อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ - บทที่ 415 เจ้าถูกล้างสมองแล้วรึ
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 415 เจ้าถูกล้างสมองแล้วรึ
“น้องสาม!”
นางลุกขึ้นเดินไปหา “เจ้ามาได้อย่างไร? ไม่ได้เจอเจ้านานแล้วนะ”
หยุนธิงธิงโผเข้าอ้อมกอดนางอย่างดีใจ ไม่พูดมากเริ่มเอ่ยปากฟ้องก่อนเลยว่า “ฮือฮือฮืพี่ใหญ่ ระยะนี้ท่านพ่อกักบริเวณข้า ไม่ยอมให้ข้าออกจากจวน!”
“กักบริเวณ?”
หยุนหว่านหนิงมองนางอย่างตกใจ “ทำไมเขาต้องกักบริเวณเจ้าด้วย?!”
ระยะนี้นางก็ยุ่งมากเกินไป เลยลืมหยุนธิงธิงไปเสียสนิทเลย!
ลองคิดๆดู ก็ไม่เจอเด็กนี่มาหลายเดือนแล้วนะ!
“ท่านพ่อบอกว่าหลายปีมานี้ละเลยข้าไป ถึงได้พบว่า ไม่ว่าจะพิณหมากหนังสือภาพวาด แต่ละอย่างข้าไม่ได้เรื่องเลย… ท่านพ่อให้ข้าอย่าเดินรอยตามท่าน ดังนั้นระยะนี้เลยให้ข้าร่ำเรียนพิณหมากหนังสือภาพวาดและงานฝีมืออยู่ในจวนเท่านั้น”
หยุนธิงธิงเสียใจหนักหนา!
หยุนหว่านหนิงหน้าแดงอุบอิบว่า “…ใครบอกว่าข้าพิณหมากหนังสือภาพวาดไม่ได้เรื่องกัน?”
นางโอบหยุนธิงธิงเดินเข้ามานั่ง มองสำรวจแล้วถึงพบว่านางผอมลงไปมาก
ใบหน้าที่เดิมกลม ตอนนี้ตอบลงไปไม่น้อย
หยุนหว่านหนิงปวดใจนัก!
“หยุนเจิ้นซงทรมานเจ้าใช่ไหม?”
นางพูดไม่ออก “ต่อให้อยากให้เจ้าร่ำเรียนพิณหมากหนังสือภาพวาดงานฝีมือ นี่กลับไม่ให้เจ้ากินข้าวอิ่มรึ?”
“ท่านพ่อบอกว่าสตรีควรรูปร่างบอบบาง แบบนี้ถึงทำให้บุรุษนึกสงสารรักใคร่!”
ถึงหยุนธิงธิงจะอายุ15แล้ว แต่ยังคงไร้เดียงสา และบอกเล่าคำพูดของหยุนเจิ้นซงอย่างไม่มีหมกเม็ดแก่หยุนหว่านหนิง “พี่ใหญ่ ทุกวันข้าไม่ได้กินอิ่มเลย มักต้องหลับไปทั้งๆท้องหิว!”
พอได้ยินดังนั้น ความโกรธในใจหยุนหว่านหนิงก็ปะทุอย่างกลั้นไม่อยู่
“เหลวไหล!”
นางแทบอยากสั่งให้คนไปจับตัวหยุนเจิ้นซงมาทันที จะได้สั่งสอนล้างแค้นแทนหยุนธิงธิง!
หยุนธิงธิงกำลังอยู่วัยเจริญเติบโต เขากลับไม่ให้นางกินอิ่ม?!
แล้วยังพูดจาเหลวไหลอะไรนั่นอีก….
นั่นเป็นคำพูดที่พ่อคนหนึ่งสมควรจะพูดกับลูกสาวรึ?!
หยุนหว่านหนิงกัดฟันกรอด “ตอนนี้พึ่งมารู้ตัวว่าเมื่อก่อนละเลยเจ้าแล้วรึไง? ข้าว่าเพราะตัวใหญ่มายเลขแรกอย่างหยุนธิงหลานไร้ประโยชน์แล้ว เลยพึ่งจะมาคิดถึงตัวเล็กอย่างเจ้ามากกว่า?!”
คำพูดนี้หยุนธิงธิงไม่เข้าใจ
“พี่ใหญ่ ตัวใหญ่ตัวเล็กอะไรรึ?”
นางปาดน้ำตา มองนางอย่างน่าสงสาร “ท่านเป็นพี่ใหญ่ ท่านไม่ควรเป็นตัวใหญ่รึ?”
หยุนหว่านหนิงหน้าแดงอีกครั้ง
นางเป็นตัวใหญ่จริงๆ แต่ตัวใหญ่อย่างนางนี่หมดประโยชน์ไปนานแล้ว….
หยุนเจิ้นซงเฝ้าฟูมฟักฝึกฝนตัวกลางอย่างหยุนธิงหลานออกมา แต่กลับไม่ได้ประโยชน์อะไร ตอนนี้เลยถึงจะมานึกถึงตัวเล็กอย่างหยุนธิงธิง!
“เขายังว่าอะไรอีก?”
หยุนหว่านหนิงเปลี่ยนเรื่องหน้าเข้ม
หยุนธิงธิงเบ้ปาก “เขาบอกว่า ถ้าข้าไม่ตั้งใจเรียน ต่อไปก็ไม่อาจตบแต่งกับคนดีๆได้!”
หยุนหว่านหนิงโกรธจนตบโต๊ะ!
นางว่าแล้ว ตาเฒ่าหยุนเจิ้นซงนั่นต้องคิดแบบนี้!
ถึงนางจะแต่งเข้าจวนอ๋องหมิง กลายเป็นพระชายาหมิงที่สูงส่งไร้ใครเทียม แต่หลายปีมานี้นางไม่ได้รับการโปรดปราน เพื่อไม่ให้นางทำให้จวนกั๋วกงหยุนเดือดร้อนไปด้วย หยุนเจิ้นซงเลยตัดขาดสัมพันธ์กับนางเลย
ต่อมาเขาคาดหวังว่าหยุนธิงหลานจะเอาชนะฉินซื่อเสวีย และได้ขึ้นแท่นพระชายาหยิงแทน
แต่ไม่คิดเลยว่าโม่หุยเฟิงจะพ่ายแพ้ต่อหยุนหว่านหนิงและโม่เยว่!
หยุนธิงหลานกับฉินซื่อเสวียพ่ายแพ้กันไปทั้งคู่ บัดนี้กลายเป็นแค่พระชายารองหยุนที่ออกหน้าออกตาไม่ได้คนหนึ่งเท่านั้น!
ตอนนี้หยุนเจิ้นซงเลยได้แต่ฝากความหวังไว้ที่หยุนธิงธิง!
“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าเขาคิดวางแผนอะไร?”
หยุนหว่านหนิงเหล่มองหยุนธิงธิง
เดิมคิดว่าหญิงสาวคนนี้จะมองทุกอย่างปรุโปร่งแล้ว ไหนเลยนางยังมีชั้นกรองอีกชั้นหนึ่งกับพ่อที่ทำหน้าที่ได้แย่มากอย่างหยุนเจิ้นซงอยู่อีก!
หยุนธิงธิงส่ายหน้าอย่างซื่อๆ “ท่านพ่อบอกว่าเขาทำเพื่อข้า!”
หยุนหว่านหนิงแทบเป็นลม!
นางดีดหน้าผากของหยุนธิงธิงอย่างเคียดแค้น “ทำเพื่อเจ้ากับผีสิ!”
“เขาน่ะเสแสร้งแกล้งทำ ไม่ได้หวังดีหรอก!”
หรูเยียนที่อยู่ข้างๆกระแอมเบาๆ “พระชายา เสแสร้งแกล้งทำ มิได้ใช้เช่นนี้นะเจ้าคะ!”
“ข้ามีหรือจะสนว่ามันใช้ยังไง! แตกต่างกันไหม?!”
หยุนหว่านหนิงถลึงตาใส่นางอย่างเอาแต่ใจ
เห็นหยุนธิงธิงนวดหน้าผากตนเองหน้ามุ่ย นางถึงอธิบายอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “เขาเห็นเจ้าเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง แสร้งพูดจาดูดีมีศีลธรรมพวกนั้นขุดหลุมพรางดักเจ้านะ!”
“ข้าไม่เข้าใจ”
หยุนธิงธิงส่ายหัวบอก “เขาเป็นพ่อข้า จะคิดร้ายต่อข้าได้รึ?”
พอได้ยินคำนี้ ก็รู้เลยว่าเป็นคำที่หยุนเจิ้นซงพูดกับนาง
“ธิงธิง นี่เจ้าถูกเขาล้างสมองแล้วรู้ไหม?”
หยุนหว่านหนิงมองบน
ถ้ายุคโบราณมีธุรกิจขายตรง….
หยุนเจิ้นซงต้องได้เป็นหัวหน้าแน่!
ดูสิ สาวน้อยอย่างหยุนธิงธิง โดนเขาล้างสมองไปแค่ไหนแล้ว?
หยุนหว่านหนิงสั่งคนให้ตระเตรียมอาหาร คิดจะให้หยุนธิงธิงกินอิ่มก่อน “เรื่องนี้เอาไว้ก่อน! เจ้าว่ามาสิว่า วันนี้เจ้าออกจากจวนได้ยังไง?”
“ท่านพ่อให้ข้าออกมา”
หยุนธิงธิงสีหน้าใสซื่อ “ท่านพ่อบอกว่า อีกไม่กี่วันก็เป็นวันเกิดของเขาแล้ว”
“พี่รองไม่อยู่เมืองหลวง ถ้าพี่ใหญ่ก็ไม่กลับไป…คนอื่นจะมองยังไง เขาใม่ว่า! ยังไงเขาก็แก่แล้ว ไม่ขายขี้หน้ามากหรอก”
แต่พี่ใหญ่เป็นพระชายาหมิง และยังเป็นแม่แท้ๆของพระนัดดาองค์โต”
นางพูดต่ออย่างเป็นระเบียบมีหลักการ ”ถ้าพี่ใหญ่ไม่กลับไปสักครั้ง คงมีคนนินทาพี่ใหญ่แน่!”
“ดังนั้นเลยตั้งใจให้ข้ามาเชิญพี่ใหญ่กลับไปจวนกั๋วกงเพื่อร่วมงานวันเกิดท่านพ่อ”
หยุนหว่านหนิง “…”
นางรู้ดีว่า หยุนเจิ้นซงไม่มีทางยอมเลิกราง่ายๆแน่!
เหตุผลแบบนี้ ฟังดูจากภายนอกสง่าผ่าเผยแต่ความจริงไม่ใช่!
หยุนธิงธิงยังรู้จักโลกไม่มาก อีกอย่างก็เป็นลูกสาวแท้ๆของเขา ไม่แปลกที่จะโดนเขาล่อหลอก
“เจ้าเชื่อรึ?”
หยุนหว่านหนิงถามพลางมองเข้าไปในดวงตาหยุนธิงธิง
“ข้าเชื่อ”
หยุนธิงธิงท่าทางแก่เกินวัย วิเคราะห์อย่างละเอียดว่า “พี่ใหญ่ อันที่จริงท่านพ่อก็พูดไม่ผิด! ความแค้นอะไรเมื่อก่อน ให้มันผ่านไปเถอะ!”
“บัดนี้ผู้คนต่างก็รู้จักหยวนเป่าหมดแล้ว พี่ใหญ่ คำพูดคำจาการกระทำของท่านจะกระทบถึงหยวนเป่าได้นะ!”
“ที่จริงท่านพ่อก็พูดมีเหตุผลอยู่!”
หยุนหว่านหนิงยกถ้วยชาขึ้นจิบ มือกุมขมับมองนาง “ธิงธิง ก่อนนี้ข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนมองอะไรชัดเจน!”
“แต่ตอนนี้ดูแล้วเจ้าต่างหากเป็นคนที่โง่งมที่สุด”
นางพูดอย่างหน่ายใจว่า “เจ้าคิดว่าเขาหวังดีกับข้าจริงรึ? ดังนั้นเลยพยายามมาเชื้อเชิญข้าไปร่วมงานวันเกิด?”
“ไม่เช่นนั้นเล่า?”
หยุนธิงธิงไม่เข้าใจจึงถาม
“เห็นได้ชัดว่าเขาทำเพื่อหน้าตาเขาเท่านั้นแหละ!”
หยุนหว่านหนิงวางถ้วยชาลง “เมื่อก่อนคิดว่าข้าเป็นภาระ ตอนนี้เห็นข้าไม่เพียงไม่ใช่ภาระ ยังอาจจะเป็นลูกโป่งที่พุ่งขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว…”
“คิดอยากจะให้หน้าแก่ๆของเขาได้หน้า เลยให้เจ้ามาเชิญข้า!”
มีแต่หยุนธิงธิงที่โง่ขนาดนี้ โง่เชื่อคำพูดเขา!
“แต่พี่ใหญ่ ต่อให้ท่านพ่อคิดแบบนี้จริง ข้าว่าเขาก็พูดจามีเหตุผลนะ”
ถึงหยุนธิงธิงจะไม่เข้าใจว่าอะไรคือ‘ลูกโป่ง’ แต่ยังพูดต่อด้วยสีหน้าจรงิจังว่า “พี่ใหญ่จะทำอะไรตามอำเภอใจอีกไม่ได้ ต้องคิดถึงชื่อเสียง ต่อให้เพื่อหยวนเป่าก็เถอะ”
“เพราะหยวนเป่าเป็นพระนัดดาองค์โต ฮ่องเต้เองก็ค่อนข้างลำเอียงมาทางจวนอ๋องหมิง!”
หยุนหว่านหนิงสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย มองหยุนธิงธิงด้วยสายตาครุ่นคิด…