฉู่ตั้งครรภ์แล้ว!
ล่ายอี๋เหนียงคนนั้นพึ่งถูกส่งเข้าจวนอ๋องฉู่ไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง คืนนั้นก็ได้รับใช้โม่หุยเหยียนอย่างมึนๆงงๆ เพราะวิทยายุทธ์บนเตียงเรียกได้ว่าไม่เลวเลย
จากนั้น ก็ได้ปรนนิบัติโม่หุยเหยียนอีกหลายครั้ง
จากนั้น ล่ายอี๋เหนียงก็ตั้งครรภ์แล้ว!
“พระชายา เรื่องจริงนะ! ได้ยินว่า เมื่อวานพระชายาฉู่โกรธจนกระอักเลือดเลย” หรูอวี้คือผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรอง
ถ้าเอาเมล็ดแตงโมให้เขาสักกำมือ ตอนนี้คงจะแทะเมล็ดแตงโมไปพลางคุยเรื่องซุบซิบไปพลางแน่
สีหน้าของเขาไม่ได้แตกต่างอะไรกับเวลาพวกคุณป้าคุณน้าเมาท์กันเลยสักนิด…
“ล่ายอี๋เหนียงอะไร เห็นได้ชัดว่าเป็นล่ายซื่อที่ครั้งก่อนพระชายาสั่งให้คนส่งไปจวนอ๋องฉู่! พอรู้ฐานะของล่ายซื่อ พระชายาฉู่ก็โกรธจนไม่มีแรงลงจากเตียงเลย!”
หรูอวี้บอก “ได้ยินว่าเมื่อเช้า”
“พระชายาฉู่ทนความอัปยศไม่ไหว ร่ำบอกจะพาลูกสาวกลับตงจวิ้น!”
“อัปยศ? ก็อัปยศอยู่นะ”
หยุนหว่านหนิงฟังอย่างพอใจ
ตอนแรกโม่หุยเหยียนกับฮองเฮาจ้าวส่งล่ายซื่อมาที่จวนอ๋องหมิง แถมยังบอกว่าล่ายซื่อเป็นแม่แท้ๆของหยวนเป่า เป็นคนรักของโม่เยว่
แต่ไม่คิดว่าหยุนหว่านหนิงจะส่งคืนไปให้จวนอ๋องฉู่
ส่วนวังอี๋เหนียง….
ทำงานได้เป็นที่พอใจของหยุนหว่านหนิงนัก!
“ดูวังอี๋เหนียงซิ นั่นต่างหากเรียกแบบอย่าง!”
หยุนหว่านหนิงนั่งไขว่ห้างบอก “ถ้าเปลี่ยนเป็นสตรีอื่น ต่อให้ไม่ได้รับการโปรดปรานยังไงก็ไม่มีทางยอมให้สามีตนมีสตรีอื่นดอก”
“แต่วังอี๋เหนียงนี่ ดูมีราศีของนายหญิงจวนอ๋องฉู่อยู่นะ!”
หรูอวี้มองค้อนนาง “พระชายา ก็มิใช่เพราะว่า วังอี๋เหนียงเป็นคนของเต๋อเฟยรึ?”
วังอี๋เหนียงไม่ได้รักใคร่ไยดีอะไรโม่หุยเหยียนนัก แต่กลับตั้งอกตั้งใจทำงานรับใช้เต๋อเฟยและหยุนหว่านหนิง
“เจ้าเชื่อไหมว่าข้าจะควักลูกตาของเข้าออกมา”
พอเห็นเขามองค้อนนาง หยุนหว่านหนิงนั่งหลังตรงบอก “เจ้าช่วยพูดให้ใครกันแน่? ! คนทรยศ!”
หรูอวี้โดนด่าเสียจนคอย่นไม่กล้าหายใจแรง
“แต่เรื่องมันก็ดำเนินไปในทางที่ข้าคาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว…”
หยุนหว่านหนิงยืนขึ้นอย่างพอใจ “ดูท่า ได้เวลาที่คนของข้าจะออกโรงเสียที!”
“พระชายา หรือว่าข้าน้อยมิใช่คนของท่านกัน? ต้องการทำอะไร ขอเพียงพระชายาสั่งมาคำเดียว ข้าน้อย…”
หรูอวี้ยังไม่รู้ตัว ไม่คิดว่าคนที่หยุนหว่านหนิงพูดถึงจะเป็นพวกมังกรตาเดียว
เขารีบคว้าโอกาสนี้แสดงความจงรักภักดีทันที
“ตกลงว่าเจ้าภักดีต่อข้า หรือภักดีต่อเงินของข้ากันแน่? อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ เจ้านี่มันหน้าเงินเกินไปแล้ว!”
หยุนหว่านหนิงแค่นเสียงหึ สองมือไขว้หลังเดินออกไป
…..
ข่าวการตั้งครรภ์ของล่ายซื่อแพร่ออกไปไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม มังกรตาเดียวก็พาลูกน้องไปเยี่ยมเยือนถึงหน้าประตูจวนอ๋องฉู่
หยุนหว่านหนิงสลัดหรูอวี้ออก และแฝงตัวอยู่มท่ามกลางฝูงชนคอยดูละคร
เจ้ามังกรตาเดียวนี่ดูแล้วหน้าตาธรรมดา แต่แสดงละครเก่งนัก
อากาศหนาวเหน็บ เขาพุ่งขึ้นไปนั่งบนระเบียงหน้าประตูจวนอ๋องฉู่ นั่งไขว่ห้าง รองเท้าที่ใส่ยังเป็นรู โผล่ให้เห็นหัวนิ้วโป้ง
“พ่อแม่พี่น้องทุกคนมาช่วยตัดสินให้ข้าหน่อยเถิด!”
เขาแหกปากร้องตะโกนว่า “เดิมทีล่ายซื่อนี่เป็นแม่หญิงของหอชุ่ยเซียนเรา!”
“แอบหนีออกมา ยังทำพวกข้าเสียทั้งเงินเสียทั้งคน! ตอนนี้กลับได้รู้ว่า แอบหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในจวนอ๋องฉู่นี่เอง!”
มังกรตาเดียวสองมือไขว้ไปพิงขั้นบันได “จวนอ๋องฉู่ต้องอธิบายให้พวกข้าแล้วล่ะ!”
อยู่ในเมืองหลวง มีผู้ใดไม่รู้จักชื่อต้าหลงของเขากัน?!
เพียงแต่ระยะนี้เขาไม่โผล่หัวมา ชาวบ้านยังนึกว่าเขาโดนคู่อริฆ่าตายไปแล้วเสียอีก!
วันนี้จู่ๆก็โผล่มา ทุกคนพากันซุบซิบพูดคุย
คราวนี้มีคนก้าวออกมาจากฝูงชน บอกว่าหอชุ่ยเซียนมีแม่หญิงคนหนึ่งแซ่ล่ายจริงๆ
“ใช่ไง!”
มังกรตาเดียวตบมือผ่าง ถลึงตาข้างเดียวนั่นที่…เหมือนระฆัง “ตอนแรกนะ ข้าซื้อนางมาจากมือพ่อนางเลยนะ! ข้าต้องเสียไปสิบตำลึงเต็มๆเชียวนะ!”
“สิบตำลึงนี่ยังไม่คืนทุนกลับมาเลย นางก็หนีมาเสียแล้วนี่?!”
เขาทำหน้าตาตื่นตกใจเกินจริง “สตรีเช่นนาง จะหนีได้อย่างไรกัน?”
“ตอนนี้ถึงรู้ว่า เบื้องหลังมีอ๋องฉู่คอยให้ท้าย?”
มังกรตาเดียวยืนขึ้นพลางพูดอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “พ่อแม่พี่น้องมาตัดสินสิ! อ๋องฉู่เป็นท่านอ๋องแท้ๆ ทำไมทำเรื่องเช่นนี้ได้?”
“ถ้าท่านชอบพอล่ายซื่อ จ่ายเงินไถ่ตัวนางก็ได้แล้วมิใช่รึ?”
“ล่ายซื่อนั่นเดิมทีดูว่านอนสอนง่าย ไม่คิดว่า พอได้พึ่งพิงอ๋องฉู่ ก็ทำตัวเหมือนคางคกขึ้นวอ ไม่ว่าหน้าตาหรือจริยธรรมของตนก็ไม่ต้องการแล้ว!”
“เงินสิบตำลึง อ๋องฉู่ไม่มีปัญญาจ่ายรึ?”
“วันนี้ข้าไม่ได้จะมาพูดเรื่องเงิน แต่วิธีการของท่านน่ะทำไม่ถูก ทุกคนว่าจริงหรือไม่?”
เดิมชาวบ้านไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องพรรค์นี้
เพราะคนผู้นี้คือมังกรตาเดียว….
ใครอยากข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับเขากัน?
แต่ในหมู่ฝูงชนไม่รู้ว่าใครเริ่มเห็นด้วยกับคำพูดของมังกรตาเดียว คนเราน่ะนะล้วนชอบเรื่องซุบซิบและยังตามคนส่วนใหญ่อีก ดังนั้นเลยมีคนไม่น้อยพากันพยักหน้าเห็นด้วย
พอเห็นดังนั้น มังกรตาเดียวยิ่งแสดงหนักขึ้น
“วันนี้หากอ๋องฉู่ไม่อธิบายให้ข้าอย่างชัดเจน ข้าจะไปขอคำอธิบายกับฮ่องเต้เลย!”
เขายกมือขึ้น ตะโกนปาวๆว่า “เป็นถึงอ๋องฉู่ ชอบพอหญิงคณิกานางหนึ่งก็มิเท่าไหร่! เหตุใดแม้แต่พื้นฐานในการเป็นคนก็ไม่มีล่ะ?”
“คนเช่นนี้คู่ควรเป็นท่านอ๋องได้อย่างไรกัน?!”
อารมณ์ของชาวบ้านก็พลิกโผมาก พากันคล้อยตามเห็นด้วย
หลังจากหยุนหว่านหนิงแฝงตนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ยืนกอดอกอยู่ใต้เสาของร้านฝั่งตรงข้าม ยิ้มมองมังกรตาเดียวอย่างขบขัน
ถ้าเป็นศตวรรษที่21 หมอนี่เข้าวงการมายา ก็เหมาะที่จะรับบทโจรขโมยคนเลว จากนั้นต้องได้รางวัลออสการ์หลายครั้งแน่!
แต่หมอนี่เหมาะมากที่จะเป็นผู้นำฝูงแกะ…
นำทีมโดนอัดแบบนั้น!
มังกรตาเดียวยืนแหกปากอยู่นอกประตูจวนอ๋องฉู่นานโข ถึงมีคนมาเปิดประตู
“แหกปากอะไรกัน?! ที่นี่คือจวนอ๋องฉู่ ไม่ใช่ตลาด!”
น่าจะเป็นเด็กรับใช้เฝ้าประตู เห็นว่ามังกรตาเดียวมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่กล้าเปิดประตูออกมาปะทะ ดังนั้นเลยไปเชิญพ่อบ้านเหยาออกมา
พ่อบ้านเหยาดูเชื่อมั่นนัก
พอเห็นมังกรตาเดียว เขาแค่นเสียงเย็นว่า “เจ้าเป็นใคร?”
“พูดจาดูหมิ่นท่านอ๋องของเราอยู่ด้านนอก อยากตายมากนักหรือไง?!”
สำหรับคนอื่น คำพูดนี้อาจจะมีอานุภาพมาก
แต่คนผู้นี้คือมังกรตาเดียวนะ!
เขาไม่กลัวตายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขนาดหยุนหว่านหนิงยังกล้าลักพาตัว…ตอนนี้เบื้องหลังเขามีกูหน่ายนายให้ท้าย กูหน่ายนายของเขานั้นไร้คู่ต่อสู้ในเมืองหลวงนี้ เขายังจะกลัวใครอีก?!
“ดูหมิ่น?”
มังกรตาเดียวก้าวเท้ายาวข้ามขั้นบันได เดินมายืนหน้าพ่อบ้านเหยา
รูปร่างเขาสูงใหญ่ ท่าทางกล้าแกร่ง ทำเอาราศีของพ่อบ้านเหยาด้อยลงไปกว่าครึ่ง!
“เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร?”
พ่อบ้านเหยาถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ข้าเตือนเจ้าไว้ก่อน ที่นี่คือจวนอ๋องฉู่! ไม่ใช่ที่เจ้าจะมาบังอาจได้!”
“ข้าบังอาจแล้วเจ้าจะทำอะไร?”
มังกรตาเดียวก้มหน้า กดดันพ่อบ้านเหยาไว้อย่างแน่นหนา ภายใต้สีหน้าหวาดหวั่นของพ่อบ้านเหยา เขาพลันแลบลิ้นใส่พ่อบ้านเหยา!”
“เก่งจริงก็ตีข้าสิ!”
มังกรตาเดียวเองก็ได้เรียนรู้วิชาทำคนอกแตกตายไม่ต้องชดใช้ของหยุนหว่านหนิงมาได้ “ไม่งั้นก็เรียกท่านอ๋องของเจ้าออกมา!”
“ข้าจะคุยกับเขาต่อหน้า!”
“อีกอย่าง เรียกนังแพศยาล่ายซื่อนั่นออกมาด้วย! จะจ่ายเงินหรือคืนคน ให้ท่านอ๋องของเจ้าเลือกเอาเอง!”
เขาไม่เชื่อหรอกว่า วันนี้จะทำชื่อเสียงโม่หุยเหยียนเหม็นเน่าไม่ได้!