อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 414 บ้านแตกสาแหร่กขาด
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 414 บ้านแตกสาแหร่กขาด
พ่อบ้านเหยายกเท้าข้ามขั้นบันได รีบวิ่งเข้าไปในฝูงชน
“พระชายาหมิง!”
เขาเหมือนคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้ “พระชายาหมิงท่านมาช่วยพูดหน่อย! ล่ายอี๋เหนียงของเราเดิมทีออกมาจากจวนอ๋องหมิงของท่านน”
“ท่านบอกเจ้าเจ้าขี้โกงนี่ทีว่า ล่ายอี๋เหนียงของเรามิใช่หญิงคณิกา!”
หยุนหว่านหนิงไม่คิดเลยว่า พ่อบ้านเหยานี่ดูแกแล้ว แต่สายตายังดีอยู่มาก!
แต่เขาขอร้องนางให้เป็นพยาน?!
พอเห็นทุกคนต่างมองนาง…
หยุนหว่านหนิงขมวดคิ้ว “พ่อบ้านเหยา ข้าแค่ผ่านมา! เห็นที่นี่ครึกครื้น เลยแวะมาดูอะไรสนุกๆเท่านั้น เจ้าอย่าดึงข้าเข้าไปเกี่ยวด้วย!”
ทุกคนต่างรู้นิสัยพระชายาหมิงดี
ชอบเรื่องสนุก ทำคนอกแตกตายได้ไม่ต้องชดใช้ และยังหน้าไม่อาย
ดังนั้นเลยไม่ได้สงสัยในคำพูดของนาง
ทุกคนพากันคุกเข่าคารวะ
“ลุกขึ้นมาเถิด! เราคนกันเองทั้งนั้น! พวกเจ้าทำอย่างนี้ข้าไม่มีแก่ใจจะดูเรื่องสนุกแล้ว!”
หยุนหว่านหนิงหัวเราะอย่าง‘สนิทสนม’
ทุกคนค่อยๆทยอยลุกขึ้น
พ่อบ้านเหยาเหมือนโดนคนตบหน้าฉาดใหญ่ “พระชายาหมิง…”
“พ่อบ้านเหยา ข้าไม่เห็นด้วยกับคำพูดของท่าน! อะไรเรียกว่าล่ายซื่อออกมาจากจวนอ๋องหมิงของข้า? เจ้าหมายความว่า จวนอ๋องหมิงของข้าเป็นหอคณิการึ?”
หยุนหว่านหนิงแค่นเสียงฮึ
พ่อบ้านเหยาหน้าซีด “ข้าน้อยมิได้หมายความเช่นนี้”
“งั้นเจ้าถามข้าทำไมล่ะ?”
หยุนหว่านหนิงไม่พอใจละ “ข้าแค่มาดูเรื่องสนุก มันทำไมรึ?”
“ล่ายซื่อนั่น เดิมทีเสด็จแม่ส่งมาให้ท่านอ๋องของเราด้วยซ้ำ! เพียงแต่ท่านอ๋องของเรารักนวลสงวนตัว เลยไม่ได้รับล่ายซื่อไว้ ข้าเองก็แค่ให้นางทำความสะอาดเท่านั้น”
“ใครจะรู้นางกลับหนีออกมา!”
นางพูดอย่างจริงจังว่า “เดิมข้ายังคิดว่า นังแพศยานี่จะหนีไปไหนได้ ข้าพลิกเมืองหลวงหาก็หาไม่เจอ”
“บางทีนางอาจจะกลายเป็นศพข้างทางไปแล้ว? ใครจะรู้ว่าหลบเข้าจวนอ๋องฉู่ของพวกเจ้า?”
“ข้ายังอยากถามเลยว่า ท่านอ๋องของพวกเจ้าหมายความว่ายังไงกัน!”
พอหยุนหว่านหนิงอ้าปาก ก็รัวเร็วเป็นปืนกล “ล่ายซื่อหลบเข้าจวนอ๋องฉู่ของพวกเจ้า ดูท่าตอนแรกจะมิใช่เสด็จแม่ส่งมาให้ แต่เป็นท่านอ๋องของพวกเจ้าส่งมาให้มากกว่ากระมัง?”
“คิดจะยุแยงให้ความรักของข้ากับท่านอ๋องแตกหักรึ?!”
คำถามของนาง พ่อบ้านเหยาตอบไม่ได้เลยสักข้อ!
“พระชายาหมิง…..”
“เจ้าอย่าพึ่งพูด!”
หยุนหว่านหนิงโต้แย้งเขากลับไปทันทีว่า “เพื่อหญิงคณิกานางหนึ่ง ท่านอ๋องของเจ้าจะแตกหักกับจวนอ๋องหมิงเรารึ?”
“เดี๋ยวข้าต้องกลับไปถามท่านอ๋องของเขาว่า ท่านอ๋องของพวกเจ้าทำเช่นนี้ถูกต้องแล้วรึ!”
พูดจบ หยุนหว่านหนิงแค่นเสียงฮึ และหมุนตัวจากไป!
พ่อบ้านเหยางงตาแตก
เขาขอความช่วยเหลือไม่สำเร็จ และยังโดนด่าซะไม่เหลือดี?!
คราวนี้ดีเลย ในใจชาวบ้าน ท่านอ๋องของตนไม่เพียงหลับนอนกับหญิงคณิกา เห็นเด็กในครรภ์หญิงคณิกาเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ
ตอนแรกยังใช้หญิงคณิกาผู้นี้ไปยุแยงให้ความรักของอ๋องหมิงกับพระชายาหมิงแตกแยกอีก?!
ช่างต่ำช้าจริงๆ!
ทุกคนล้วนมีสีหน้าดูถูกรังเกียจ
คำวิพากษ์วิจารณ์ดังมาเป็นระยะ
“เดิมข้าคิดว่า ในบรรดาท่านอ๋องทั้งหมดมีเพียงอ๋องฉู่ที่มีเมตตาที่สุด ไม่คิดเลยว่าลับหลังจะชั่วช้าไร้ยางอายเพียงนี้!”
“นั่นสิ! เดิมคิดว่าอ๋องฉู่รักมั่นต่อพระชายาฉู่ ไม่คิดเลยว่า จวนอ๋องฉู่นี่สาวงามมากมาย! ขนาดหญิงคณิกายังมองราวกับเป็นแก้วตาดวงใจเสียนี่!”
“มิน่าพระชายาหมิงโกรธแล้ว! ขนาดแค่แวะมาดูอะไรสนุกๆยังโดนลากออกมาเลย”
“เป็นข้าข้าก็โกรธ! ระหว่างพี่น้องกันยังมีชั่วร้ายมากมายเช่นนี้”
“….”
เผชิญหน้ากับการวิจารณ์ของทุกคน พ่อบ้านเหยายิ่งทำหน้าเชิดคอแข็งขับไล่มังกรตาเดียวต่อไป
“แค่เงินสิบตำลึงเจ้าก็คิดจะไล่ข้าไปงั้นรึ? คิดว่าข้าเป็นขอทานหรือไง?”
มังกรตาเดียวพูดด้วยสีหน้าขึ้งโกรธ “ถึงจะบอกว่า ตอนแรกข้าใช้เงินสิบตำลึงซื้อล่ายซื่อมา แต่อาหารการกินความเป็นอยู่ของนางในแต่ละวัน อย่างใดบ้างไม่ใช้เงิน?”
พ่อบ้านเหยาหน่ายใจ ได้แต่กลับไปรายงานโม่หุยเหยียนอีกครั้ง
เพื่อไล่เขาไปได้โดยเร็ว โม่หุยเหยียนควักเงินออกมาเต็มๆหนึ่งพันตำลึง ถึงได้ปิดปากมังกรตาเดียวไว้ได้
แต่ปากของมังกรตาเดียวปิดไว้ได้แล้ว…
แต่คนที่มาชุมนุมดูละครกันในวันนี้กลับมีหลายร้อยคน!
ปากของคนหลายร้อยคนจะปิดอย่างไร?!
หนึ่งกระจายสิบ สิบกระจายร้อย
ฟ้ายังไม่ทันมืด ก็กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว!
โม่จงหรานก็ได้ยินเรื่องนี้ รีบสั่งคนให้เชิญโม่หุยเหยียนเข้าวัง และต่อว่าสั่งสอนเขายกใหญ่ ยังข่มขู่เขาว่าถ้าทำเรื่องอับอายขายขี้หน้าคนเช่นนี้อีก ก็อย่าเป็นอ๋องฉู่อีกเลย!
โม่หุยเหยียนกลับจวนอ๋องฉู่อย่างเหงาหงอย คิดยังไงก็คิดไม่ตกว่าเกิดปัญหาที่ตรงไหน
ล่ายซื่อตัวเล็กคนเดียว ทำไมถึงได้เกี่ยวโยงปัญหาออกมาได้มากมายเพียงนี้?!
เขามักรู้สึกว่าตนเองตกอยู่ในหลุมพราง แต่ก็คิดไม่เข้าใจว่าใครทำหลุมพรางดักเขา!
หลังจากหนานกงเยว่รู้เรื่องนี้เข้า ก็โกรธจนแทบแดดิ้นตาย
คลอดลูกไม่ได้รักษาตัวให้ดีหลงเหลือโรคเอาไว้ ยังไม่ทันหายดีก็รู้ว่าล่ายซื่อตั้งครรภ์
เรื่องนี้ยังแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง…
หนานกงเยว่ออกคำสั่งให้โม่หุยเหยียนทำแท้งลูกในท้องของล่ายซื่อซะ แต่โม่หุยเหยียนอยากได้ลูกชายแทบจะบ้าแล้ว เลยยืนกรานจะคุ้มครองล่ายซื่อ
คืนวันนั้นหนานกงเยว่เลยเก็บข้าวของคิดจะกลับตงจวิ้น
บัดนี้จวนอ๋องฉู่เรียกได้ว่าแตกแหลกกระจาย โม่หุยเหยียนบ้านแตกสาแหร่กขาด
เรื่องมันยุ่งเหยิงอลวนพัลวัน!
จวนอ๋องหมิง
หยุนหว่านหนิงโยนเงินหนึ่งพันตำลึงใส่มังกรตาเดียว “ครั้งนี้ทำได้ดีมาก! เอาเงินหนึ่งพันตำลึงนี้ไปใช้กับพี่น้องนะ”
“ระยะนี้เจ้าอย่าพึ่งออกจากบ้าน”
ชะงักนิดหน่อย นางบอก “โม่หุยเหยียนเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นและชั่วร้ายมาก”
ครั้งนี้เขาตกหลุมพราง ต้องมาล้างแค้นกับมังกรตาเดียวแน่!
“กูหน่ายนายโปรดวางใจ ข้าจำได้แล้ว”
มังกรตาเดียวหยิบเงินจากไป
เขาพึ่งออกไป หรูเยียนก็เข้ามารายงานว่า “พระชายา ได้ยินว่าพระชายาฉู่เดินทางกลับตงจวิ้นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
“โม่หุยเหยียนล่ะ?”
“อ๋องฉู่ยืนกรานจะปกป้องล่ายซื่อ ดังนั้นเลยทำให้พระชายาฉู่โกรธจัด”
เมื่อก่อนหนานกงเยว่รู้สึกไม่ดี ยังเข้าวังไปขอให้ฮองเฮาจ้าวจัดการให้ได้
แต่ตอนนี้ฮองเฮาจ้าวกลายเป็นใบ้ และยังจะเอาตัวเองไม่รอด…
นางพึ่งแท้งลูก ล่ายซื่อก็ท้อง
ต่อให้ไปหาฮองเฮาจ้าว นางก็คงจะยืนข้างเดียวกับโม่หุยเหยียน ยืนกรานปกป้องลูกในท้องล่ายซื่อแน่!
หนานกงเยว่เห็นชัดในจุดนี้ ถึงได้ตัดใจจากไป
“ไปก็ไปสิ”
หยุนหว่านหนิงไม่ขยับเปลือกตาเลยสักนิด “ไปสิดี ข้าไม่เจอจะได้ปวดหัว! ไม่งั้นเห็นหน้าหม่นหมองของนางทีไรข้าก็รำคาญ”
นางยังไม่แค้นฉินซื่อเสวียเท่าที่แค้นหนานกงเยว่เลย!
ผู้หญิงคนนี้คิดอยากจะฆ่านาง กำจัดหยวนเป่ามาตลอด หยุนหว่านหนิงเลยชิงลงมือก่อน!
“จำไว้ ต่อให้หนานกงเยว่ไป ก็ต้องจับตาดูนางไว้ให้ดี อย่าให้นางมีโอกาสกลับมาผงาดอีกครั้งแม้สักนิด!”
แววตาหยุนหว่านหนิงมีประกายคมปลาบวาบผ่าน
ถ้าหนานกงเยว่จากไปโดยดี นางก็จะไว้ชีวิตนาง
แต่ถ้านางยังคิดร้ายไม่หยุด และยังคิดหาโอกาสทำอะไรนางกับหยวนเป่า…
หยุนหว่านหนิงเองก็ไม่ถือสา จะเอาชีวิตนาง!
“เจ้าค่ะ พระชายา”
หรูเยียนพึ่งรับคำ แม่นมจางก็เข้ามา
นางร้องบอกอย่างยินดี “พระชายา มีคนขอเข้าพบเจ้าค่ะ!”
“ใคร?”
หยุนหว่านหนิงวางถ้วยชาลง
แม่นมจางยิ้มด้วยใบหน้าแดงเรื่อ แถมยังทำท่าลึกลับบอก “รับรองว่าต้องเป็นคนที่ทำให้พระชายาดีใจแน่! ตอนนี้กำลังรออยู่ด้านนอก!”
หยุนหว่านหนิงพูดไม่ออก “อย่ามาเล่นลิ้นอยู่เลย รีบไปเชิญมาสิ!”
แม่นมจางรับคำ ก่อนหมุนตัวเดินออกไป
ไม่นาน เงาแน่งน้อยร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่หน้าประตู
หยุนหว่านหนิงเงยหน้าขึ้นมอง ก็ดีใจนัก!